วันนี้เป็นวันมงคลของหลิ่วอวี่เจ๋อ เดิมทีควรเป็นวันที่เขามีความสุขที่สุดในชีวิตถึงจะถูก
แต่ว่ากลับโดนลอบทำร้ายในงานแต่งงานตัวเอง มือโดนมีดกรีดจนเลือดไหล โชคดีที่ไม่ใช่นิ้วที่โดนหักก่อนหน้านี้
ความเจ็บปวดทางร่างกายก็วาแย่แล้ว แต่กลับถูกคุณปู่ที่เขาเคารพนับถือที่สุด ดูหมิ่นแบบนี้
หลิ่วอวี่เจ๋อเจ็บปวดใจ น้ำตาไหลออกมา
เพื่อนสนิทของเขา กลุ่มเพื่อนเจ้าบ่าว เห็นเลือดของเขาไม่หยุดไหลก็รีบร้อนส่งเขาไปที่โรงพยาบาล
ซูหลานรีบเดินมาแล้วกล่าวกับบุตรสาว “เจียเหยา ลูกรีบไปส่งอวี่เจ๋อที่โรงพยาบาลสิ? ทำไมไม่ตามไปล่ะ?”
หวังเจียเหยาเพิ่งได้ดูมือถือของซ่งหงเย่ พอดูคลิปที่วังเหม่ยฉีแชร์ ก็โมโหทันที หล่อนกล่าวอย่างโมโห
“หนูไม่ไปหรอกค่ะ!”
ในคำพูดของหญิงสาวเต็มไปด้วยความไม่พอใจที่มีในตัวหลิ่วอวี่เจ๋อ!
หวังเจียเหยาหัวเสีย หล่อนเองก็คิดว่าตนเองเป็นเพียงคนเดียวในชีวิตของหลิ่วอวี่เจ่อ
แต่คิดไม่ถึงว่านอกจากตนเองแล้ว หลิ่วอวี่เจ๋อยังเลี้ยงดาราเด็กอยู่ อีกทั้งในคืนก่อนแต่งงานยังจะไประเริงสุขอยู่กับแม่ดารานั่นอีก!
ซูหลานรีบร้อนลากหวังเจียเหยาไปอีกฝั่ง หล่อนกล่าวปลอบเสียงเบา “ลูกแม่ ลูกอย่าทำผิดพลาดสิ อย่าพลาดหย่าเหมือนตอนที่แต่งงานกับฟางเชาเมื่อคราวก่อนล่ะ! ลูกจ๋าในโลกใบนี้มีผู้ชายที่ไหนไม่เจ้าชู้บ้างล่ะ? สมัยก่อนผู้ชายมีเมียสามคนนางเล็กๆ อีกสี่คนนู่น หลิ่วอวี่เจ๋อเขามีคุณสมบัติครบถ้วนแบบนี้จะมีกิ๊กสักคนสองคนคงไม่เป็นไร ขอแค่เขาเคารพลูกยกให้ลูกเป็นเมียออกหน้าออกตาก็พอแล้ว”
หวังเจียเหยาพูดไม่ออก “แม่คะ นี่แม่กำลังพูดอะไรออกมา? ตระกูหวังเราถึงจะด้อยกว่าตระกูลหลิ่วของเขา แต่ก็คงไม่ถึงขั้นที่ต้องลดตัวยอมเขาขนาดนี้มั้งคะ?”
ซูหลานกล่าว “แม่รู้ว่าลูกไม่พอใจ แต่ตระกูลหวังของเราหวังพึ่งพาลูก ลูกทนเอาหน่อยเถอะนะ ให้อภัยเขาเถอะ แม่เชื่อว่าเขาจะปรับปรุงตัว”
หวังเจียเหยาเองก็แค่โกรธเท่านั้นหล่อนย่อมไม่กล้าขอหย่ากับชายหนุ่ม
ทว่าหวังเจียเหยาก็ยังไม่ยอมตามไปที่โรงพยาบาล แต่ขึ้นรถกลับไปที่วิลลล่าเฝยชุ่ยคนเดียว
หลิ่วอวี่เจ๋อไปโรงพยาบาลปฐมพยาบาลบาดแผลขั้นต้น แล้วรีบร้อนนั่งรถกลับบ้าน
ระหว่างทางกลับบ้านเขาเอาแต่โทรหาวังเหม่ยฉี แต่ก็ติดต่ออีกฝ่ายไม่ได้ แถมยังส่งวีแชทไปขู่หล่อนตั้งมากมาย แต่หญิงสาวก็ไม่ยอมตอบ
หลิ่งอวี่เจ๋อประกาศกร้าวไปว่าจะทำให้วังเหม่ยฉีหมดอนาคตในวงการบันเทิง
แต่เขาไม่รู้ว่ายิ่งเขาอยากจะใช้อิทธิพลของตระกูลไปตัดอนาคตในวงการบันเททิงของวังเหม่ยฉีเท่าไหร่ ประชาชนก็ยิ่งจะปกป้องหญิงสาวเท่านั้น
นี่กลายเป็นปัญหาระหว่างชนชั้นไปแล้ว ต่อให้ประชาชนไม่ใช่แฟนคลับของวังเหม่ยฉี แต่ก็รู้ว่าหญิงสาวไม่ได้ทำอะไรผิด รู้ว่าหล่อนจะโดนพวกลูกคนรวยตัดทางทำมาหากิน แต่พวกเขาก็จะร่วมแรงร่วมใจงัดข้อกับพวกอภิสิทธิ์ชนอย่างเขา
ความแตกต่างระหว่างชนขั้นในประเทศนี้มีมาก คนอย่างหลิ่วอวี่เจ๋อที่แค่เงินแต่งงานก็มากกว่าเงินที่คนธรรมดาทั่วไปหาได้ทั้งชีวิตเสียอีก
ใช้ชีวิตภายใต้ผืนฟ้าเดียวกัน ประชาชนย่อมต่างรู้สึกเคียดแค้นคนจำพวกเดียวกับหลิ่วอวี่เจ๋อมานานแล้ว
ดังนั้นหากหลิ่วอวี่เจ๋ออยากจะแบนวังเหม่ยฉีก็อาจจะไม่สำเร็จได้โดยง่าย อีกทั้งวังเหม่ยฉีก็ได้วิลล่าจากเย่เฉินเป็นรางวัลแล้ว หญิงสาวไม่สนใจว่าจะรับงานได้หรือไม่อีกแล้ว
พอกลับถึงบ้านหลิ่วอวี่เจ๋อที่ถูกพันแผลที่มือก็ยังถือดอกกุหลาบช่อโตเอาไว้
เมื่อเข้าไปในห้องก็พบว่าหวังเจียเหยากำลังนั่งอยู่บนเตียง ด้วยท่าทีเศร้าสร้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยหยดน้ำตา เหมือนว่าหล่อนเพิ่งจะร้องไห้ไป
หลิ่วอวี่เจ๋อส่งดอกกุหลาบให้หวังเจียเหยา แต่ถูกสาวเจ้าโยนลงพื้นไป
หลิ่วอวี่เจ๋อทรุดตัวคุกเข่าลงตรงหน้าหวังเจียเหยา “ที่รักผมผิดไปแล้ว คุณให้อภัยผมเถอะนะครับ!”
หลิ่วอวี่เจ๋อไม่ใช่คนที่จะยอมอ่อนให้ใคร ในความรักที่ผ่านมามีแต่ผู้หญิงที่ต้องคุกเข่าอ้อนวอนเขา เขาไม่เคยคุกเข่าให้ผู้หญิงคนไหนมาก่อน
ด้วยสถานะคุณชายตระกูลหลิ่วของเขาไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น
แต่ว่าชีวิตการสมรสครั้งนี้ของเขาและหวังเจียเหยานั้นไม่ใช่เช่นนั้น เขายังจำเป็นต้องพึ่งพาหวังเจียเหยาและเด็กในท้องหญิงสาวช่วยปกปิดความจริงเรื่องที่เขามีลูกไม่ได้ หนำซ้ำเขายังมีแผนการวิปริตในอีก 15 ปีข้างหน้าด้วย!
ดังนั้นเขาจำเป็นต้องเอาอกเอาใจหวังเจียเหยาเอาไว้จะเป็นการดีที่สุด
หวังเจียเหยามองหลิ่วอวี่เจ๋ออย่างไม่พอใจนัก “หลิ่วอวี่เจ๋อ ที่แท้ที่ทำดีกับฉันมันเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ คิดไม่ถึงว่านายจะยังแอบซุกแม่ดาราเอาไว้ ฉันอุตส่าห์เชื่อนายขนาดนี้!”
หวังเจียเหยาทุบหมอนใส่ศีรษะหลิ่วอวี่เจ๋อ!
หลิ่วอวี่เจ๋อไม่หลบแต่อย่างใด เขากล่าวว่า “ผมมันคนเจ้าชู้ เป็นเดียรัจฉาน คุณจะตีจะด่าผมยังไงก็ได้ ขอแค่คุณยอมให้อภัยผมก็พอ ที่รัก เมื่อวานผมไปพบหล่อนเพื่อไปตัดสัมพันธ์กับหล่อน บอกว่าชีวิตนี้ผมจะไม่ไปพบหล่อนอีก แต่หล่อนแค้นผมก็เลยโจมตีผมแบบนี้ เจียเหยา ผมขอรับรองกับคุณเลยนะครับว่า ต่อไปภายหน้าผมจะไม่แตะต้องผู้หญิงคนไหนอีก!”
หลิ่วอวี่เจ๋ออ้อนวอนหวังเจียเหยาอยู่นาน เดิมหญิงสาวเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะหย่ากับเขาอยู่แล้วบวกกับแรงกดดันจากตระกูลหวัง ทำให้หญิงสาวจำใจต้องยอมให้อภัยเขา
ทว่าถึงจะให้อภัยสามี แต่ความรักที่หล่อนมีให้เขานั้นก็ลดลงไปมาก
อีกทั้งหลังจากผิดหวังจากสามีคนใหม่นี้ ก็ทำให้หญิงสาวหวนระลึกถึงอดีตสามีอย่างเย่เฉิน
……
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ในตอนที่งานแต่งงานของหลิ่วอวี่เจ๋อตกอยู่ในความวุ่นวาย ความรักของพวกเขาสองคนแตกเป็นเสี่ยงๆ ฉินหงเหยียนก็แอบไปมาที่ติกของบริษัทขนส่งเบอร์สองของประเทศ บริษัทไป๋ลี่เอ็กซ์เพรส
หญิงสาวมาสมัครงานที่นี่
คนในระดับฉินหงเหยียนย่อมไม่ต้องพบ HR แต่สามารถตรงไปพบรองผู้บริหารได้เลย
ผู้บริหารของบริษัทไป๋ลี่เอ็กซ์เพรสไม่อยู่ที่เทียนไห่ หญิงสาวจึงไปพบกับเหอเหวินเจี้ยนที่เป็นรองผู้บริหารแทน
แต่ก่อนที่หญิงสาวจะพบเหอเหวินเจี้ยน รองผู้บริหารของบริษัทไป๋ลี่เอ็กซ์เพรสอีกคน เฉินอันเลขาของคณะกรรมการกลับลอบมาที่ห้องทำงานแล้วแอบโทรหาหลิ่วอวี่เจ๋อ
“อวี่เจ๋อ”
“คุณอาเฉิน”
ทั้งสองคนสนิทสนมกัน เพราะเฉินอันเคยทำงานที่บริษัทชุนเฟิงมาก่อน เป็นคนที่ปู่ของชายหนุ่มสั่งสอนดูแลมา
เมื่อวานหลิ่วอวี่เจ๋อพอจะเดาได้ว่าฉินหงเหยียนจะต้องไปสมัครงานที่บิรษัทไป๋ลี่เอ็กซ์เพรสซึ่งเป็นคู่ต่อสู้ของบริษัทชุนเฟิงเอ็กซ์เพรสของเขา
ดังนั้นเขาจึงแจ้งกับเฉินอันที่เป็นรองผู้บริหารไว้ก่อนหน้าแล้วว่า หากหญิงสาวไปสมัครงานที่นั่นไม่ต้องรับหล่อน
เฉินอันกล่าว “อวี่เจ๋อ ฉินหงเหยียนมาจริงๆ ด้วย ฉันกะจะไม่พบหล่อน แต่คุณเหอจะพบหล่อนให้ได้”
“เหอเหวินเจี้ยนเหรอครับ? คุณไม่บอกเขาเหรอครับว่าฉินหงเหยียนคือคนที่มีปัญหากับผมน่ะ? เขาที่ไม่จบปริญญานี่คิดจะเอายังไง”
หลิ่วอวี่เจ๋อไม่พอใจ
ถึงแม้ว่าชุนเฟิงและไป๋ลี่จะเป็นคู่แข่งกัน แต่หากไปเกี่ยวข้องกับบุญคุณความแค้นแบบนี้แล้ว ทั้งสองฝ่ายก็มักจะไว้หน้ากันอยู่เสมอ
เรื่องธุรกิจย่อมต้องพยายามแข่งขันให้สุดความสามารถ แต่ฉินหงเหยียนก็ไม่ใช่คนเก่งในวงการขนส่งอะไรนักหนา ไป๋ลี่ไม่จำเป็นต้องจ้างหญิงสาวให้ได้
เฉินอันอธิบาย “ผมก็บอกไปแล้ว แล้วก็เอารถ BENTLY ที่คุณให้มายกให้เขาก็แล้ว แต่เขาก็ยังไม่ยอมฟัง เหมือนเหอเหวินเจี้ยนจะชอบฉินหงเหยียน ผมเดาว่าเขาอยากจะให้หล่อนทำงานด้วย!”
หลิ่วอวี่เจ๋อแค่นเสียง “ผมไม่เชื่อหรอกว่าเหอเหวินเจี้ยนจะกล้าล่วงเกินคุณปู่ผม โดยดึงดันจะจ้างฉินหงเหยียนให้ได้! ต่อให้เป็นคุณเซี้ยะของพวกคุณก็ไม่กล้าจะฉีกหน้าคุณปู่ผม! ผมบอกคุณไว้เลยถ้าเขากล้าจ้างฉินหงเหยียน ตระกูลหลิ่วเราไม่เอาเขาไว้แน่!”
……
สิบนาทีต่อมาฉินหงเหยียนในชุดสูทก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องทำงานของเหอเหวินเจี้ยน
ในวินาทีที่หญิงสาวปรากฏตัวขึ้นนั้น เหอเหวินเจี้ยนก็กลืนน้ำลายอย่างตื่นเต้น
ไม่ว่าใครก็พอจะมองออกว่าเหอเหวินเจี้ยนคิดอะไรกับฉินหงเหยียน!