พอเย่เฉินเห็นหวังเจียเหยาคุกเข่าลงตรงหน้าตนเอง จิตใจก็เริ่มสั่นไหว
นี่คือหญิงสาวที่เขาเคยรักมาเป็นเวลาถึงสามปี!
และเป็นหญิงสาวคนเดียวกับที่ทำร้ายเขาอย่างเจ็บแสบ!
ก่อนหน้านี้หวังเจียเหยายังพูดเต็มปากเต็มคำว่าจะไม่มีทางขอโทษเขา แถมยังบอกว่าจะทำให้เขาเสียใจที่ขอหย่ากับเจ้าหล่อน
หล่อนถึงขนาดพูดว่าจะให้เย่เฉินคุกเข่าขอโทษหล่อน!
วันที่เย่เฉินรอคอยก็คือวันนี้!
สิ่งที่เขาเฝ้ารอคือคำสามคำนี้!
“หวังเจียเหยา ผมรอฟังสามคำนี้จากคุณมานานมาแล้ว! คราวก่อนคุณยังบอกว่าคุณไม่มีวันที่จะคำขอโทษผมอยู่เลย ฮ่าๆ”
เย่เฉินชนะแล้ว
“ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ ที่รัก เป็นเพราะฉันไม่ดีเอง ที่รักให้อภัยฉันได้ไหมคะ?”
หวังเจียเหยาคุกเข่างพลางเกาะชายกางเกงเย่เฉิน ร่ำร้องอ้อนวอนเสียงสะอื้น
ใครจะคาดคิดว่าหญิงงามลำดับหนึ่งของอวิ๋นโจว สาวสวยในแวดวงไฮโซที่มีพร้อมครบทุกด้านจะมีวันที่หมดสภาพเช่นนี้
เย่เฉินไม่หวั่นไหวเขากล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “คุณทำผิดต่อผมแต่เพิ่งมาขอโทษเอาป่านนี้ คุณจะให้ผมยกโทษให้คุณได้ยังไง?”
หวังเจียเหยาปาดน้ำตาแล้วอธิบาย “ที่รักกำลังเข้าใจฉันผิดนะคะ ที่จริงแล้วฉันไม่ได้ทำอะไรที่ผิดต่อนายเลย”
เย่เฉินหัวเสียทันที “ผมเห็นอยู่คาตา คุณยังคิดจะบิดพลิ้วอยู่อีกเหรอ?”
หวังเจียเหยารีบร้อนกล่าว “ที่รักฟังฉันก่อน ตอนนั้นฉันเลอะเลือนไปชั่วขณะถึงได้ติดกับของฟางเชา ถูกเขาหลอกเข้าโรงแรมไป แต่ว่าพวกเราไม่ได้ทำอะไรกันเลย นายมาส่งอาหารก่อน พอนายกลับไปฉันก็รู้สึกผิดกับเลยรีบออกจากโรงแรมกลับไปทำกับข้าวที่บ้านเรารอนาย แต่ฉันทำอาหารไม่อร่อย กลัวว่านายจะไม่ชอบ ถึงได้สั่งอาหารเดลิเวอรี่มาให้ ประตูบ้านเรามีกล้องวงจรปิดนี่ คลิปที่ฉันกลับบ้านวันนั้นน่าะมีเวลาบอกอยู่ นายไปเช็คด้วยตัวเองเลยก็ได้ ดูว่าฉันกลับบ้านหลังจากนั้นทันทีเลยหรือเปล่า หรือไม่อย่างนั้น ที่รักจะลองพิสูจน์ดูก็ได้นะคะว่า…”
ตอนที่พูดประโยคสุดท้าย หวังเจียเหยายังมีท่าทีเขินอายน้อยๆ
เย่เฉินไม่รู้เลยว่าคำพูดของอีกฝ่ายนั้นเป็นเรื่องจริง หรือพูดเพียงเพราะอยากคืนดีกับเขาจึงจงใจแต่งเรื่องมาหลอกเขา
และเขาเองก็ไม่อยากจะเข้าใจด้วย!
“ต่อให้เป็นเรื่องจริง ในตอนนั้นคุณก็มีเจตนาอยากจะทรยศผม ผมไม่มีทางจะในอภัยคุณหรอก”
เย่เฉินกล่าวเสียงเย็นชา
หวังเจียเหยาร่ำไห้อีกครั้ง “ที่รัก ฉันมีเรื่องลำบากใจจริงๆ คนที่ฉันรักคือนายมาโดยตลอด ฉันโดนฟางเชาหลอกเพราะว่าฉันอยากจะช่วยตระกูลฉันมากเกินไป นายเองก็รู้ว่าที่บ้านพ่อฉันกับคุณลุงกำลังแย่งทรัพย์สินกันอยู่ คุณพ่อไม่มีลูกชาย ในอนาคตบริษัทก็จะต้องตกเป็นของหวังซ่าวเจี๋ยแน่ๆ ดังนั้นพ่อกับแม่ถึงกดดันฉันให้ฉันพยายามทำให้คุณย่าเห็นความสำคัญของฉันอย่างสุดความสามารถ ฉันก็อับจนหนทางถึงได้ทำอะไรแบบนั้นลงไป”
เรื่องพวกนี้ถึงหวังเจียเหยาไม่พูดแต่เย่เฉินเองก็รู้ดีแก่ใจ
เย่เฉินกล่าว “ผมว่าต่อให้คุณจำเป็นต้องทำเพราะไม่มีทางเลือก แต่คุณพูดวว่ารักผมออกมาเต็มปากเต็มคำไม่คิดว่ามันน่าตลกเหรอ? คุณรักผมขนาดนี้แล้วทำไมตลอดสามปีที่เราอยู่ด้วยกันถึงไม่ยอมให้ผมแตะคุณสักนิดเลยล่ะ?!”
หวังเจียเหยาโอดครวญ “ก็แม่ฉันสั่งเอาไว้นี่ ฉันเองก็อยากเป็นของนาย เป็นภรรยาของนายอย่างแท้จริง แต่แม่ฉันไม่อนุญาต นายเชื่อฉันเถอะนะ ตอนนี้ฉันยังเป็นสาวบริสุทธิ์ คืนนี้ฉันจะยอมตกเป็นของที่รักเลย”
หวังเจียเหยาพูดพลางสาวเท้าเดินไปหาเย่เฉินแล้วถอดเสื้อสูทของอีกฝ่ายออก
เย่เฉินสะบัดหวังเจียเหยาทิ้ง “อย่าแตะต้องตัวผม!”
เย่เฉินกล่าว “หวังเจียเหยา ตัวคุณเองก็รู้ดีแก่ใจ ถ้าหากว่าวันนี้ผมยังเป็นไอ่ขยะเย่เฉินคนเดิม หรือยังเป็นแค่คนส่งอาหารเดลิเวอรี่เย่เฉินคนนั้น คืนนี้คุณคงไม่คุกเข่าลงตรงหน้าผมแล้วพูดอะไรแบบนี้กับผมหรอก! ดังนั้นที่คุณขอโทษผมก็เพียงเพราะรู้ว่าผมเป็นคนมีเงิน! ผมไม่ชอบผู้หญิงที่รักในเงินทองแบบนั้น เรากลับมาคืนดีกันไม่ได้หรอก!”
หวังเจียเหยารีบร้อนอธิบาย “ฉันไม่ได้รักเงิน ฉันรักนาย!”
แต่ไม่ว่าหวังเจียเหยาจะพูดยังไง เย่เฉินก็ไม่สนใจทั้งนั้น
ด้วยความร้อนใจ หญิงสาวจึงโถมตัวเข้าอ้อมอกเย่เฉิน
เดิมอยากจะฝืนจูบเย่เฉินแต่ก็ถูกเขาผลักออกไป
“คุณอย่าทำแบบนี้ ปล่อยผม”
เย่เฉิสะบัดอีกฝ่ายทิ้ง แต่หญิงสาวก็ยังเกาะเกี่ยวชายหนุ่มด้วยมือสอข้าง นอกเสียจากออกแรงจนสุด มิฉะนั้นจะสะบัดเจ้าหล่อนไม่หยุด
“ฉันไม่ปล่อยนายไปหรอก!”
หวังเจียเหยากอดเย่เฉินแล้วงอแง
“คุณ…”
เย่เฉินเองก็ทำอะไรไม่ได้ จะให้ต่อยหล่อนล้มก็ไม่ได้กระมัง?
ไม้นี้ได้ซ่งหงเย่เป็นคนสอนหล่อน
หวังเจียเหยากล่าวพลางกอดเขา “วิลล่าที่ภูเก็ต นายซื้อให้ฉันใช่ไหมล่ะ? นายรู้ว่าฉันรักที่นั่นฉันอยากจะไปนอนวิลล่าที่นั่นหลายๆ คืนดื่มเหล้าดูทะเลกับนาย แล้วที่นี่อีก วิลล่านี่ฉันก็ชอบมาก ฉันย้ายเข้ามาอยู่กับนายดีไหมคะ? ฉันอยากมีลูกชายกับนายสักคน แล้วค่อยมีลูกสาวอีกคนดีไหม?”
ความอ่อนโยนในวินาทีนี้ของหวังเจียเหยา เป็นสิ่งที่ตลอดสามปีที่ผ่านมาเย่เฉินไม่เคยได้สัมผัสมันสักนิด!
ทว่าเย่เฉินไม่ใช่คนที่จะโดนหลอกง่ายขนาดนั้น
เขาตัดสินใจผลักร่างบางลงบนเตียง
เพราะเตียงนุ่มมากดังนั้นหญิงสาวจึงไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
จากนั้นเย่เฉินจึงกล่าวว่า “หวังเจียเหยาถ้าหากว่าคุณคุกเข่าขอโทษผมก่อนหน้าที่ผมจะบอกว่าผมเป็นใคร เราอาจยังมีโอกาสจะคืนดีกัน แต่คุณรอจนผมกลายเป็นคุณเย่ถึงได้ทำแบบนี้ ผมรู้สึกว่าคุณมันช่างน่ารังเกียจเหลือเกิน!”
พูดจบเย่เฉินก็เกรงว่าจะโดนหญิงสาวเกาะแกะอีก เขาจึงเดินออกจากห้องนอน
พอมาถึงชั้นหนึ่ง เย่เฉินก็กล่าวกับซ่งหงเย่ที่แสร้งทำเป็นโทรศัพท์อยู่ “ซ่งหงเย่เอาหวังเจียเหยาไปเถอะ ผมอยากพักแล้ว”
เห็นใบหน้าหงุดหงิดของชายหนุ่ม ซ่งหงเย่ก็รีบวางโทรศัพท์แล้วกล่าว “อ้อฉันไปดูหล่อนหน่อย…”
ซ่งหงเย่รีบเดินขึ้นชั้นสามอย่างรีบร้อน เมื่อเปิดประตูห้องนอนก็พบเพื่อนสาวคุดคู้อยู่ในผ้าห่มของเย่เฉินแล้วร่ำไห้
ซ่งหงเย่รีบปรี่เดินไปหาแล้วหยิบทิชชู่ให้อีกฝ่าย “แม่คุณหนูของฉัน นี่เธอทำอะไรอยู่ ร้องไห้จนขี้มูกโป่งจะให้เย่เฉินเขานอนกับเธอลงได้ยังไง?”
หวังเจียเหยากอดซ่งหงเย่แล้วฟ้องเพื่อน “ทำยังไงดี เย่เฉินเขาไม่ยอมให้อภัยฉัน ฉันคุกเข่าขอโทษเขาแล้ว นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของฉันเลยนะที่ทำแบบนี้ ฮือๆ”
ซ่งหงเย่ตบบ่าเพื่อนสาวเบาๆ แล้วกล่าวปลอบ “อย่าเพิ่งใจร้อนสิ นี่ยังครั้งแรกเอง เขาจะให้อภัยเธอง่ายๆ ได้ยังไงล่ะ ขอโทษบ่อย ๆ เดี๋ยวก็ดีไปเอง”
“งั้นตอนนี้ฉันทำยังไงดี?” หวังเจียเหยาถาม
ในเวลานี้บริเวณท้องฟ้าด้านนอกมีเสียงสายฟ้าฟาดลงมาพอดี
“ฝนจะตกเหรอ?”
ซ่งหงเย่ได้ไอเดียพอดีจึงกล่าว “เธอออกไปที่สวนแล้วคุกเข่าอ้อนวอนเขา บอกไปว่าถ้าเขาไม่ให้อภัยเธอ เธอจะคุกเข่าอยู่แบบนี้ไม่ยอมลุกไปไหน”
“อืม!” หวังเจียเหยาเองก็ทุ่มสุดตัว ตอนนี้หล่อนอยากจะกลายเป็นคุณนายเย่ที่คนนับหน้าถือตาใจจะขาดอยู่แล้ว
ซ่งหงเย่พาหวังเจียเหยางลงมาด้านล่างแล้วกล่าวกับเย่เฉินอย่างสุภาพ “คุณเย่คืนนี้พวกเรารบกวนแล้ว พวกเราขอตัวนะ”
เย่เฉินไม่ได้ออกไปส่ง “ผมให้คนขับรถไปส่งพวกคุณแล้วกัน”
เย่เฉินเรียกคนขับรถแต่หวังเจียเหยากลับออกไปที่สวนแล้วคุกเข่าลง
“เย่เฉิน ถ้าวันนี้นายไม่ยอมให้อภัยฉัน ฉันจะไม่ยอมลุกขึ้น!”