ไม่ว่าจะพยาบาล หมอหรือว่าแอร์โฮสเตส หรือจะนักธุรกิจ
พวกเขาเองก็มีทั้งเพศหญิงและชาย แถมยังมีความเห็นอกเห็นใจคนเพศเดียวกัน!
ยิ่งผู้หญิงสวยๆ แบบหวังเจียเหยาในสายตาพยาบาลหล่อนเหมือนนางฟ้าอย่างไรอย่างนั้น!
ผู้หญิงแบบนี้ควรจะได้รับการทะนุถนอมในอุ้งมือของชายหนุ่ม ทำไมถึงต้องมาคุกเข่าขอโทษผู้ชายด้วย?
นี่มันเหลวไหลเกินไปแล้ว!
ที่จริงแล้วพยาบาลผู้นี้เป็นเฟมินิสต์แบบสุดโต่งและยังเปิดแอคเค้าท์ในเวยป๋อมีผู้ติดตามเป็นจำนวนไม่น้อยหนำซ้ำยังมักจะแชร์ข้อความที่พูดเพื่อเพศเดียวกัน
ปีที่แล้วตอนที่นักเปียโนชื่อดังฉินหลางแต่งงานกับภรรยาที่เด็กกว่าตัวเองสิบกว่าปี ภรรยาไม่เพียงแต่อายุยังน้อย แต่หน้าตาสวยงาม วุฒิการศึกษาสูง หนำซ้ำยิ่งหุ่นดีจนทำให้ผู้หญิงยังต้องอิจฉา
พยาบาลหญิงผู้นี้เคยโจมตีฉินหลางในเวยป๋อบอกว่าเขาเป็นชายวัยกลางคนไม่คู่ควรกับภรรยาแบบนี้!
ไม่ว่าอย่างไรฉินหลางเป็นนักเปียโนระดับโลก เป็นนักเปียโนอัจฉริยะที่ทั้งโลกชาวจีน ทั้งเอเชียไม่ได้มีมานานแล้ว
ผู้ชายที่ประสบความสำเร็จแบบนี้ในสายตาของพยาบาลสาวคนนั้นไม่คู่ควรกับหญิงสาวที่อ่อนวัยเช่นนี้!
แค่นี้ก็น่าจะก็รู้แล้วว่าหล่อนมีอคติกับผู้ชายขนาดไหน!
ดังนั้นพยาบาลสาวถึงได้จงใจแต่งเรื่องโกหก “ตอนพวกเราเข้าไป คุณอยู่ในห้องนอนชั้นสองหรือสามของวิลล่า”
ทุกคนต่างก็มีความสุขอย่างยิ่งที่เย่เฉินปล่อยหวังเจียเหยาไว้ในห้องนอน โดยสรุปแล้วก็ไม่ได้ตัดรอนกันมากนัก
แน่นอนว่าอย่างไรเสียเย่เฉินเป็นสุภาพบุรุษ เขาทำแบบนี้ก็เป็นปกติ
ไม่ว่าอย่างไรหวังเจียเหยาก็เป็นลมไปแล้วจะให้ปล่อยเจ้าหล่อนตากฝนต่อก็คงไม่ดีกระมัง?
พยาบาลกล่าวต่อ “ตอนที่เราหามคุณหนูหวังออกมาพบว่าร่างกายคุณแห้งหมดแล้ว นอกจากผมและเสื้อผ้าที่เปียกแล้ว พวกแขน ขาก็ไม่เปียกฝนเลย”
พยาบาลพูดจาโกหกอย่างเห็นได้ชัด เย่เฉินแค่อุ้มหวังเจียเหยาเข้ามาที่ห้องรับแขก
แล้วเขาใช้ผ้าขนหนูเช็ดใบหน้าและคออีกฝ่ายเท่านั้น เขาไม่ได้แตะต้องส่วนอื่นในร่างกายหญิงสาวแม้แต่นิดเดียว!
พอฟังมาถึงตรงนี้คนอื่นก็ตกตะลึง
หรือว่าเย่เฉินเช็ดร่างกายทุกส่วนให้หวังเจียเหยาหรือ?
หวังเจียเหยาถึงกับเขินอาย!
หล่อนเองก็หวังว่าความจริงจะเป็นเช่นนี้!
แต่หล่อนเองก็รู้ว่าในวิลล่ามีหญิงรับใช้ อาจจะไม่ใช่ฝีมือเย่เฉิน
ทว่าพยาบาลหญิงคนนั้นยังกล่าวต่อไปว่า “แล้วก็ฉันพบว่าเสื้อเชิ้ตของคุณหนูหวังยับยู่ยี่ ฉันสงสัยว่าผู้ชายในวิลล่าคนนั้นอาจฉวยโอกาสลวนลามคุณ!”
“อะไรนะ?”
พอได้ยินคำพูดของพยาบาลสาว หวังเจียเหยาและซูหลานก็ตื่นเต้นขึ้นมา
หวังเจียเหยากล่าวอย่างดีอกดีใจ “เย่เฉินเขายังรักฉันอยู่ ฉันรู้ว่าเขายังรักฉันอยู่!”
พยาบาลสาวคนเดิมกล่าวอย่างงุนงงว่า “คุณหนูหวัง คุณสวยอย่างกับนางฟ้า มีเหรอผู้ชายที่คุณอยากได้แล้วไม่ได้เขามาน่ะ? ทำไมถึงต้องคุกเข่าอ้อนวอนผู้ชายด้วย? การกระทำแบบนี้ของคุณทำให้ลูกผู้หญิงเราขายหน้าเกินไปแล้วมั้ง! ฉันว่าผู้ชายคนนั้นก็ไม่เท่าไหร่ ก็แค่มีเงินหน่อยเท่านั้นเอง สูงก็ไม่น่าจะถึง 180 ซม.ด้วยซ้ำไป เป็นแค่พวกไก่อ่อนก็เท่านั้นเอง! คุณหนูหวังถ้าคุณอยากจะหาแฟนสักคนฉันแนะนำให้คุณก็ได้ทั้งสูงทั้งหล่อแล้วก็รวยด้วย!”
ซ่งหงเย่ฟังมาถึงตรงนี้ก็หยิบเงินร้อยหยวนออกมาจากกระเป๋าส่งให้พยาบาลแล้วกล่าวว่า “เอาเถอะ ออกไปได้แล้ว ตรงนี้ไม่มีอะไรแล้วล่ะ”
คิดไม่ถึงว่าจะด่าเย่เฉินเป็นไอ่อ่อน?
เศรษฐีอย่างเย่เฉิน หากไม่ใช่ผู้ชายของเพื่อนสนิท ซ่งหงเย่เองก็อยากจะฉกเขามาเหมือนกัน!
หลังจากที่พยาบาลออกจากห้องพักไปแล้ว หวังเจียเหยาก็เขย่ามือของซูหลานอย่างดีอกดีใจ “แม่คะ แม่ได้ยินไหมคะ? ตอนหนูไม่ได้สติเย่เฉินอาจจะจูบหนูก็ได้นะคะ!”
ซูหลานกล่าวอย่างดีใจ “ได้ยินแล้วจ้ะ ลูกสาวแม่สวยขนาดนี้ ไม่ว่าอย่างไรเย่เฉินก็เป็นผู้ชาย เขาเห็นลูกแล้วจะทนได้ยังไงกัน?”
“นี่แปลว่าเขาให้อภัยฉันแล้วหรือเปล่า?”
หวังเจียเหยาหันไปมองซ่งหงเย่ ‘กุนซือ’ ตัวเอง
ซ่งหงเย่ยิ้มพลางกล่าว “ฉันบอกเธอนานแล้วว่าเย่เฉินแค่ปากแข็งเท่านั้นแหละ แต่ในใจเขาคงให้อภยเธอนานแล้ว เพียงแต่เขาเป็นผู้ชายแถมยังเป็นผู้บริหาร เขาก็คงต้องรักษาหน้าตัวเองให้มากเท่านั้น เจียเหยา เธอต้องพยายามต่อไป ไม่ช้าก็เร็วต้องมีสักวันเขาจะต้องคืนดีกับเธอแน่”
หวังเจียเหยาพยักหน้า “อืม!”
หวังซ่าวเจี๋ยและหวังหยวนหยวนเองก็อยู่ด้วย พวกเขาย่อมไม่ได้สนใจใยดีในสุขภาพของหวังเจียเหยาอยู่แล้ว แต่หลักๆ คืออยากจะรู้แน่ชัดว่าเย่เฉินมีท่าทีอย่างไรกับหล่อน
หวังหยวนหยวคิดในใจ “คิดไม่ถึงเย่เฉินจะอาศัยตอนที่หวังเจียเหยาไม่ได้สติแต๊ะอั๋งหล่อน! ฉันหุ่นดีกว่าพี่เจียเหยาตั้งเยอะ ถ้าหากว่ามีวันหนึ่งฉันเป็นลมที่บ้านเย่เฉิน เขาจะทำอะไรฉันบ้างไหมนะ?”
หวังหยวนหยวนเริ่มเพ้อฝัน
หวังซ่าวเจี๋ยสาวเท้าขึ้นมา “หวังเจียเหยา เธอต้องขอบคุณพี่เยอะๆ ถ้าไม่ใช่เพราะที่ผ่านมาพี่คอยจับตาดูเธอ ไม่ให้เธอไปอยู่กับฟางเชาแล้วล่ะก็ ต่อให้เธอสวยขนาดไหนแต่ถูกฟางเชาปู้ยี่ปู้ยำนานเขา เธอว่าเย่เฉินจะอยากแตะต้องเธออยู่ไหม?”
พอพูดแบบนี้หวังเจียเหยาจะต้องขอบคุณหวังซ่าวเจี๋ยจริงๆ!
โกหกเรื่องเปิดห้องที่โรงแรมนั้นยังพอทำให้อีกฝ่ายเชื่อได้ แต่ในช่วงที่จดทะเบียนกันแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะหวังซ่าวเจี๋ยอ้างคุณย่าแล้วโทรเช็คทุกคืน
คาดว่าหวังเจียเหยาคงนอนกับฟางเชาไปนานแล้ว!
อย่างไรเสียก็จดทะเบียนกันแล้วถือว่าเป็นสามีภรรยากันตามกฎหมาย อนาคตยังไงก็ตั้งใจว่าจะอยู่ด้วยกันหวังเจียเหยาไม่มีทางปฏิเสธฟางเชาอยู่แล้ว
ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ เย่เฉินคงจะต้องรังเกียจหวังเจียเหยาแน่!
“ขอบคุณนะคะ พี่ซ่าวเจี๋ย” หวังเจียเหยากล่าวขอบคุณหวังซ่าวเจี๋ยจากใจจริง
พอพูดจบหวังเจียเหยาก็ดึงเข็มน้ำเกลือที่เจาะไว้ออก “ฉันเป็นลมเพราะเสียใจมากเกินไป ไม่ต้องให้น้ำเกลือแล้ว ฉันอยากกลับบ้านไปบอกข่าวเรื่องนี้กับคุณย่า!”
ก่อนนี้คุณนายหวังบอกไว้ว่าถ้าหวังเจียเหยาง้อเย่เฉินไม่ได้จะไม่ถือว่าหล่อนเป็นคนตระกูลหวังอีก
ไปง้อเขาครั้งแรกยังได้ผลขนาดนี้หล่อนย่อมต้องอยากให้หญิงชราได้รับรู้
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ณ วิลล่าเขตซีซาน
“จริงเหรอ? พยาบาลบอกแบบนี้จริงเหรอ?”
พอคุณนายหวังได้ฟังเรื่องราวจากปากหลานสาว หญิงชราก็ยิ้มออกมาอย่างอิ่มเอมใจ “ขอบคุณสวรรค์ที่ประทานหลานสาวที่สวยขนาดนี้ให้ฉัน ฮ่าๆ ขอแค่เย่เฉินยังมีใจให้แก แกก็มีโอกาสจะคืนดีกับเขาแล้ว!”
ซ่งหงเย่เองก็เห็นด้วย “ปัญหาตอนนี้ก็คือเย่เฉินตอนนี้จะต้องทำเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไร หนูกลัวว่าถ้าเจียเหยาไปหาเขาอีก เขาคงจะไม่ให้แม้แต่โอกาสที่จะเข้าพบเขา”
คุณนายหวังพยักหน้า “เย่เฉินเป็นคนหัวแข็ง! เขาเป็นคนแบบนี้จริงๆ! พวกเราควรจะช่วยสร้างโอกาสให้เจียเหยา !”
“ควรจะทำอย่างไรดีคะคุณแม่?” ซูหลานโพล่งถาม
หล่อนอยากมีลูกเขยเป็นเย่เฉินอีกครั้งใจจะขาด
คุณนายหวังครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วทันใดนั้นเองสายตาก็ไปสะดุดที่เจ้าฮัวฮัวพุดเดิ้ลแสนรักในอ้อมกอด หญิงชราวางมันลงบนพื้นแล้วเตะเข้าที่ขาหน้าของมันอย่างแรง
“เอ๋งๆ เอ๋งๆ เอ๋ง”
เจ้าฮัวฮัวครางด้วยความเจ็บปวดทันที
“คุณย่าคะ นี่คุณย่าจะทำอะไรคะ?”
หวังเจียเหยาเองก็ตกใจอย่างมาก ปกติแล้วคุณย่าออกจะรักพุดเดิ้ลตัวนี้มากทีเดียว!
คุณนายหวังกล่าวว่า “ซ่าวเจี๋ยพรุ่งนี้แกโทรหาเย่เฉิน บอกเขาไปว่าเจ้าฮัวฮัวที่เขารักนักรักหนาบาดเจ็บ!”