“ ขาล “ กุนพึมพำพร้อมกับส่งรอยยิ้มกว้างให้ปีขาลที่ยืนแบกกระเป๋าด้วยใบหน้าที่ไม่แสดงออกอะไรมากนัก
“ บอกว่าให้เรียกดีดี “ ปีขาลถลึงตาใส่กุนนิดๆเมื่อได้ยินอีกฝ่ายเรียกเขาแบบไม่มีหางเสียง ปีขาลและพอสเดินเข้ามาในห้องและเอากระเป๋าไปวาวไว้ที่เตียงที่ว่างอยู่
“ นี่พวกพี่นอนห้องเดียวกับพวกผมหรอ “ พนาขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัย
“ เอากระเป๋าเสื้อผ้ามาแบบนี้มาฝากเก็บมั้ง “ พอสตอบกลับไปอย่างกวนๆ พนาถลึงตาใส่ด้วยความโมโหทันที
“ นี่ไอพี่ปากมอม พี่เลิกกวนตีนผมสักทีได้ปะ “
“ ผมกวนอะไรคุณไม่ทราบ ผมก็ตอบตามที่คุณถามไง ผมผิดตรงไหน “ พอสเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“ ไอพอส “ ปีขาลปรามเพื่อนสนิทอย่างดุดุ
“ นอนตลอดจนจบเลยหรือเปล่าครับ “ กุนหันไปถามปีขาลที่ยืนอยู่ข้างๆยิ้มๆ
“ อืม ก็จนจบรับน้องนั่นแหละ “ ปีขาลตอบเสียงนิ่งและหันมาเปิดกระเป๋าเพื่อจัดเสื้อผ้าของตัวเองต่อ โดยที่ไม่สนใจอะไรเด็กยักษ์ที่มองเขายิ้มๆอยู่
“ แสดงว่าเราจะรับน้องกันจบที่นี่หรอพี่ “ พนาถามเสียงตื่นๆ พอสขมวดคิ้วแล้วมองไปยังรุ่นน้องตัวสูงนิดๆ
“ ตื่นเต้นอะไรขนาดนั้นคุณ ถูกหวยหรอ “
“ พี่หยุดกวนผมสัก5นาทีได้ปะ ผมถามพี่ปีขาลอยู่เนี้ย อย่ายุ่งไม่เข้าเรื่องสิพี่ “ พนาถลึงตางมองพอสอย่างดุดุ
“ ตกลงว่าไงพี่ “ พนาเอียงหน้าไปถามปีขาลอีกครั้ง
“ ก็ตามนั้นแหละ ไหนๆเราก็มารับน้องกันนอกสถานที่แล้ว ก็ให้มันจบที่นี่ไปเลย กลับไปมหาลัยเราค่อยไปทำกิจกรรมอื่นๆต่อ “ ปีขาลบอก พนาขมวดคิ้วแล้วเอียงคอด้วยความสงสัย
“ เรายังมีกิจกรรมอื่นอีกหรอพี่ “
“ พวกคุณไม่จำเป็นต้องรู้หรอก ถึงเวลานั้นเดี๋ยวก็รู้เอง “ ปีขาลพูดสั้นๆและหันไปจัดของต่อโดยไม่สนใจสายตาของคนข้างหลังที่กำลังมองเขาอยู่เลยแม้แต่น้อย
“ แค่นี้ต้องดุด้วย “ พนาบ่นพึมพำเล็กน้อย
“ สม “ พอสแกล้งพูดออกมาลอยๆและทำเป็นจัดกระเป๋าต่อไปโดยไม่สนใจคนที่มองขวางตัวเองอยู่
“ จัดเสร็จรึยังครับ “ กุนเดินไปถามปีขาลยิ้มๆ
“ ถามทำไม “ ปีขาลขมวดคิ้วถามกลับไป
“ ผมจะได้เอาไปวางไว้ให้ไงครับ “ กุนตอบกลับไป
“ ไม่ต้องยุ่ง ผมจัดการของผมเองได้ “ ปีขาลพูดจบก็เดินผ่านอีกคนไปยังตู้เสื้อผ้าทันที
“ พวกคุณจะอยู่ฝั่งไหน “ ปีขาลเปิดตู้เสื้อผ้าและหันไปถามคนร่วมห้องทั้งสองคน
“ พี่อยากอยู่ฝั่งไหนครับ “ กุนเดินเข้ามาใกล้ปีขาลแล้วถามอีกฝ่ายยิ้มๆ
“ คุณเป็นรุ่นน้องคุณก็บอกสิ “ ปีขาลเงยหน้ามองร่างสูง
“ แต่พี่เป็นรุ่นพี่ พี่ก็ต้องเลือกก่อนสิครับ “
“ แต่คุณเป็นน้อง จะให้ผมเลือกก่อนได้ไง ผมเป็นรุ่นพี่นะ “
“ เป็นรุ่นพี่แต่ก็ใช่ว่าจะต้องเสียสละทุกอย่างนี่ครับ พี่เลือกก่อนได้เลย “
“ ไม่! ตอบมาดีดีว่าจะอยู่ฝั่งไหนผมจะได้วางเสื้อผ้าได้ถูก “
“ อยู่ฝั่งซ้ายครับพี่ “ พนาพูดแทรกทันทีเพราะรู้ว่าถ้าปล่อยเอาไว้แบบนี้ พวกเขาทั้งสี่คนคงไม่มีใครได้เอาเสื้อผ้าไปวางไว้ในตู้แน่ๆ
ทั้งสองหันไปมองหน้าพนาพร้อมกันทันที พนายิ้มแห้งๆและเดินเข้าไปแทรกกลางระหว่างกุนและปีขาลพร้อมกับวางเสื้อผ้าที่ตัวเองถือมาเอาไปวางไว้ในตู้ฝั่งซ้ายของตัวเอง
“ มึงวางเลยไอนิ่ง กูวางให้มึงดูละ มึงจะได้ไม่ต้องเถียงกับพี่เขา “ พนาหันไปยิ้มกว้างให้กับทั้งสองคนพร้อมกับเดินออกมาอย่างสบายใจ
“ ยุ่งกับเขาไปเรื่อย “ พอสพูดลอยๆพร้อมกับส่ายหน้านิดๆ พนาหันไปมองขวางพอสทันทีเมื่อเดินผ่าน
“ ก็..ตามที่เพื่อนคุณบอกนั่นแหละ คุณอยู่ฝั่งซ้ายส่วนผมอยู่ฝั่งขวาเอง “ ปีขาลอึกอักเล็กน้อยและจับเสื้อผ้าที่ถืออยู่นำไปแขวนในตู้ให้เรียบร้อย ดีที่ตู้เสือ้ผ้าค่อนข้างใหญ่มันเลยทำให้เสื้อผ้าของเขาทั้งสี่คนไม่เป็นปัญหามาก
“ แล้วนี่พี่กินอะไรรึยังครับ หิวมั้ย “ กุนหันไปถามเมื่อวางเสื้อผ้าภายในตู้เสร็จแล้ว
“ ยัง “ ปีขาลตอบ
“ ให้ผมทำอะไรให้ทานมั้ย ที่นี่น่าจะมีของอยู่นะครับ “ กุนจ้องหน้าหวานนิ่งเพื่อรอคำตอบ
“ เดี๋ยวตอนเย็นจะมีบุฟเฟ่ต์ที่เขาจัดเอาไว้ให้ รอกินตอนนั้นก็ได้ “ ปีขาลบอก เพราะเขาเองก็ได้เตรียมการเอาไว้ก่อนแล้ว
“ แล้วอยากกินอะไรรองท้องก่อนมั้ย “ กุนเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“ ไม่ แล้วก็เลิกถามสักทีเถอะคุณ ผมรำคาญ “ ปีขาลตะหวัดหางตามองไปทางกุนเล็กน้อยและเดินไปที่เตียงของตัวเอง ส่วนพอสก็เดินไปที่ตู้เสือ้ผ้าเพื่อนำของตัวเองไปวางไว้บ้าง
“ ไอนิ่ง กูไปหาพวกไอบอลก่อนนะ มันทักาให้กูไปหามันที่ห้อง “ พนาเงยหน้าบอกหลังจากที่ก้มอ่านข้อความของบอลที่ทักเข้ามา กุนพยักหน้านิดๆ
“ ไอขาล งั้นเดี๋ยวกูไปหาไอป้องก่อน “ พอสพูดขึ้นบ้างเมื่อจัดของเอาไว้ในตู้เสร็จแล้ว
“ จะหาเรื่องแดกเหล้ากันอีกละสิมึง “ ปีขาลพูดดักพร้อมกับส่ายหัวนิดๆ
“ รู้ดีนะมึง กูไปละ “ พอสพูดยิ้มๆและเดินตามหลังพนาออกไปติดๆ ปีขาลมองตามหลังเพื่อนไปและหันมามองใบหน้าของคนที่อยู่บนเตียงกว้างทางด้านซ้ายที่กำลังมองเขาอยู่ในตอนนี้
“ คุณมองหน้าผมทำไม “
“ มองคนน่ารักผิดด้วยหรอครับ “ กุนอมยิ้มถามเสียงหวาน
“ นี่! “ ปีขาลถลึงตาใส่ดุดุ กุนหัวเราะในลำคอขำๆ เพราะมันไม่ได้ดูน่ากลัวเลยแม่แต่น้อยในสายตาของเขา
“ พี่รู้ใช่มั้ยว่าผมคิดยังไง “ กุนถามอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ ………. “ ปีขาลชะงักไปนิดเมื่อได้ยิน
“ ให้โอกาสผมได้จีบพี่…ได้มั้ยครับ “ กุนเอื้อมมือไปจับมือนุ่มของอีกฝ่ายมากุมไว้ สายตาของทั้งสองมองกันนิ่ง
“ ผม… “ ปีขาลอึกอักด้วยความลังเล
“ มันคงเร็วไปในความรู้สึกของพี่ใช่มั้ยครับ “ กุนถามอย่างเข้าใจในความรู้สึกของปีขาลดี
“ อืม “ ปีขาลพยักหน้านิดๆแล้วค่อยๆดันมือที่อีกฝ่ายจับอยู่ออก
“ ผมว่า…คุณเลิกคิดอะไรที่มันเป็นไปไม่ได้เถอะ ผมขอตัวไปหาเพื่อนก่อน “ ปีขาลพูดจบก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปนอกห้องทันที