ตอนที่ 294 ฉินหงเหยียนแต่งงานกับสวี่ฉู่หมิง!
ซูเจิ้นหางเตรียมไปพบหน้าทายาทรุ่นที่สามของตระกูลซูคนนี้ด้วยตัวเอง!
เขาตั้งใจจะไปคุยกับเย่เฉินด้วยด้วยสถานะของปู่ เพื่อหลานสาวของตนเอง!
ทว่าในเวลานี้เองจู่ๆ คนใช้ก็เดินเข้าไปในห้องแล้วกล่าว “นายท่าน สวี่ฉู่หมิงจากเมืองเสินเฉิงส่งการ์ดแต่งงานมาครับ”
ซูมู่หลินเอื้อมมือไปรับการ์ดเชิญมา แล้วโบกมือใส่คนใช้เป็นสัญญาณบอกให้อีกฝ่ายออกไป
จากนั้นก็กล่าวพร้อมระบายยิ้ม “ฉันจำได้ว่าสวี่ฉู่หมิงอายุตั้ง 50 กว่าแล้วไม่ใช่เหรอ? ภรรยาเขาเพิ่งตายไปได้ไม่กี่ปี คิดไม่ถึงว่าเขาจะแต่งงานใหม่เร็วขนาดนี้ นี่มันเป็นหลักฐานของว่าเขามันคนโลเลชัดๆ คุณปู่ครับผมว่าตระกูลซูของเราต่อไปไม่ต้องช่วยเขาแล้วล่ะครับ เกิดวันไหนเราพลาดกันขึ้นมา คนประเภทนี้ก็ไม่มีทางช่วยเราหรอกครับ”
ตระกูลซูกับสวี่ฉู่หมิงไม่ได้ไม่รู้จักกันไปเสียทีเดียว เพราะว่าสวี่ฉู่หมิงนั้นเคยได้รับความช่วยเหลือจากซูเจิ้นหางมาก่อน
หลายปีมานี้เขาได้กลายเป็นเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดของเมืองเสินเฉิงได้อย่างง่ายดายนั้น ส่วนหนึ่งของความสำเร็จนั้นต้องยอมรับว่าเป็นฝีมือของตระกูลซู
ทันทีที่ซูเจิ้นหางถูกใจใครก็จะช่วยลงทุนให้อย่างลับๆ ทันทีเพื่อรักษาสถานะภาพของตระกูลในประเทศแห่งนี้
ตอนแรกเขาเห็นว่าสวี่ฉู่หมิงเป็นคนที่มีความสามารถมากพอในการทำธุรกิจ ดังนั้นถึงได้เสนอตัวให้ความช่วยเหลือเขา เหมือนที่เคยช่วยเย่ฉงไห่เมื่อสิบปีก่อน
แต่เพราะหวังว่าในอนาคตวันไหนกาดว่าสวี่ฉู่หมิงร่ำรวย หรืออาจจะสิบปีหลังจากนี้ทายาทของเขาเก่งกล้าอาจจะพอช่วยคนรุ่นหลังของตระกูลซูได้
ซูเจิ้นหางไม่หันมองการ์ดแต่งงานด้วยซ้ำ ด้วยคนในระดับอย่างเขาไม่มีทางไปร่วมงานแต่งงานง่ายๆ แน่
ซูเจิ้นหางกล่าว “ลองหาเวลาว่างๆ ไปเมืองเสินเฉิงสักหน่อย”
ซูมู่หลินกล่าว “ผมไม่ไปหรอกครับ ผมไม่สนิทกับเขา คุณปู่ให้ซูมู่ชิงไปสิครับแต่ว่าพูดถึงสวี่ฉู่หมิงคนนี้เหมือนว่าเขาจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเย่เฉินอยู่นะครับ”
“เหรอ?” พอพูดถึงเย่เฉิน ซูเจิ้นหางก็สนใจเรื่องนี้ทันที
ซูมู่หลินกล่าว “คุณปู่จำได้ไหมครับว่าตอนนี้เย่เฉินมีแฟนคนหนึ่งน่ะครับ? หล่อนชื่อฉินหงเหยียนเป็นผู้บริหารหญิงที่สวยที่สุดในเทียนไห่ที่เคยออกทีวีคนนั้นน่ะครับ หล่อนเป็นคนเมืองเสินเฉิง อีกทั้งได้ยินมาว่าหล่อนเคยเป็นแฟนกับสวี่ฉู่หมิง ฮ่าๆ คิดออกแล้ว ฉินหงเหยียนมีน้องสาวเป็นแอร์โฮสเตสด้วยครับ ชื่อฉินเสี่ยวตั่ว สวยมากทีเดียว
“爷爷,您说许楚明娶的会不会是秦小朵?姐姐被叶辰抢走了,就娶她妹妹,哈哈,许楚明这老狗,这样的事,肯定做得出来,哈哈!”
“คุณปู่ครับ คุณปู่ว่าสวี่ฉู่หมิงแต่งงานกับฉินเสียวตั่วหรือเปล่าครับ? พี่สาวโดนเย่เฉินแย่งไปแล้ว เลยแต่งงานกับน้องสาวหรือเปล่า ฮ่าๆ สวี่ฉู่หมิงไอ้เดียรัจฉาน กล้าทำเรื่องแบบนี้ได้อยู่แล้ว ฮ่าๆ”
ซูเจิ้นหางขมวดคิ้วแล้วมองซูมู่หลิน “ห้ามพูดเหลวไหล สวี่ฉู่หมิงไม่ได้ต่ำต้อยแบบที่cdพูด เขาเป็นคนที่มั่นคงอยู่นะ”
“ฮ่าๆ ในโลกนี้มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้บ้าง ผมพนันว่าเขาต้องแต่งกับฉินเสี่ยวตั่วแน่!”
เดิมทีซูมู่หลินไม่ตั้งใจจะเปิดการ์ดแต่งงาน แต่ตอนนี้เขาก็เริ่มอยากรู้บ้างแล้ว
เขาอยากจะดูว่าสวี่ฉู่หมิงจะไม่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีขนาดนั้นเลยจริงหรือเปล่า ถึงขั้นที่ว่าไม่ได้ฉินหงเหยียน ก็หันไปคว้าเอาฉินเสี่ยวตั่วที่อายุยังน้อยไม่ทันโลกอะไร
ดังนั้นซูมู่หลินจึงเปิดการ์ดแต่งงานดูอย่างสนอกสนใจ
แต่เมื่อเห็นเนื้อหาบนการ์ดแต่งงานเขาก็ต้องตกใจ!
“เรียนเชิญ ‘ท่านซู: ซูเจิ้นหาง’ มาเข้าร่วมงานพิธีมงคลสมรส ณ Grand Sky Light Hotel Shenzhen ในวันที่ 15 เดือนมีนาคม ในเวลา 18:00 น. เจ้าบ่าว: สวี่ฉู่หมิง เจ้าสาว: ฉินหงเหยียน!
ฉินหงเหยียน! คิดไม่ถึงว่าเจ้าสาวคือฉินหงเหยียน! ทำไมเจ้าสาวถึงเป็นฉินหงเหยียนไปได้!”
หลังจากเห็นชื่อเจ้าสาวแล้ว ซูมู่หลินก็โวยวายอกมาเสียงดัง!
เย่เฉินเป็นศัตรูคู่แค้นของซูมู่หลิน เขาย่อมต้องรู้เรื่องราวในชีวิตของเย่เฉินเป็นอย่างดี รู้เรื่องหวังเจียเหยา แล้วย่อมต้องรู้เรื่องฉินหงเหยียนด้วย!
ฉินหงเหยียนในตอนนี้เป็นคู่หมั้นของเย่เฉินนี่นา!
แต่ว่าทำไมหล่อนถึงไปแต่งงานกับสวี่ฉู่หมิงได้?
“อะไรนะ?”
คราวนี้กลายเป็นซูเจิ้นหางที่ปกติจะนิ่งๆ ตกใจแทน “แกจะบอกว่าฉินหงเหยียนคนที่กำลังจะแต่งงานกับสวี่ฉู่หมิงอยู่รอมร่อคนนี้เป็นแฟนคนปัจจุบันของเย่เฉินเหรอ?”
ซูมู่หลินพยักหน้ารับ “ครับผม จริงแท้แน่นอน ก่อนหน้านี้เย่เฉินยังขอฉินหงเหยียนแต่งงานอยู่เลย หล่อนเองก็รับปากด้วยนะครับ หรือว่าฉินหงเหยียนรู้เรื่องของพี่มู่ชิงกับซือซือแล้วรับไม่ได้เลยเลิกกับเย่เฉิน ไปแต่งงานกับสวี่ฉู่หมิงเพราะโกรธหรือเปล่าครับ? แต่ว่าจากที่ผมรู้จักฉินหงเหยียนแล้ว หล่อนไม่น่าจะเป็นคนแบบนี้นะครับ”
ซูเจิ้นหางยิ้มน้อยๆ แล้วถอดรองเท้าที่ใส่เรียบร้อยแล้วอีกครั้ง “ดูแล้วสวรรค์คงจะไม่อยากให้เรากับตระกูลเย่เป็นศัตรูกัน สวรรค์มาโปรดจริงๆ ในเมื่อแฟนของเย่เฉินจะแต่งงานกับคนอื่น เมียเก่าเขาอย่างหวังเจียเหยาก็เป็นผู้หญิงใจง่ายราคาถูกที่แค่ให้เงินก็นอนกับหล่อนได้แล้ว ปู่มั่นใจว่าเย่เฉินจะต้องเลือกซูมู่ชิงแน่ พวกเราไม่ต้องใช้ไม้แข็งแล้วล่ะ ก็ดีเราจะได้ไม่ต้องรับบทคนเลว”
ซูเจิ้นหางกับซูมู่หลินเดิมที่ตั้งใจจะไปบีบบังคับเย่เฉินยอมเป็นเขยของตระกูลซู
แต่พวกเขาเองก็รู้ว่าเย่เฉินมีนิสัยเย่อหยิ่ง แถมยังเป็นคนตระกูลเย่ เขาย่อมไม่ยอมรับปากง่ายๆ แน่
งั้นแล้วตระกูลซูก็จะกำจัดเย่เฉิน เพื่อจะเป็นการบอกเย่เซวียนและเย่ฉงไห่ว่าลูกหลานตระกูลซูไม่ใช่ของเล่นที่คิดจะทำอะไรก็ได้!
แต่ตอนนี้คงไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นแล้ว
เย่เฉินไม่มีแฟนแล้ว ถ้าจะหาใหม่ซูมู่ชิงก็เป็นตัวเลือกที่ดี
แต่พอได้ยินแบบนี้ ซูมู่หลินก็หัวเสีย “คุณปู่ครับ วันนี้จะไม่ทำอะไรเย่เฉินแล้วหรอครับ? ผมเตรียมตัวมาทั้งคืนเลย วันนี้กะจะเอาคืนเขาสักหน่อย”
ซูเจิ้นหางหัวเราะ “ไม่แล้วล่ะ ปู่จะมาขอร้องให้เขาเป็นเขยตระกูลเราทำไม? ไม่นานหลังจากนั้นเขาจะต้องมาคุกเข่าขอร้องปู่ ขอร้องให้ปู่ยอมยกซูมู่ชิงให้แต่งงานกับเขา เหอะ พอถึงตอนนั้นค่อยให้ซูมู่ชิงมีลูกชายให้เย่เฉินอีกที ปู่ไม่เชื่อหรอกว่าปู่จะหาความลับของตระกูลเย่ไม่ได้!”
ซูมู่หลินรู้ดี ซูเจิ้นหางคิดว่าตระกูลเย่เป็นตระกูลที่แสนลึกลับ มีความลับที่ไม่เหมือนกับตระกูลอื่นๆ เจ้าตัวก็ดึงดันอยากจะรู้ให้ได้ว่าพวกเขาซุกซ่อนความลับอะไรไว้กันแน่
คิดถึงจุดนี้ ซูมู่หลินก็ไม่พูดอะไรอีก แต่เดินออกมาจากห้องของซูเจิ้นหาง
“เย่เฉินวันนี้คุณปู่ยอมปล่อยนายไป แต่ไม่ได้แปลว่าฉันจะปล่อยให้นายรอดตัวไปเหมือนกัน! หึหึ นายคงจะยังไม่รู้ข่าวการแต่งงานระหว่างฉินหงเหยียนกับสวี่ฉู่หมิงล่ะสิ? ฉันจะบอกนายเอง”
……
ณ ศูนย์ตรวจ DNA หุยหลง
พนักงานส่งเอกสารผลตรวจให้เย่เฉินด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “ยินดีด้วยคุณเย่ ซูเย่หมิงเป็นบุตรสาวของคุณ”
อ่านรายงานผลตรวจ DNA ในครั้งนี้ดูสบายกว่าตอนที่เทียนไห่มาก
ครั้งนั้นสีหน้าของศจ.ก่วนทำให้เขากังวลจนเกือบตาย
แต่จากสีหน้าท่าทางของพนักงานที่นี่ แค่ดูก็รู้แล้วว่าเด็กเป็นลูกของเขาไม่ผิดแน่
เย่เฉินอ่านผลรายงานการตรวจ DNA แล้วมองซูมู่ชิงอย่างดีอกดีใจ
ท้ังสองคนเดินออกมาจากศูนย์ตรวจ DNA เย่เฉินนั่งบริเวณที่นั่งด้านข้างคนขับแล้วกล่าวกับซูมู่ชิง “พอกลับไปแล้ว ผมอาจจะอยู่เป็นเพื่อนซือซือได้แค่ชั่วโมงเดียวนะ แล้วเดี๋ยวต้องไปเมืองเสินเฉิงแล้ว”
ซูมู่หลินพยักหน้ารับ “ค่ะ คุณจะไปจัดงานแต่งงานกับแฟนคุณใช่ไหมคะ?”
“ครับ” เย่เฉินยิ้มอย่างดีอกดีใจ
ทว่าสีหน้าซูมู่ชิงกลับดูไม่ค่อยมีความสุขนัก
แต่หล่อนก็ยังกล่าว “ดีใจด้วยนะ”
เย่เฉินมองเสี้ยวหน้าของซูมู่ชิง “ขอบคุณครับ”
ไม่นานจากนั้น สองหนุ่มสาวต่างก็กลับมาถึงเรือนสี่ประสานของซูมู่ชิง
เมื่อเข้าไปแล้วก็พบว่า ซูมู่หลินมานั่งรอที่ห้องรับแขกอยู่ก่อนแล้ว
“ผลตรวจ DNA เป็นยังไงบ้างล่ะ?” ซูมู่หลินนั่งไขว่ห้างพลามถาม
ซูมู่ชิงกล่าว “เย่เป็นเป็นพ่อของซือซือ”
ซูมู่หลินกล่าว “ดีมาก เย่เฉินในเมื่อนายเป็นพ่อของซือซือ พี่สาวฉันก็ชอบนาย งั้นนายก็อยู่เมืองหลวงต่อสิ ไม่ต้องไปไหนแล้วรีบแต่งงานพี่สาวฉันเลย เร็วๆ!”