“ รถมันจอดอยู่ตรงไหนวะ เมื่อกี้กูว่ากูเดินตามหลังพี่มันมานะ ทำไมมันเดินไวจังวะ “ พนาบ่นออกมาอย่างเซ็งๆเมื่อเขาและกุนเดินตามกลุ่มรุ่นพี่ของปีขาลมาติดๆ แต่เพราะคลาดสายตากันเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น จนทำให้ตอนนี้ทั้งพนาและกุนไม่สามารถมองเห็นกลุ่มรุ่นพี่ที่ตนเดินตามมาได้
“ กลับเหอะ มึงทำแบบนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์ “ กุนขมวดคิ้วมองหน้าของพนาอย่าจริงจัง
“ ไม่ มันกวนตีนกูขนาดนั้นมึงจะให้กูปล่อยพี่มันไปหรือไง ยังไงกูก็ต้องเอาคืนมันบ้างแค่นิดหน่อยก็ยังดีปะวะไม่งั้นกูนอนไม่หลับแน่ หึ! “ พนาพูดอย่างแค้นๆและจับข้อมือของกุนให้เดินตามหารถของพอสต่อที่ด้านหลังโรงจอดรถของคณะของเขา
“ หายังไงก็ไม่เจอหรอก “
“ มันจะไม่เจอได้ไงวะ มึงกับกูก็ช่วยกันหาดิเดี๋ยวแม่งก็ต้องเจอสักคันนั่นแหละ “ พนาตอบกลับไปทันทีพร้อมกับมองหากลุ่มของปีขาลไปด้วย โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่าคนที่พึ่งพูดกับตัวเองเมื่อสักครู่ไม่ใช่กุนเพื่อนรักของตัวเอง พนากำลังจะเดินต่อแต่เขาก็รู้สึกได้ว่ากุนไม่ได้เดินตามมาด้วย พนาทำท่าจะหันไปโวยวายว่าทำไมกุนถึงได้หยุดนิ่งไม่เดินไปกับเขา แต่เมื่อหันหน้ามาก็ต้องสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจเพราะเขาเห็นว่าพอสรวมทั้งคนอื่นๆยืนอยู่ทางด้านหลังของเขาและกุน โดยพอสกอดอกมองหน้าเขาแล้วยักคิ้วอย่างกวนๆ
“ คุณจะหารถผมไปทำไมหรอครับ คุณปีหนึ่ง “ พอสแกล้งขมวดคิ้วแล้วถามขึ้น ทั้งๆที่จริงๆแล้วเขาเองก็ได้ยินประโยคสนทนาของทั้งสองคนมาได้สักพักแล้ว พนาอึกอักไม่กล้าตอบพร้อมกับหันสายตาไปทางเพื่อนสนิทเพื่อหวังที่จะขอความช่วยเหลือ แต่ไอเพื่อนตัวดีของเขามันเอาแต่มองใบหน้าหวานของปีขาลจนไม่เผื่อสายตามองมาทางเขาเลยสักนิด ส่วนปีขาลนั้นก็ถลึงตาใส่เพื่อนเขาอย่างดุดุ
“ ไอกุน! “ พนากัดฟันและเขย่าแขนของกุนเพื่อให้ช่วย
“ คุณเรียกเพื่อนคุณทำไมหรอครับ ผมถามคุณอยู่นะ คุณก็ตอบผมสิครับ “ พอสพูดขึ้นเมื่อเห็นการกระทำของคนตรงหน้าทั้งหมด พนาชะงักกึกพร้อมกับกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืนๆ
“ เอ่อ..ผม..คะ..คือ… “
“ หรือว่าคุณ.. “ พอสเว้นจังหวะการพูดและเดินเข้ามาใกล้กับพนานิดๆจนระยะห่างของทั้งคู่มีต่อกันไม่มาก
“ ตั้งใจที่จะมาสอบถามอะไรผม “ พอสเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม พนาอ้าปากค้างนิดๆด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่าอีกคนจะพูดออกมาแบบนี้ ทั้งๆที่ตอนแรกเขาเองก็แอบหวั่นใจว่าอีกคนอาจจะจับในสิ่งที่กำลังจะทำอยู่ได้
“ อะ..อื้อ ใช่ครับ ผม..ผมมีเรื่องจะถามพี่ “ พนาพูดไหลไปตามน้ำ พอสพยักหน้างึกงักแล้วยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้กับคนที่สูงกว่า ป้อง ฟิวและนุต่างก็ลอบมองหน้ากันยิ้มเพราะพวกเขาก็เริ่มสังเกตเห็นอะไรบางอย่างที่ไม่ปกติของเพื่อสนิทตัวเองกับรุ่นน้องตรงหน้าแล้ว
“ ถามมาสิครับ “
“ พี่เอาหน้าออกไปห่างๆผมหน่อยได้ปะ จะเข้ามาใกล้เพื่อ “ พนาดันคางของอีกฝ่ายให้ถอยห่างออกไป
“ แล้วถ้าผมไม่ถอยคุณจะทำไมหรอครับ จะต่อยผมงั้นหรอ “ พอสแกล้งพูดยียวน
“ แล้วต่อยได้มั้ยละครับ “ พนามองขวางใส่พอสนิดๆ
“ หึหึหึ ลองดูสิ..ถ้าคิดว่าทำได้อะนะ “ พอสแกล้งยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้พนาอีกนิดๆ จนพนาที่ค่อยๆถอยใบหน้าห่างออกเริ่มที่จะทรงตัวไม่อยู่
“ ระวังล้ม “ พอสคว้าแขนพนาและดันเข้าหาตัวเองจนใบหน้าของทั้งคู่ห่างกันเพียงแค่ฝ่ามือกั้น
“ มึงว่ามันสองคนจะได้กันปะ “ ป้องกระซิบบอกฟิวยิ้มๆ เมื่อเห็นสายตาหวานของทั้งคู่ที่มองกันนิ่ง
“ ไม่เกินเดือนนี้แน่ หึหึหึ “ ฟิวกระซิบบอกกลับไปยิ้มๆเช่นกัน
“ ไอน้องนั่นมันอาจจะไม่คิดอะไรกับไอพอสก็ได้นะเว้ย มันดู..เกลียดไอพอสจะตาย “ นุกระซิบบอกเพื่อนทั้งสอง
“ มึงมันไม่รู้อะไรซะแล้ว นี่มึงไม่เคยอ่านนิยายหรือดูหนังเลยหรือไง เวลาที่พระเอกหรือนางเอกเกลียดกันทีไรนะมักจะได้กันตลอด “ ป้องบอกยิ้มๆ
“ แต่นี่มันผู้ชายกับผู้ชายนะมึง “ นุชี้ไปยังทั้งคู่
“ ผู้ชายแล้วไงวะ เดี๋ยวนี้ชายรักชายแม่งเยอะแยะ พี่ชายมึงยังมีผัวเลยไม่ใช่รึไง “ ป้องถามพลางหันไปมองทั้งคู่ที่ยังจ้องหน้ากันอยู่
“ เออว่ะ แม่งก็จริงของมึงนะเว้ย แต่ว่ามันจะรักกันได้หรอวะ ดูไอเด็กนี่มันแค้นๆเพ่อนเราอยู่นะ “ นุลูบคางตัวเองอย่างใช้ความคิด
“ มึงคอยดูต่อไปได้เลย..แม่งได้กันแน่นอน เหมือนไอคู่นี้ไง “ ป้องพยักหน้าไปทางปีขาลและกุนที่จ้องหน้ากันอยู่เหมือนกัน แต่คนละแบบกับอีกคู่นึง เพราะปีขาลจ้องมองเด็กหนุ่มตรงหน้าอย่างดุดุโดยมีสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก ส่วนกุนเองก็เอาแต่ส่งยิ้มให้กับเพื่อนของพวกเขา
“ ไอคู่นี้กูว่ายังพอมีลุ้นมากกว่าอีก “ นุพูดพลางส่ายหน้าน้อยๆ
“ ตกลงคุณยังไม่ได้ตอบคำถามผมเลยนะ ว่าคุณมีเรื่องอะไรที่อยากจะถามผม “ พอสเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม และค่อยๆปล่อยมือออกจากแขนของพนาเมื่อสายตาหวานจ้องมองที่มือของเขาสลับกับใบหน้าเพื่อบอกเป็นนัยๆว่าให้เขาปล่อยมือออก
“ เอ่อ..ผมแค่จะถามว่า..วันที่ไปทะเลต้องไปกี่วันหรอ “ พนาถามขึ้นเมื่อนึกคำถามได้เมื่อกี้
“ ผมลืมบอกพวกคุณไปว่าเราจะไปกันประมาณสี่วันสามคืน ฝากคุณบอกเพื่อนๆด้วยแล้วกันนะ “ เสียงนุ่มของพอสบอกกับพนานิ่ง พนาพยักหน้าน้อยๆและค่อยๆถอยห่างออกมาจากรุ่นพี่ปากมอม
“ ครับ “ พนาพูดจบก็หันไปจับข้อมือของกุนและทำท่าจะพาเพื่อนสนิทเดินออกจากตรงนั้นแต่กุนดึงแขนของพนาเอาไว้ก่อน และหันไปทางปีขาลที่มองมาที่เขาอยู่
“ ผมไปก่อนนะครับ..รุ่นพี่ “ กุนส่งยิ้มไปให้ร่างเล็กของปีขาล
“ เชิญ ผมไม่ได้ล่ามขาคุณไว้นี่ จะไปไหนก็ไปกันสิ “ ปากร้ายของปีขาลพูดขึ้นด้วยความหมั่นไส้
“ ครับผม “ กุนอมยิ้มเล็กๆและพาพนาเดินออกห่างจากตรงนั้นเพื่อไปที่รถของตัวเองซึ่งอยู่อีกทางด้านนึง
“ ฮั่นแน่..นี่พวกมึงยังไงกันครับเนี้ยยย “ ป้องเอ่ยปากแซวทันทีเมื่อรุ่นน้องทั้งสองได้เดินออกห่างกันไปแล้ว
“ อะไรของพวกมึง “ ปีขาลหันไปขมวดคิ้วใส่เพื่อน
“ ก็มึงกับไอน้องหน้านิ่งคนนั้นไง ทีอยู่กับคนอื่นหรือตอนประชุมนะกูเห็นแม่งนั่งหน้านิ่งเชียว ทีตอนอยู่กับมึงละก็หื้ม..ปากงี้ยิ้มกว้างเลย แววตาหวานจนกูเลี่ยนแทนมึงละเนี้ย “ ป้องแซวยิ้มๆและแกล้งดึงแก้มนิ่มของปีขาลด้วยความหมั่นเขี้ยว ปีขาลปัดมือเพื่อนสนิทออกทันที
“ เชี้ยไรของมึงเนี้ยสัสป้อง กูกับไอเด็กบ้านั่นไม่มีห่าอะไรกันทั้งนั้นแหละ พวกมึงคิดมากกันไปละ “ ปีขาลบอกปัด ถึงแม้ว่าลึกๆเขาเองก็รู้สึกแบบเดียวกับเพื่อนก็ตาม แต่เขาไม่อยากจะยอมรับให้ไอเพื่อนตัวดีพวกนี้มันต้องล้อเขาอย่างแน่นอน
“ แหมๆๆๆแล้วกูจะคอยดู ไอไม่มีอะไรกันนี่แหละตัวดี กูเห็นมีทุกรายอ่ะ “ ป้องจีบปากจีบคอพูด ปีขาลยกขาถีบเพื่อนสนิทด้วยความหมั่นไส้อีกครั้ง
“ มีส้นตีนกูนี่ไงมึง ไอเวรป้องไอสัส “
“ โอ๊ยไอเชี้ยขาล! กูเจ็บนะเว้ยย “ ป้องโวยวายออกมาทันที เพื่อนทุกคนได้แต่หัวเราะให้กับอาการของเพื่อนสนิทที่ลูบสะโพกตัวเองปอยๆอยู่
“ สมน้ำหน้า!! “ ทั้งหมดพร้อมใจกันพูดเป็นเสียงเดียวกันทันที
“ จำไว้เลยนะพวกมึงอ่ะ “ ป้องชี้หน้าเพื่อนสนิทอย่างคาดโทษ