พอเห็นปฏิกิริยาที่อ่อนไหวของหวังเจียเหยา เย่เฉินจึงถาม “ทำไมคุณรู้จักหลิ่วอวี่เจ๋อเหรอ?”
หวังเจียเหยารีบส่ายศีรษะ “ไม่…ไม่รู้จัก แค่เคยได้ยินฟางเชาพูดถึงเขามาก่อน…”
จากนั้นก็ถามต่อ “ที่รักตระกูลหลิ่วโจมตีบริษัทของพวกเราแบบนี้ บริษัทจะไม่เป็นไรใช่ไหมคะ?”
เย่เฉินแจกแจง “ดูจากหน้าที่ 43 แล้ว ตระกูลหลิ่วอยากให้บริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปล้มละลาย ด้วยศักยภาพของพวกเขาแล้วจะทำให้บริษัทเล็กๆ อย่างหัวเซิ่งกรุ๊ปลล้มละลายก็ง่ายดายทีเดียว แต่ที่น่าเสียดายก็คือประธานบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปคือผม ที่นี่คือบททดสอบของผม ผมไม่มีทางปล่อยให้ใครหน้าไหนก็ตามมาพังบริษัทนี้”
เมื่อเห็นท่าทางกังวลของหวังเจียเหยา เย่เฉินจึงยิ้มพลางแตะใบหน้าหญิงสาวแล้วกล่าว “ทำไมกลัวว่าผมจะโดนพวกเขาเล่นงานจนหมดตัวหรือไง? สบายใจเถอะสามีของคุณไม่ได้อ่อนแอแบบนั้น คุณไม่ต้องกังวลเรื่องของหัวเซิ่งกรุ๊ปหรอก ดูแลลูกในท้องให้สบายใจเถอะ สนใจแต่เรื่องของอีผิ่นเจียเหยาก็พอ ไม่ต้องมาหาผมหรอก ถ้ามีนักข่าวโทรหา คุณก็ไม่ต้องรับสายหรอก”
หวังเจียเหยายิ้ม “อืม ฉันเชื่อนาย ที่รัก เอ่อฉันไปห้องน้ำเดี๋ยวนะ นายทำงานเถอะ”
หวังเจียเหยาไปที่ห้องน้ำจากนั้นก็แอบโทรหาหลิ่วอวี่เจ๋อ
“ที่รักครับ เพิ่งจะประชุมได้เดี๋ยวเดียวก็คิดถึงผมแล้วล่ะสิ?”
หลิ่วอวี่เจ๋อที่อยู่ในสายใช้น้ำเสียงที่สนิทสนมอย่างยิ่งคุยกับหวังเจียเหยา
หวังเจียเหยากระซิบเสียงเบา “นายอย่าล้อเล่น! อวี่เจ๋อฉันขอถามนายหน่อย นายเป็นหาเรื่องบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปของสามีฉันใช่ไหม?”
หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าวอย่างลำพองใจ “ใช่แล้วผมเอง วันนี้บริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปของสามีคุณร่วงลงมา 23% มูลค่าทรัพย์สินของเขาหดหายไปไม่น้อยเลย นี่แค่วันแรก หุ้นของบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปจะร่วงลงมาอีก เขาจะกลายเป็นยาจกเร็วๆ นี้แน่!”
หวังเจียเหยากล่าวอย่างอย่างไม่พอใจ “ทำไมนายต้องทำแบบนี้ด้วย! เพราะเรื่องอาของนายเหรอ? ฉันก็เคยบอกนายไปแล้วไงว่าสามีของฉันไม่ได้มีรสนิยมแบบนั้น เขารักฉันคนเดียวไม่มีทางทำอะไรกับอานายแน่!”
หลิ่วอวี่เจ๋อพูดเสียงดัง “ไม่ใช่เพราะคุณอา แต่ที่ผมทำแบบนี้ก็เพราะคุณ!”
“เพราะฉัน?” หวังเจียเหยาชะงักไปทันที
หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าว “ผมรักคุณนะหวังเจียเหยา! หลายวันมานี้ผมรักคุณจนคลั่งไปหมดแล้ว ผมอยากอยู่กับคุณ ผมจะแย่งคุณมาจากเย่เฉิน! ดังนั้นผมจึงอยากจะสู้กับเขาในสนามธุรกิจ ผมจะเอาชนะเขาให้ได้ แล้วชิงตัวคุณมา!”
หวังเจียเหยาคิดไม่ถึงว่าหลิ่วอวี่เจ๋อจะกลายเป็นคนที่ใจร้อนอย่างมากขนาดนี้!
เดิมทีหลายวันที่ผ่านมานี้หวังเจียเหยาเองก็มีความสุขอย่างมาก!
ที่บ้านมีสามีอย่างเย่เฉินคอยพะเน้าพะนอเอาใจ ตอนทำงานที่อีผิ่นเจียเหยาก็ได้หลิ่วอวี่เจ๋อบูชาเอาใจ
หล่อนชื่นชอบความรู้สึกที่ได้ครอบครองผู้ชายสองคนพร้อมกัน!
อีกทั้งยังหวังว่าชีวิตที่แสนสุขแบบนี้จะดำเนินต่อไป
แต่ที่หล่อนคาดคิดไม่ถึงก็คือหลิ่วอวี่เจ๋อจะรอต่อไปไม่ไหว เขาจะไม่ยอมเป็นตัวสำรองอีกต่อไป
หวังเจียเหยาเองก็ไม่กล้าหวังสูงที่จะให้ลูกชายเศรษฐีผู้มีทรัพย์สินมูลค่าแสนล้านเป็นตัวสำรองของหล่อน
ดังนั้นหวังเจียเหยาถึงได้ตัดรอนอีกฝ่าย “หลิ่วอวี่เจ๋อนายอย่าหาเรื่องบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปแล้วได้ไหม ช่วยเลิกหาเรื่องสามีฉัน ฉันรักเขามาก อีกทั้งลูกของเราสองคนก็จะลืมตาดูโลกแล้ว ฉันไม่มีทางจะคบนาย! นายเลิกคิดไปเองทีเถอะ!”
พูดจบหวังเจียเหยาก็วางสาย
หลังจากนั้นหล่อนจึงโทรหาซ่งหงเย่อย่างรวดเร็ว
หวังเจียเหยากล่าวอย่างร้อนรน “หงเย่เกิดเรื่องแล้ว! เธอดูข่าวหรือยัง? วันนี้หุ้นบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปร่วงไปตั้ง 20 กว่าเปอร์เซ็นต์ด้วยฝีมือของหลิ่วอวี่เจ๋อ! เขาบอกว่าเขาทำไปเพื่อฉัน เธอว่าฉันทำยังไงดี?”
ซ่งหงเย่กล่าว “แหม เพื่อนรักเธอจะลนลานอะไรล่ะ มีผู้ชายสองคนแย่งเธอเนี่ย เธอน่าจะดีใจสิถึงจะถูก ฉันว่านะหลิ่วอวี่เจ๋อกับเย่เฉินน่ะ ไม่ว่าจะในตลาดหุ้นหรือว่าธุรกิจก็ปล่อยให้พวกเขาทะเลาะกันไปเถอะ เธอไม่ต้องไปสนใจหรอก ใครชนะเธอก็อยู่กับคนนั้นก็ได้นี่นา?”
“ปวดหัวจริงๆ จะเป็นอย่างนั้นได้ยังไง! ฉันตั้งท้องลูกของเย่เฉินก็ต้องอยู่กับเย่เฉินอยู่แล้วสิ เมื่อกี้ฉันบอกกับหลิ่วอวี่เจ๋อแล้วว่าจะไม่เลือกเขา บอกเขาว่าไม่ต้องทำแบบนี้เพื่อฉันอีกแล้ว” หวังเจียเหยากล่าว
ซ่งหงเย่ละลั่กละล่ำ “แม่คุณหนูเธออย่าไปตัดบัวไม่เหลือใยอย่างนี้สิ เกิดหลิวอวี่เจ๋อชนะสามีเธอขึ้นมา สุดท้ายแล้วถ้าเขาล้มละลาย พอถึงตอนนั้นเธอจะยังอยู่กับเย่เฉินหรือไง?”
หวังเจียเหยากล่าวอย่างกังวลเล็กน้อย “ไม่มั้ง? เย่เฉินดูแล้วนิ่งมากเลย แล้วอีกอย่างคุณปู่ของเขาก็คงไม่อยู่เฉยๆ โดยไม่เข้ามายุ่งแน่ ตระกูลใหญ่อย่างพวกเขาจะล้มง่ายๆ ได้ยังไง?”
ซ่งหงเย่ล้างสมองหวังเจียเหยาต่อ “เธอเคยเจอคุณปู่ของหวังเจียเหยาแล้วเหรอ? เธอรู้เรื่องตระกูลเย่หรือเปล่า? เธอแน่ใจหรือเปล่าว่าตระกูลเย่มีเงินไหม? ไม่แน่ว่าจะเป็นแค่ตระกูลที่แอบอ้างว่าร่ำรวยก็ได้”
“แต่คนทั้งประเทศรู้ว่าตระกูลหลิ่วน่ะเป็นตระกูลร่ำรวยแน่ๆ เธอส่งวีแชทไปขอโทษหลิ่วอวี่เจ๋อเถอะ เหลือทางรอดเอาไว้ให้ตัวเองบ้าง อย่างไรเสียเขาก็ทำแบบนี้เพื่อเธอ เธอรู้ไหมว่าจะต้องใช้เงินเท่าไหร่ถึงจะทำให้หุ้นบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปร่วงลงมา 20 กว่าเปอร์เซ็นต์แบบนี้? เขาลงทุนเพื่อเธอไปมากโขเลยนะ!”
ก่อนนี้หวังเจียเหยาก็ได้เย่เฉินกลับมาอีกครั้งเพราะได้คำชี้แนะและได้ความช่วยเหลือจากซ่งหงเย่
ตอนนี้หล่อนจึงเชื่อคำพูดของซ่งหงเย่อย่างมาก
ดังนั้นหวังเจียเหยาถึงส่งวีแชทหาหลิ่วอวี่เจ๋อ
“อวี่เจ๋อต้องขอโทษที่เมื่อกี้พูดจาทำร้ายจิตใจนาย ฉันไม่ได้ไม่ชอบนาย แต่เพราะฉันตั้งท้องลูกของเย่เฉิน เลยกลัวว่านายจะรังเกียจฉัน”
หลิ่วอวี่เจ๋อตอบกลับอย่างรวดเร็ว “ผมบอกตั้งนานแล้วว่าผมไม่รังเกียจหรอกครับที่คุณมีลูกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นลูกใคร ผมก็จะรักเขาเหมือนเป็นลูกแท้ๆ ของผมเอง เจียเหยาผมจะต้องแย่งคุณมาจากเย่เฉินให้ได้ !”
หวังเจียเหยาไม่ตอบอะไรอีก
เมื่อตลาดหุ้นฮ่องกงเปิด ราคาหุ้นของบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปก็พุ่งขึ้น
หุ้นที่พุ่งขึ้นมานั้นราคาไม่เพียงกลับมาสูงเท่าเมื่อวาน แต่ยังสูงกว่าเดิม 5%
ทว่าในตลาดหุ้น หลิ่วอวี่เจ๋อก็ยังปล่อยข่าวที่ส่งผลเสียกับบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปไม่หยุดหย่อน แล้วเทขายหุ้นของบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปต่อเพื่อกดราคา
“คุณเย่หลิ่วอวี่เจ๋อเริ่มเคลื่อนไหวอีกแล้ว หุ้นบริษัทร่วงอีกแล้ว!”
ฉินหงเหยียนคอยจับตาดูทิศทางราคาหุ้นจึงรายงานกับเย่เฉิน
เย่เฉินยิ้มน้อยๆ แล้วกล่าว “โยนเงินให้ผมเปล่าๆ ชัดๆ”
จากนั้นก็โทรหาพ่อบ้านฟางแล้วถามเขา “คุณปู่รู้เรื่องนี้แล้วหรือยัง?”
พ่อบ้านฟางกล่าว “นายท่านรู้เรื่องแล้วครับ นายท่านบอกว่าบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปเป็นสนามฝึกฝนประสบการณ์ของคุณชาย จะให้ใช้เงินเท่าไหร่ก็ต้องรักษาสถานที่แห่งนี้ให้ได้ นายท่านให้คุณชายวางใจ นายท่านเตรียมเงินแสนล้านเพื่อจะรับมือกับตระกูลหลิ่ว”
“หนึ่งแสนล้านเหรอ? นั่นคือทรัพย์สินทั้งหมดที่ตระกูลหลิ่วมีใช่ไหมครับ?” เย่เฉินกล่าวพลางระบายยิ้ม
พ่อบ้านฟางตอบ “ครับนายท่านบอกว่าถ้าหากว่าตระกูลหลิ่วกล้าแลก ถ้าอย่างนั้นก็จะทำให้ตระกูลที่ร่ำรวยแสนล้านล่มจมจนกลายเป็นยาจก”
เย่เฉินผงกศีรษะ “ครับ อย่างนั้นพวกเราก็เล่นกับพวกเขากันเถอะ!”