“ท่านพ่อ…” ซุนฉางอานพูดออกมาอย่างรีบร้อนและจับมือของซูหวานหว่านเอาไว้พร้อมกับพูดว่า “นี่คือหญิงที่ข้าจะแต่งงานด้วย ข้าไม่สามารถปล่อยนางไปแล้วไปแต่งงานกับคนอื่นได้”
“เฮอะ!” ซุนซ่างชูพ่นลมหายใจออกมา เขาจ้องมองไปที่ซูหวานหว่าน “แม่นางเป่ยฉวน เจ้าอย่าทำให้ข้าต้องรู้สึกลำบากใจเลย ครอบครัวของเจ้าไม่คู่ควรกับตระกูลซุนของเรา!”
“เฮอะ” ซูหวานหว่านแสยะยิ้มออกมา “อย่างงั้นเหรอ?”
หลังจากนั้นนางก็มองไปที่เจียเหวิน “พวกเจ้าควรจะถามคุณชายเจียเหวินนะว่าบ้านของข้าจนหรือไม่จน? พี่ชายของข้าได้ไปซื้อหินพนันที่ตลาดขายหินพนันเมื่อไม่นานมานี้ อีกทั้งพี่ชายของข้ายังได้เงินมาพันตำลึง และยังขายหยกได้อีกด้วย รวมกันแล้วก็ได้มากถึงสองพันตำลึง และอีกอย่าง… รวม ๆ รายได้ตอนนี้ก็มีถึงหนึ่งหมื่นตำลึง! คงจะยากจนจริง ๆ สินะ!”
นี่ยังเรียกว่ายากจนอยู่หรือเปล่า?
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนสีไปโดยพลัน
ภายในใจของซุนซ่างชูก็รู้สึกหัวเสียไปชั่วขณะหนึ่ง และเขารู้สึกเสียใจทันที! ครอบครัวของนางมีรายได้ดีกว่าตระกูลเจียมาก! ซุนซ่างชูขบคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อนจะรีบเปลี่ยนสีหน้า ทว่ากลับได้ยินซูหวานหว่านพูดออกมาอีกว่า “บ้านของข้าปูพื้นด้วยหยกและไม้กฤษณา ม่านหน้าต่างก็ทำขึ้นอย่างพิเศษ ดูเหมือนว่าครอบครัวของพวกเจ้าจะยากจนกว่าข้านะ ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อที่จะเกาะผู้ใด ข้าแค่ชอบคุณชายซุนและอยากที่จะอยู่กับเขา ถ้าตระกูลซุนไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ก็คงตามนั้น”
ว่าอย่างไรนะ พื้นบ้านของนางทำมาจากหยก นางจะมาแต่งงานเพื่อมาเกาะตระกูลซุนได้อย่างไรกัน?
ความโกลาหลเกิดขึ้นมาอีกครั้ง พวกเขาเริ่มสนใจภูมิหลังของครอบครัวเป่ยฉวนขึ้นมา ซุนซ่างชูเองก็เช่นกัน แต่เขารู้สึกเขินอายเล็กน้อย “ข้าไม่ได้พยายามที่จะกีดกั้นเจ้ากับลูกชายของข้า ที่ข้าถามออกไปแบบนั้นก็แค่อยากจะทราบว่าเจ้ามาไกลหรือไม่ จะได้ให้เจ้าไปนั่งพักผ่อนก่อน”
“โอ้?” ซูหวานหว่านหัวเราะออกมา “เมื่อครู่ท่านไม่ได้บอกให้ข้าออกไปหรอกหรือ แสดงว่าข้าคงจะเข้าใจผิดไปเอง”
“…”
พยายามจะฉีกหน้าเขางั้นรึ? ซุนซ่างชูโกรธจนหน้าดำหน้าแดง ผู้หญิงเช่นนี้เขาจะเอานางมาเป็นลูกสะใภ้ได้อย่างไรกัน ซุนซ่างชูจึงพูดออกมาว่า “ในเมื่อเจ้ากับลูกชายของข้ารักกัน แน่นอนว่าพวกเราจะต้องไปสู่ขอเจ้าแน่นอน แต่ว่า…หญิงเช่นเจ้าเหมาะที่จะเป็นอนุเขาเท่านั้น!”
อนุ? หากว่านางไม่ต้องแสร้งทำเป็นเล่นละครอยู่ล่ะก็ซูหวานหว่านก็คงอดไม่ได้ที่จะด่าเขากลับไป!
ทันใดนั้นซุนฉางอานก็คว้ามือของซูหวานหว่านเอาไว้แล้วพูดออกมาว่า “ท่านพ่อ ข้าชอบแม่นางเป่ยฉวนมาก ในชีวิตนี้ข้าจะแต่งงานกับนางเพียงคนเดียว! ท่านพ่ออย่าทำให้ข้ารู้สึกลำบากใจไปมากกว่านี้เลย!”
“เจ้า!” ซุนซ่างชูโกรธมาก จนกระทั่งฮูหยินซุนลุกขึ้นและพูดว่า “ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่มันขึ้นอยู่กับว่าตระกูลเป่ยฉวนจะให้สินเดิมจำนวนเท่าใด!”
ตระกูลนี้ไม่บ้าไปแล้วหรอกเหรอ? ซูหวานหว่านคิดว่าเช่นนี้มันช่างน่าขัน พยายามที่จะยกตัวเองขึ้นเหนือกว่าคนอื่น แต่ว่ากลับทำพฤติกรรมที่ต่ำทราม นางยังไม่ได้แต่งเข้าบ้านของพวกเขาเลย แต่กลับพูดถึงสินเดิมของนางแล้ว โชคดีที่นางทำไปเพราะการแสดง หากนางจะต้องแต่งงานเข้าไปจริง ๆ พวกเขาคงจะต้องเอาชีวิตนางแน่ ๆ!
“…”
ซูหวานหว่านครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดออกมาว่า “สินเดิมของข้าก็ขึ้นอยู่กับว่าพี่ชายของข้าจะให้เท่าไร เมื่อก่อนข้าได้ยินเขาบอกว่าเพราะครอบครัวเคยยากจนมาก ก็เลยจะให้ทองคำหนึ่งหมื่นตำลึง หากหลังจากนั้นยังขาดเงิน ก็ให้กลับไปเอาเพิ่มได้”
“สวรรค์!” เมื่อทุกคนได้ยินแบบนี้ต่างก็มองไปที่ซูหวานหว่านราวกับกองเงินกองทอง ทองคำหลายหมื่นตำลึง!
ฮูหยินซุนพยักหน้าออกมาด้วยความพึงพอใจพร้อมกับยิ้มออกมา “เจ้าฉลาดมาก ข้าชอบ! อีกไม่กี่วันข้างหน้าก็ขอให้พี่ชายของเจ้ามาคุยเรื่องแต่งงานกัน”
เหตุใดถึงรีบร้อนเช่นนี้ หรืออาจจะเพราะว่านางคุยโวมากเกินไป? ซูหวานหว่านขมวดคิ้วมองไปที่ซุนฉางอานด้วยสายตาขอโทษ
ซุนฉางอานจึงพูดออกมาอย่างใจเย็นว่า “ท่านแม่ วันนี้เป็นวันเกิดของท่านพ่อ ส่วนเรื่องการแต่งงานของพวกเราค่อยคุยทีหลังก็ยังไม่สายไป”
“ได้” ฮูหยินซุนยิ้มออกมาแล้วดึงซูหวานหว่านเข้ามาหา มองสำรวจดูซูหวานหว่านทั่วตัว ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องแหลมดังขึ้นมา “ช้าก่อนฮูหยินซุน ข้าว่าท่านอย่างเพิ่งพูดถึงเรื่องแต่งงานเลย! จริง ๆ แล้วหญิงสาวคนนี้เป็นผู้ชาย!”
“ว่าอย่างไรนะ?” ฮูหยินซุนชะงักงัน ปล่อยมือที่จับตัวซูหวานหว่านทันที สายตาของนางจับจ้องไปยังซูหวานหว่าน มองอย่างไรก็ไม่เหมือนผู้ชาย
สตรีที่เอ่ยออกมานั้นสวมชุดสีเหลืองดูสง่างามและสดใส และนั่นก็คือซูเสี่ยวเหยียน
ซูหวานหว่านมองไปที่นาง รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา ซูเสี่ยวเหยียนมาที่นี่แน่นอนว่าจะต้องมาเพื่อเปิดโปงนาง ‘ที่ปลอมตัวเป็นผู้หญิง’ แต่ว่าตอนนี้นางกำลังปลอมตัวเป็นน้องสาวของเป่ยฉวนเฟิงหลิวอยู่ นางจะต้องทำเป็นว่าไม่รู้จักซูเสี่ยวเหยียน ซูหวานหว่านขมวดคิ้วและคิดหาวิธีเพื่อเอาชนะศัตรูภายในใจของตัวเอง “แม่นางคนนี้ อย่ามาพูดจาไร้สาระ”
“เพียงมองข้าก็รู้ กำลังหวาดกลัวรึ?” ซูเสี่ยวเหยียนเอ่ยเยาะเย้ย นางเดินไปรอบ ๆ ตัวซูหวานหว่านสองสามครั้งแล้วพูดว่า “ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าคุณชายเป่ยฉวนจะมีรูปร่างที่ดีแบบนี้! แกล้งเป็นผู้หญิงเหมือนมากจริง ๆ!”
เป็นอย่างที่คิดเอาไว้จริง ๆ! ซูเสี่ยวเหยียนมาที่นี่เพื่อจะมาฉีกหน้านาง! ซูหวานหว่านเงยหน้าขึ้นส่งสายตาไปให้ซุนฉางอาน แน่นอนว่าจากสายตาที่ซูเสี่ยวเหยียนมองมาก็ดูรู้ว่านางต้องเดาเรื่องนี้ออกแน่ ๆ “ข้าได้พบกับคุณชายเป่ยฉวน และได้รับรู้เรื่องของเขาอยู่บ้าง แต่ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าเขามีน้องสาว! แต่ว่า… ข้าได้ยินมาว่าเขาสามารถปลอมตัวเป็นหญิง และเรื่องที่เลวร้ายไปกว่านั้น…”
ซูเสี่ยวเหยียนเดินเข้าไปใกล้ซูหวานหว่าน และพูดออกมาด้วยรอยยิ้มประชดประชันว่า “เขาชอบผู้ชาย…”
ใบหน้าของซูหวานหว่านพลันเปลี่ยนสี เมื่อเจียเหวินได้ยินดังนั้นก็มองสำรวจร่างกายของซูหวานหว่านและพูดออกมาว่า “มีความเป็นไปได้! ไม่ว่าจะมองอย่างไรนางก็ดูคล้ายเป่ยฉวนเฟิงหลิว!”
หลังจากพูดจบเขาก็พูดขึ้นมาแบบไม่ตั้งใจว่า “เอ๊ะ! เมื่อสองสามวันก่อนข้าได้ยินข่าวลือมาว่าคุณชายซุนชอบผู้ชายด้วยกันจริง ๆ? ดูเหมือนว่าเรื่องนี้ก็คงจะเป็นเรื่องจริงอย่างงั้นหรือ?”
คิดไม่ถึงเลยว่าทั้งสองคนจะมาเล่นละครช่วยกัน! ใบหน้าของซูหวานหว่านพลันเปลี่ยนสี นางพูดออกมาอย่างช้า ๆ ว่า “แน่นอนว่าพี่ชายกับข้าออกมาจากท้องเดียวกัน มันจะเป็นอะไรไปที่เรามีใบหน้าเหมือนกัน แต่ว่าคุณชายซุนและเจ้ามันไม่เหมือนกัน คุณชายซุนเขาไม่ใช่หลงหยาง แต่ว่าคุณชายเจียเป็นหลงหยาง แล้วถูกคนอื่นรังเกียจจึงพยายามที่จะดึงคุณชายซุนจมไปด้วยสินะ”
ด้วยการโต้กลับไปแบบนี้ ทำให้เรื่องที่เจียเหวินเป็นหลงหยางถูกพูดออกมาอีกครั้ง เจียเหวินโกรธมาก ซูเสี่ยวเหยียนจึงจับมือของเขาเอาไว้แล้วพูดออกมาว่า “ท่านพี่ อย่าโกรธไปเลย ข้าจะขอพูดเอง”
เหตุใดซูเสี่ยวเหยียนถึงเรียกเจียเหวินว่าท่านพี่? ซูหวานหว่านเลิกคิ้วขึ้นโดยคิดว่าเรื่องที่บังเอิญได้ยินมาว่าซูเสี่ยวเหยียนเป็นลูกบุญธรรมของคุณนายเจียมันน่าจะเป็นเรื่องจริง ไม่น่าแปลกใจเลยที่ซูเสี่ยวเหยียนเปลี่ยนชื่อเป็น ‘จูเหยียน’ คงจะกลัวถ้าถูกเปิดเผยว่าตัวเองมีกำพืดเป็นสาวชาวนามาก่อน หากว่าเรื่องนี้ไม่สำคัญนางคงจะฉีกใบหน้าที่แท้จริงของซูเสี่ยวเหยียนไปแล้ว!
ซูหวานหว่านกระตุกยิ้มมุมปาก “งั้นเจ้าก็พูดออกมาสิ ข้าจะดูสิว่าเจ้าจะแก้ตัวอะไรอีก”
“มันไม่ใช่เรื่องโกหก” ซูเสี่ยวเหยียนยิ้มออกมาและพูดออกมาว่า “คุณชายเป่ยฉวนเป็นศิษย์พี่ของซูหวานหว่าน ข้าเคยพบกับซูหวานหว่านมาสองสามครั้ง เลยสนิทกับนางอยู่บ้าง และเคยพบคุณชายเป่ยฉวนอยู่หลายครั้ง คุณชายเป่ยฉวนเป็นเด็กกำพร้าพื้นเพไม่มีครอบครัวเหลืออยู่เลย! แล้วเขาจะมีน้องสาวได้อย่างไรกัน?”
เมื่อพูดแบบนั้น ซูเสี่ยวเหยียนก็มองไปยังใบหน้าที่มีเสน่ห์และน่าทึ่งของซูหวานหว่าน แอบอิจฉาริษยาอยู่ภายในใจ “ท่านซุนซ่างชู หากพวกท่านไม่เชื่อก็ให้คนใช้ลองตรวจร่างกายของเขาดูสิ! ว่าเขาเป็นผู้หญิงหรือว่าผู้ชาย!”
“เจ้า!” ซุนฉางอานเกิดความกังวลเพราะเขารู้ว่าซูหวานหว่านเป็นผู้ชาย และในงานตอนนี้ก็เต็มไปด้วยแขกมากมาย ทุกคนภายในเมืองต่างมารวมตัวกันที่นี่ เช่นนั้นแล้วชื่อเสียงของเขาและซูหวานหว่านจะไม่จบเห่อย่างงั้นเหรอ!