นิ้วชี้และนิ้วกลางของมือข้างขวา!
นิ้วสองข้างของหลิ่วอวี่เจ๋อที่โดนเย่เฉินหักทิ้งไปนั้นก็คือสองนิ้วนี้
สาเหตุโดยตรงที่ทำให้ทั้งสองนิ้วนี้ต้องพิการก็เป็นเพราะว่าเขาไปแตะต้องผู้หญิงของเย่เฉินเข้า
ดูไปแล้วหลิ่วอวี่เจ๋อตั้งใจจะใช้เกลือจิ้มเกลือ
วิธีที่มู่หรงฟู่ในแปดเทพอสูรมังกรฟ้าชื่นชอบนั้น เย่เฉินเองก็ชื่นชอบมากเช่นกัน!
เย่เฉินยิ้มบางๆ แล้วถาม “ซีกวาว่ายังไงบ้าง?”
หลิวเจิ้งคุนกล่าวว่า “ซีกวากลัวว่าถ้าไม่รับงาน หลิ่วเฟิงจะไปหาคนอื่นดังนั้นก็เลยแสร้งรับงานนี้ไปแล้วครับ คุณชายเพราะคุณชายเคยสั่งเอาไว้ว่าอย่าเพิ่งทำอะไรคนตระกูลฟางกับตระกูลหลิ่ว ดังนั้นผมก็เลยยังไม่ได้ให้ซีกวาทำอะไร”
“อืม”
เย่เฉินส่งเสียงพีมพำรับคำ เขาในตอนนี้ไม่ได้คิดจะจัดการพวกเขาอย่างรุนแรงเปิดเผย แต่นั่นจะเป็นแผนการที่เขาตั้งใจจะทำหลังจากที่หย่าแล้วต่างหาก
เย่เฉินไม่ได้พูดอะไรอีก เขากดวางโทรศัพท์
แต่เพิ่งจะวางสายเสร็จ ใครจะรู้ว่าฉินหงเหยียนก็โทรมาต่อทันที
เย่เฉินประหลาดใจเล็กน้อยตั้งแต่ที่เย่เฉินคืนดีกับหวังเจียเหยา ฉินหงเหยียนก็ไม่ค่อยจะโทรหาเขาตอนดึกๆดื่นๆแบบนี้อีก หล่อนเป็นคนรู้ว่าอะไรควรหรือไม่เป็นอย่างดี
“ฮัลโหล” เย่เฉินรับสายอย่างรวดเร็ว
น้ำเสียงฉินหงเหยียนร้อนรนจนดูลนลานอย่างเห็นได้ชัด “เย่เฉินเกิดเรื่องแล้ว! ฉันได้ยินมาว่าพวกคนตระกูลหลิ่วจ้างนักเลงหัวไม้แถมไม่พอยังจะจ่ายเงินห้าสิบล้านเพื่อตัดนิ้วสองนิ้วของคุณ! สองสามวันนี้คุณอย่าออกบ้านเชียวนะ!”
คิดไม่ถึงว่าฉินหงเหยียนจะข่าวไวแบบนี้ ไม่เสียทีที่อยู่ในอวิ๋นโจวมานานหลายปี ไม่ว่าจะวงการไหนหล่อนก็มีสายอยู่ทั้งสิ้น
แต่ข่าวที่ฉินหงเหยียนได้มานั้นยังไม่แม่นยำนัก ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปกติ
ตอนนี้หวังเจียเหยาอาบน้ำเสร็จออกมาพอดี เท้าหล่อนเปลือยเปล่าในรองเท้าแตะ ห่อตัวด้วยผ้าเช็ดตัวหนึ่งผืน หล่อนที่เพิ่งตั้งท้องได้ไม่นาน ร่างกายงดงามจนทำให้คนมัวเมา
“โทรคุยกับใครเหรอ?”
หวังเจียเหยาใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมยาวสลวยพลางเอ่ยถามสามี
“ฉินหงเหยียนโทรมา” เย่เฉินตอบหวังเจียเหยา
หวังเจียเหยาแหวใส่เขาทันที “ดึกขนาดนี้ยังมีหน้าโทรมาอีก! วางสายหล่อนไปเลยนะ!”
เย่เฉินไม่พอใจอย่างมาก ทีเธอโทรหาหลิ่วอวี่เจ๋อดึกดื่นค่อนคืนไม่เป็นอะไร แล้วผมจะโทรหาฉินหงเหยียนบ้างไม่ได้หรือไง?
แล้วอีกอย่างเราสองคนก็คุยกันเรื่องมีสาระไม่เคยพูดจาเชิงชู้สาวมาก่อน
แล้วคุณคุยอะไรกับหลิ่วอวี่เจ๋อไปบ้าง!
เย่เฉินไม่อยากจะทะเลาะกับหญิงสาว เขาจึงกล่าวกับฉินหงเหยียนเสียงแผ่วเบา “หงเหยียนผมรู้แล้วขอบคุณมาก ”
จากนั้นเย่เฉินก็กดตัดสาย ในใจเขาพลันรู้สึกขอบคุณหญิงสาวอย่างมาก
ฉินหงเหยียนดูไปแล้วน่าจะชอบเย่เฉินจริงๆ ตอนนี้เย่เฉินกลายเป็นคนไม่มีอะไร แต่หล่อนก็ยังดีกับเขาขนาดนี้
ตั้งแต่ที่ร้านอาหารเมื่อกลางวันหล่อนยังสั่งสอนฟางเชาแทนเขา หลังจากนั้นพอเขามีเรื่อง ก็ยังใช้เส้นสายของตัวเองเพื่อช่วยเหลือเขา
เมื่อได้รู้ว่ามีคนจะล้างแค้นเย่เฉิน หล่อนก็รีบร้อนโทรบอกเขาในทันที
ในวินาทีนี้เย่เฉินสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและความห่วงใยที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อนจากหวังเจียเหยา
หรือบางทีอาจจะรอให้หย่ากับหวังเจียเหยาแล้ว เขาจะเลือกคบหาฉินหงเหยียนก็ได้
อย่างน้อยๆ ผู้หญิงแบบนี้ถึงจะควรคู่มีสิทธิ์เป็นผู้สืบทอดของตระกูลเย่
หวังเจียเหยาหึงหวงขึ้นมาเล็กน้อย หล่อนย้อนถามอีกครั้ง “เมื่อกี้พวกนายคุยอะไรกัน? คุยกันนานแล้วหรือยังล่ะ? นังจิ้งจอกแพศยาฉินหงเหยียน ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่านายมีภรรยายังจะโปรยเสน่ห์ใส่นายอีก แพศยาจริงๆ!”
เย่เฉินอธิบาย “หงเหยียนโทรหาผมเพราะหล่อนได้ข่าว บอกว่าหลิ่วอวี่เจ๋อไปตามหานักเลงหัวไม้ จ่ายเงินห้าสิบล้านเพื่อตัดนิ้วผม”
หวังเจียเหยาตกใจจนทำผ้าขนหนูของในมือหล่อนร่วงผล็อยลงบนพื้น
“อะไรนะ? เขาจะตัดนิ้วมือของนายเหรอ? ไม่ล่ะมั้ง?”
ใจของหวังเจียเหยาเต้นระรัวเร็ว
ทว่าในความทรงจำของหล่อนนั้น หลิ่วอวี่เจ๋อเป็นผู้ชายที่น่ารักอย่างมาก ไม่เหมือนว่าจะเป็นคนที่จะทำเรื่องโหดร้ายแบบนี้ได้
หวังเจียเหยาไม่ได้หยิบผ้าขนหนูผืนนั้น แต่กลับเดินไปหาเย่เฉิน จับมือเขาเอาไว้ “ที่รัก หรือว่านายจะไปขอโทษหรือไปยอมรับผิดดีไหม? หรือบางทีถ้าปรับความเข้าใจกันได้ เรื่องก็อาจจะไม่ใหญ่โตแบบนี้”
ให้เย่เฉินไปขอโทษมารความรักเหรอ?
ฝันไปเถอะ!
เย่เฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ “ผมยอมเข้าคุก! ยิ่งไปกว่านั้นผมไม่ได้ทำผิดอะไร”
“นาย…” เหมือนว่าหวังเจียเหยาจะไม่พอใจเล็กน้อย “ถ้านายไม่ไปฉันไปเอง! พรุ่งนี้เช้าฉันจะไปโรงพยาบาลเพื่อขอโทษเขา ขอให้เขาให้อภัยนาย”
เย่เฉินถอนหายใจ ด้วยความสัมพันธ์ของพวกคุณสองคนต้องขอโทษขอโพยกันด้วยเหรอ?
“คุณไม่ต้องไปขอโทษเขาหรอก ไม่งั้นผมก็แค่ไม่ออกบ้าน”
ถึงแม้ว่าในใจเย่เฉินจะไม่เห็นหวังเจียเหยาเป็นภรรยาอีกแล้ว แต่ว่าเขาก็ยังไม่อยากให้หล่อนไปพบคนๆ นั้นอยู่ดี
แต่หวังเจียเหยากลับหัวรั้น “นายไม่ออกบ้านวันสองวันได้แต่จะไม่ออกบ้านตลอดชีวิตหรือไง? นายอย่ามายุ่งเรื่องนี้เลย ฉันเป็นภรรยาของนาย ทำสิ่งเล็กน้อยแบบนี้ให้นายก็ถือว่าสมควร ไม่อย่างนั้นผู้หญิงแพศยาฉินหงเหยียนคงจะมาว่าฉันเข้าอีก พรุ่งนี้เช้าฉันจะไปพบเขาที่โรงพยาบาล เอาตามนี้แล้วกัน”
คำพูดของฉินหงเหยียนแน่วแน่ไม่เปิดโอกาสให้เย่เฉินออกความเห็นใดๆ
จากนั้นหวังเจียเหยาก็เป่าผมต่อ แล้วทั้งสองคนก็นอนข้างกันบนเตียงโดยไม่พูดไม่จา
หวังเจียเหยาตื่นแต่เช้าแถมยังชงน้ำผสมน้ำผึ้งกินอีก อีกทั้งยังเลือกเสื้อผ้าอีกมากมายในห้อง
หวังเจียเหยาลองเสื้อผ้าหน้ากระจกไม่หยุด ลองเสร็จหนึ่งตัวแล้วก็ลองอีกตัวอีก
อีกทั้งเสื้อผ้าทุกตัวก็สวยสดงดงามอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นชุดที่หล่อนจะใส่ก็ต่อเมื่อไปงานสำคัญๆ
หลังจากเย่เฉินตื่นแล้วก็มองหวังเจียเหยาที่กำลังแต่งตัวอยู่หน้ากระจกอยู่ก็กล่าวถาม “ที่รัก คุณจะไปโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมคนป่วยแล้วจะแต่งตัวสวยไปทำไม? อีกทั้งไม่จำเป็นต้องใส่กระโปรงล่ะมั้ง?”
หวังเจียเหยาดูไม่สบอารมณ์ “นายก็มีความคิดผู้ชายเป็นใหญ่มากเกินไปล่ะมั้ง? ฉันจะใส่ชุดกระโปรงไหมก็ต้องมายุ่งด้วยเหรอ? อากาศร้อนแบบนี้ ไม่ให้ฉันกระโปรงแล้วจะให้ใส่กางเกงยีนส์หรือไง! ฉันแต่งตัวสวยแบบี้ไปเพื่อใคร? ไม่ใช่เพื่อนายหรือไง? ฉันไปก็เพื่ออ้อนวอนขอโทษเขาแทนนายเข้าใจไหม? นายช่วยมีหัวจิตหัวใจหน่อยได้ไหม? ตัวเองทำร้ายร่างกายคนอื่น ไม่มีปัญญาเอาเงินมาแก้ปัญหา เมียนายข่วยนายแก้ปัญหานายยังจะหาเรื่องอีกเหรอ!”
ใบหน้าเย่เฉินฉาบยิ้ม เขาก็อยากจะแฉหวังเจียเหยามากทีเดียว เพื่อให้หล่อนรู้ว่าเขารู้เรื่องความสัมพันธ์ของหล่อนกับหลิ่วอวี่เจ๋อนานแล้ว!
แต่ถ้าทำแบบนี้แล้ว หวังเจียเหยาก็จะยิ่งแน่ใจว่าเรื่องที่ตนเองโดนขับออกจากตระกูลนั่นเป็นเพียงแค่การแสดงแน่ๆ
เย่เฉินไม่พูดอะไรอีกแล้วไปหลับต่อ
อีกทั้งหวังเจียเหยาแต่งตัวสวยงาม ออกจากบ้านแล้วขับรถไปโรงพยาบาล
ในห้องพักผู้ป่วย VIP ณ โรงพยาบาลประจำเมือง
หลิ่วอวี่เจ๋อกำลังใช้มือซ้ายเล่นมือถือด้วยท่าทีเหนื่อยหน่าย ทันใดนั้นเองก็ได้ยินเสียงเคาะประตูสองที
“เข้ามา”
ประตูห้องพักผู้ป่วยเปิดออกช้าๆ คนยังไม่ทันได้เข้ามา แต่กลิ่นหอมบางๆ ก็ลอยเข้าจมูกหลิ่วอวี่เจ๋อ
น้ำหอมที่หวังเจียเหยาใช้วันนี้คือ Chanel chance edp เป็นน้ำหอมที่หลิ่วอวี่เจ๋อซื้อให้หล่อนเมื่อก่อนหน้านี้
“ว้าว พี่สาวนางฟ้ามาแล้ว!”
หลังจากที่หลิ่วอวี่เจ๋อเห็นหวังเจียเหยาแล้วอารมณ์ดีขึ้นมา เขารีบลุกขึ้นทันที
หลังจากหวังเจียเหยาเข้ามาแล้วก็รีบปิดประตูตามหลัง
หวังเจียเหยาใส่กระโปรงสีแดงของชาแนลที่เป็นแนววินเทจเก่าๆ มีกลิ่นอายของผู้ดีในช่วงยุคปี 50-60
หลิ่วอวี่เจ๋อมองแค่แผ่นหลังก็น้ำลายไหลแล้วกล่าวกับหวังเจียเหยา “ที่รักปิดประตูจากด้านในด้วยนะ!”