ตอนที่ 269 งานเลี้ยงครบรอบเดือน!
เย่เฉินไม่ได้คิดอะไรแบบที่หวังหยวนหยวนกล่าว แต่เขาประหลาดใจอย่างมากว่าทำไมหวังหยวนหยวนถึงได้คิดแบบนี้
เย่เฉินจึงถามอีกฝ่าย “ทำไมเธอถึงคิดว่าผู้ชายคนนั้นจะมาที่นี่?”
หวังหยวนหยวนเองก็พูดอย่างตรงไปตรงมา “คนเคยๆ ไงคะ ก่อนนี้เขาต้องฉวยโอกาสตอนพี่ไม่อยู่บ้านมาที่นี่บ่อยมากแน่ๆ เข้าหมู่บ้านยังไง ปีนเข้าหน้าต่างยังไง เขาต้องรู้ดีอยู่แล้วจะให้มาอีกรอบง่ายจะตาย”
เย่เฉินรู้สึกว่าข้อสันนิษฐานของหวังหยวนหยวนก็มีเหตุผล ที่นี่อาจจะป็นสถานที่ที่ดีที่สุดที่จะใช้ล่อผู้ชายคนนั้นมาติดกับก็ได้!
ว่ากันว่าสถานที่ที่อันตรายที่สุดเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด เขาคงต้องคิดแบบนั้นแน่
เย่เฉินส่งคนไปตรวจกล้องวงจรปิดของที่นี่ แต่เพราะเรื่องเกิดขึ้นนานเกินไป ตอนนี้อยากจะตรวจกล้องวงจรปิดเมื่อสิบเดือนก่อนก็คงจะทำไม่ได้เพราะคลิปหายไปนานแล้ว
แต่จากที่หลิวเจิ้งคุนเล่า เมื่อต้นปีก่อนยามและรปภ.ที่เฝ้าอยู่ที่นี่ก็เปลี่ยนกันไปหมดแล้ว
จะหาตัวหมอนี่โดยวิธีทั่วๆ ไปคงจะยากแล้ว
หลังจากไล่หวังหยวนหยวนไปแล้ว เย่เฉินก็รีบโทรหาหวังเจียเหยาทันที
เย่เฉิน “ฮัลโหล หวังเจียเหยา คุณอยู่ที่ไหน?”
หวังเจียเหยาตอบว่า “ฉันมาเทียนไห่ เพิ่งทำเรื่องหย่ากับหลิ่วอวี่เจ๋อเสร็จ หมอนั่นงกสุดๆ ตอนแรกรับปากว่าจะให้เงินฉันสามสิบล้านก็กลับคำเฉยเลย ฉันแต่งงานกับเขามาสิบเดือน เขาไม่ให้เงินฉันสักบาทเดียว!”
เย่เฉินจับกระแสความไม่ค่อยพอใจในน้ำเสียงของหวังเจียเหยา
นี่คือจุดจบที่คุณควรจะได้รับ!
แต่งงานกับพวกคนรวยๆ แต่งงานกับหลิ่วอวี่เจ๋อซึ่งเป็นทายาทตระกูลแสนล้าน นอกใจเอย ทรยศผมเอย ดูสิว่าวันนี้คุณได้อะไรตอบแทน?
สมน้ำหน้า!
หวังเจียเหยาสะอึกสะอื้น “รู้งี้ตอนนั้นฉันไม่น่าหย่ากับนายเลย เมื่อปีก่อนเพราะหลิ่วอวี่เจ๋อใช้คำพูดมาหลอกลวงฉัน ฉันถึงได้หลงเชื่อเขา”
เย่เฉินไม่อยากได้ยินหวังเจียเหยาพูดเรื่องพวกนี้ “คุณจะกลับอวิ๋นโจวเมื่อไหร่?”
หวังเจียเหยากล่าว “ฉันจะกลับเดี๋ยวนี้ ฉันไม่อยากอยู่ที่เมืองเน่าๆ อย่างเทียนไห่นี่หรอก!”
เย่เฉินกล่าว “คุณอยากอยู่วิลล่าที่เหมยกุยหยวนไม่ใช่เหรอ? เดี๋ยวถ้ากลับมาแล้ว พาลูกๆ มาอยู่ที่นี่สิ”
หวังเจียเหยาดีใจทันที “ว้าว! จริงเหรอ? นายยอมให้ฉันอยู่ด้วยแล้วเหรอ? ขอบคุณมากเลยนะคะ เย่เฉิน ฉันรู้ว่านายยังรักฉันอยู่ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปฉันขอสาบานเลยว่าทั้งชีวิตนี้ฉันจะรักนายแค่คนเดียว ฉันจะไม่…”
เห็นท่าทางตื่นเต้นของหวังเจียเหยาแล้วเย่เฉินจึงรีบกล่าว “คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ได้จะอยู่กับคุณ ผมจะไปพักที่อื่น คุณอยู่นั่นคนเดียวเถอะไป”
“อ้อ” ต่อให้เย่เฉินไม่อยู่กับหล่อน แต่หญิงสาวก็ยังคงรู้สึกดีใจ
เพราะหลังจากเกิดเรื่องพวกนี้แล้ว เย่เฉินยังยอมให้หล่อนอยู่ในบ้านของเขา แปลว่าอาจจะยังมีโอกาสจะคืนดีกัน!
ทว่าทั้งหมดนี้หวังเจียเหยาคิดมากไป
ที่ชายหนุ่มทำเช่นนี้ก็เพราะอยากจะล่อชายหนุ่มคนนั้นออกมาโดยใช้หวังเจียเหยาเป็นเหยื่อล่อ
หนำซ้ำเขายังมีลางสังหรณ์ด้วยว่าชายคนนั้นจะปรากฏตัวขึ้นมาแน่!
……
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป แล้ววันที่ 1 เดือนมีนาคมก็มาถึงอย่างรวดเร็ว。
เวลา 11 โมงเช้า ณ โรงแรม Marriott อวิ๋นโจวอันเป็นโรงแรมที่คุณย่าของหวังเจียเหยาจัดงานวันเกิดครบ 80 ปี
วันนี้ตระกูลหวังก็จัดงานฉลองที่นี่อีกครั้ง งานฉลองที่ว่าก็คืองานฉลองครบรอบเดือนของคู่ฝาแฝดชายหญิงลูกๆ ของหวังเจียเหยา
ตระกูลหวังร่ำรวยอู้ฟู่จนเหมาทั้งโรงแรมแห่งนี้ ทั้งโรงแรม ห้องโถง บนตึก ด้านล่างตึกล้วนแต่เป็นสถานที่ของตระกูลหวัง จะไม่มีคนนอกปรากฏตัวขึ้น
ทว่าภาพเหตุการณ์วันนี้นั้นแตกต่างไปจากภาพเหตุการณ์ของเมื่อปีก่อนอย่างสิ้นเชิง
เมื่อปีก่อนตอนฉลองวันเกิดครบ 80 ปีของคุณนายหวังนั้นครึกครื้นอย่างมาก เจ้าของกิจการน้อยใหญ่ในอวิ๋นโจวต่างก็มาร่วมงาน
ทำให้มีคนนั่งเต็มกันทุกโต๊ะ
บวกกับที่เย่เฉินถูกสั่งให้หย่า ทำให้งานเลี้ยงครึกครื้นกว่าเดิม
แต่วันนี้งานเลี้ยงกับเงียบเหงาซบเซา
นอกจากคนตระกูลหวังที่นั่งกันอยู่สองโต๊ะแล้ว โต๊ะอื่นๆ ว่างเปล่าไม่มีใครมา
คุณนายหวังถอนหายใจอย่างอดไม่ได้ “เฮ้อ ทำไมงานเลี้ยงตระกูลหวังของเราถึงได้เงียบเหงาขนาดนี้ล่ะ? ถ้าหากว่าตาแก่ได้เห็นคงตายตาไม่หลับแน่ๆ! เจียเหยา แกจะไม่รู้สึกผิดกับความหวังดีของปู่แกเลยหรือไง!”
หวังเจียเหยาอุ้มลูกของเย่เฉิน แล้วใช้มือเข็นรถเข็นเด็กอีกคน หล่อนแย้งทันทีที่ได้ยินเสียงโอดครวญของคุณนายหวัง
“คุณย่าคะ ช่วยเลิกโวยวายแล้วได้ไหมคะ? เมื่อก่อนหนูแต่งงานกับหลิ่วอวี่เจ๋อจนทรัพย์สินของที่บ้านเรามีมากเกือบสองหมื่นล้าน คุณย่ากก็ชมว่าหนูเลือกแต่งงานกับผู้ชายถูกคนแล้วไม่ใช่เหรอคะ? ถ้าคุณย่าจะบอกว่ามีตาแต่หามีแววไม่ งั้นคนทั้งบ้านเราก็เป็นเหมือนกันทั้งหมดนั่นแหละค่ะ! ที่ไม่รู้จักเห็นคุณค่าของเย่เฉิน!”
และในเวลานี้เองหวังจื้อเฉียงผู้เป็นลุงกล่าวอย่างไม่พอใจ “สารเลว! พูดแบบนี้กับคุณย่าได้ยังไง! แกว่าใครมีตาแต่ไม่มีแวว? หยวนหยวนกับซ่าวเจี๋ยลูกฉันมองออกตั้งนานแล้วว่าเย่เฉินพิเศษกว่าใคร พวกเขาสนิทกันจะตายไป เมื่อวานพวกเขาสามคนยังเล่นเกมด้วยกันอยู่เลย!”
หวังหยวนหยวนแทรกขึ้นมา “ใช่ หนูเล่นเป็นซัพพอร์ทตัวติดหนึบกับพี่เย่เฉินในเกมเลย เราชนะติดต่อกันตั้งหลายรอบ!”
หวังเจียเหยาหัวเราะเยาะ “งั้นเหรอ? สนิทกันจริงๆ เลยนะ แต่ขอโทษที ฉันมีลูกกับเย่เฉิน!”
เพียงแค่ประโยคเดียวก็ทำให้หวังหยวนหยวนยิ้มไม่ออก
และในเวลานี้เองเงาคนผู้หนึ่งก็เดินทอดน่องเข้ามา
“มีแขกมา!” คุณนายหวังดีใจอย่างมาก
ตอนนี้ตระกูลหวังกำลังจะล้มละลาย โปรเจ็กต์ทั้งหมดหยุดชะงักไป กระทั่งเงินเดือนพนักงานก็ยังไม่มีจ่าย
สถานการณ์ของพวกเขาในตอนนี้ย่ำแย่ ดังนั้นงานเลี้ยงครบรอบเดือนที่พวกเขาจัดขึ้นจึงไม่มีใครอยากมาด้วยซ้ำ
“คนผู้นี้หน้าตาคุ้นๆ!”
คนพูดไม่ใช่คนตระกูลหวังแต่เป็นเย่เฉิน!
และในเวลานี้เองเย่เฉินเองก็อยู่ในโรงแรมเช่นกันแต่ว่าเขาอยู่ในห้องสูทด้านบน ตอนนี้เขากำลังมองภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้ในห้องโถงผ่านทางกล้องวงจรปิด
ซีกวาที่อยู่ข้างๆ กล่าว “นี่มันหม่าเสินอดีตผู้จัดการบริษัทเดลิเวอรี่ถวนถวนประจำเขตอวิ๋นโจวไม่ใช่เหรอ?”
“หม่าเสิน จริงด้วย”
เย่เฉินเองก็จำหมอนี่ได้ เขาไม่เพียงย้อนนึกถึงเมื่อปีก่อนที่หม่าเสินเองก็เรียกเย่เฉินให้มา แล้วบังคับให้เขาถอดชุดยูนิฟอร์มพนักงานเดลิเวอรี่ต่อหน้าธารกำนัล
หลังจากนั้นเพราะล่วงเกินเย่เฉินเข้า หลังจากนั้นเขาจึงไม่มีสิทธิ์เป็นผู้จัดการเขตอีก
เมื่อพบเจอกันอีกครั้ง ก็รู้สึกว่าหม่าเสินไม่มีสง่าราศีเหมือนปีก่อน กลายเป็นเหมือนคนล่องลอยไปวันๆ
“อ้าว นี่มันเถ้าแก่หม่าไม่ใช่เหรอ?” หม่าจื้อเฉียงจำหม่าเสินได้ในทันที
หน้าหม่าเสิ่นเปลี่ยนไปเล็กน้อยกล่าวพลางระบายยิ้ม “ฮ่าๆ คุณหวังไม่เจอกันนานเลย”
สถานการณ์วันนี้เงียบเหงา หม่าเสิ่นยอมมา ตระกูลก็ดีใจมากแล้วจึงรีบร้อนเชื้อเชิญให้เขานั่งลง
“เถ้าแก่หม่า รีบนั่งเถอะ อยากดื่มอะไรไหม?” หวังจื้อหย่วนทักทายเขา
หม่าเสินกลับกล่าวด้วยสีหน้าเหยียดหยาม “ฮ่าๆ ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อร่วมงานเลี้ยงฉลองครบเดือนของพวกคุณ ผมมาเพื่อเยาะเย้ยพวกคุณต่างหาก! ฮ่าๆ คิดไม่ถึงว่าตระกูลหวังที่เป็นตระกูลใหญ่ของอวิ๋นโจวจะมีวันนี้ฮ่าๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเมื่อปีก่อนผมช่วยตระกูลหวังของพวกคุณ ผมก็คงไม่ตกต่ำมาจนอยู่ในสภาพนี้! สมน้ำหน้าพวกคุณแล้ว!”
และในเวลานี้ก็เห็นหวังเจียเหยาวางลูกลง จากนั้นก็ชันตัวลุกขึ้นจากที่นั่งเดินตรงไปหาหม่าเสินที่กำลังเมามายแล้วสะบัดฝ่ามือใส่หน้าเขา!