ในงานมีแค่เย่เฉินที่รู้ว่าคนที่จ้างเด็กส่งของก็คือพ่อบ้านฟาง
สามารถฝากของราคาหนึ่งล้านหยวนให้คนส่งของแบบส่งๆ เป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของคนตระกูลเย่
ในงานเลี้ยงแขกทุกคนต่างอยู่ในความตื่นตระหนกเพราะของขวัญชิ้นนี้
“กำไลหยกชิ้นนี้เป็นของขวัญที่แพงที่สุดในวันนี้!”
“คุณนายหวัง คนที่ให้ของขวัญมาเป็นใครกัน? ถึงได้ฟุ่มเฟือยแบบนี้! อีกประเดี๋ยวคุณช่วยแนะนำให้พวกเรารู้จักหน่อย”
บรรดาแขกต่างก็ลุกขึ้นแล้วเดินมาหาคุณนายหวัง
อันที่จริงตอนนี้คุณนายหวังเองก็สับสน จะคิดอย่างไรก็คิดไม่ออกว่าคนที่ให้ของขวัญมูลค่าเรือนล้านชิ้นนี้คือใคร
“แปลกจัง คนที่รู้จักกับตระกูลหวังเราก็อยู่ที่นี่กันหมด ทุกคนมากันหมดแล้ว ใครเป็นคนให้กำไลชิ้นนี้กัน?”
คนตระกูลหวังมองกันไปมา
หวังหยวนหยวนมองกำไลมูลค่าเรือนล้านอยู่ครู่หนึ่ง พลันเกิดอยากลองใส่ดูบ้างจึงโพล่งออกมา
“จะใช่คนที่ตามจีบหนูส่งมาหรือเปล่า?”
พอเอ่ยจบก็ทำให้เกิดการคาดเดาไปต่างๆ นานา
หวังหยวนหยวนมีหุ่นที่เซ็กซี่ ไม่ว่าชายคนใดได้เห็นก็ต้องเก็บเอาไปฝันหวาน
เจ้าตัวอายุเพียงแค่ยี่สิบปียังไม่มีแฟนจึงเป็นเป้าหมายที่ลูกเศรษฐีจำนวนมากอยากจะคบหาด้วย
หวังจื้อเฉียงกล่าวพร้อมยิ้ม “เป็นไปได้นะเนี่ย! ลูกสาวของพ่อสวยขนาดนี้ มีแฟนคลับในอินเตอร์เน็ตหลายล้านคน เป็นไปได้อย่างมากว่าจะเป็นลูกคนรวยสักคนที่ชอบหยวนหยวนส่งมาให้”
ฉินหงเหยียนปรายตามองหวังหยวนหยวน ในฐานะที่ถือได้ว่าเป็นคนที่มีรูปร่างที่ดีเหมือนกัน หล่อนจำต้องยอมรับเสน่ห์ในเรือนร่างของอีกฝ่าย
ฉินหงเหยียนกล่าวว่า “ถ้าเช่นนั้นต้องขอแสดงความยินดีกับคุณหวังล่วงหน้าเลยนะคะ ว่าที่ลูกเขยของคุณอาจจะเป็นมหาเศรษฐี ของขวัญที่มอบให้นั้นราคาหลักล้านเลยทีเดียว”
หวังจื้อเฉียงรีบกล่าว “ไม่เลยๆ คุณฉินชมเกินไปแล้ว”
หวังหยวนหยวนลิงโลดอย่างมากแต่หวังเจียเหยาที่เห็นหวังหยวนหยวนจะมีสามีเป็นเศรษฐี ในใจก็ยิ่งริษยาทำให้แววตาที่มองเย่เฉินก็คาดโทษมากขึ้นตามไปด้วย
เย่เฉินไม่รู้จะพูดอะไรกับคนตระกูลหวัง ทั้งๆ ที่ตนเองเป็นคนโทรศัพท์ต่อหน้าทุกคนบอกว่าให้คนส่งของขวัญมา
แต่ถึงเวลาตอนของขวัญมาถึงแต่กลับไม่มีใครรู้สึกว่าเย่เฉินเป็นคนส่งมา
แต่พวกเขากลับยอมจะคิดว่านี่เป็นของใครสักคน อย่างเช่นคนที่ตามจีบหวังหยวนหยวน!
เย่เฉินวางถ้วยและตะเกียบถามหวังเจียเหยา “เจียเหยากินอิ่มแล้วหรือยัง?”
หวังเจียเหยาถลึงตามองเย่เฉินอย่างรังเกียจ “กินเสร็จแล้วทำไมล่ะ?”
เย่เฉิลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารกล่าว “ในเมื่อกินข้าวเสร็จแล้ว ของขวัญผมก็ให้แล้ว ตอนนี้พวกเราไปทำเรื่องหย่าที่สำนักกิจการพลเรือนกันเถอะ”
“เดี๋ยวก่อน นายพูดว่าอะไร? นายเอาของขวัญมาให้เมื่อไหร่?”
หวังเจียเหยาถามเย่เฉิน
หล่อนกำลังโทษที่เย่เฉินไร้ความสามารถ คนตามจีบหวังเจียเหยายังให้ของขวัญหลักล้าน
แต่เย่เฉินซึ่งเป็นเขยที่แต่งเข้าบ้านตระกูลหวังมาถึงสามปี คิดไม่ถึงว่ากระทั่งของขวัญก็ยังไม่มี
เย่เฉินชี้ไปที่กำไลหยกของคุณนายหวังแล้วกล่าว “ก็นั่นไง”
หลังจากที่หวังจื้อเฉียงฟังแล้วก็ตบโต๊ะอย่างหัวเสีย “เย่เฉิน! แกหน้าไม่อายเกินไปแล้ว! กล้าบอกว่ากำไลข้อมืออันนี้แกเป็นคนให้ได้ไง? กำไลข้อมืออันนี้ราคาเป็นล้าน แกตายไปอีกหลายรอบก็ยังไม่หาเงินไม่ได้เท่านี้เลย!”
หวังหยวนหยวนโกรธมาก “พี่เจียเหยา ช่วยไปจัดการให้สามีไร้ประโยชน์ของพี่อย่าทำตัวน่าขายหน้านักเลย? นี่มันคนที่ตามจีบฉันชัดๆ”
หวังซ่าวเจี๋ยเยาะเย้ย “บ้านเธอสี่คนพ่อแม่ลูกก็ยังไม่สามารถส่งของขวัญแบบนี้ถึงได้แอบอ้างของขวัญของคนอื่น ขายหน้าตระกูลหวังจริงๆ”
หน้าหวังเจียเหยาเก้อเขิน เจ้าตัวรู้สึกอับอายจึงพูดใส่เย่เฉิน
“ไปเลยไป รีบไปที่สำนักกิจการพลเรือนเร็วๆ เลย ฉันไม่อยากจะเป็นภรรยาของขยะอย่างนายอีกต่อไปแม้แต่วินาทีเดียว!”
หวังเจียเหยาคว้ากระเป๋าขึ้นมาแล้วสาวเท้าเดินออกไปทางประตู
“เจียเหยา ผมจะไปส่งคุณเอง!”
ฟางเชารีบร้อนเดินตามไปด้วยท่าทางดีใจอย่างยิ่ง
แต่เย่เฉินกลับรีบหมุนตัวไปกล่าวขณะมองคุณนายหวัง “สามปีมานี้ไม่ว่าจะดีหรือร้าย พวกเราก็เคยเป็นครอบครัวเดียวกันผมมอบกำไลนี้ให้คุณ สุขสันต์วันเกิดนะครับ”
ซูหลานแม่ยายของเย่เฉินกล่าวอย่างรำคาญใจ “พอได้แล้ว เลิกปลอมสักที รีบไสหัวไป เลิกขี้โม้ที!”
หวังซ่าวเจี๋ยจับแผลบนใบหน้าแล้วกล่าวอย่างเคียดแค้น “เย่เฉิน แกหย่าเสร็จแล้วรีบขึ้นรถไฟไสหัวออกจากอวิ๋นโจวได้แล้ว! อย่าให้ฉันเห็นแกอีก! ได้ยินไหม!”
เย่เฉินกล่าวแล้วยิ้มบางๆ “ผมจะไปจากอวิ๋นโจวไหมเป็นเรื่องของผม คุณไม่มีสิทธิ์ก้าวก่าย”
พอกล่าวจบเย่เฉินก็เดินออกประตูใหญ่
เพิ่งจะก้าวออกจากประตูโรงแรม จู่ๆ มีรถ BMW series 7 ขับผ่านมาแล้วกระจกข้างคนขับก็ลดลงช้าๆ
ภายในรถคือฟางเชาและหวังเจียเหยานั่นเอง
ฟางเชากล่าวว่า “ไอ้หนุ่ม เจียเหยาบอกว่านายไม่ควรคู่จะนั่งรถ BMW นายขับรถจักรยานให้เช่าไปแล้วกัน พวกเราจะไปรอนายที่สำนักกิจการพลเรือน”
พูดจบฟางเชาก็เหยียบคันเร่งแล้วรถหรูก็จากไปอย่างรวดเร็ว
เย่เฉินหยิบรถจักรยานให้เช่าข้างทางส่งๆ แล้วปั่นตามอีกฝ่ายตามไปติดๆ
พวกเขาขับตามกันไปจนถึงสำนักกิจการพลเรือน
เมื่อถึงสำนักกิจการพลเรือนแล้วต่างคนก็ต่างถือทะเบียนบ้านและทะเบียนสมรสรวมไปถึงข้อตกลงการหย่าที่เตรียมเอาไว้
ทั้งสองคนก็ทำการหย่าขาดกันอย่างรวดเร็ว
จากนั้นฝั่งสำนักกิจการพลเรือนก็ให้หนังสือการหย่าเล่มสีม่วงให้พวกเขา
ทั้งสองคนหย่ากันเรียบร้อย พวกเขาไม่ใช่สามีภรรยากันอีกต่อไป!