ตอนที่ 39 เคล็ดลับให้กำเนิดลูกชาย
ขณะที่มีการพูดคุยกันมากมายภายในหมู่บ้าน จ้าวเหวินเทาก็พาภรรยาของเขากลับเข้าห้องเพื่อไปนับเงินที่ได้มา
เมื่อวานมีเนื้อทั้งหมด 4 ชั่ง ได้เงินมา 1.28 หยวน วันนี้ได้เนื้อมา 3 ชั่งน้อยกว่าเมื่อวานนิดหน่อย จึงได้เงินน้อยกว่าเมื่อวานเล็กน้อย แต่ก็ได้คูปองเนื้อเพิ่มมา 1 ใบ
คูปองเนื้อใบนั้นเขาให้พี่สาวใหญ่ไปแล้ว เมื่อวานหล่อนช่วยออกเงินซื้อจักรยานให้เขาไปก่อน วันนี้เขาจึงนำเงินและคูปองเนื้อไปให้พี่สาวใหญ่
การขายเนื้อหมูทำให้ได้เงินมา 9.60 เหมา แต่วันนี้มีถั่วเหลืองและถั่วลิสงเยอะกว่าเมื่อวาน 2-3 ชั่ง ได้เงินมาไม่เยอะเท่าไรนัก ก็แค่ 1.80 เหมา สิ่งนี้ไม่ได้ช่วยปลอบใจเลย
เพราะผลผลิตทางการเกษตรเหล่านี้ไม่ได้มีผลกำไรมากมายอะไร โดยเฉพาะปริมาณที่น้อยนิดขนาดนี้ สิ่งสำคัญคือเขาต้องแบ่งกับคนในบ้านด้วย ถ้าซื้อกับคนอื่น คาดว่าเขาอาจจะได้เงินไม่กี่เฟิน
ไม่เช่นนั้นทำไมคนนอกได้ยินก็ได้แต่พากันส่ายหน้ากันหมดล่ะ? ไม่ใช่เพราะผลกำไรที่ชัดเจนแบบนี้เหรอ แสดงให้เห็นว่าการไป ๆ กลับ ๆ ล้วนเป็นการทำงานที่เหนื่อยเปล่า
มีลุงในตระกูลมาพูดคุยกับคุณพ่อจ้าว ก็ได้เอ่ยขึ้นมาแบบลอย ๆ หนึ่งประโยค บอกว่าหากทำแบบนี้ต่อไปก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ก็ไม่ควรให้มันเกิดขึ้นซ้ำ ๆ ซาก ๆ
ตอนนี้ยังไม่มีลูก ในอนาคตมีลูกแล้วจะทำอย่างไร สิ่งที่ทำนี้มันไม่ใช่เรื่องจริงจังอะไรเลย
คุณพ่อจ้าวก็กังวลมากเช่นกัน แต่เขาไม่คิดว่าลูกชายของตนจะทำแบบนี้ เขาเป็นคนฉลาดและซุกซนที่สุด ดังนั้นจึงกล่าวไปว่า “ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรต้องทำอยู่แล้ว ให้เขาไปซ้ำ ๆ นั่นแหละ รอปีหน้ายังไงก็ต้องให้เขาไปทำนาแล้วล่ะถึงจะดี”
ผู้อาวุโสของตระกูลจึงไม่ได้กล่าวอะไร
เป็นเพราะเรื่องนี้ทำให้คุณแม่จ้าวถูกพี่สะใภ้ที่นางไม่ได้จัดการคนนั้นมาเยาะเย้ยไปรอบหนึ่ง ทำเอานางโกรธจนทนไม่ไหว
“แม่ แม่จะไปโกรธป้าเขาทำไม ป้าเป็นคนยังไงใช่ว่าแม่จะไม่รู้สักหน่อย” จ้าวเหวินเทากล่าว
“แล้วแกหาเงินได้บ้างไหม? ถ้าหาเงินได้แล้ว แม่จะได้ไปบอกหล่อนต่อหน้า เอาให้อิจฉาตายไปเลย!” คุณแม่จ้าวถามเขา
จ้าวเหวินเทาหัวเราะ เขาดึงแม่เข้ามาในห้อง ก่อนจะกระซิบบอกเรื่องการขายเนื้อหมู
เมื่อคุณแม่จ้าวได้ยินก็ดวงตาเป็นประกาย “พ่อค้าเนื้อไช่ชี้นำแกแบบนี้จริง ๆ เหรอ?”
“ผมจะโกหกอะไรล่ะ? วันนั้นผมเอาเหล้าหนึ่งขวดไปนั่งดื่มกับเขา เมื่อวานนี้เขาก็ให้เนื้อมาสี่ชั่ง ผมได้เงินมา 1.28 หยวน วันนี้เขาให้เนื้อมาสามชั่ง เขาบอกว่าวันนี้ได้น้อยหน่อย แต่พรุ่งนี้น่าจะเอามาให้ผมได้ประมาณห้าชั่ง!” จ้าวเหวินเทาหัวเราะเสียงเบา
คุณแม่จ้าวได้ฟังก็อารมณ์ดี บอกแล้วว่าลูกชายของตัวเองมีอนาคตไกล ไม่มีทางถูกคนอื่นดูถูกแน่นอน!
“แต่แม่ เรื่องนี้แม่อย่าไปป่าวประกาศข้างนอกนะ เรื่องนี้ถ้าคนนอกรู้ บางทีอาจจะทำไม่ได้แล้ว เงินส่วนนี้ก็จะหาไม่ได้แล้วด้วย” จ้าวเหวินเทากระซิบบอก
“แกวางใจเถอะ ๆ แม่รู้ว่าเรื่องดี ๆ แบบนี้ต้องเหยียบไว้ จะไม่พูดออกไปแน่นอน แม่จะบอกพ่อของแกสักหน่อย เขาเอาแต่เป็นห่วงแกนี่แหละ” คุณแม่จ้าวกล่าว
จ้าวเหวินเทาพยักหน้า บอกให้พ่อและแม่ของเขารู้ไม่เป็นไร เพราะพ่อแม่ของเขาเป็นคนรู้ความ ทั้งยังเป็นคนปากหนักแงะยากอีกด้วย
คุณแม่จ้าวกลับไปบอกกับคุณพ่อจ้าว คุณพ่อจ้าวเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย จากนั้นจึงพยักหน้าไม่พูดไม่จา และทำเล้าไก่ต่อ
แต่ภายในใจของเขาต้องรู้สึกดีอย่างแน่นอน ดูสิ แยกบ้านแล้วก็มีผู้หลักผู้ใหญ่มาอุปถัมภ์
หนึ่งวันสามารถเอาเนื้อไม่กี่ชั่งไปขายในเมืองได้เงินมาประมาณ 1 หยวน หนึ่งเดือนก็จะได้มา 30 หยวน
30 หยวนนี้ไม่ใช่น้อย ๆ เลย จ้าวเหวินจื้อสอนหนังสือที่โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นในเมือง หนึ่งเดือนได้แค่ 28 หยวน ก็ทำให้หลายคนอิจฉาแล้ว ตอนนี้ลูกชายของเขาหนึ่งเดือนสามารถหาเงินได้ประมาณ 30 หยวน ทั้งยังนำถั่วงอกไปขายในเมืองอีก หนึ่งเดือนจะต้องได้เงินไม่น้อยกว่าจำนวนนี้อย่างแน่นอน
นี่สามารถทำเงินได้เลยนะ ท้ายที่สุดแล้วหนึ่งปีก็ได้ 300 กว่าหยวนแล้ว ไม่ใช่น้อย ๆ เลย
คุณพ่อจ้าวและคุณแม่จ้าวรู้เรื่องราวภายในแล้ว แต่เหล่าพี่ชายพี่สะใภ้ของเขายังไม่รู้เรื่องนี้
พี่รองจ้าวเป็นกังวลอย่างมาก พี่สามจ้าวเห็นเป็นเรื่องตลก ส่วนพี่สี่จ้าวเพิ่งกลับมาจากการไปบ้านแม่ยายกับพี่สะใภ้สี่จ้าว ก็ได้ยินเรื่องนี้แล้วเช่นกัน
แต่ตอนนี้แยกบ้านกันแล้ว เจ้าหกต้องรับผิดชอบตัวเองแล้ว แม้ว่าเขาจะพูดอะไรเจ้าหกก็ไม่ฟังเขาอยู่ดี
อีกอย่างสิ่งสำคัญในตอนนี้คือเขาต้องการลูกชาย เขายังไม่มีลูกชายเลย มีแค่ลูกสาวสองคนคือซานหยาและซื่อหยา
พี่สะใภ้สี่จ้าวก็อยากมีลูกชาย แต่นั่นเป็นเรื่องกลางคืน ตอนนี้ไม่มีอะไรต้องทำ ตอนกลางคืนถึงจะมีเวลาทำซ้ำ ๆ ได้
ดังนั้นในตอนกลางวันแสก ๆ แบบนี้ แน่นอนว่าหล่อนย่อมจดจ่ออยู่กับเรื่องอื่น
ตัวอย่างเช่นได้ยินพี่สะใภ้รองจ้าวและพี่สะใภ้สามจ้าวพูดเรื่องวันนี้ที่คุณแม่เย่มาเยี่ยม หิ้วไข่ไก่หนึ่งตะกร้าและไก่สองตัวที่สามารถวางไข่ได้มาให้ ทำให้พี่สะใภ้สี่จ้าวอิจฉามาก
ส่วนคุณแม่ของหล่อนเมื่อได้ยินว่าตนแยกบ้านแล้ว เรื่องแรกที่นางถามคือหล่อนได้เงินมาเท่าไร? จะได้นำกลับไปให้แม่ดูแล!
ถ้าพี่สะใภ้สี่จ้าวเป็นคนโง่ก็คงนำเงินกลับไปให้แม่ของตนดูแลแล้ว แต่หล่อนยังไม่มีลูกชายเลยนะ หล่อนต้องการเก็บไว้เป็นทรัพย์สินให้กับลูกชาย!
มองแม่ของเย่ฉูฉู่แล้วหันกลับมามองแม่ของตัวเองแล้ว มันช่างน่าเศร้าจริง ๆ
แต่ไม่นานนักพี่สะใภ้สี่จ้าวก็สบายใจได้อีกครั้ง เพราะได้ยินว่าน้องสามีหกเข้าเมืองตั้งแต่เช้า แต่ได้เงินมาแค่ 1.80 เหมา เป็นเพราะเขานำอาหารส่วนของตัวเองไปขายในเมืองด้วย ไม่เช่นนั้นคงไม่ได้เงินกลับมา
สิ่งนี้ทำให้พี่สะใภ้สี่จ้าวรู้สึกดีขึ้นมาก
แม้ว่าเย่ฉูฉู่น้องสะใภ้หกคนนี้จะมีโชคชะตาที่ดี มีครอบครัวที่รักหล่อน แต่ก็ไม่สามารถห้ามสามีของตัวเองที่ทำตัวเหลวแหลกได้
เดิมทีหล่อนเองก็แอบรู้สึกรังเกียจที่พี่สี่จ้าวซื่อสัตย์ซื่อบื่อเกินไป แต่ตอนนี้พอมาคิด ๆ ดูแล้ว สามีของหล่อนก็นับว่าไม่เลวเลย
สุดท้ายแล้วการไปทำงานในนาของเขาก็ไม่เลว เขาได้แต้มค่าแรงมา 10 แต้ม ไม่เหมือนกับน้องสามีหก ที่เป็นพวกนอกรีตไม่ทำอะไรเป็นจริงเป็นจังสักอย่าง
ตอนนี้ยังไม่มีลูก หลังจากนี้ถ้ามีลูกขึ้นมา ถึงเวลานั้นเด็กจะไม่อดอยากปากแห้งเลยเหรอ?
หล่อนในตอนนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพี่สะใภ้รองจ้าวและพี่สะใภ้สามจ้าวแล้ว แต่ก็ไม่คิดจะขัดแย้งกับเย่ฉูฉู่อีก ดังนั้นหล่อนจึงมาโน้มน้าวเย่ฉูฉู่สักหน่อย
“น้องสะใภ้ น้องสามีหกทำแบบนี้มันไม่ได้เรื่องเลยนะ เธอไม่เกลี้ยกล่อมเขาหน่อยเหรอ?” พี่สะใภ้สี่จ้าวกล่าว
เย่ฉูฉู่กล่าว “ตอนนี้ยังว่างอยู่ก็ปล่อยเขาไปเถอะค่ะ ให้เขาลองและคิดได้ด้วยตัวเขาเองว่ามันไม่ได้ผล ไม่งั้นใครจะเกลี้ยกล่อมเขาได้ละคะ?”
พี่สะใภ้สี่จ้าวยิ้มในใจ พูดแบบนี้ก็ถูก น้องสามีหกคนนั้นไม่ใช่คนที่พูดว่าช่างมันแล้วจะปล่อยไปง่าย ๆ
“มีข่าวดีเรื่องท้องหรือยังล่ะ? ฉันจะบอกเธอให้นะ ฉันกลับบ้านไปครั้งนี้ได้ยินเคล็ดลับมาอย่างหนึ่ง สำหรับมีลูกชายโดยเฉพาะเลย!” พี่สะใภ้สี่กระซิบ
เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ฉันเองก็มีเคล็ดลับอยู่เหมือนกันค่ะ”
เคล็ดลับนี้เป็นสิ่งที่เธอเก็บไว้ตั้งแต่ชาติที่แล้ว ชาติที่แล้วเธอก็อยากให้กำเนิดลูกชายให้สามี แต่ก็ไม่เคยได้มีโอกาส
แต่เคล็ดลับนี้เธอจำได้ขึ้นใจ ต่อให้เป็นตอนนี้ก็ยังเขียนออกมาได้ แต่เธอก็ไม่รีบร้อน เพราะไม่เพียงแต่จะให้กำเนิดลูกหนึ่งคน แต่หลังจากนี้เธอก็ยังคิดจะให้กำเนิดลูกอีกหลายคน
ชาติที่แล้วเธอพบเจอกับความผิดหวัง แต่ชาตินี้เธอกลายเป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมายของเขา ดังนั้นเธอจึงต้องการให้กำเนิดลูกให้กับเหวินเทาหลาย ๆ คน
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ใบหน้าของเย่ฉูฉู่พลันปรากฏรอยยิ้มแห่งความสุข
พี่สะใภ้สี่จ้าวคิดว่าคงเป็นเพราะสิ่งที่แม่ของเธอนำมาให้วันนี้ จึงไม่ได้กล่าวอะไร เพราะเคล็ดลับของหล่อนต้องจ่ายเงินตอบแทนด้วย การใช้เงินสามหยวนในการซื้อกลับมามันทำให้หล่อนเจ็บปวดแทบตาย จึงไม่คิดจะบอกออกไปเปล่าๆ
………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
รอให้คนอื่นๆ นินทากันสนุกปากแล้วค่อยประกาศความรวยตอนหลังก็ไม่สายค่ะ ถึงตอนนั้นคงมีหลายคนหน้าแตกแบบหมอไม่รับเย็บ
พี่สะใภ้สี่คิดมาไถเงินกับฉูฉู่แบบนี้มันดีแล้วเหรอคะ ดูจากท่าทางแล้วน่าจะขายไม่ได้นะคะ เพราะน้องก็มีเคล็ดลับของน้องเหมือนกัน
ไหหม่า(海馬)