“ ส่งผมแค่นี้แหละ ขอบใจมาก “ ปีขาลบอกเมื่อกุนขับรถมาถึงหน้าคอมโดของเขา
“ ให้ผมขึ้นไปส่งข้างบนมั้ยครับ “ กุนแกล้งถาม
“ เก็บแรงของคุณเอาไว้อาทิตย์หน้าเถอะ..เจอหนักแน่! “ ปีขาลพูดขู่ เพราะอาทิตย์หน้าจะเป็นการเริ่มที่จะชิงเกียร์รุ่นแล้วและเขาเองก็ได้ปรึกษาอาจาร์ยประจำภาคเรียบร้อยแล้วถึงเรื่องที่จะพาน้องปีหนึ่งไปทะเลที่เสม็ด
“ จะแกล้งกันไปถึงไหนครับ หื้ม? “ กุนเลิกคิ้วเป็นเชิงถามยิ้มๆ
“ แกล้งอะไร ผมเอาจริง “ ปีขาลมองกุนนิ่งพร้อมกับยักคิ้วใส่ร่างสูงอย่างกวนๆ
“ อืม…น่ารัก เอ้ย! น่ากลัวจริงๆด้วยแฮะ “ กุนพูดยิ้มๆ ปีขาลถลึงตาใส่กุนอย่างดุดุ
“ ผมไปล่ะ ยังไงคุณก็..กลับดีดีล่ะ “ ปีขาลบอกอย่างไม่เต็มเสียงมากนักเพราะรู้สึกแปลกๆอยู่ไม่น้อย ทั้งเรื่องเมื่อคืนและสายตาของอีกฝ่ายที่จ้องมองมา
“ ขอบคุณครับ พี่เองก็..อย่าหักโหมมากนะ ผมเป็นห่วง “ คำพูดสั้นๆของร่างสูงอย่างกุนทำให้คนที่มีภูมิคุ้มกันเรื่องการถูกคนอื่นหยอดถึงกับมีใบหน้าที่ขึ้นสีทันที
“ เพ้อเจ้อ “ ปีขาลพูดจบก็เปิดประตูรถและเดินลงไปทันทีโดยไม่หันมามองทางด้านหลังเลยแม้แต่น้อย
“ รุกมากไปรึเปล่านะ “ กุนพูดกับตัวเองเบาๆพร้อมกับค่อยๆหันไปมองทางด้านปีขาลที่เดินหายลับไปจากสายตาของเขา
“ แต่ถ้าไม่เริ่ม..ก็คงไม่ได้คุยแบบนี้ จะเร็วจะช้าก็ต้องจีบอยู่ดี “
.
.
.
“ ไอเพื่อนชั่ว! นี่มึงรู้มั้ยว่ากูต้องเผชิญอะไรบ้าง “ พนาพูดใส่กุนทันทีที่กุนมาที่ห้อง
“ บ่นทำไม “ กุนขมวดคิ้วแล้วปรายตามองเพื่อนนิดๆ
“ ทีกูนี่พูดน้อยจังนะ ทีว่าที่เมียมึงนี่หยอดเอาๆ “ พนาพูดใส่กุนด้วยความหมั่นไส้
“ มึงเจออะไรมาก็พูด อย่าโวยวาย “ กุนถอนหายใจแล้วนั่งลงที่ปลายเตียงพร้อมกับมองหน้าของพนานิ่ง
“ ก็ไอพี่ปากมอมที่กูเคยมีปัญหาด้วยอ่ะมันหลอกกู “ พนาพูดด้วยสีหน้าบึ้งตึง
“ อธิบาย? “ กุนขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ
“ คือแบบนี้เว้ยมึง..คือตอนที่กูเดินไปที่ตึกเราใช่ปะแล้วทีนี้กูก็ไปเจอ… “ พนาเล่าเรื่องทั้งหมดให้กุนฟังด้วยอารมณ์ที่โมโหไม่น้อย
“ แล้วทีนี้พอกูเดินขึ้นไปหาอาจาร์ยอ่ะ ปารากฎว่าอาจาร์ยแม่งหายไปหมดเลยเว้ย กูไม่เจอใครสักคนเลยเนี้ย ดีนะที่กูเจอเพื่อนในห้องเลยฝากรายงานไปด้วยเลย เพราะมันบอกว่าจะไปหาอาจาร์ยพอดี และมันเองก็รู้ว่าอาจาร์ยอยู่ที่ไหน นี่ถ้ากูไม่ได้มันนะป่านนี้รายงานเราเป็นหมันแน่ “ พนาพูดออกมาอย่างอัดอั้น
“ ถ้ากูเจอไอพี่ปากมอมนั่นอีกนะกูจะต่อยหน้าสักที “ พนากำมือและทำท่าชกไปด้านหน้าด้วยความโมโห
“ ไร้สาระไอพนา “ กุนส่ายหน้าเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางของเพื่อนพร้อมกับล้มตัวนอนดูเฟสบุ๊กของปีขาล
“ เฮ้ย! นี่กูเพื่อนรักมึงเลยนะไอสัสนิ่ง มึงจะไม่ฟังเพื่อนระบายไม่ได้ปะ “ พนาตีขาแกร่งของเพื่อนด้วยความโมโห
“ ไปอาบน้ำดับความปัญญาอ่อนซะ กูจะดูเฟสเขาอย่าเสียงดัง รำคาญ “ กุนปลายตามองเพื่อนที่อยู่ตรงปลายเท้าเขานิดๆและหันไปมองหน้าจอต่อโดยไม่ได้สนใจอะไรกับท่าทีเหวอๆของพนา
“ ชิ! ดูเข้าไปเถอะมึง ดูมากขนาดไหนมึงก็ไม่กล้าแอดเขาไปอยู่ดี เหอะ! กูไปอาบน้ำหาข้าวแดกดีกว่า “ พนาลอยหน้าลอยตาพูดใส่กุนด้วยความหมั่นไส้ กุนปลายตามองเพื่อนสนิทอีกครั้งพร้อมกับมองไปยังหน้าจอที่มีรูปโปล์ไฟล์ของปีขาลอยู่ กุนมองไปยังปุ่นเพิ่มเพื่อนบนเฟสของปีขาลนิ่งๆอย่างตัดสินใจและค่อยๆใช้นิ้วกดไปที่เพิ่มเพื่อน
“ แอดแล้ว “ กุนพูดสั้นๆ พนาที่กำลังเดินไปอาบน้ำชะงักเท้าทันทีและหันมามองกุนด้วยความตกใจ
“ มึงว่าไงนะไอนิ่ง “
“ แอดไปแล้ว แอดเมื่อกี้ “ กุนบอกอีกครั้ง พนาเดินเข้าไปใกล้กุนทันทีและถามด้วยความตื่นเต้น
“ มึง! แอดเขาไปแล้ว แอดเฟสเขาไปเลยอ่ะนะ “
“ อืม “
“ เชี้ยยยยย เจ๋งมากเพื่อนกู “ พนาตบขากุนด้วยความตีใจ
“ กูเจ็บ “ กุนมองพนานิ่งๆ
“ แหมๆๆ ทีนี้ก็รอเขารับแอดมึงสินะ “ พนาเมินสิ่งที่กุนบอกแต่เอ่ยปากแซวออกมาแทน
“ อืม ตื่นเต้นนิดๆ “ กุนพยักหน้ายอมรับออกมา
“ แล้วนี่..มึงไม่คิดว่ามึงจะรุกพี่เขาเร็วไปอ่อวะมึง นี่ยังไม่ถึงเดือนที่มึงเจอเขาเลยนะเว้ย แล้วก็ยังไม่ถึงพันประโยคที่มึงจะได้คุยกับเขาแบบตัวต่อตัวเลยด้วยซ้ำ ถ้าไม่นับรวมเมื่อวานที่มึงไปส่งพี่เขาที่เมาไม่รู้เรื่องอะนะ “ พนาขมวดคิ้วนิดๆด้วยความสงสัย
“ ไม่หรอก เพราะไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว กูก็ต้องจีบเขาอยู่ดี จะจีบตอนนี้หรือจะรออีกหน่อยกูก็ต้องจีบเขา “ กุนหันไปมองที่หน้าจออีกครั้งหลังจากที่พูดจบ
พนาได้แต่อมยิ้มให้กับความมั่นใจของเพื่อน แต่เขาเองก็รู้สึกดีที่เพื่อนมั่นใจและเดินหน้าจีบขนาดนี้เพราะอย่างน้อยมันจะได้รู้ผลเร็วและไม่เสียเวลาเปล่า
“ ยังไงกูก็ขอให้เขารับรักมึงเร็วๆแล้วกันนะ อย่าเทมึงเหมือน..นั่นแหละ “ พนาเลี่ยงที่จะพูดถึงคนรักเก่าของกุนที่ทิ้งกุนไปซึ่งเหตุผลที่อีกฝ่ายให้กับเพื่อนเขานั่นก็คือ..เข้ากันไม่ได้
กุนพยักหน้านิดๆและมองรูปของปีขาลอีกครั้ง
.
.
.
“ ไงไอเสือออ “ ป้องเอ่ยปากแซวเมือ่เห้นกุนเดินเข้ามาที่ห้องประชุมที่มหาลัยในตอนบ่ายโมง
“ เสือพ่อง! เมื่อวานทำไมไม่มีใครไปส่งกู “ ปีขาลมองเพื่อนทีละคนด้วยความโมโห ซึ่งเพื่อนคนอื่นๆต่างก็พร้อมใจกันหันหน้าไปมองทางป้องทันทีเพราะมีแค่ป้องเท่านั้นที่พอมีสติมากที่สุดในกลุ่ม ป้องถอนหายใจด้วยความเซ็งไม่น้อย
“ ไอเชี้ยป้อง กูมั่นใจว่าเมื่อวานมึงเป็นคนที่มีสติมากที่สุด ทำไมมึงไม่ไปส่งกู “ ปีขาลขมวดคิ้วถามเพื่อนอย่างหาเรื่อง
“ มึงกรุณาดูด้วยครับเพื่อนว่ากูต้องแบกอีกกี่ศพในการเอาพวกมันเข้ารถกู นี่ถ้ากูไม่ขอให้พวกเด็กที่ร้านมันช่วยหิ้วไอพวกนี้ให้มาที่รถกูป่านนี้ก็นอนเมาเป็นหมาอยู่ที่ร้านกันแล้ว “ ป้องอธิบายและชี้นิ้วไปที่เพื่อนแต่ละคน
“ แต่มึงก็ไม่ควรปล่อยให้กูไปกับ…ไอเด็กนั่นมั้ยละ “ ปีขาลพิงเก้าอี้ด้วยความโมโห
“ เดี๋ยวนะ..นี่มึงอย่าบอกนะว่ามึงกับไอเด็กนั่น… “
ป้าบ!
ยังไม่ทันทีฟิวจะพูดจบปีขาลก็ตบไปที่หัวของฟิวอย่างแรงด้วยความโมโห
“ โอ๊ยยยไอถึก! นี่มึงใช้ความรุนแรงกับเพื่อนอีกละนะ “ ฟิวโวยวายพร้อมกับจับหัวตัวเองที่โดนตบและลูบเบาๆ
“ ปากหมาอย่างมึงไม่เจอส้นตีนกูก็ดีแค่ไหนละไอห่า ยังเว้ย! กูกับไอเด็กนั่นยังไม่ได้อะไรกันทั้งนั้นแหละ และไม่มีวันนั้นด้วยกูจะบอกให้ “ ปีขาลยืนยันพร้อมกับมองหน้าเพื่อนแต่ละคนอย่างมั่นใจ
“ อ่ะจ่ะ กูจะคอยดู “ นุกรอกตามองบน
“ เดี๋ยวกูทิ่มตาบอดเลยมึงนี่ “
“ พอๆๆพวกมึงเลิกตีกันก่อนครับ วันนี้เรามีนัดประชุมกันเรื่องรับน้องอาทิตย์หน้าที่ทะเลไม่ใช่หรอวะ ที่เราจะไปพร้อมพวกไอซุงป้ะ “ พอสถาม
“ เออใช่ แล้วทำไมเราไม่นัดพวกไอซุงมาประชุมพร้อมกันทีเดียวเลยวะ “ ป้องหันไปถามปีขาลด้วยความสงสัย
“ ดูแลกันคนล่ะส่วนมั้ยละไอนี่ แถมยังคนละคณะอีก มึงคิดว่าจะรวมกันได้ไง “ ปีขาลตอบ
“ เออวะ “ ป้องพยักหน้าอย่างเห็นด้วย เพื่อนแต่ละคนได้แต่ส่ายหน้ากันเป็นแถว
“ งั้นกูเริ่มเปิดประชุมเลยนะ ใครพูดเล่นขึ้นมาอีกกูตบรายตัวเลยนะไอสัสกูบอกไว้ก่อน คนยิ่งโมโหๆอยู่ “ ปีขาลชี้หน้าเพื่อนแต่ละคนอย่างคาดโทษ และเริ่มการประชุมทันที
——————–
“ ไอขาล “ ธนารุ่นพี่ปีสี่ที่เป็นเฮดว๊ากปีที่แล้วเอ่ยเรียกปีขาลเสียงนิ่ง
“ ครับพี่ “ ปีขาลเงยหน้ามองธนานิ่งๆ ตอนนี้พวกเขาได้มาที่ห้องประชุมในมหาลัยเพื่อที่จะพุดคุยเกี่ยวกับเรื่องรับน้องในอาทิตย์หน้าที่จะถึงซึ่งมันก็คืออีกสองวัน
“ มึงแน่ใจแล้วหรอวะที่จะไปทะเล “ ธนาขมวดคิ้วถามปีขาล
“ แน่ใจแล้วครับพี่ อย่างน้อยพวกน้องๆมันอาจจะผ่อนคลายมากขึ้น “
“ แต่มันเสี่ยงมากเลยนะเว้ย ถ้าน้องเกิดเป็นอะไรขึ้นมาเราจะซวยกันหมดนะ “ ธนาเอ่ยเตือนด้วยความเป็นห่วง
“ ผมลองปรึกษากับอาจาร์ยแล้วพี่ อาจาร์ยแกโอเคอยู่เพียงแค่เราอาจจะต้องดูแลพวกน้องๆให้มันดีกว่าเดิมและต้องคอยระวังกันให้มากขึ้น “ ปีขาลอธิบาย เพื่อนคนอื่นๆก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับสิ่งที่ปีขาลพูด ธนาลุกขึ้นและเดินมาจับไหล่ของปีขาลให้ลุกขึ้นยืน
“ กูห่วงมึงนะ มึงรู้ใช่มั้ย “ ธนาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ปีขาลส่งยิ้มให้ธนาเพื่อให้อีกฝ่ายคลายกังวล
“ พี่ไม่ต้องห่วง ผมไหว ผมน้องพี่เลยนะพี่ต้องเชื่อใจผมดิ “ ปีขาลพูดใส่ธนายิ้มๆ
ธนาถอนหายใจออกมาเล็กน้อยแต่เมื่อมองเห็นรอยยิ้มกว้างของคนที่ตัวเองแอบชอบมานานหลายปีก็คลายคิ้วที่ขมวดด้วยความเครียดออกไป
“ มึงเก่งอยู่แล้วกูรู้ “ ธนาลูบหัวเล็กอย่างอ่อนโยน ปีขาลยิ้มกว้างและปัดมือรุ่นพี่ออก
“ ผมหัวยุ่งเพราพี่อีกแล้วนะ ชอบลูบหัวผมอยู่เรื่อย “ ปีขาลหน้าบึ้งตึงเล้กน้อยพร้อมกับจัดทรงผมให้เข้าที่ ป้อง นุ ฟิวและพอสได้แต่มองหน้ากันนิ่งเพราะพวกเขาเองก็รู้ความรู้สึกของรุ่นพี่ตรงหน้าดีว่าคิดยังไงกับเพื่อนเขา ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่เคยบอกออกมาตรงๆเลยก็ตาม แต่ด้วยการกระทำของธนานั้นค่อนข้างชัดเจนพอสมควรมันเลยทำให้ทุกคนต่างก็มองออก ยกเว้นแต่ว่าเจ้าตัวที่โดนแอบชอบนั่นแหละที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับเขาเลย แถมยังคิดอยู่เสมอว่าธนาเป็นพี่ชายที่แสนดีและรักรุ่นน้องมากๆ
“ เอาเป็นว่าวันนั้นพี่จะไปกับเราด้วย โอเคนะ “ ธนาจับหัวเล็กอีกครั้งแต่ไม่ได้ลูบเหมือนตอนแรก
“ พี่ไปพวกน้องๆมันก็กลัวหมดสิ แค่พวกผมน้องมันก็กลัวกันจะแย่แล้ว พวกพี่ทั้งหมดอยู่ที่นี่แหละ “ ปีขาลหันไปมองเพื่อนของธนาที่นั่งอยู่ทางด้านหลัง
“ พวกพี่ไม่เข้าไปยุ่งอะไรหรอกหน่า แค่อยากไปดูแล..พวกน้องๆเฉยๆ “ ธนายกยิ้มมุมปากนิดๆและจ้องไปที่ดวงตากลมโตของปีขาลนิ่งๆ
“ ไม่เอาอ่ะ พวกพี่อยู่กันที่นี่นั่นแหละ ปีสี่ไม่มีงานอะไรกันก็ดีแล้วไม่ใช่หรอ จะหางานให้ตัวเองกันอีกทำไมเนี้ย “ ปีขาลหรี่ตามองธนาด้วยความรู้ทัน เพราะรุ่นพี่คนนี้ต้องหาเรื่องมราช่วยเขาดูแลพวกน้องๆแน่ๆและไม่ใช่การดูแลห่างๆอย่างที่อีกคนพูดด้วย
“ ไอขาล มึงให้พวกกูไปเหอะ ไม่งั้นไอธนามันอารมณ์เสียแน่ๆแล้วพวกกูเนี้ยแหละที่จะซวย “ ปิติ เพื่อนของธนารีบพูดแทรกทันที เพราะเขารู้ดีว่าถ้าเพื่อนสนิทคนนี้มันนิสัยยังไง
“ ซวย? ซวยยังไงพี่ นี่พี่ธนาจะทำอะไรเพื่อนพี่เนี้ย พาลหรอ “ ปีขาลขมวดคิ้วแล้วมองหน้าธนาอย่างจับผิด ธนาอึกอักทันทีที่โดนดวงตาหวานจ้องมองและค่อยๆลดมือที่จับหัวเล็กลง
“ บ้า..ไอติมันก็..พูดไปเรื่อย พี่ไม่ได้เป็นพวกหัวรุนแรงนะ เราก็รู้นิสัยพี่ดีนี่ “ ธนาส่งยิ้มกว้างให้กับคนตัวเล็กตรงหน้าพร้อมกับหันไปถลึงตาใส่เพื่อนตัวเองอย่างดุดุเพื่อไม่ให้พูดอะไรไปมากกว่านี้ ปิติและคนอื่นๆได้แต่กรอกตามองบนและต่างพากันถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยใจ
“ เดี๋ยวมึงก็โดนไอธนามันฆ่าเอาหรอกไอติ มึงก็รู้ว่ามันพยายามคีพลุคเป็นพี่ที่แสนดีน่ารักขนาดไหนเวลาอยู่ต่อหน้าไปขาล มึงอย่าพูดสันดานจริงๆมันออกไปเพราะคนที่จะตายนั่นก็คือมึงนะครับเพื่อน “ ออยกระซิบเตือนเพื่อนสนิทด้วยความหวังดี
“ กูลืมตัวนี่หว่า “ ปิติกระซิบบอก
“ งั้น..ผมให้พี่ไปก็ได้ แต่ห้ามเข้ามายุ่งนะ ผมไม่อยากให้พวกน้องๆมันกลัว “ ปีขาลบอก
“ ครับผม “ ธนายิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจ