เคลียร์นะเฮีย! เป็น’เมีย’ผมนะ – ตอนที่ 12

“ สวัสดีครับ “ พนายกมือไหว้กลุ่มของปีขาลด้วยความสุภาพ

ทั้งกลุ่มหันมามองทางกุนและพนานิ่ง ซึ่งพนาเองก็ไม่เข้าใจว่าทั้งหมดนิ่งมองเขาทั้งคู่ทำไม

“ พวกคุณมีอะไรครับ “ นุถามเด็กปีหนึ่งทั้งสองนิ่ง

“ คือว่าพวกผม..เอ่อ.. “ พนาอึกอักและหันไปมองหน้ากุนนิดๆ

“ ถ้าไม่มีอะไรก็เชิญครับ พวกผมกำลังกินข้าวกันอยู่พวกคุณไม่เห็นหรอหรือว่าไม่มีตาครับ “ พอสมองหน้ากุนและพนาอย่างหาเรื่อง ซึ่งทำให้พนาหันไปมองทางพอสทันทีด้วยความโมโห

“ แล้วพี่ไม่มีตาหรอครับถึงไม่ได้มองว่าพวกผมมากันทำไม “ พนามองหน้าพอสอย่างไม่นึกกลัว ซึ่งมันทำให้พอสถึงมองหน้าพนาด้วยความโมโหทันทีเขาลุกขึ้นแล้วตบโต๊ะพลางชี้หน้าพนาอย่างหาเรื่อง

ปัง!

“ ปากดีขนาดนี้แสดงว่าที่โดนทำโทษไปยังไม่เข็ดสินะ “

พนากัดปากตัวเองด้วยความโมโหเช่นกัน จนกุนดึงแขนของพนานิดๆเพื่อให้เพื่อนใจเย็นลงซึ่งพนาก็พยายามที่จะใจเย็นตามที่เพื่อนบอก

“ ไอพอส “ ปีขาลเรียกเพื่อนเสียงนิ่งเพื่อให้พอสใจเย็นลงกว่านี้ พอสหันมองปีขาลนิดๆแล้วนั่งลงเพื่อดับอารมณ์

“ พวกคุณมีอะไร “ ปีขาลมองหน้ากุนแล้วถามขึ้น

“ พวกผมมาขอลายเซ็นพวกพี่ครับ “ กุนยื่นสมุดไปตรงหน้าปีขาล ปีขาลปลายตามองที่สมุดเล่มเล็กซึ่งมีชื่อของกุนอยู่

“ ไม่ง่ายไปหรอครับ จู่ๆมายื่นสมุดตรงหน้าผมแบบนี้แล้วผมจะเซ็นให้พวกคุณง่ายๆ “ ปีขาลมองหน้ากุนอย่างท้าทาย

“ แล้วพี่จะให้ผมทำอะไรเป็นการแลกเปลี่ยนละครับ “กุนยกยิ้มมุมปากแล้วถามกลับไปด้วยความท้าทายเช่นกัน

“ มึงว่าไอน้องกุนอะไรนี่มันแปลกปะวะ “ ป้องกระซิบถามฟิวด้วยความสงสัยเพราะสายตาของกุนที่มองเพื่อนเขานั้นไม่เหมือนกับสายตาของปีหนึ่งทุกคนที่มองพวกเขาเลยสักนิด แต่เขาเองไม่แน่ใจว่าสายตาคู่นั้นมันหมายความว่ายังไง

“ กูว่าจะถามมึงตั้งแต่ตอนที่น้องมันเถียงกับไอขาลละ เพราะกูก็รู้สึกแปลกๆไม่ต่างจากมึง “ ฟิวกระซิบตอบป้องด้วยความสงสัยเช่นกัน

“ ถ้าคุณอยากให้ผมเซ็นลายเซ็นให้พวกคุณงั้น..ผมอยากให้พวกคุณไปวิ่งรอบสนามสักสิบรอบ “ ปีขาลกระตุกยิ้มมุมปากเมื่อเอ่ยคำสั่งออกไป

“ …….. “ กุนขมวดคิ้วมองใบหน้าหวานนิ่ง

“ จุกแน่ๆกู “ พนาพึมพำกับตัวเองเบาๆเมื่อได้ยินคำสั่ง เพราะสนามของทางมหาลัยนั้นไม่ใช่เล็กๆและแน่นอนว่ากว่าพวกเขาจะวิ่งจนครบสิบรอบ อาจจะจุกตามหรือไม่ก็เหนื่อยตายก่อนก็ว่าได้

“ แค่สิบรอบใช่มั้ยครับ “ กุนถาม

“ อืม..แต่ผมยังพูดไม่จบนะ “ ปีขาลยกยิ้มนิดๆแล้วลุกขึ้นท้าวแขนไปที่โต๊ะแล้วจ้องใบหน้าคมของเด็กปีหนึ่งตรงหน้านิ่ง

“ ครับ? “ กุนขมวดคิ้วนิดๆ

“ หลังจากวิ่งจบ คุณต้องเดินมาหาผมตรงนี้แล้วกระโดดตบสิบครั้งพร้อมกับวิกพื้นอีกยี่สิบครั้ง “ สิ้นสุดคำสั่งของใบหน้าหวาน กุนอ้าปากนิดๆอย่างอึ้งๆเพราะไม่คิดว่าอีกคนจะมีคำสั่งที่โหดมากขนาดนี้ และเท่าที่กุนมองสายตาหวานคู่นั้นเขาก็รู้ทันทีเลยว่าคนตรงหน้ากำลังสนุกที่ได้แกล้งพวกเขา และที่ร่างบางสั่งแบบนี้อาจจะเพราะเมื่อวานที่เขาไปก่อกวนอีกคนตอนกลับบ้าน

“ …แค่นี้ใช่มั้ยครับ “ กุนกัดฟันถามร่างบางกลับไป ปีขาลยักไหล่เล็กน้อยพร้อมกับมองใบหน้าคมของเด็กปีหนึ่งตรงหน้า

“ อื้อ ไปสิ ยืนรออะไรอยู่ “

“ ครับ “ กุนมองหน้าปีขาลนิ่งแล้วหันมาพยักหน้าใส่พนาที่ทำหน้าเครียดอยู่ข้างๆ

“ มึงเอาจริงหรอวะไอกุน “ พนากระซิบถามกุนเสียงเครียด

“ อืม “ กุนพยักหน้านิดๆและหันมามองทางปีขาลอีกครั้ง

“ เชิญครับ “ ปีขาลผายมือไปทางสนามของมหาลัยซึ่งอยู่ไม่ห่างจากโรงอาหารของคณะเขามากนัก

“ ครับ “ กุนมองดวงตาหวานนิ่งและหันไปทางพาอีกครั้ง

“ ไป “ กุนพยักหน้านิดๆ พนาเองก็ได้แต่ถอนหายใจด้วยความจำยอมเพราะรู้ดีว่าเขาทำอะไรไม่ได้แล้วนอกจากทำตามคำสั่งของรุ่นพี่ที่โหดร้ายตรงหน้า

พนาและกุนวางกระเป๋าไว้ที่เก้าอี้ข้างสนามและเดินไปยังจุดเริ่มต้นซึ่งก็คือต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ทางขอบสนามซึ่งห่างจากที่วางกระเป๋าของพนาและกุนไม่มากนัก

“ เอายังมึง “ พนาหันมาถามกุน และกลืนน้ำลายลงคอนิดๆเมื่อเห็นสนามกว้างของมหาลัย

“ อืม “ กุนพยักหน้านิดๆและเริ่มออกทันที

“ รอกูด้วยไอนิ่ง! “ พนาตะโกนไล่หลังของกุนเสียงดังลั่นพร้อมกับรีบวิ่งตามกุนไปทันที

.

.

.

“ น้องแม่งเหนื่อยตายห่าแน่ “ ป้องพูดขึ้นเมื่อหันไปเห็นปีหนึ่งสองคนวิ่งอยู่ในสนาม

“ หึ ปากดีแบบเด็กนั่นโดนแค่นี้ยังน้อย “ ปีขาลกระตุกยิ้มมุมปากนิดๆ ป้องหันมาหาปีขาลทันทีที่ได้ยิน

“ นี่มึงเกลียดอะไรน้องมันเนี้ย “ ป้องหันมาถามปีขาลยิ้มๆ

“ กูไม่ได้เกลียด กูแค่หมั่นไส้ “ ปีขาลตอบสั้นๆพร้อมกับลุกขึ้นยืน

“ นี่มึงจะไปไหนวะ “ ฟิวถามด้วยความสงสัย

“ ………. “ ปีขาลไม่ได้ตอบอะไรเพื่อนกลับไปแต่เดินนำไปยังสนามแทน

“ แม่งต้องหาเรื่องแกล้งอะไรน้องมันอีกแน่ “ ป้องส่ายหน้าเล็กน้อยพร้อมกับเดินตามปีขาลออกไป ฟิว นุและพอสก็ลุกตามไปด้วยเช่นกัน

เมื่อปีขาลมาถึงสนามก็เห็นว่าเด็กหนุ่มทั้งสองกำลังวิ่งกันอยู่ซึ่งเขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นรอบที่เท่าไหร่

“ น้องมันบ้าจี้วิ่งตามที่มึงบอกจริงๆด้วยว่ะไอขาล “ ฟิวเดินมาเกาะไหล่เล็กของเพื่อนแล้วพูดขึ้น

“ ก็ถ้าไอ้คุณเฮดว๊ากมันไม่ไปขู่พวกน้องมัน มึงคิดหรอว่าพวกมันจะมาวิ่งตามที่ไอขาลมันสั่ง “ ป้องส่ายหน้าเล็กน้อยให้กับนิสัยที่ขี้แกล้งของเพื่อน

“ ช่วยไม่ได้ มันไม่มีอะไรได้มาง่ายๆอยู่แล้ว “ ปีขาลกระตุกยิ้มมุมปากและหันมายักคิ้วใส่เพื่อนนิดๆ

“ มึงมันร้าย หึหึหึ “ ป้องหัวเราะในลำคออย่างขำๆ

20นาทีผ่านไป

“ แฮ่กๆๆ “ พนาวิ่งมาทางกลุ่มรุ่นพี่ปีสามที่ยืนกันอยู่ด้วยความเหนื่อย

“ วิ่งแค่นี้ก็ทำเป็นเหนื่อย ใจเซาะชะมัด “ เสียงของพอสพูดขึ้นมาลอยๆ ซึ่งมันทำให้พนา นุ ฟิว ป้องและปีขาลเองหันมองพอสเป็นตาเดียว

“ ถ้าพี่ถึกมากขนาดนั้นทำไมไม่มาวิ่งเองอ่ะ “ พนามองหน้ารุ่นพี่ตัวเล็กด้วยความโมโห

“ ก็ผมไม่ต้องตามล่าลายเซ็นรุ่นพี่แบบพวกคุณนี่แล้วทำไมผมต้องวิ่งด้วย “ พอสเลิกคิ้วใส่พนาอย่างกวนๆ พนาทำท่าจะโวยวายขึ้นอีกครั้งแต่ติดตรงที่กุนจับข้อมือของพนาเอาไว้ก่อน

“ ผมทำตามที่บอกแล้ว ต่อไปก็กระโดดตบกับวิดพื้นใช่มั้ยครับ “ กุนพูดแทรก และจ้องใบหน้าของปีขาลนิ่ง

“ อืม “ ปีขาลพยักหน้าน้อยๆ กุนมองหน้าเพื่อนสนิทนิ่ง พนาเองก็พยักหน้าตอบกลับไปเพราะเขาเองก็ยังพอไหวอยู่

“ หนึ่ง สอง สาม.. “ ทั้งคู่กระโดดตบพร้อมกัน ต่อหน้ารุ่นพี่ปีสามที่กอดอกมองเขาอยู่

กุนจ้องมองใบหน้าหวานของปีขาลที่มีรอยยิ้มประดับบนใบหน้า ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าเป็นรอยยิ้มเยาะของอีกฝ่ายก็ตาม

เวลาผ่านไปสักพักทั้งกุนและพนาก็ทำตามคำสั่งของปีขาลจนครบซึ่งเล่นเอาทั้งคู่เหนื่อยหอบไม่น้อย แต่ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยกันมากแค่ไหนก็ตามแต่ทั้งคู่ก็ยังกลับมายืนตรงได้ตามปกติเพราะไม่อยากให้รุ่นพี่ปีสามที่กำลังมองพวกเขาอยู่นั้นดูถูกหรือหาคำมาว่าพวกเขาอีกแล้ว

“ เซ็นด้วยครับ “ กุนยื่นสมุดเล่มเล็กไปตรงหน้าปีขาลแล้วจ้องใบหน้าหวานของร่างบางนิ่ง ปีขาลรับสมุดมาแล้วหยิบปากกาที่อยู่ตรงเสื้อตัวเองออกและเปิดสมุดเขียนลายเซ็นของตัวเองลงไป

“ ของผมด้วยพี่ “ พนารีบยื่นสมุดไปตรงหน้าปีขาลด้วยความรีบร้อน

“ คุณไม่เห็นหรือไงว่าเพื่อนผมกำลังเซ็นอยู่ หัดมีมารยาทบ้างสิคุณ “ พอสจ้องหน้าพนานิ่งพรอ้มกับพูดต่อว่าออกมา

“ งั้นผมว่าพี่ก็ควรดูมารยาทตัวเองด้วยนะ เพราะ ผม ไม่ได้พูด กับ พี่ “ พนาตอบพอสกลับไปอย่างไม่ยอมเช่นกัน

“ นี่คุณ! “ พอสชี้หน้าพนาและทำท่าจะเข้ามาหาเรื่องแต่ติดตรงที่ฟิวดึงแขนของพอสเอาไว้ก่อน

“ ไอเชี้ยพอสไอสัส มึงเลิกกวนตีนน้องมันได้ละ “

“ เลิกตีกันได้ละ “ ปีขาลปลายหางตามองเพื่อนสนิทและรุ่นน้องตรงหน้าอย่างดุดุ ซึ่งมันทำให้พอสได้แต่มองพนาอย่างไม่พอใจแต่ก้ไมได้เข้าไปหาเรื่องเหมือนตอนแรก ส่วนพนาเองก็นิ่งลงไปนิดเมื่อรุ่นพี่หน้าหวานมองมาที่เขา

“ อ่ะ “ ปีขาลยื่นสมุดของกุนส่งคืนให้ กุนเองก็ยื่นมือไปรับแต่เขาไม่ได้จับแค่สมุดอย่างเดียว มือของกุนนั้นยังแตะโดนมือของปีขาลด้วย ซึ่งมันทำให้ปีขาลชะงักและเบิกตามองกุนด้วยความตกใจและรีบเอามือออกทันทีเพราะกลัวว่าไอเพื่อนตัวดีของเขามันจะเห็นเข้า

“ เอาของคุณมา “ ปีขาลรีบหันมาบอกพนา พนาเองก็ยื่นสมุดส่งไปให้ปีขาลทันที

“ วันนี้ผมจะเปลี่ยนเวลาประชุมเป็นห้าโมง พวกคุณไปบอกคนอื่นๆด้วยละ ถ้าวันนี้มากันไม่ครบ.. “ ปีขาลมองใบหน้าของพนาและกุนนิ่งๆพร้อมกับยื่นสมุดส่งไปให้พนาเมื่อเซ็นเสร็จแล้ว

“ ผมจะโทษว่าเป็นความผิดของพวกคุณ “ ปีขาลพูดแค่นั้นก็หันหลังเดินจากไปทันที

เป็นเมียผมนะ

เป็นเมียผมนะ

ปวดหัวกับหน้าที่ที่โดนยัดเยียดไม่พอยังต้องมาปวดหัวกับไอเด็กปีหนึ่งที่ชอบแหกกฎอีกงานนี้เขาจะรับมือกับไอเด็กตัวแสบไหวมั้ยนะหรือว่าจะต้องทำโทษให้มันตายไปข้างนึงดีแต่ทำไมยิ่งอยู่ใกล้ใจเขามันถึงเต้นแปลกๆนะ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset