เช้าวันต่อมา
มหาลัย
“ เออไอขาล ตอนเย็นเราต้องมีว๊ากน้องกันอีกปะวะ “ ป้องหันไปถามปีขาลจดเลคเชอร์ที่อาจาร์ยสั่งอยู่ ปีขาลหันมาทางป้องนิดๆ
“ เออ ทำไม “ ปีขาลเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“ เมื่อวานกูสั่งให้พวกน้องมันล่ารายเซ็นพวกรุ่นพี่ ไม่รู้ว่ามันเริ่มทำกันรึยัง ยังไงมึงก็ลองถามพวกน้องๆมันดูแล้วกันนะ “ ป้องบอกพร้อมกับหันไปจดต่อ ปีขาลตอบรับในลำคอนิ่งๆพลางนึกไปถึงเด็กปีหนึ่งที่ชื่อกุน
“ หวังว่าไอเด็กนั่นจะไม่แหกกฎอีกหรอกนะ “ ปีขาลคิดในใจ
.
.
11:40น.
“ มึงจะกินไรวะ “ พนาหันไปถามกุนเมื่อตอนนี้พวกเขาได้นั่งกันอยู่ที่โรงอาหารของคณะ
“ อะไรก็ได้ “ กุนตอบเสียงนิ่งและหันไปสนใจโทรศัพท์ต่อ จนพนาที่นั่งอยู่ตรงข้ามต้องชะโงกหน้ามาดูโทรศัพท์ของกุน
“ มึงดูไรอ่ะ “ เสียงทะเล้นของพนาถามขึ้น
“ เสือก “ กุนด่าแบบไม่จริงจังมากนัก ทิ้งให้พนาแบะปากทันทีพร้อมกับมองไปที่โทรศัพท์ของกุนอีกครั้งก็พบว่าภายในหน้าจอของกุนมีหน้าเฟสของรุ่นพี่เฮดว๊ากอยู่
“ กูเห็นมึงส่องพี่เขาทุกวันเลย ไม่แอดไปหาเขาให้มันจบๆไปเลยวะ “ พนาถามด้วยความสงสัย เพราะไอเพื่อนตัวดีของเขามันเอาแต่ส่องเฟสรุ่พี่หน้าหวานแบบนี้เป็นอาทิตย์แล้วตั้งแต่มันได้เฟสพี่เขามาจากเพจดาวเดือนของคณะวิศวะ เพราะปีขาลนั้นมีดีกรีเป็นถึงรองเดือนของมหาลัย ส่วนเดือนมหาลัยก็คือพอสรุ่นพี่ที่พนาพึ่งมีปัญหาเมื่อวานนั่นเอง
“ ยัง กูรอคุยกับเขามากกว่านี้ก่อน ค่อยแอดไป “ กุนบอกพร้อมกับมองไปที่หน้าจอของตัวเองยิ้มๆ
“ เออๆๆแล้วแต่มึงเหอะ แล้วนี่..เราจะเริ่มขอลายเซ็นใครก่อนดีวะ เอาปีไหนก่อนดี “ พนาถาม พลางหันมองไปรอบๆซึ่งก็มีปีสองและสามเดินผ่านกันไปมา บางกลุ่มก็นั่งกินข้าวหรือไม่ก็จับเข่าคุยกัน ส่วนบางกลุ่มก็เดินสวนกันไปมา ซึ่งมีเด็กปีหนึ่งหลายคนที่เริ่มตามล่ารายเซ็นกันบ้างแล้ว และแน่นอนว่าเด็กปีหนึ่งอย่างพวกเขาก็โดนแกล้งและโดนสั่งให้ทำโทษกันไปตามระเบียบ
“ ปีสาม “ กุนตอบพนาสั้นๆ ซึ่งเป็นคำตอบที่ทำให้พนากรอกตามองบนทันที
“ กูว่าละ ยังไงมึงก็ไม่พ้นพี่เขาเนาะ “ พนาแบะปากด้วยความหมั่นไส้
“ รู้แล้วจะถามทำไม “ กุนเงยหน้ามองพนาอย่างกวนๆ
“ ไอสัส กูก็นึกว่ามึงจะไปปีอื่นบ้างไง “ พนาตอบ
“ …….. “ กุนไม่ตอบอะไรเพื่อนกลับไปแต่เปลี่ยนเป็นดูเฟสของปีขาลต่อแทน
“ นั่นมันกลุ่มพวกเฮดว๊ากนี่หว่า “ พนาพูดขึ้นเมื่อเงยหน้าไปมองทางด้านหลังกุนแล้วพบว่ากลุ่มของปีขาลกำลังเดินมาทางพวกเขา กุนหันไปมองทันทีที่พนาพูดจบ
.
.
“ ปีหนึ่งแม่งเต็มเลยวะ นี่กูต้องเก๊กหน้าอีกแล้วหรอวะ “ ป้องกระซิบบอกกับฟิวอย่างเซ็งๆ
“ เออดิ ไม่งั้นน้องมันก็ไม่กลัวพวกเราดิวะ “ ฟิวกระซิบตอบกลับไปเช่นกัน
“ นิ่งก่อนไอสัส พวกน้องๆมองทางพวกเราอยู่ “ นุกระซิบบอกป้องและฟิวที่เดินอยู่ด้านหน้า ซึ่งทางด้านหน้าของป้องและฟิวนั้นก็มีปีขาลที่เดินนำอยู่
“ หรอวะ “ ป้องรีบทำหน้านิ่งทันทีที่ได้ยินนุบอก
“ นั่งนี่แล้วกัน “ พอสบอกเมื่อเจอโต๊ะว่างแล้ว
“ พวกมึงจะแดกไรกันวะ “ ฟิวเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“ อะไรก็ได้ “ ปีขาลตอบเสียงนิ่ง
“ ให้ไอขาลแดกเหมือนกูก็ได้ กูแดกเส้นเล็กเย็นตาโฟ “ พอสตอบ
“ กูไม่แดกเส้นเล็ก “ ปีขาลหันไปมองหน้าพอสนิ่ง ทุกคนได้แต่มองหน้ากันด้วยความเหนื่อยใจ
“ แล้วไม่ทราบว่าคุณมึงจะแดกอะไรละครับ “ ฟิวถอนหายใจแล้วถามปีขาลกลับไป
“ อะไรก็ได้ ที่ไม่ใช่เส้นเล็ก “ ปีขาลตอบอย่างกวนๆ
“ ก็อะไรก็ได้ของมึงมันต้องไม่มีข้อห้ามดิวะไอคุณปีขาล “ พอสเถียงออกมาอย่างไม่ยอมแพ้
“ ก็กูจะแดกอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่เส้นเล็กไง “ ปีขาลยังคงเถียงฟิวกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้
“ งั้นมึงก็บอกไปดิว่าจะแดกอะไร “ พอสพูดขึ้นอีกครั้ง
“ ก็กูบอกอยู่ว่าอะไรก็ได้ “ ปีขาลตอบหน้าตาย
“ งั้นมึง… “ พอสทำท่าจะพูดขึ้นอีกครั้งแต่ติดที่ป้องพูดขัดขึ้นมาเสียก่อน
“ พอกันทั้งคู่นั่นแหละ นี่พวกมึงเถียงกันเรื่องแดกข้าวอีกแล้วนะแม่งเถียงกันทุกวันเรื่องแดกข้าวเนี้ย เอางี้ไอฟิว มึงไปซื้อข้าวมันไก่ให้พวกแม่งไปทั้งคู่อ่ะ ส่วนมึงสองคนก็อยู่เฝ้าโต๊ะไป “ ป้องแจกแจงเสร็จก็ลุกขึ้นแล้วดันไหล่แกร่งของนุและฟิวให้เดินไปซื้อข้าว
“ เพราะมึงเลยไอเชี้ยขาล “ พอสชี้นิ้วไปทางปีขาล
“ ก็ถ้ามึงไม่สั่งเส้นเล็กกูก็ไม่ต้องมานั่งเถียงกับมึงหรอก “ ปีขาลจ้องหน้าพอสอย่างหาเรื่อง
“ วันหลังถ้ามึงอยากแดกอะไรมึงก็บอกพวกมันไปเลยดิวะ “
“ ก็กูไม่รู้จะแดกอะไรนี่ “
“ กูก็เลือกให้แล้วนี่ไง “
“ ก็กูไม่แดกที่มึงเลือกไง “
“ อย่าเรื่องมากได้ปะสัส สั่งอะไรให้ก็แดกๆไปเหอะ “
“ ก็กูไม่แดกเส้นเล็ก “
“ มึงนี่แม่ง “
พอสและปีขาลต่างเถียงกันอย่างไม่มีใครยอมใคร โดยไม่รู้เลยว่าคำพูดทุกอย่างได้อยู่ในสายตาของกุนและพนาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ กูไม่คิดว่าพวกพี่มันจะเถียงกันเป็นเด็กๆขนาดนี้ “ พนายิ้มขำออกมานิดๆ
“ น่ารักดี “ กุนพูดยิ้มๆแต่สายตายังคงจับจ้องไปที่ใบหน้าหวานของปีขาลที่ยังคงเถียงอยู่กับพอสอย่างไม่ยอมแพ้ พนาได้แต่กรอกตามองบนด้วยความหมั่นไส้
“ มึงจะเป็นไอเจ้าคนคลั่งรักอย่างสมบูรณ์แบบแล้วนะไอห่านิ่ง ชมเขาอยู่นั่นอ่ะ แต่พอเจอหน้าเขานะก็กวนส้นตีนเขางี้ ย้อนแย้งฉิบหาย “ พนาหัวเราะพลางส่ายหัวเล็กน้อยกับการกระทำของเพื่อน
“ เวลาโกรธน่ารักดี “ กุนหันมาบอกพนายิ้มๆ
“ ไอเชี้ยนิ่งกูขนลุกเลยสัส “ พนาลูบแขนตัวเองแล้วจ้องหน้ากุนเหมือนเห็นตัวประหลาด
“ ปวดขี้ “ กุนเลิกคิ้วเป็นเชิงถามแต่พนานั้นก็มองออกมาว่าเพื่อนตัวดีมันกำลังกวนตีนเขาอยู่
“ ปวดขี้พ่อง “ พนาถลึงตาใส่กุนดุดุ กุนยกยิ้มมุมปากใส่เพื่อนรักแล้วก็หันไปมองทางด้านหลังของพนาต่อ เพราะมีร่างเล็กของปีขาลนั่งเถียงกับพอสอยู่
“ มึงจะเข้าไปขอลายเซ็นพี่มันเลยมั้ย “ พนาถาม กุนละสายตาจากใบหน้าหวานมามองเพื่อนสนิทนิ่งๆ
“ สักพัก ไปหาอะไรกินก่อน กินเสร็จค่อยไป “ กุนตอบ เพราะเขามั่นใจเลยว่าร่างบางจะต้องหาเรื่องแกล้งเขาแน่ๆ เขาจึงอยากเตรียมกำลังของตัวเองให้ดีก่อน เวลาโดนแกล้งจะได้ไม่ทรมานมากนัก
“ แดกเพิ่มพลังว่างั้น “ พนาถามกุนยิ้มๆ กุนเองก็ยกยิ้มตอบกลับไป
“ งั้น..กินเล็กต้มยำร้านโปรดมึงปะ “ พนาชี้ไปยังร้านก๋วยเตี๋ยวซึ่งอยู่ไม่ไกลจากพวกเขาเท่าไหร่นัก
“ ไม่ “ กุนปฎิเสธ
“ แล้วมึงจะกินไรวะ “ พนาถามพลางมองหาร้านที่ขายอาหารไปด้วย
“ ข้าวมันไก่ “ การตอบของกุนนั้นทำให้พนาหันมามองพลางถอนหายใจด้วยความเหนื่อย
“ ใจคอจะกินตามเขาทุกอย่างเลยรึไงมึง นี่เล็กต้มยำของโปรดมึงเลยนะเว้ย “ พนาถาม
“ อย่าถามเยอะ ไปซื้อมาได้แล้ว “ กุนไม่ตอบแต่ยื่นเงินส่งไปให้พนาแทน
“ มึงเลี้ยง “ พนาแกล้งถามเพื่อนสนิทยิ้มๆเมื่อเห็นว่ากุนยื่นแบงค์ร้อยมาให้
“ ก็ถ้ามึงไม่เรื่องมากกูก็เลี้ยง “ กุนตอบพ้อมกับยักคิ้วส่งไปให้
“ ขอบใจมากเพื่อนรัก “ พนาพูดยอ่างอารมณ์ดี พลางลุกไปซื้อข้าวมันไก่ตามที่กุนสั่ง
.
.
“ อะข้าวมันไก่ของพวกมึง “ ฟิวยื่นจานของพอสและปีขาลส่งไปให้ทั้งสอง ซึ่งทั้งสองก็ยื่นมือไปรับของตัวเองเอามาวางไว้บนโต๊ะ
“ เท่าไหร่ “ ปีขาลถามพร้อมกับหยิบกระเป๋าตังค์ขึ้นมา
“ คนละสี่สิบ “ ฟิวตอบ
“ มึงไม่ต้อง เดี๋ยวกูเลี้ยงเอง “ พอสยักคิ้วใส่ปีขาลอย่างกวนๆ
“ เพื่อ? “ ปีขาลขมวดคิ้วถามพอสด้วยความสงสัย
“ วันนั้นมึงเลี้ยงน้ำพวกกูไปแล้ว จำไม่ได้รึไง “ พอสเอ่ยทวนความจำ เพราะเมื่อตอนที่พวกเขารับน้องใหม่ๆปีขาลเป็นฝ่ายส่งเงินไปให้พวกรุ่นน้องปีสองเพื่อให้ซื้อน้ำมาให้พวกเขาและพวกของปีสองเองทั้งๆที่ตัวของปีขาลนั้นเป็นคนใช้เสียงมากกว่าพวกเขาแท้ๆ แต่ปีขาลกลับเป็นคนที่กินน้ำน้อยที่สุดเพราะต้องประชุมกับพวกปีสองต่อเพื่อสั่งงานต่อไปให้พวกปีสองดูแลพวกน้องๆ
“ เออๆ “ ปีขาลพยักหน้าเพราะเขาเองก็จำได้ ถึงแม้ว่าตัวเขาจะเต็มใจในการที่จะเลี้ยงเพื่อนก็ตามแต่เพราะเขาเองก็รู้ดีว่าพอสนั้นเป็นคนยังไงจึงไม่อยากต้องมาเถียงกับเพื่อนเรื่องนี้อีก
“ กูนี่ลุ้นฉิบหาย นึงว่าพวกมึงจะตีกันอีกละ “ ป้องถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพื่อนทุกคนต่างยิ้มขำให้กับคำพูดของป้องเพราะพวกเขาเองก็แอบคิดไม่ต่างกัน
“ กูขี้เกียจนั่งเถียงกับมัน “ ปีขาลพูดพร้อมกับมองหน้าพอสนิดๆ
“ แล้วคิดว่ากูอยากเถียงกับมึงรึไง “ พอสตอบกลับมาอย่างไม่ยอมเช่นกัน
“ อีกละ พวกมึงเริ่มตีกันอีกละ “ ฟิวมองทั้งคู่สลับกันไปมา
“ แดกๆๆ พอกันได้ละ “ ป้องบอก
.
.
“ เอาไงละมึง กินเสร็จแล้วเข้าไปหาพวกเขาเลยปะ “ พนาถามกุน
“ เออ “ กุนพยักหน้านิด ทั้งคู่เดินเอาจานไปเก็บและหยิบสมุดที่อยู่ในกระเป๋าขึ้นมาแล้วเดินตรงไปยังกลุ่มของปีขาล