“ สวัสดีครับ “ พนายกมือไหว้กลุ่มของปีขาลด้วยความสุภาพ
ทั้งกลุ่มหันมามองทางกุนและพนานิ่ง ซึ่งพนาเองก็ไม่เข้าใจว่าทั้งหมดนิ่งมองเขาทั้งคู่ทำไม
“ พวกคุณมีอะไรครับ “ นุถามเด็กปีหนึ่งทั้งสองนิ่ง
“ คือว่าพวกผม..เอ่อ.. “ พนาอึกอักและหันไปมองหน้ากุนนิดๆ
“ ถ้าไม่มีอะไรก็เชิญครับ พวกผมกำลังกินข้าวกันอยู่พวกคุณไม่เห็นหรอหรือว่าไม่มีตาครับ “ พอสมองหน้ากุนและพนาอย่างหาเรื่อง ซึ่งทำให้พนาหันไปมองทางพอสทันทีด้วยความโมโห
“ แล้วพี่ไม่มีตาหรอครับถึงไม่ได้มองว่าพวกผมมากันทำไม “ พนามองหน้าพอสอย่างไม่นึกกลัว ซึ่งมันทำให้พอสถึงมองหน้าพนาด้วยความโมโหทันทีเขาลุกขึ้นแล้วตบโต๊ะพลางชี้หน้าพนาอย่างหาเรื่อง
ปัง!
“ ปากดีขนาดนี้แสดงว่าที่โดนทำโทษไปยังไม่เข็ดสินะ “
พนากัดปากตัวเองด้วยความโมโหเช่นกัน จนกุนดึงแขนของพนานิดๆเพื่อให้เพื่อนใจเย็นลงซึ่งพนาก็พยายามที่จะใจเย็นตามที่เพื่อนบอก
“ ไอพอส “ ปีขาลเรียกเพื่อนเสียงนิ่งเพื่อให้พอสใจเย็นลงกว่านี้ พอสหันมองปีขาลนิดๆแล้วนั่งลงเพื่อดับอารมณ์
“ พวกคุณมีอะไร “ ปีขาลมองหน้ากุนแล้วถามขึ้น
“ พวกผมมาขอลายเซ็นพวกพี่ครับ “ กุนยื่นสมุดไปตรงหน้าปีขาล ปีขาลปลายตามองที่สมุดเล่มเล็กซึ่งมีชื่อของกุนอยู่
“ ไม่ง่ายไปหรอครับ จู่ๆมายื่นสมุดตรงหน้าผมแบบนี้แล้วผมจะเซ็นให้พวกคุณง่ายๆ “ ปีขาลมองหน้ากุนอย่างท้าทาย
“ แล้วพี่จะให้ผมทำอะไรเป็นการแลกเปลี่ยนละครับ “กุนยกยิ้มมุมปากแล้วถามกลับไปด้วยความท้าทายเช่นกัน
“ มึงว่าไอน้องกุนอะไรนี่มันแปลกปะวะ “ ป้องกระซิบถามฟิวด้วยความสงสัยเพราะสายตาของกุนที่มองเพื่อนเขานั้นไม่เหมือนกับสายตาของปีหนึ่งทุกคนที่มองพวกเขาเลยสักนิด แต่เขาเองไม่แน่ใจว่าสายตาคู่นั้นมันหมายความว่ายังไง
“ กูว่าจะถามมึงตั้งแต่ตอนที่น้องมันเถียงกับไอขาลละ เพราะกูก็รู้สึกแปลกๆไม่ต่างจากมึง “ ฟิวกระซิบตอบป้องด้วยความสงสัยเช่นกัน
“ ถ้าคุณอยากให้ผมเซ็นลายเซ็นให้พวกคุณงั้น..ผมอยากให้พวกคุณไปวิ่งรอบสนามสักสิบรอบ “ ปีขาลกระตุกยิ้มมุมปากเมื่อเอ่ยคำสั่งออกไป
“ …….. “ กุนขมวดคิ้วมองใบหน้าหวานนิ่ง
“ จุกแน่ๆกู “ พนาพึมพำกับตัวเองเบาๆเมื่อได้ยินคำสั่ง เพราะสนามของทางมหาลัยนั้นไม่ใช่เล็กๆและแน่นอนว่ากว่าพวกเขาจะวิ่งจนครบสิบรอบ อาจจะจุกตามหรือไม่ก็เหนื่อยตายก่อนก็ว่าได้
“ แค่สิบรอบใช่มั้ยครับ “ กุนถาม
“ อืม..แต่ผมยังพูดไม่จบนะ “ ปีขาลยกยิ้มนิดๆแล้วลุกขึ้นท้าวแขนไปที่โต๊ะแล้วจ้องใบหน้าคมของเด็กปีหนึ่งตรงหน้านิ่ง
“ ครับ? “ กุนขมวดคิ้วนิดๆ
“ หลังจากวิ่งจบ คุณต้องเดินมาหาผมตรงนี้แล้วกระโดดตบสิบครั้งพร้อมกับวิกพื้นอีกยี่สิบครั้ง “ สิ้นสุดคำสั่งของใบหน้าหวาน กุนอ้าปากนิดๆอย่างอึ้งๆเพราะไม่คิดว่าอีกคนจะมีคำสั่งที่โหดมากขนาดนี้ และเท่าที่กุนมองสายตาหวานคู่นั้นเขาก็รู้ทันทีเลยว่าคนตรงหน้ากำลังสนุกที่ได้แกล้งพวกเขา และที่ร่างบางสั่งแบบนี้อาจจะเพราะเมื่อวานที่เขาไปก่อกวนอีกคนตอนกลับบ้าน
“ …แค่นี้ใช่มั้ยครับ “ กุนกัดฟันถามร่างบางกลับไป ปีขาลยักไหล่เล็กน้อยพร้อมกับมองใบหน้าคมของเด็กปีหนึ่งตรงหน้า
“ อื้อ ไปสิ ยืนรออะไรอยู่ “
“ ครับ “ กุนมองหน้าปีขาลนิ่งแล้วหันมาพยักหน้าใส่พนาที่ทำหน้าเครียดอยู่ข้างๆ
“ มึงเอาจริงหรอวะไอกุน “ พนากระซิบถามกุนเสียงเครียด
“ อืม “ กุนพยักหน้านิดๆและหันมามองทางปีขาลอีกครั้ง
“ เชิญครับ “ ปีขาลผายมือไปทางสนามของมหาลัยซึ่งอยู่ไม่ห่างจากโรงอาหารของคณะเขามากนัก
“ ครับ “ กุนมองดวงตาหวานนิ่งและหันไปทางพาอีกครั้ง
“ ไป “ กุนพยักหน้านิดๆ พนาเองก็ได้แต่ถอนหายใจด้วยความจำยอมเพราะรู้ดีว่าเขาทำอะไรไม่ได้แล้วนอกจากทำตามคำสั่งของรุ่นพี่ที่โหดร้ายตรงหน้า
พนาและกุนวางกระเป๋าไว้ที่เก้าอี้ข้างสนามและเดินไปยังจุดเริ่มต้นซึ่งก็คือต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ทางขอบสนามซึ่งห่างจากที่วางกระเป๋าของพนาและกุนไม่มากนัก
“ เอายังมึง “ พนาหันมาถามกุน และกลืนน้ำลายลงคอนิดๆเมื่อเห็นสนามกว้างของมหาลัย
“ อืม “ กุนพยักหน้านิดๆและเริ่มออกทันที
“ รอกูด้วยไอนิ่ง! “ พนาตะโกนไล่หลังของกุนเสียงดังลั่นพร้อมกับรีบวิ่งตามกุนไปทันที
.
.
.
“ น้องแม่งเหนื่อยตายห่าแน่ “ ป้องพูดขึ้นเมื่อหันไปเห็นปีหนึ่งสองคนวิ่งอยู่ในสนาม
“ หึ ปากดีแบบเด็กนั่นโดนแค่นี้ยังน้อย “ ปีขาลกระตุกยิ้มมุมปากนิดๆ ป้องหันมาหาปีขาลทันทีที่ได้ยิน
“ นี่มึงเกลียดอะไรน้องมันเนี้ย “ ป้องหันมาถามปีขาลยิ้มๆ
“ กูไม่ได้เกลียด กูแค่หมั่นไส้ “ ปีขาลตอบสั้นๆพร้อมกับลุกขึ้นยืน
“ นี่มึงจะไปไหนวะ “ ฟิวถามด้วยความสงสัย
“ ………. “ ปีขาลไม่ได้ตอบอะไรเพื่อนกลับไปแต่เดินนำไปยังสนามแทน
“ แม่งต้องหาเรื่องแกล้งอะไรน้องมันอีกแน่ “ ป้องส่ายหน้าเล็กน้อยพร้อมกับเดินตามปีขาลออกไป ฟิว นุและพอสก็ลุกตามไปด้วยเช่นกัน
เมื่อปีขาลมาถึงสนามก็เห็นว่าเด็กหนุ่มทั้งสองกำลังวิ่งกันอยู่ซึ่งเขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นรอบที่เท่าไหร่
“ น้องมันบ้าจี้วิ่งตามที่มึงบอกจริงๆด้วยว่ะไอขาล “ ฟิวเดินมาเกาะไหล่เล็กของเพื่อนแล้วพูดขึ้น
“ ก็ถ้าไอ้คุณเฮดว๊ากมันไม่ไปขู่พวกน้องมัน มึงคิดหรอว่าพวกมันจะมาวิ่งตามที่ไอขาลมันสั่ง “ ป้องส่ายหน้าเล็กน้อยให้กับนิสัยที่ขี้แกล้งของเพื่อน
“ ช่วยไม่ได้ มันไม่มีอะไรได้มาง่ายๆอยู่แล้ว “ ปีขาลกระตุกยิ้มมุมปากและหันมายักคิ้วใส่เพื่อนนิดๆ
“ มึงมันร้าย หึหึหึ “ ป้องหัวเราะในลำคออย่างขำๆ
20นาทีผ่านไป
“ แฮ่กๆๆ “ พนาวิ่งมาทางกลุ่มรุ่นพี่ปีสามที่ยืนกันอยู่ด้วยความเหนื่อย
“ วิ่งแค่นี้ก็ทำเป็นเหนื่อย ใจเซาะชะมัด “ เสียงของพอสพูดขึ้นมาลอยๆ ซึ่งมันทำให้พนา นุ ฟิว ป้องและปีขาลเองหันมองพอสเป็นตาเดียว
“ ถ้าพี่ถึกมากขนาดนั้นทำไมไม่มาวิ่งเองอ่ะ “ พนามองหน้ารุ่นพี่ตัวเล็กด้วยความโมโห
“ ก็ผมไม่ต้องตามล่าลายเซ็นรุ่นพี่แบบพวกคุณนี่แล้วทำไมผมต้องวิ่งด้วย “ พอสเลิกคิ้วใส่พนาอย่างกวนๆ พนาทำท่าจะโวยวายขึ้นอีกครั้งแต่ติดตรงที่กุนจับข้อมือของพนาเอาไว้ก่อน
“ ผมทำตามที่บอกแล้ว ต่อไปก็กระโดดตบกับวิดพื้นใช่มั้ยครับ “ กุนพูดแทรก และจ้องใบหน้าของปีขาลนิ่ง
“ อืม “ ปีขาลพยักหน้าน้อยๆ กุนมองหน้าเพื่อนสนิทนิ่ง พนาเองก็พยักหน้าตอบกลับไปเพราะเขาเองก็ยังพอไหวอยู่
“ หนึ่ง สอง สาม.. “ ทั้งคู่กระโดดตบพร้อมกัน ต่อหน้ารุ่นพี่ปีสามที่กอดอกมองเขาอยู่
กุนจ้องมองใบหน้าหวานของปีขาลที่มีรอยยิ้มประดับบนใบหน้า ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าเป็นรอยยิ้มเยาะของอีกฝ่ายก็ตาม
เวลาผ่านไปสักพักทั้งกุนและพนาก็ทำตามคำสั่งของปีขาลจนครบซึ่งเล่นเอาทั้งคู่เหนื่อยหอบไม่น้อย แต่ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยกันมากแค่ไหนก็ตามแต่ทั้งคู่ก็ยังกลับมายืนตรงได้ตามปกติเพราะไม่อยากให้รุ่นพี่ปีสามที่กำลังมองพวกเขาอยู่นั้นดูถูกหรือหาคำมาว่าพวกเขาอีกแล้ว
“ เซ็นด้วยครับ “ กุนยื่นสมุดเล่มเล็กไปตรงหน้าปีขาลแล้วจ้องใบหน้าหวานของร่างบางนิ่ง ปีขาลรับสมุดมาแล้วหยิบปากกาที่อยู่ตรงเสื้อตัวเองออกและเปิดสมุดเขียนลายเซ็นของตัวเองลงไป
“ ของผมด้วยพี่ “ พนารีบยื่นสมุดไปตรงหน้าปีขาลด้วยความรีบร้อน
“ คุณไม่เห็นหรือไงว่าเพื่อนผมกำลังเซ็นอยู่ หัดมีมารยาทบ้างสิคุณ “ พอสจ้องหน้าพนานิ่งพรอ้มกับพูดต่อว่าออกมา
“ งั้นผมว่าพี่ก็ควรดูมารยาทตัวเองด้วยนะ เพราะ ผม ไม่ได้พูด กับ พี่ “ พนาตอบพอสกลับไปอย่างไม่ยอมเช่นกัน
“ นี่คุณ! “ พอสชี้หน้าพนาและทำท่าจะเข้ามาหาเรื่องแต่ติดตรงที่ฟิวดึงแขนของพอสเอาไว้ก่อน
“ ไอเชี้ยพอสไอสัส มึงเลิกกวนตีนน้องมันได้ละ “
“ เลิกตีกันได้ละ “ ปีขาลปลายหางตามองเพื่อนสนิทและรุ่นน้องตรงหน้าอย่างดุดุ ซึ่งมันทำให้พอสได้แต่มองพนาอย่างไม่พอใจแต่ก้ไมได้เข้าไปหาเรื่องเหมือนตอนแรก ส่วนพนาเองก็นิ่งลงไปนิดเมื่อรุ่นพี่หน้าหวานมองมาที่เขา
“ อ่ะ “ ปีขาลยื่นสมุดของกุนส่งคืนให้ กุนเองก็ยื่นมือไปรับแต่เขาไม่ได้จับแค่สมุดอย่างเดียว มือของกุนนั้นยังแตะโดนมือของปีขาลด้วย ซึ่งมันทำให้ปีขาลชะงักและเบิกตามองกุนด้วยความตกใจและรีบเอามือออกทันทีเพราะกลัวว่าไอเพื่อนตัวดีของเขามันจะเห็นเข้า
“ เอาของคุณมา “ ปีขาลรีบหันมาบอกพนา พนาเองก็ยื่นสมุดส่งไปให้ปีขาลทันที
“ วันนี้ผมจะเปลี่ยนเวลาประชุมเป็นห้าโมง พวกคุณไปบอกคนอื่นๆด้วยละ ถ้าวันนี้มากันไม่ครบ.. “ ปีขาลมองใบหน้าของพนาและกุนนิ่งๆพร้อมกับยื่นสมุดส่งไปให้พนาเมื่อเซ็นเสร็จแล้ว
“ ผมจะโทษว่าเป็นความผิดของพวกคุณ “ ปีขาลพูดแค่นั้นก็หันหลังเดินจากไปทันที