“ มึงหายไปไหนมาวะนานฉิบ “ พนาถามกุนเมื่อเห็นกุนเดินมาที่โต๊ะ กุนเดินมานั่งข้างพนานิ่งๆแล้วหยิบแก้วของตัวเองขึ้นมายกดื่มก่อนจะตอบพนากลับไป
“ ไปหาปีขาลมา “
พนาหันขวับมามองกุนทันทีที่ได้ฟังเพื่อนพูดจบ
“ เดี๋ยวนะ..ปีขาลของมึงนี่..ใช่รุ่นพี่เฮดว๊ากพี่สามของเราปะ “
“ อืม “ กุนพยักหน้าตอบกลับไป
“ ไอเชี้ยกุน! เดี๋ยวมึงก็โดนสั่งซ่อมหรอกไอสัส มึงไปเรียกพี่เขาแบบนั้นได้ไง “ พนาเบิกตากว้างมองเพื่อนด้วยความตกใจ
“ ก็ไม่ได้อยากให้เป็นพี่ “ กุนหันไปตอบเพื่อนสั้นๆพร้อมกับยกแก้วในมือดื่มจนหมดและยื่นไปให้รุจชงให้เขาใหม่
“ กูรู้ครับเพื่อนนน แต่มึงช่วยกรุณาเรียกพี่เขาดีดีก่อนได้มั้ยวะ นี่ถ้ามึงได้พี่เขาเป็นแฟนหรือเมียแล้วเนี้ยมึงจะเรียกห่าเหวอะไรก็เรื่องของมึงเลยครับเพื่อน กูจะไม่ห้าม “ พนาถอนหายใจนิดๆ
“ พวกมึงซุบซิบห่าอะไรกันวะ “ ถ่านที่นั่งอยู่ข้างๆรุจถามเพื่อนทั้งสองด้วยความอยากรู้
“ เอาเมียมึงไปเสือกไกลๆดิ๊ไอรุจ “ พนาแกล้งพูด
“ มึงก็ชอบหาเรื่องมันไอพนา “ รุจว่าพนาไม่จริงจังนักเพราะเขาเริ่มเห็นดวงตาหวานของเมียตัวเองที่ถลึงตามองเพื่อนรักอย่างพนาแล้ว
“ มึงดูมันแล้วกันนะรุจ มันแม่งชอบหาเรื่องกูอ่ะ “ ถ่านหันไปอ้อนคนรัก รุจเองก็ลูบหัวเล็กอย่างปลอบใจยิ้มๆ
“ เฮ้อออกูล่ะเบื่อพวกชอบฟ้องผัวจังโว๊ยย “ พนาแกล้งพูดลอยๆพร้อมกับแบะปากใส่เพื่อนรักทั้งสองคนด้วยความหมั่นไส้
“ ไว้มึงมีผัวบ้างเดี๋ยวกูจะแซวให้ยับเลยมึง “ ถ่ายพูดใส่พนาด้วยความหมั่นไส้เช่นกัน
“ ปากมึงหรอไอห่าดำ อย่างกูเนี้ยต้องมีเมียเท่านั้นโว๊ยย “ พนาเถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้
“ ถุย! อย่างมึงเนี้ยนะจะเป็นผัวใครเขาได้ ถ้าเป็นเมียก็ว่าไปอย่าง “ ถ่านลอยหน้าลอยตาพูดขึ้น เพราะเซ้นของเขามันบอกว่าคนอย่างพนาไม่สามารถเป็นรุกหรือผัวใครเขาได้เลยจริงๆนอกเสียจากเป็นเมียของคนอื่นเขา ซึ่งตัวของถ่านนั้นก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงรู้สึกแบบนั้นแต่เขาค่อนข้างที่จะมั่นใจในเซ้นของตัวเองพอสมควร ถึงแม้ว่าพนานั้นจะตัวสูงเหมือนผู้ชายทั่วไปแต่ด้วยอะไรบางอย่างในตัวของพนามันทำให้ถ่านมั่นใจว่าพนานั้นไม่สามารถรุกใครได้อย่างแน่นอน
“ เดี๋ยวกูปาขนมใส่หน้ามึงเลยนี่ไอสัสดำ ปากเสีย “ พนาปาขนมที่วางอยู่บนจานใส่ถ่านทันทีที่พูดจบ แต่มีรุจดันหัวของถ่านให้เข้ามาซบที่อกตัวเองซึ่งเป็นการบังให้กับถ่านนั่นเอง ขนมที่พนาปาไปมันจึงไม่โดนถ่านเลยแม่แต่น้อย
“ มึงปามาแล้วเหอะไอควาย “ เมื่อถ่านออกจากอ้อมแขนของคนรักได้ก็เงยหน้าขึ้นไปแว๊ดใส่พนาทันที
“ กูยังปาไม่โดนเลยเหอะ ถ้าไม่ติดที่ผัวมึงเอาตัวมาบังไว้นะป่านนี้กูปาโดนไปแล้ว “ พนาถลึงตาใส่ถ่านอย่างไม่ยอมแพ้
“ ก็มึง.. “
“ ไม่แดกกันกูจะได้กลับ “ กุนพูดแทรกขึ้นเมื่อฟังเพื่อนทั้งสองเถียงกันมาสักพัก พนากับถ่านหยุดเถียงกันทันทีที่กุนพูดจบเพราะรู้ว่าที่กุนพูดมานั้นร่างสูงของเพื่อนไม่ได้พูดขู่เลยแม้แต่น้อย
“ เอาหน่าๆพวกมึงอย่าพึ่งทะเลาะกัน ส่วนมึงก็อย่าพึ่งรีบกลับ พึ่งมาเองจะรีบกลับไปไหนวะ “ ฟองตบบ่าของถ่านนิดๆแล้วรีบพูดทำลายบรรยากาศทันที
“ แล้วนี่พวกรุ่นพี่พวกมึงไม่มาด้วยหรอวะไอฟอง เห็นมึงบอกกูว่ารุ่นพี่มึงจะมาด้วยนี่ “ พนาถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ แม่งยกเลิกนัดไปล่ะ มันบอกว่าถ้ามันมาเดี๋ยวทะเลาะกับเมียมันอีก มันเลยไม่มาแม่งเลย “ ฟองพูดถึงรุ่นพี่ตัวเองอย่างเซ็งๆ
“ คนไม่มีเมียแบบเรามันจะไปเข้าใจอะไรพวกเขาละมึง หึหึหึ “ พนาหัวเราะในลำคออย่างขำๆ
“ ก็รู้ตัวเองดีนี่ “ ถ่านแกล้งลอยหน้าลอยตาพูดขึ้น พนาหันมองคู่กัดตัวเองนิดๆ รุจเองก็ส่ายหน้าเล็กน้อยพลางดันหัวเล็กของคนรักให้หันมาทางตัวเองเพื่อไม่ให้พูดแขวะอะไรพนาอีก
.
.
01:59น.
“ นี่มึงไหวมั้ยเนี้ยไอขาล “ ป้องถามปีขาลที่นั่งก้มหน้าอยู่
“ กูหวายยยย “ ปีขาลพูดด้วยเสียงยานคาง ซึ่งตอนนี้บรรดาเพื่อนๆของเขารวมไปทั้งรุ่นพี่ของพวกเขาเองก็ได้ฟุบหน้ากันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีเพียงแค่ป้องที่ยังคงประคองสติของตัวเองเอาไว้ได้อยู่ ซึ่งตัวของปีขาลเองก็ได้หน้าทิ่งถังไปตั้งแต่ตีหนึ่งกว่าๆแล้วด้วยซ้ำ
“ กูว่ามึง อึก ไม่ไหวละ เดี๋ยวกูพากลับ “ ป้องสะอึกเล็กน้อยเพราะตัวเขาเองก็เมาพอสมควรเหมือนกัน
“ กูจะแบกใครไปก่อนดีวะเนี้ย “ ป้องถอนหายใจพลางมองสภาพเพื่อนและรุ่นพี่แต่ละคนด้วยความเหนื่อยใจ
“ หรือจะให้แม่งนอนนี่กันให้หมดดี “ ป้องกุมขมับด้วยความปวดหัวไม่น้อย
“ ไหนพี่บอกว่าจะดูไม่ให้พี่เขาเมาขนาดนี้ไง “ เสียงเข้มของใครบางคนดังขึ้น ทำให้ป้องเงยหน้าขึ้นไปมองทันที ปรากฏว่าเป็นเสียงกุนที่ยืนทำหน้าบึ้งตึงด้วยความโมโหอยู่
“ ปีหนึ่ง! “
“ ทำไมเขาถึงได้เมาขนาดนี้ครับ “ กุนขมวดคิ้วเดินเข้าไปใกล้กับปีขาลแล้วหันมาถามป้องเสียงเข้ม
“ กะ..ก็.. “ ป้องอึกอักไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรมาบอกกับเด็กหนุ่มตรงหน้า
“ เดี๋ยวผมพาเขากลับเอง พี่ก็ดูแลเพื่อนคนอื่นๆของพี่ไปแล้วกัน “ กุนบอกป้องพร้อมกับทำท่าจะดึงแขนของปีขาลขึ้นมาพาดไว้ที่ไหล่ตัวเองแต่เสียงของป้องขัดขึ้นมาเสียก่อน
“ เดี๋ยวผมดูแลเพื่อนผมเอง คุณไปสนุกกับเพื่อนคุณเถอะ “
“ คิดว่าพี่ดูแลไหวงั้นหรอ “ กุนถามป้องเสียงนิ่งเพราะทั้งโต๊ะมีเพียงแค่ป้องที่ยังมีสติซึ่งคนที่ป้องจะดูแลนั้นก็มีเยอะพอสมควรและป้องเองก็รู้ดีว่าคนที่เขาจะรับมือได้ยากมากที่สุดไม่ใช่เพื่อนหรือรุ่นพี่ที่นอนฟุบไม่ได้สติ แต่เป็นปีขาลต่างหากเพราะตัวของปีขาลเป็นเหมือนโรคอย่างนึงที่เวลาเมาทีไรจะต้องชอบลวนลามและจะชอบเกิดอารมณ์อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งมีบางครั้งที่ป้องจะต้องขังปีขาลเอ ไว้ในห้องน้ำเพื่อกันไม่ให้เพื่อนอย่างปีขาลขึ้นมาบนเตียงเพื่อข่มขืนเขา
“ แล้ว..คุณรู้หรอว่าคอนโดเพื่อนผมมันอยู่ที่ไหน “ ป้องถามขึ้น เพราะเขาเองก็เริ่มทำใจไว้แล้วว่าคงไม่ได้เอาปีขาลกลับคอนโดด้วยแน่ๆ
“ พี่ก็บอกผมสิครับ “ กุนตอบ แต่ดวงตายังคงมองไปยังคนเมาที่มีใบหน้าแดงกล่ำอยู่ในอ้อมแขนของเขาอยู่
“ แล้วเพื่อนของคุณละ “ ป้องถามขึ้นอีก
“ กลับไปกันหมดแล้วครับ “ กุนตอบแต่ดวงตาก็ยังไม่ละไปจากใบหน้าหวานจนป้องที่มองอยู่นั้นได้แต่ถอนหายใจออกมานิดๆเพราะพอเดาอะไรได้ลางๆแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะมึนหัวอยู่บ้างก็ตามแต่เขาเองก็แน่ใจในสัญชาตญาณของตัวเองไม่น้อย
“ คอนโดมันอยู่ที่…. “ ป้องบอกคอนโดของปีขาลให้กุนได้รับรู้ กุนพยักหน้านิดๆและอุ้มปีขาลขึ้นมาในท่าเจ้าหญิง
“ เดี๋ยวกูออกไปเปิดรถให้ “ ป้องยืนขึ้น กุนพยักหน้านิดๆแล้วเดินนำไปด้านนอก
“ คุณเอารถมามั้ย “ ป้องหันไปถามกุนเมื่อมาถึงหน้าร้าน
“ ผมมารถเพื่อน เดี๋ยวเรียกแท็กซี่เอาก็ได้ครับ “ กุนบอก ป้องนิ่งไปนิดพร้อมกับมองรุ่นน้องที่อุ้มเพื่อนสนิทของเขาในท่าเจ้าหญิงอยู่
“ หนักก็วางมันลงก็ได้ เดี๋ยวผมแบกมันเอง ผมแบกมันบ่อยชินแล้ว “ ป้องบอกอย่างเป็นห่วง
“ ไม่เป็นไรครับ เพื่อนพี่ไม่ได้หนักอะไร “ กุนปฎิเสธ เพราะตัวของปีขาลนั้นก็เบาจริงๆอย่างที่เขาพูดนั่นแหละ เขายังแอบคิดตอนที่ได้อุ้มอีกคนเลยว่าวันๆได้กินอะไรบ้างรึเปล่าถึงได้ตัวเบาขนาดนี้
“ อืมๆ “ ป้องพยักหน้ารับรู้ถึงแม้ในใจจะรู้สึกขัดๆอยู่บ้างก็ตามเพราะเขาเคยอุ้มเพื่อนคนนี้แล้วแต่ปรากฎว่าเขาไม่สามารถอุ้มแบบที่กุนอุ้มเพื่อนเขาได้จริงๆเพราะปีขาลค่อนข้างที่จะหนักมากสำหรับเขาพอสมควร
“ งั้นเดี๋ยวผมเรียกแท็กซี่ให้แล้วกัน “ ป้องบอกพร้อมกับมองหารถแท็กซี่ที่จะชอบมาจอดหน้าร้านแบบนี้ประจำ
กุนมองคนที่ซบอกเขาอยู่ด้วยความรู้สึกโมโหไม่น้อย เพราะอีกคนสัญญากับเขาเอาไว้แล้วว่าจะไม่เมาแต่สุดท้ายก็เมาไม่ได้สติจนได้
“ เพื่อนพี่เป็นคนที่ดื้อแบบนี้หรอ “ กุนถามป้องเสียงนิ่ง ป้องหันมามองหน้ากุนทันที
“ ไอขาลอ่ะนะ เอาจริงๆมันก็..ไม่ได้ดื้ออะไรหรอก ครั้งนี้ที่มันเมากฤเพราะอยู่กับเพื่อนกับรุ่นพี่นั่นแหละ ปกติมันก็..เมาแบบนี้อยู่แล้วอ่ะนะ “ ป้องไหวไหล่นิดๆเมื่อพูดถึง
“ แสดงว่าเมาแบบนี้บ่อยหรอครับ “ กุนขมวดคิ้วถามป้องเสียงเครียด
“ ก็..ก็บ่อยแหละ นี่..คุณจะโมโหทำไมเนี้ย พวกผมปีสามกันแล้วนะคุณเรื่องเมาเหล้าอะไรแบบนี้มันก็เป็นปกติหรือเปล่า เหมือนกับที่คุณมากินกับเพื่อนนี่ไง “ ป้องยกตัวอย่าง
“ แต่ผมไม่ได้กินจนไม่มีสติแบบนี้ “ กุนก้มหน้ามองคนในอ้อมกอดอีกครั้ง
“ คุณปีหนึ่ง ผมถามอะไรคุณอย่างสิ “ ป้องขมวดคิ้วแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ ครับ “
“ คุณชอบเพื่อนผมหรอ “ ป้องถามออกมาตรงๆและคำถามของเขานั้นเขาเองก็มีคำตอบให้กับตัวเองอยู่แล้วเพียงแค่เขาอยากแน่ใจเฉยๆว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นมันตรงกับสิ่งที่อีกคนคิด
“ ผมว่าพี่ดูผมไม่ยากหรอกครับ เพราะผมเองก็แสดงออกชัดเจนแล้วว่าผมรู้สึกยังไง “ กุนไมได้ตอบตรงๆแต่มองแววตาของป้องเพื่อเป็นการยืนยันแทน
“ ……… “ ป้องนิ่งไปนิดเมื่อสบตาที่จริงจังของเด็กหนุ่มตรงหน้า ยังไม่ทันที่ป้องจะได้พูดอะไรจู่ๆรถแท็กซี่ก็ขับเข้ามาจอดเทียบเท่าที่ทั้งสองคนยืนอยู่พอดี
“ รถมาแล้ว ผมขอตัวพาเพื่อนพี่กลับก่อนนะครับ “ กุนพูดขึ้น ป้องเองก็พยักหน้านิดๆแล้วเปิดประตูรถให้กับกุนที่ข้างหลัง
“ ขอบคุณพี่มากครับ ถ้าถึงแล้วผมจะเอาโทรศัพท์ของพี่เขาทักไปบอก “ กุนบอกและทำท่าจะปิดประตูรถ แต่ป้องจับเอาไว้ก่อน
“ อย่าทำอะไรมันเด็ดขาด ต่อให้คุณจะรู้สึกยังไงกับเพื่อนผมก็ตามแต่จำเอาไว้ว่าเพื่อนผมไม่ใช่เกย์และมันก็เป็นรุ่นพี่ของคุณ “ ป้องพูดเสียงเรียบซึ่งเป็นน้ำเสียงที่เขาใช้พูดกับรุ่นน้องในตอนที่เข้ามาดูแลแทนปีขาล กุนยกยิ้มมุมปากนิดๆแล้วพุดประโยคสุดท้ายใส่ป้องก่อนที่จะปิดประตูรถลง
“ ผมไม่ทำอะไรในตอนที่เขาไม่มีสติหรอกครับแล้วอีกอย่าง..ผมไม่ได้มองว่าเขาเป็นแค่รุ่นพี่มาตั้งแต่วันแรกที่ผมเห็นเขาแล้ว “