ซูหวานหว่านเดินตามโม่เหยียนไปที่ตรอก นางเคาะประตูบ้านหลังหนึ่ง เมื่อประตูถูกเปิดออกก็มีชายคนหนึ่งก็เดินออกมาจากด้านใน
เขาคือหลิวเหริน ชายเจ้าเล่ห์ที่มาก่อความวุ่นวายให้กับร้านของนางตอนนั้น เหตุใดโม่เหยียนยังติดต่อเขาอยู่!?
ซูหวานหว่านขมวดคิ้ว เมื่อเห็นโม่เหยียนมอบสูตรน้ำศักดิ์สิทธิ์ให้กับหลิวเหริน!
เวลานั้นซูหวานหว่านรู้สึกราวกับว่ามีหิมะโปรยปรายอยู่ในหัวใจของนาง ร่างกายแข็งทื่อชาวาบไปทั้งตัว ซูหวานหว่านไม่อาจเข้าใจได้…
“โม่เหยียน เจ้านี้ดีมาก ข้าจะบอกกับแม่ของข้าว่าข้าอยากใช้ชีวิตอยู่กับเจ้า!” หลิวเหรินพูดออกมาอย่างมีความสุข จากนั้นก็หยิบเอาสูตรน้ำศักดิ์สิทธิ์ยัดใส่ในข้อมือของตัวเองแล้วปิดประตูดัง ‘ปัง’
โม่เหยียนตกตะลึง พลันใดก็ได้ยินเสียงอันร่าเริงของหลิวเหรินดังออกมาจากด้านในอีกครั้ง “เหยียนเอ๋อร์ เจ้ากลับไปก่อน ข้าจะต้องเตรียมตัว เมื่อข้ารวยแล้ว ข้าจะไปสู่ขอเจ้าอีกครั้ง จะทำให้เจ้ากลายเป็นเศรษฐีนี เพื่อชดใช้ความคับข้องใจที่เจ้าเคยได้รับ”
ชายชั่วช้าคนนี้ ใช้วิธีการนี้เพื่อหลอกใช้โม่เหยียนเหมือนม้าเหมือนควาย และนางก็เต็มใจที่จะหลอกลวงนายจ้างของตนเอง!
ซูหวานหว่านคิดว่ามันไร้สาระ นางถอนหายใจออกมา เด็กสาวจับยุงที่บินอยู่ในอากาศและสั่งให้มันค่อยจับตาดูหลิวเหรินอยู่ตลอดเวลา จากนั้นก็เดินจากไป
ทันทีที่ซูหวานหว่านกลับมาถึงบ้าน ไม่นานหลังจากนั้นโม่เหยียนก็กลับเข้ามา เมื่อนางเปิดประตูเข้ามาพบกับซูหวานหว่านก็รู้สึกตกใจจนทำผ้าที่อยู่ในมือตกลงบนพื้น “แม่นางซู เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”
“ข้ามาเดินย่อยอาหาร แต่เหตุใดเจ้าถึงกลับบ้านในตอนนี้?” ซูหวานหว่านถามออกมาอย่างรู้ทัน พร้อมกับจ้องมองไปที่โม่เหยียนแล้วพูดว่า “สตรีที่สวยเช่นเจ้า แม้ว่าเจ้าจะแยกทางกับหลิวเหรินแล้ว ย่อมก็ต้องมีชายอื่นที่ชอบเจ้า”
“แม่นางซู ข้าไม่อยากถูกหัวเราะเยาะอีกแล้ว ข้าปลงแล้ว และคงจะไม่มีใครต้องการข้า…” โม่เหยียนพูดออกมา ริมฝีปากนางคลี่ยิ้มออกมาบาง ๆ เผยให้เห็นความอ่อนโยน
ซูหวานหว่านหัวเราะประชดประชัน “ข้ารู้จักชายรูปงามมากมาย พรุ่งนี้ข้าจะพามาแนะนำให้เจ้ารู้จักสองสามคน เจ้าจะว่าคิดว่าอย่างไร?”
“ไม่ต้องหรอก! แม่นางซูไม่ต้องมาหยอกข้าเลย” โม่เหยียนปฏิเสธออกมาอย่างรวดเร็ว
“หรือเจ้ามีใครอยู่แล้วในใจ?” ซูหวานหว่านพูดพร้อมยิ้มออกมา “ข้าได้ยินมาว่าหลิวเหรินมายุ่งวุ่นวายกับเจ้าในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาใช่ไหม? หรือว่าเขามาขอเจ้าคืนดี”
“เปล่า! เขาจะมาขอข้าคืนดีกับข้าได้อย่างไรกัน! เขาแต่งงานกับหญิงคนหนึ่งไปแล้ว และข้าก็ได้ยินมาว่าท้องของนางใหญ่มากด้วย แม่ของเขาพอใจเป็นอย่างมาก เขาคงจะไม่มาชายตามองข้าหรอก อีกอย่างน้องสาวของข้าก็ยังป่วยอยู่ ทั้งครอบครัวของเขารังเกียจเรามาก!” โม่เหยียนพูดออกมาด้วยความมั่นใจราวกับว่าคิดอะไรออกก็พูดออกมา พร้อมกับหลั่งน้ำตา
“อย่างงั้นเองหรอกหรือ แล้วเหตุใดเจ้าถึงเอาตัวไปเข้าใกล้อีก? เจ้าคิดว่าเขาจะแต่งงานกับเจ้าหรือหากเจ้าหาเงินมาได้เยอะ?” ซูหวานหว่านย่างก้าวเข้าไปหานาง เห็นได้ชัดว่าซูหวานหว่านเตี้ยกว่านางเล็กน้อย แต่โม่เหยียนกลับเหมือนถูกบีบให้ตัวเล็กลง
เมื่อนึกถึงสิ่งที่ซูหวานหว่านพูด และคิดได้ว่าเหตุใดซูหวานหว่านจึงมาอยู่ตรงนี้ โม่เหยียนจึงเกิดอาการตกใจและคุกเข่าลงพร้อมกับพูดว่า “แม่นางซู! ข้าขอโทษ! แต่…ข้ารู้เท่าไม่ถึงการณ์! ให้อภัยข้าได้หรือไม่!”
“ขอโทษเหรอ เฮอะ!” ซูหวานหว่านยิ้มเล็กน้อย “เจ้าไม่จำเป็นต้องขอโทษข้า คนที่ต้องเสียใจคือตัวเจ้าเอง”
ซูหวานหว่านชี้ไปที่ประตูห้องนอนของโม่เหยียนและพูดออกมาว่า “ข้าไล่เจ้าออกแล้ว ไสหัวไปซะ!”
โม่เหยียนขบเม้มริมฝีปากโดยไม่เอ่ยอะไรออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปเก็บของ ทำให้โม่จิงที่นอนพักอยู่ในห้องตกใจเพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อรู้เรื่องจึงเอ่ยตำหนิและตัดขาดกับพี่สาวของตน นางเอ่ยขอโทษซูหวานหว่านต่อการกระทำของพี่สาว
ซูหวานหว่านไม่ได้เอ่ยวาจาระคายหู นางทำเพียงแค่ถอนหายใจและพูดว่า “ในเมืองนี้ ข้าปฏิบัติต่อเจ้าเหมือนพี่น้อง หากนางมาขอร้องข้าอีก ข้าก็อาจจะยกโทษให้นาง แต่ถ้าไม่…ก็ช่างมันเถอะ”
เด็กสาวถอนหายใจออกมาอีกครั้ง และสั่งให้โม่จิงกลับไปพักผ่อนเพราะนางก็ต้องการพักแล้วเช่นกัน
วันรุ่งขึ้นซูหวานหว่านบอกให้โม่จิงทำแป้งชาดต่อไป นางจะเป็นคนไปดูแลร้านด้วยตนเอง ไปถึงก็ต้องพบว่าร้านของนางเงียบสงัด มีนางคนเดียวที่อยู่ในร้าน เมื่อซูหวานหว่านกำลังจะปิดประตูเพื่อนำน้ำศักดิ์สิทธิ์ออกมาจากมิติฟาร์ม ผู้ดูแลหวังก็ปรากฏตัวขึ้นหน้าร้าน
“แม่นางซู วันนี้ที่ร้านหยูเหมียนเก๋อ เหล่าสมาชิกหอการค้าของเราได้ช่วยกันเปิดขึ้นป้ายร้าน จ้าวซิ่วฉ่ายนั้นได้รับการเสนอชื่อว่าเป็นคนที่แต่งกายได้สง่างามที่สุด บรรยากาศครื้นเครงมาก เจ้าอยากจะไปเยี่ยมชมหน่อยหรือไม่?” คำพูดของผู้ดูแลหวังเต็มไปถ้อยคำเสียดสี
“อ่า..” ซูหวานหว่านเหลือบมองเขา นางกำลังจะเอ่ยบางสิ่ง แต่แล้วยุงที่นางสั่งให้คอยจับตาดูหลิวเหรินก็ส่งข้อความมาถึงซูหวานหว่านแล้ว
ซูหวานหว่านจึงได้รับรู้ว่าหลิวเหรินแอบไปหาผู้ดูแลหวังเมื่อวานนี้ และขายสูตรน้ำศักดิ์สิทธิ์ของนางไปในราคา 10 ตำลึง!
เหตุที่ผู้ดูแลหวังหยิ่งผยองเป็นอย่างมาก เพราะว่าเขามีสูตรน้ำศักดิ์สิทธิ์ของนางอยู่ในมือนั่นเอง!
ซูหวานหว่านกระตุกยิ้มมุมปาก “เจ้าถือเป็นคนรู้จักของข้า เจ้าเปิดร้านทั้งทีข้าจะไม่ไปเยี่ยมได้อย่างไร?”
หลังจากนางปิดร้านก็เอ่ยออกมาว่า “ผู้ดูแลหวัง นำทางไปสิ”
ผู้ดูแลหวังตกตะลึง เหตุใดคราวนี้ซูหวานหว่านถึงยอมฟังเขาอย่างง่ายดาย!
ดูเหมือนว่าเขาจะติดกับที่ซูหวานหว่านสร้างขึ้นมาเสียแล้ว!
ผู้ดูแลหวังส่ายหัวไปมาอย่างรวดเร็ว พยายามสลัดความคิดนั้นออกไปและนำทางไปทันที เมื่อเห็นท่าทางสงบนิ่งของซูหวานหว่านก็อดที่จะพูดออกมาไม่ได้ “ซูหวานหว่าน เมื่อไปที่นั้นอย่าอิจฉาไปล่ะ เพราะในร้านของเรามีน้ำศักดิ์สิทธิ์ขาย เหมือนกับของเจ้าเลย”
“ว่าอย่างไรนะ!” ซูหวานหว่านแสร้งทำเป็นตกใจ
ผู้ดูแลหวังเห็นท่าทางของนางก็รู้สึกพอใจ และตั้งตารอจะเห็นสีหน้าถัดจากนี้ของซูหวานหว่านไม่ไหว
เมื่อทั้งสองเดินทางมาถึง พวกเขาไม่สามารถอธิบายออกมาได้เพราะคนเยอะมาก
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ร้านนางมีคนเข้ามาเพียงไม่กี่คน เพราะพวกเขามาอยู่ที่นี่หมดแล้ว
ผู้ดูแลหวังชี้ไปด้านหน้า และทุกคนก็ส่งเสียงเอ่ยชมหญิงคนนั้น ผู้ดูแลหวังพูดออกมาว่า “แม่นางซู ข้าต้องขอตัวก่อน”
ผู้ดูแลหวังเดินไปที่หญิงสาวผู้นั้น “พวกเจ้าอยากมีผิวพรรณที่ดีหรือไม่ สตรีนางนี้เคยมีหน้าตาอัปลักษณ์มาก่อน ใบหน้าของนางมีแต่รอยมากมาย แต่พวกเจ้าดูสิตอนนี้ใบหน้าของนางเนียนสวยไร้ริ้วรอย นั่นเป็นเพราะว่านางใช้น้ำศักดิ์สิทธิ์ของร้านเรา วันนี้เราจะเลือกคนมายี่สิบคนและแจกให้ได้เอาไปลองใช้ โดยไม่ต้องเสียเงิน!”
เมื่อได้ยินดังนั้นทุกคนก็สงสัย และกระซิบกระซาบกันด้วยความฮือฮา
ก่อนที่ภายในร้านจะนำกล่องไม้ใบนึงออกมา ให้เด็กในร้านเขียนชื่อทุกคนและใส่ลงไปเพื่อร่วมสนุก
ซูหวานหว่านมองการชิงโชคอย่างไม่ใส่ใจ ส่วนผู้ดูแลหวังรู้สึกดีใจแล้วพูดออกมาเสียงดัง “วันนี้แม่นางซูได้ให้เกียรติมาที่นี่ด้วย เหตุใดถึงไม่ให้นางร่วมเล่นกับพวกเราด้วยเล่า? นางจะได้รับรู้ว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ของเราดีกว่าของนางมาก หากนางใช้มันแล้วคงจะเกิดความรักจนไม่อยากเปิดเครื่องประทินโฉมของตัวเองอีกต่อไปก็ได้!”
ทุกคนหันไปมองเด็กสาวพร้อมส่งเสียงเรียก บางคนก็รู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมากับปัญหาทางการค้า แต่เมื่อรู้ว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ของผู้ดูแลหวังดีกว่าของนาง พวกเขาก็มีความสุข สิ่งนี้คงได้กระตุ้นซูหวานหว่านให้อยากพิสูจน์เป็นแน่ มันช่างน่าขบขันสำหรับพวกเขานัก และพวกเขาต้องขอเงินคืนจากนางเพื่อไปซื้อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่า!
“ทุกท่าน เงียบลงหน่อย” ซูหวานหว่านหัวเราะแผ่วเบา “หากน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้ดีกว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ของข้า ข้าจะคืนเงินให้เป็นสองเท่า! แต่ว่าผิวของข้าดีมากอยู่แล้ว คงไม่สะดวกที่จะลองใช้มัน รบกวนท่านผู้ดูแลหวังช่วยเลือกอาสาสมัครออกมาซักคนนึงเถอะ”
“ตกลง!” ผู้ดูแลหวังตอบตกลง และเลือกหญิงสาวผู้หนึ่งออกมา
ซูหวานหว่านหัวเราะกับสูตรที่นางเขียนให้กับโม่เหยียน เพราะในส่วนผสมนั้นมีน้ำนมพืชผสมอยู่ หากใส่มันเยอะเกินไปอาจจะทำให้เกิดอาการแพ้! นางรอดูเรื่องสนุกไม่ไหวแล้ว เมื่อถึงตอนนั้นผู้ดูแลหวังก็คงจะยิ้มไม่ออกเป็นแน่!