ปวดหัวกับหน้าที่ที่โดนยัดเยียดไม่พอยังต้องมาปวดหัวกับไอเด็กปีหนึ่งที่ชอบแหกกฎอีกงานนี้เขาจะรับมือกับไอเด็กตัวแสบไหวมั้ยนะหรือว่าจะต้องทำโทษให้มันตายไปข้างนึงดีแต่ทำไมยิ่งอยู่ใกล้ใจเขามันถึงเต้นแปลกๆนะ
แสดงเพิ่มเติม
ปวดหัวกับหน้าที่ที่โดนยัดเยียดไม่พอยังต้องมาปวดหัวกับไอเด็กปีหนึ่งที่ชอบแหกกฎอีกงานนี้เขาจะรับมือกับไอเด็กตัวแสบไหวมั้ยนะหรือว่าจะต้องทำโทษให้มันตายไปข้างนึงดีแต่ทำไมยิ่งอยู่ใกล้ใจเขามันถึงเต้นแปลกๆนะ
แสดงเพิ่มเติม
“ ไอเชี้ยขาล! เร็วๆหน่อยดิวะ มึงแม่งมีรับน้องอีกนะเว้ย “ ป้องตะคอกใส่ปีขาลเสียงดังลั่น เมื่อเพื่อนตัวดีของเขาเอาแต่ใส่รองเท้าอยู่ในรถซึ่งตอนนี้เขาทั้งคู่ได้อยู่ที่มหาลัยเป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่ติดตรงที่ปีขาลนั้นยังคงไม่ได้มีท่าทีรีบร้อนเหมือนกับเพื่อนอย่างป้องเลยแม้แต่น้อย
“ มึงให้กูใส่รองเท้าก่อนได้มั้ยไอสัสป้อง จะรีบไปไหนของมึงนักหนาวะ “ ปีขาลขมวดคิ้วใส่เพื่อนตัวดีด้วยความรำคาญ
“ จะไม่ให้กูรีบได้ไง นี่มันกี่โมงกี่ยามละมึงแหกตาดูด้วยครับเพื่อนขาล รับน้องตอนสี่โมงเย็นแต่นี่แม่งบ่ายสามห้าสิบละมึงยังไม่ได้เสด็จไปที่คณะเลยจะให้พวกกูรับน้องกันกี่โมงไม่ทราบครับไอ้คุณเฮดว๊าก! “ ป้องตะหวัดหางตาไปทางปีขาลอย่างหาเรื่อง
ทั้งคู่เรียนอยู่ปีสามของคณะวิศวะมหาลัยชื่อดังย่านMMM ปีขาลได้รับมอบหมายจากรุ่นพี่ปีสูงให้รับตำแหน่งเฮดว๊ากแทนอย่างไม่มีข้อเรียกร้องใดๆ ไอตัวของปีขาลนั้นก็เป็นคนประเภทพวกใครขออะไรก็ทำให้หมด มันเลยทำให้เขาต้องมารับหน้าที่นี้ต่ออย่างเลือกไม่ได้ ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้ชื่อเสียงของปีขาลและกลุ่มเพื่อนนั้นก็ได้โด่งดังไปทั่วโดยมีรุ่นน้องต่างให้ฉายากลุ่มของปีขาลว่า “ ทรงโจรแต่โดนใจ “ เพราะเอกลักษณ์ของกลุ่มของปีขาลนั้นก็คือ โหด ดิบ ถ่อย เถื่อนและปากจัด แต่ถึงจะถูกจัดให้เป็นกลุ่มที่แบดบอยและน่ากลัวมากที่สุดในมหาลัยแต่ก็ยังเป็นกลุ่มเดียวกับที่สาวๆอยากจะเข้าหามากที่สุดด้วยเช่นกัน
“ มึงอย่าเว่อร์ได้ปะ มึงคิดว่าน้องๆมันจะมาเร็วกันหรือไง มึงจะตอนที่มึงอยู่ปีหนึ่งไม่ได้งั้นดิ “ ปีขาลตอบกลับไปอย่างเซ็งๆ
“ เหอะ! พนันกับกูมั้ยละ ถ้ามึงมาช้ากว่าพวกน้องๆมึงต้องเลี้ยงเหล้าพวกกูแต่ถ้าน้องมันมาช้ากว่ามึงเดี๋ยวพวกกูเลี้ยงเหล้ามึงเอง เคมะ “ ป้องยักคิ้วใส่ปีขาลอย่างท้าทาย
“ เอาดี๊ “ ปีขาลตอบรับคำท้านั้นทันทีโดยไม่เสียเวลาคิดนาน
.
.
.
“ เลี้ยงเหล้ากูด้วยครับ “ ป้องหันไปบอกปีขาลยิ้มๆเมื่อมาถึงคณะ ปีขาลได้แต่กรอกตามองบนอย่างเซ็งๆ เพราะเมื่อเขามาถึงก็พบว่าเด็กปีหนึ่งจำนวนไม่น้อยได้มานั่งอยู่ที่โดมที่เขาต้องประชุมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ เออ “ ปีขาลตอบกลับไปอย่างไม่เต็มใจ ป้องได้แต่อมยิ้มขำๆให้กับท่าทางของเพื่อนสนิท
“ ไอเชี้ยขาลมันเป็นอะไรของมันวะไอป้อง “ นับวันถามขึ้นด้วยความสงสัย เมื่อเห็นใบหน้าที่บูดบึ้งของเพื่อน
“ เดี๋ยวจบรับน้องกูเล่าให้ฟัง “ ป้องบอกนับวันยิ้มๆ
“ พวกพี่คะ ได้เวลาแล้วค่ะพี่ เชิญค่ะ “ เพียงดาวหญิงสาวชั้นปีสองเดินมาบอกรุ่นพี่ที่นั่งอยู่ทางด้านหลังของโดม เมื่อได้เวลาที่พวกปีสามจะต้องไปพูดคุยกับน้องปีหนึ่งแล้ว
“ ได้เลยจ่ะน้องเพียง เดี๋ยวพวกพี่ไปนะจ๊ะ “ ป้องพูดเสียงหวานพร้อมกับส่งรอยยิ้มพริมใจไปให้เพียงดาว เธอได้แต่ส่งยิ้มกลับไปให้รุ่นพี่หน้าโหดและเดินกลับไปประจำที่เดิม
“ เลิกม่อแล้วไปทำหน้าที่มึงได้แล้วไอเชี้ยป้อง “ นับวันตบหัวป้องไม่แรงนัก
“ มึงนี่มารขัดจังหวะกูจังเลยนะไอห่านับ “ ป้องหันไปมองขวางเพื่อนสนิท
“ มึงรีบเดินเร็วๆดิ๊ เดี๋ยวไอขาลมันก็แดกหัวมึงเอาหรอก มึงดูหน้ามัน “ นับวันพยักหน้าไปทางปีขาลที่ปลายตามองพวกเขาอยู่ทางด้านหลัง
“ อุ๊ย! แหะๆ รีบไปกันดีกว่าเนอะพี่ขาลเนอะ “ ป้องยิ้มแหยๆแล้วรีบเดินจ้ำไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้นับวันกับปีขาลได้แต่ส่ายหัวด้วยความอ่อนใจ
“ อย่าดุมากนะมึง น้องมันจะเกร็งเอา “ นับวันกระซิบบอกปีขาลนิดๆเมื่อใกล้ถึงทางด้านหน้าที่พวกเขาจะต้องไปพบเจอกับพวกรุ่นน้อง
“ เออ “ ปีขาลบอกอย่างเซ็งๆ
“ ไงพวกมึง “ นิวเพื่อนในกลุ่มของปีขาลเอ่ยทักขึ้นพร้อมกับฟิว นุและพอส
“ มากันนานแล้วหรอวะ “ นับวันถามยิ้มๆ
“ เออดิ รอพวกมึงจนพวกกูจะหลับกันอยู่ละ “ นุอ้าปากหาวด้วยความง่วง
“ กูเชื่อละว่าง่วงจริง “ นับวันพูดยิ้มๆ
“ เชิญค่ะพวกพี่ๆ “ หญิง หัวหน้าสันทนาการปีสองเดินเข้ามาบอกพวกปีขาล ปีขาลเดินมาข้างหน้าพร้อมกับพยักหน้ารับรู้ ส่วนคนอื่นๆนั้นก็เดินต่อปีขาลมาติดๆ เริ่มจากนับวันต่อด้วย นิว ฟิว นุและป้อง
“ ต่อไปจะเป็นการพูดคุยกับพี่ปีสามนะครับ ปีหนึ่งทั้งหมด..เคารพ!! “ ต่อ ปีสองเลขาฝ่ายสันทนาการพูดใส่ไมค์บอกกับเด็กปีหนึ่งที่นั่งอยู่ทางด้านหน้า
“ สวัสดีครับ/ค่ะ!!! “ เสียงปีหนึ่งทั้งชายและหญิงเอ่ยขึ้นอย่างพร้อมเพรียง
ปีขาลเดินนำคนอื่นๆออกมาด้านหน้าด้วยท่าทีนิ่งๆจนมาหยุดอยู่ตรงหน้าเด็กปีหนึ่งคณะวิศวะทุกคน
“ สวัสดีปีหนึ่ง ผมชื่อสิงค์เหนือหรือจะเรียกผมว่าปีขาลก็ได้ ผมเป็นรุ่นพี่ปีสามของเด็กปีหนึ่งอย่างพวกคุณ ดังนั้นขอให้พวกคุณทุกคนเคารพผมและรุ่นพี่คนอื่นๆด้วยนะครับ “ ปีขาลเอามือไขว้หลังพร้อมกับมองหน้าเด็กปีหนึ่งทั้งชายและหญิงที่นั่งมองเขาอยู่ด้วยท่าทีนิ่งๆและสุขุมไม่น้อย
“ ที่ผมมาพบพวกคุณในวันนี้ก็เพราะต้องการจะมาบอกพวกคุณถึงกฎการอยู่ที่มหาลัยของผม มหาลัยที่พวกคุณกำลังนั่งอยู่ในตอนนี้แหละครับ “
“ กฎของที่นี่ไม่มีอะไรมากครับ ข้อหนึ่ง พวกคุณทุกคนต้องเคารพรุ่นพี่ไม่ว่าจะชั้นปีไหนหรือคณะใดก็ตาม อย่าให้เรื่องมาถึงหูของผมว่าเด็กปีหนึ่งที่เข้ามาคณะผมไม่มีการยกมือไหว้รุ่นพี่ ไม่อย่างนั้น..เราอาจจะต้องประชุมกันนอกรอบอีกนะครับ ข้อสอง พวกคุณจะต้องทำตามที่รุ่นพี่สั่งทุกอย่างไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร..พวกคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะคัดค้านทั้งสิ้น ข้อสาม พวกคุณจะต้องเข้าร่วมกิจกรรมของคณะวิศวะโดยไม่มีข้อแม้ที่จะไม่เข้าร่วม ผมไม่สนใจในเหตุผลอะไรของพวกคุณทั้งนั้น ไม่ต้องหาข้ออ้างนะครับ ข้อสี่ พวกคุณทุกคนจะต้องมาถึงที่โดมของคณะผมในเวลาสี่โมงตรงทุกวัน ห้ามเลท ห้ามสาย ห้ามช้าเกินกว่าพวกผมแม้ แต่ คน เดียว ข้อห้า พวกคุณทุกคนจะต้องแขวนป้ายชื่อที่ปีสองของคณะผมมอบให้พวกคุณ ห้ามหาย ห้ามขาด ห้ามลืมอย่างเด็ดขาด ข้อหก พวกคุณทุกคนต้องตามล่าลายเซ็นรุ่นพี่ปีสอง สามและสี่เป็นเวลา หนึ่งเดือน อ่อ..ผมลืมบอกไปอีกอย่างนึงครับ “
“ ทุกอย่างที่ผมพูดขึ้นเมื่อสักครู่นี้ ให้พวกคุณคัดใส่กระดาษรายงานมาจำนวนห้าแผ่นและนำมันมาส่งผมในวันพรุ่งนี้ตอนสี่โมงตรง ห้ามเลทนะครับ และผมขอบอกพวกคุณปีหนึ่งเอาไว้ตรงนี้ว่าจะไม่มีการรับฟังคำแก้ตัวใดๆทั้งสิ้น ผมขอทุกบรรทัดทุกตัวอักษรและห้ามตกหล่นแม้แต่คำเดียว เรื่องที่ผมจะพูดมีเท่านี้ครับ “ ปีขาลมองหน้าเด็กปีหนึ่งที่กำลังอ้าปากค้างด้วยความตกใจอยู่
“ ปีหนึ่งเคารพ! “ ต่อตะโกนบอกรุ่นน้องเสียงเข้ม
“ สวัสดีครับ/ค่ะ! “ ปีหนึ่งทุกคนยกมือไหว้ปีสามอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งบางคนนั้นก็ยกมือไหว้ทั้งๆที่คิ้วขมวดเป็นโบว์อยู่
ปีขาลและคนอื่นๆเอามือไขว้หลังและเดินออกไปทางเดิมด้วยท่าทีสุขุมเหมือนในตอนแรก