หวังหยวนหยวนก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีเด่อะไร!
ก่อนที่เย่เฉินจะบอกว่าตนเองเป็นประธานบริษัท หล่อนรังเกียจและดูถูกเขามากกว่าหวังเจียเหยาเสียอีก!
บอกเขาว่าแอบรักเขามาสามปีเป็นยิ่งกว่าคำโกหกเสียอีก!
ถ้าเย่เฉินเป็นคนจนจริงๆ อย่างน้อยหวังเจียเหยาอาจจะยังยอมให้หล่อนเป็นตัวสำรอง แต่หวงหยวนหยวนไม่แม้แต่จะเหลือบแลเขา!
ตอนนี้เย่เฉินเองก็ตัดสินใจแน่วแน่ ในเมื่อเจ้าตัวคิดว่าเราสองคนควรคบหากัน แถมยังตั้งใจแต่งตัวมาพบฉันขนาดนี้เพื่อจะขอความรักจากฉัน งั้นฉันจะทำให้สมหวังแล้วกัน!
การทรยศของภรรยาทำให้เย่เฉินเสียสติไป
ในวินาทีนี้เขาเพียงแต่อยากจะแก้แค้นหวังเจียเหยา แก้แค้นคนตระกูลหวังให้สาสมเท่านั้น!
ทว่าสิบนาทีต่อมาเย่เฉินก็ผลักหวังหยวนหยวนออก
เขาไม่ยอมปล่อยให้ความโง่เง่านี้ดำเนินต่อไป และไม่ปล่อยตัวปล่อยใจกับหวังหยวนหยวนจนกู่ไม่กลับ
เย่เฉินนั่งลงบนพื้นแล้วตบหน้าผากตนเอง แล้วมีเสียงดังขึ้นในใจเขาทำแบบนี้มันไม่ถูกต้อง
“เป็นอะไรไปคะ?” หวังหยวนหยวนถามเสียงแผ่ว
เย่เฉินกล่าว “ผมไม่สามารถทำเรื่องที่ทรยศต่อการแต่งงานของผมได้”
หวังหยวนหยวนกล่าว “แต่หวังเจียเหยาทำไปแล้วนะคะ”
เย่เฉินส่ายหน้าพลางกล่าว “ผมหย่าได้แต่ผมจะทำเรื่องแบบเดียวกันกับที่หล่อนทำไม่ได้ ถ้าผมทำแบบนี้ล่ะก็จะต่างอะไรกับพี่สาวคุณกัน? ก็จะกลายเป็นคนที่ทรยศต่อการแต่งงานเหมือนๆ กัน”
เย่เฉินรู้ว่าในชีวิตจริงมีคู่สามีภรรยามากมาย โดยเฉพาะผู้หญิงที่หลังจากรู้ว่าสามีตนเองมีน้อยแล้ว ก็เกิดอยากล้างแค้นขึ้นมา นั่นก็คือหาคนอื่นเหมือนกัน
แต่ว่านี่ไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้อง
หล่อนเลือกจะหย่าได้แต่ไม่สามารถทำเรื่องผิดพลาดแบบเดียวกันได้
การอบรมที่เขาได้รับมาตลอดยี่สิบกว่าปี ไม่ปล่อยให้เย่เฉินต้องทำเรื่องที่ผิดต่อหลักศีลธรรมแบบนี้!
หวังหยวนหยวนผิดหวังอย่างมากหล่อนติดกระดุมชุดกี่เพ้าใหม่อีกครั้ง แล้วจัดชุดกี่เพ้าที่เละเทะ ยับยู่ยี่ถึงขนาดที่เปรอะเปื้อนเล็กน้อยนั้นใหม่ให้เรียบร้อยจากนั้นก็ค้อมตัวลงหน้าเย่เฉินคว้ามือเขาแล้วกล่าว
“พี่เย่เฉิน ฉันจะรอพี่หย่ากับหล่อน พอหย่ากันแล้วพวกเราก็จะได้อยู่ด้วยกันอย่างเปิดเผย!”
เย่เฉินระบายยิ้ม เขาย่อมต้องหย่ากับหวังเจียเหยาอยู่แล้ว การสมรสครั้งนี้เขาหย่าแน่!
ทว่าตามแผนที่เขาวางไว้ เขาจะให้หวังเจียเหยาเป็นฝ่ายขอหย่าเอง
ตอนนั้นเย่เฉินจะถูกเตะ ออกจากตระกูลกลายเป็นคนธรรมดาทั่วๆ ไป
เย่เฉินกล่าวพลางยิ้ม “เกรงว่าตอนนั้นเธอก็อาจจะไม่อยากคบกับฉัน”
หวังหยวนหยวนกล่าวว่า “จะเป็นอย่างนั้นได้ยังไง ฉันชอบพี่มาตั้งสามปี ถ้าพี่หย่ากับหวังเจียเหยา ฉันจะแย่งพี่มาทันที!”
เย่เฉินไม่ได้เถียงกับหล่อนเรื่องนี้จึงกล่าวถาม “หยวนหยวน เรื่องของเจียเหยาเธอได้บอกใครบ้างไหม? ทำไมไม่บอกฉัน?”
หวังหยวนหยวนก็ตอบตามตรง “ฉันไม่ได้บอกใครเลย พี่ชายฉัน พ่อฉันและคุณย่าฉันยังไม่บอกเลย เดิมทีอยากจะหาเวลามาบอกพี่ก่อน แต่เพราะช่วงนี้บริษัทพี่มีปัญหา ฉันเห็นพี่ไม่มีเวลาก็เลยว่าจะรอให้พี่ว่างแล้วค่อยบอกพี่”
“อ้อ” เย่เฉินผงกศีรษะ “เรื่องนี้อย่าเพิ่งบอกใครแล้วกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งห้ามให้หวังเจียเหยารู้ว่าฉันจับได้แล้ว”
“ได้ค่ะ” หวังเจียเหยารับคำอย่างว่าง่าย “สบายใจเถอะค่ะ ฉันไม่บอกใครหรอกค่ะ”
เย่เฉินผงกศีรษะแล้วกล่าว “เธอไปก่อนเถอะ มีอะไรเดี๋ยวฉันจะเรียกเอง ส่วนเรื่องเมื่อครู่ขอโทษด้วยนะ…”
บนใบหน้าหวังหยวนหยวนเต็มไปด้วยความสุข “ขอโทษอะไร ฉันดีใจมากเลยนะคะ เมื่อกี้เป็นจูบแรกของฉันเลยนะคะ!”
สามปีมานี้เย่เฉินอยู่บ้านตระกูลหวัง รู้ว่าหวังจื้อเฉียงเข้มงวดอย่างมาก เขาไม่อนุญาตให้บุตรสาวคบหากับผู้ชายสักคน
คำพูดของหล่อนเชื่อถือได้
แต่พูดไปแล้วก็น่าเจ็บใจ เขาไม่ได้ครอบครองจูบแรกของหวังเจียเหยา แต่กลับเป็นจูบแรกของน้องสาวของหล่อน
หวังหยวนหยวนเดินออกจากห้องทำงานด้วยท่าทีลำพองใจ ส่วนสภาพของเย่เฉินก็ไม่ได้ย่ำแย่ขนาดนั้นแล้ว
บางทีเพราะเรื่องที่เกิดในสิบกว่านาทีก่อนเมื่อกี้ ทำให้เย่เฉินรู้สึกผิดกับหวังเจียเหยา
หลังจากที่หวังหยวนหยวนออกมาจากห้องทำงานเย่เฉินแล้ว หล่อนก็ไปเติมเครื่องสำอางในห้องน้ำ เพราะลิปสติกที่หล่อนเติมมาก่อนนี้ถูกเขาจูบจนหายไปหมดแล้ว
แต่ตอนที่ทาลิปสติกในห้องน้ำหล่อนก็พบกับฉินหงเหยียน
“พี่หงเหยียน”
หวังหยวนหยวนเห็นฉินหงเหยียนก็ดีใจอย่างยิ่ง เพราะฉินหงเหยียนเป็นลูกน้องที่เย่เฉินไว้ใจที่สุด แถมยังเคยตบหวังเจียเหยาเข้าฉาดใหญ่
ศัตรูของศัตรูก็คือมิตร
ฉินหงเหยียนมองหวังหยวนหยวน แล้วสงสัยเล็กน้อยว่าชุดที่หวังหยวนหยวนใส่ทำไมถึงสกปรกแบบนี้?
ดูไปแล้วหล่อนก็เหมือนไปฟัดกับใครในโคลนมา
ในความทรงจำของหล่อน หวังหยวนหยวนถือเป็นเด็กผู้หญิงที่รักสะอาดอย่างมาก เสื้อผ้าสกปรกแบบนี้หล่อนเองยังไม่กล้าใส่ไปข้างนอกด้วยซ้ำ
ทว่าเรื่องแบบนี้เด็กผู้หญิงเองก็ถือทิฐิ หล่อนเองก็เกรงใจจนไม่กล้าจะถาม
“อ้อ คุณหนูหวังนี่เอง”
ฉินหงเหยียนตอบกลับ
หวังหยวนหยวนกล่าวว่า “พี่หงเหยียนทำไมถึงได้ถึงได้เกรงใจกันแบบนี้ล่ะคะ เรียกฉันหยวนหยวนก็พอค่ะ จริงสิแล้วทำไมย้ายห้องทำงานไปแล้วล่ะคะ?”
ฉินหงเหยียนตอบเสียงเย็น “ก็ฝีมือพี่สาวคุณน่ะสิ ห้องทำงานเดิมของฉันตอนนี้กลายเป็นห้องทำงานของพี่สาวคุณหวังเจียเหยาไปแล้ว”
หวังหยวนหยวนกล่าวว่า “พี่เขาก็จริงๆ เลย หล่อนเองก็ไม่ได้มาทำงานที่บริษัทบ่อยๆ เสียหน่อยแล้วจะแย่งห้องทำงานของพี่เจียเหยาทำไม? ไม่เป็นไรนะคะ พี่หงเหยียน พี่ไม่ต้องกังวลไป อีกเดี๋ยวฉันจะไปบอกเย่เฉินให้เขาคืนห้องทำงานเดิมให้พี่นะ”
ฉินหงเหยียนประหลาดใจอย่างมาก มือที่เดิมจะผลักประตูห้องน้ำก็ชะงักนิ่งไป
น้ำเสียงของหวังหยวนหยวนฟังไปแล้วเหมือนเป็นอะไรกับเย่เฉินอย่างนั้น
เย่เฉินจะเชื่อฟังในทุกอย่างที่หล่อนพูดเหรอ?
หวังหยวนหยวนตอนนี้ลำพองใจอย่างมาก เพราะจูบเมื่อครู่ของเย่เฉิน หนำซ้ำยังมีเรื่องที่หวังเจียเหยาทรยศเขาอีก
รอให้สองคนนั้นหย่ากันก่อนเถอะ หวังหยวนหยวนก็จะเป็นภรรยาของเขา เป็นภรรยาของประธานบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ป!
อย่างนั้นแล้วหวังหยวนหยวนย่อมต้องมีสิทธิ์จัดแจงว่าใครจะให้ห้องทำงานไหนบ้าง
ในขณะที่ฉินหงเหยียนกำลังงุนงงอยู่นั้นเอง หวังหยวนหยวนก็จัดแจงทาลิปสติกใหม่อีกครั้ง
จากนั้นก็ตบบ่าฉินหงเหยียนเบาๆ ทำท่าเหมือนผู้ใหญ่ปฏิบัติต่อเด็ก เหมือนหัวหน้าปฏิบัติต่อลูกน้องแล้วกล่าว
“พี่หงเหยียนตั้งใจทำงานกับเย่เฉินทำให้บริษัทเติบโตนะคะ เย่เฉินเขาย่อมให้รางวัลอย่างงามอยู่แล้ว ”
พูดจบหวังหยวนหยวนก็เดินจากไป
“หวังหยวนหยวนไม่สบายหรือเปล่านะ?”
ฉินหงเหยียนงุนงง หลังจากล้างมือเป่ามือแล้วก็เดินตรงไปที่ห้องทำงานของเย่เฉิน
ทว่าหล่อนก็นึกถึงเมื่อครู่ที่เย่เฉินระเบิดอารมณ์ใส่โจวหรงหรงว่าไม่ให้ใครรบกวนเขา หล่อนก็ชะงักไปแล้วส่งวีแชทหาเขาก่อน
“คุณเย่คะ ฉันจะพบคุณที่ห้องทำงานได้ไหมคะ?”
เย่เฉินดูข้อความแล้วก็ลุกขึ้นจากพื้น
เขาในตอนนี้ไม่หัวเสียเหมือนตอนเพิ่งมาแล้ว เขาเป็นฝ่ายเดินไปเปิดประตูแล้วกล่าว
“หงเหยียนเข้ามาสิมา”
หลังจากฉินหงเหยียนเดินเข้าไปในห้องทำงานแล้วหล่อนก็รีบร้อนกล่าวกับเย่เฉิน
“ไม่รู้ว่าหวังหยวนหยวนคนนั้นไม่สบายหรือเปล่า เมื่อครู่บอกว่าจะยกห้องทำงานของภรรยาคุณให้ฉัน ฉันอยากจะอธิบายกับคุณเย่สักหน่อยว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่ฉันร้องขอนะคะ ตอนนี้ฉันไม่ได้ไม่พอใจอะไรในห้องทำงานเลย”
เย่เฉินนั่งลงเก้าอี้แล้วกล่าว “อ้อ คุณย้ายกลับมาที่ห้องทำงานเดิมสิ ห้องนั้นกว้าง ตำแหน่งก็ดี น่าจะส่งผลดีในการทำงานของคุณแล้วภรรยาของคุณล่ะ…”
ฉินหงเหยียนกลัวว่าหวังเจียเหยารู้แล้วจะไม่พอใจ
เย่เฉินกล่าวว่า “ผมจะบอกหล่อนเอง หงเหยียนคุณจำเอาไว้นะว่า คุณเป็นรองผู้บริหารของบริษัทแห่งนี้ สิ่งที่คุณทุ่มเททำเพื่อบริษัทนี้มากกว่าหล่อนเยอะ ผมเป็นคนที่แยกเรื่องส่วนตัวและเรื่องงานอย่างชัดเจน เพื่อเลี่ยงไม่ให้หล่อนใช้ผมหรือหุ้นมาข่มคุณ ผมตัดสินใจว่าจะให้หุ้นคุณอีก 2% เพื่อให้คุณถือหุ้นเยอะเป็นลำดับที่สอง!”