สองวันต่อมา หลังจากเย่เฉินและคนตระกูลหวังจัดการเรื่องงานศพคุณย่าเล็กเรียบร้อยก็เดินทางออกจากเมืองหยางหนิง
เย่เฉินและหวังเจียเหยานั่งจับมือกันอยู่บริเวณที่นั่งด้านหลังของมายบัคแลนดอเล็ตรุ่นลิมิเต็ดด้วยใบหน้าที่มีความสุข
หวังเจียเหยากล่าวปากถามด้วยท่าทีสนิทสนม “ที่รัก คืนนี้ฉันอยากชวนพวกเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยไปเลี้ยงฉลองกันที่บ้านเราได้ไหมคะ?”
ถ้าหากว่าเป็นห้องชุดในเขตซินเฉิง หวังเจียเหยาย่อมไม่จำเป็นต้องถามความเห็นของเย่เฉิน
คำว่า ‘บ้านเรา’ ที่หลุดมาจากปากหวังเจียเหยานั้นย่อมหมายถึงวิลล่าหรูหราในเขตเหมยกุยหยวนที่เย่เฉินเพิ่งซื้อ
ทั้งสองคนเป็นสามีภรรยากันแล้ว ถ้าอย่างนั้นบ้านของเย่เฉินย่อมเป็นบ้านของหวังเจียเหยาเช่นกัน
เย่เฉินไม่ได้มีท่าทีต่อต้านเมื่ออีกฝ่ายเรียกเขาว่าที่รักอีกแล้ว แต่กล่าวถาม “คุณย่าเล็กเพิ่งเสีย คุณฉลองอะไร?”
หวังเจียเหยากล่าว “ก็ฉลองที่ฉันเป็นผู้หญิงเต็มตัวแล้วไง! ก็ฝีมือนายนั่นแหละ ชิ!”
ขณะที่กล่าวประโยคสุดท้ายแล้วหวังเจียเหยาก็ทุบเย่เฉินน้อยๆ
เมื่อคืนวานในที่สุดความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาระหว่างเย่เฉินและหวังเจียเหยาก็กลายเป็นจริงเสียที นับว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาสองคนก็พัฒนาไปอีกครั้ง
เย่เฉินไม่ได้อยากจะตะต้องหล่อน แต่หวังเจียเหยาเป็นฝ่ายลงมือก่อน
บวกกับที่เย่เฉินรับปากคุณย่าเล็กไว้ว่าจะให้โอกาสอีกฝ่ายอีกครั้ง
สามปีมานี้ไม่ได้นอนกับหวังเจียเหยา ถือเป็นความน่าเสียดายอย่างสูงสุดของเย่เฉิน เขาเองก็เป็นผู้ชายธรรมดาจะทนไหวได้อย่างไร
จากคืนวานทำให้เย่เฉินได้พิสูจน์แล้วว่าหวังเจียเหยาไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับฟางเชาจริงๆ เขาจึงรู้สึกมีความสุขอย่างยิ่ง
“เอาสิ ถ้าคุณอยากชวนเพื่อนมาเที่ยวก็เอาสิ”
เย่เฉินจำได้ว่าเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยส่วนมากของหวังเจียเหยาเป็นคนอวิ๋นโจว หรือไม่ก็พอเรียนจบแล้วก็อยู่ทำงานที่อวิ๋นโจวต่อ
ผู้หญิงพวกนี้เป็นพวกคนชอบดูถูกคนอื่น ก่อนนี้พวกหล่อนมักจะเหยียดหยามเขา เมื่อได้พบตนเองอีกครั้งจะมีท่าทีอย่างไรนะ!
“ขอบคุณนะคะที่รัก!”
หวังเจียเหยาจุมพิตบนหน้าผากของหวังเจียเหยาด้วยท่าทีรักใคร่
จากนั้นหวังเจียเหยาก็เอนศีรษะไปพิงไหล่ของเขาแล้วออดอ้อน “ที่รักฉันอยากไปวิลล่าของนายที่ภูเก็ตจังเลย! แล้วฉันก็อยากไปเจอคุณปู่ คุณย่า คุณพ่อ คุณแม่ของนาย แล้วก็พี่ใหญ่ พี่รอง น้องสาวคนที่สี่ ห้า หก เจ็ดของนาย! ฉันอยากให้พวกเขารู้ว่าฉันคือลูกสะใภ้ตระกูลเย่ของพวกเขา!”
……
เวลาหนึ่งทุ่ม ณ วิลล่าเขตเหมยกุยหยวน
ซ่งหงเย่รวมไปถึงหญิงสาวอายุยี่สิบต้นๆ ห้าหกคนมาที่วิลล่าของเย่เฉิน
บรรดาหญิงสาวเพิ่งจะย่างกรายเข้ามาในตัวบ้านก็เอ่ยชมการตกแต่งที่หรูหรา และข้าวของราคาแพง รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ที่พวกหล่อนไม่แม้แต่จะเคยเห็นมาก่อนไม่ขาดปาก
“เจียเหยา สามีเธอนี่รวยจริงๆ ฉันไม่เคยเห็นบ้านที่หรูหราแบบนี้มาก่อนเลย!”
“คุณเย่นี่เหมาะสมกับพี่เจียเหยาจริงๆ พวกพี่ทั้งหน้าตาดีแล้วก็มีชาติตระกูลที่ดีด้วย วางแผนว่าจะมีน้องกันเมื่อไหร่เหรอคะ?”
“นั่นสิ จริงด้วย พวกเรารอกินบะหมี่ซั่ว[1]ของเธอสองคนอยู่นะ!”
หวังเจียเหยาลำพองใจเมื่อได้ยินคำชื่นชมของเพื่อนสมัยเรียน
ที่ผ่านมาหวังเจียเหยาเองค่อนข้างเขินอายที่จะพาเย่เฉินมาพบเพื่อนของหล่อน เพราะเพื่อนๆ เหล่านี้ต่างก็ชอบดูแคลนคนอื่นอย่างยิ่ง พวกหล่อนมักจะเหน็บแนมตนเองเรื่องที่เย่เฉินแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิง
ตอนนี้ทุกคนต่างก็รู้ว่าเย่เฉินเป็นประธานบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ป ทำให้เพื่อนๆ พวกนี้เริ่มริษยาหวังเจียเหยาขึ้นมา
หวังเจียเหยากล่าว “ฉันกับเย่เฉินเองก็เองวางแผนจะมีลูกกัน ถ้าโชคดีล่ะก็น่าจะใกล้ติดแล้ว”
แล้วเพื่อนอีกคนก็เสริมขึ้น “ฉันช่วยนับให้ ถ้าเธอท้องเดือนนี้ก็น่าจะคลอดเดือนกุมภาพันธ์ เอ๊ะ เดือนกุมภาพันธ์นี่ราศีอะไรนะ?”
เพื่อนอีกคนถือแก้วไวน์ ก่อนจะตอบด้วยรอยยิ้ม“ก็น่าจะเป็นราศีกุมภ์หรือราศีมีน เจียเหยาเธออยากให้ลูกพวกเธออยู่ในราศีอะไรกุมภ์หรือมีน?”
เพื่อนอีกคนหัวเราะ “ฉันว่านะ ขอแค่เป็นลูกคุณเย่จะราศีอะไรก็ได้ล่ะมั้ง”
“ฮ่าๆ ดูเธอพูดเข้า ถ้าไม่ใช่ลูกคุณเย่แล้วจะเป็นลูกของใครไปได้”
ผู้หญิงพวกนี้ดื่มเหล้า ปาร์ตี้และพูดคุยกัน ก่อนหน้านี้เย่เฉินได้แวะมาทักทาย และขอตัว
ผู้หญิงพวกนี้กับหวังเจียเหยาคบกันแค่ฉาบฉวย ก่อนนี้พวกหล่อนต่างก็ดูถูกเขา เย่เฉินเองก็ไม่จำเป็นต้องอยู่เป็นเพื่อนพวกหล่อน
หวังเจียเหยาทำไปเพื่ออวดสามีถึงได้ตามเพื่อนๆ พวกนี้มากินเลี้ยงกัน
ที่จริงแล้วหล่อนไม่ได้มีอะไรจะคุยกับเพื่อนตัวเอง ตอนเรียนมหาวิทยาลัยคนพวกนี้ก็ริษยาความสวยของหล่อนจึงมักจะแอบนินทาหล่อนอยู่เสมอ
พอรู้ว่าสามีของหวังเจียเหยาเป็นผู้ชายห่วยๆ ไม่รู้ว่าคนพวกนี้แอบหัวเราะเยาะหล่อนไปกี่ครั้ง
ปาร์ตี้กันอยู่ชั่วโมงหนึ่ง ซ่งหงเย่กับหวังเจียเหยาก็ขึ้นไปดื่มเหล้าที่ชั้นสอง ส่วนคนอื่นยังคงอยู่กันที่ชั้นหนึ่ง ชิมเหล้าดังๆ ที่เย่เฉินนำเข้ามาจากต่างประเทศ แล้วถ่ายรูป ส่งข้อความเสียง และแชร์รูปภาพในโมเม้นท์วีแชท
ซ่งหงเย่ถือแก้วเหล้า ขณะยืนอยู่ที่ด้านหน้าระเบียงแล้วมองกลุ่มเพื่อนที่ไร้รสนิยมของหวังเจียเหยาก็หัวเราะเสียงแผ่ว ก่อนจะหันไปถามเพื่อนสนิท
“เจียเหยาเธอเผด็จศึกเย่เฉินแล้วใช่ไหม?”
หวังเจียเหยาพยักหน้าอย่างลำพองใจ
ซ่งหงเย่ถามต่อ “เขาไม่สงสัยเลยใช่ไหม?”
หวังเจียเหยาตอบ “แน่สิ!”
ซ่งหงเย่กล่าวต่อ “งั้นก็ดี อ้อจริงสิ ทรัพย์สินของพวกเธอแบ่งกันยังไง? หรือว่ายังยึดตามข้อตกลงที่เซ็นกันไว้ตอนแต่งงานครั้งก่อน?”
ก่อนที่หวังเจียเหยากับเย่เฉินแต่งงานกันพวกเขาสองคนเซ็นข้อตกลงกันก่อนแต่งงานว่าทรัพย์สินของแต่ละคนจะไม่เกี่ยวข้องกัน
ในเมื่อไม่เกี่ยวข้องกันแปลว่าวิลล่าหรู รถหรูและบริษัทของเย่เฉินไม่เกี่ยวอะไรกับหวังเจียเหยา
ตอนที่เซ็นข้อตกลงฉบับนี้เป็นเพราะคนตระกูลหวังกลัวว่าเย่เฉินจะเอาเปรียบพวกเขา ตอนนี้ใครจะไปรู้ว่ามันจะกลับกันอย่างสิ้นเชิง
กลายเป็นเย่เฉินต่างหากที่กลัวว่าจะโดนคนตระกูลหวังเอาเปรียบ!
หวังเจียเหยากล่าวว่า “จริงสิ ฉันเคยถามเย่เฉิน เขาบอกว่าต้องหลังจากที่ไปพบคุณปู่เขาที่อังกฤษ ให้คุณปู่เขาพบฉันก่อนแล้วยอมรับฉัน ถึงจะรับฉันเป็นทายาทของตระกูลเย่”
ซ่งหงเย่กล่าวอย่างร้อนรน “แล้วทำไมเธอไม่รีบไปหาปู่เขาที่อังกฤษล่ะ! จะมาจัดงานปาร์ตี้อะไรกันแม่คุณหนู! เรื่องไหนที่สำคัญกว่ากัน? ฉันจะบอกเธอให้นะ เรื่องที่พวกเธอยังไม่หย่ากันไม่ใช่เรื่องที่สำคัญที่สุดอีกแล้ว ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือทรัพย์สินของตระกูลเย่ต่างหาก!”
เพราะหวังเจียเหยาเตรียมตัวจะท้องจึงไม่ได้ดื่มเหล้า หล่อนดื่มน้ำแล้วกล่าว “รีบร้อนอะไร ตอนนี้ฉันกำลังจะมีลูก เย่เฉินรักฉันขนาดนี้ ตระกูลเย่ต้องยอมรับฉันแน่ สบายใจได้เลย”
ใบหน้าซ่งหงเย่เหนื่อยหน่าย “เธอนี่มันใจกว้างจริงๆ เธอไม่กลัวว่าฟางเชาจะมาหาเย่เฉินแล้วปูดเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้นของพวกเธอหรือไง?”
หวังเจียเหยาหัวเราะเสียงแผ่ว “ตอนนี้เขาเองยังเอาตัวไม่รอดเลยพูดความจริงอย่างนั้นเหรอ? เขากลัวอายุจะยืนหรือไง? หลิวเจิ้งคุนกับซีกวาเป็นลูกน้องของสามีฉันนะ!”
ซ่งหงเย่กล่าวด้วยความกังวล “ฉันได้ยินมาว่าเขาไปพบคนตระกูลหลิ่วที่เทียนไห่ ศักยภาพของคนตระกูลหลิ่วก็ลึกล้ำเกินจะคาด ต่อให้ตระกูลเย่โหดขนาดไหน ปู่ของเขาก็ย้ายไปอังกฤษตั้งนานแล้ว คิดว่าศักยภาพของพวกเขาในประเทศตอนนี้น่าจะด้อยกว่าตระกูลหลิ่วด้วยซ้ำ”
หวังเจียเหยายังคงไม่พอใจ “ในฐานะที่หลิ่วหรูซือเป็นคนของตระกูลหลิ่ว ไปขอร้องอ้อนวอนตระกูลหลิ่วยังไม่ได้ ฟางเชาแซ่ฟาง คนตระกูลหลิ่วไม่สนใจเขาหรอก สบายใจได้ ฉันรู้เรื่องตระกูลหลิ่วกับตระกูลฟางมากกว่าเธอ ตระกูลหลิ่วไม่มีทางล่วงเกินตระกูลเย่เพื่อฟางเชาหรอก”
ซ่งหงเย่ไม่พูดอะไรอีก หล่อนชูแก้วไวน์ขึ้น “อย่างนั้นก็ขอแสดงความยินดีล่วงหน้ากับเศรษฐินีสาวแสนล้านไว้ก่อนเลย”
“ขอบใจนะเพื่อนสาว รอฉันมีเงินแสนล้านจะให้เธอซักหลายพันล้านเอาให้เธอไว้เลี้ยงผู้ชาย ฮ่าๆ”
หวังเจียเหยายกแก้วน้ำขึ้นชนกับซ่งหงเย่
[1] บะหมี่ซั่ว (เป็นอาหารที่กินในงานแต่งงาน)