ปีขาลเดินไปเปิดประตูระเบียงที่ปิดไม่สนิทออกอย่างแรง
“ ดับมันลงเดี๋ยวนี้ “ ปีขาลพูดสั่ง
“ นี่คุณดูดบุหรี่ด้วยงั้นหรอ “
พนาและกุนสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจทันทีเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเข้ามาตอนนี้
“ พี่ปีขาล! “ พนาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ส่วนกุนเองก็มีแววตาที่ตกใจเล็กน้อยเท่านั้นแต่ก็กลับมาปกติเหมือนเดิม
“ ผมถาม ทำไมไม่ตอบ “ ปีขาลขมวดคิ้วถามเสียงเข้ม พนากลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบากพร้อมกับมองใบหน้าของปีขาลสลับกับเพื่อนสนิทไปมาเพราะไม่รู้จะทำยังไงกับสถานการณ์ตรงหน้าดี
“ นี่คุณปีหนึ่ง พาผมไปซื้อของข้างล่างหน่อยสิ ผมไม่มีเพื่อนไป “ พอสเกาะประตูกระจกที่ระเบียงแล้วเอ่ยชวนพนานิ่งๆ พนาขมวดคิ้วมองใบหน้าของพอสด้วยความสงสัย
“ พี่มีขาพี่ก็เดินไปเองดิ “
“ เดือนมหาลัยอย่างผมถ้าโดนฉุดไปใครจะรับผิดชอบครับ “ พอสใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มตัวเองนิดๆ
“ ปากอย่างพี่ใครเขาจะฉุดไปให้เสียเวลาเล่า พี่จะไปพี่ก็ไปเองดิ คนบ้าอะไรหลงตัวเองชะมัด“ พนากรอกตามองบนด้วยความเหนื่อยใจ
“ เอาหน่าคุณ ไปเป็นเพื่อนผมก่อน ไป “ พอสพูดจบก็เอื้อมมือไปลากรุ่นน้องตัวสูงให้เดินออกมาทันที
“ เฮ้ยพี่! ผมไม่ไป “ พนาพยายามที่จะรั้งแขนของตัวเองที่ถูกคนตรงหน้าจับอยู่ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีประโยชน์อะไรเพราะแรงของอีกฝ่ายนั้นเยอะกว่าเขาพอสมควร
.
.
“ ตกลงคุณจะตอบผมได้รึยัง ว่าคุณดูดบุหรี่ด้วยหรอ “ ปีขาลถามย้ำพร้อมกับเดินมายืนข้างๆกุน
“ ครับ “ กุนตอบกลับสั้นๆ แต่แววตาไม่ได้มองตอบปีขาลเลยสักนิดเพราะเขาเองก็ยังรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักกับคำตอบของอีกคนที่ได้ยินในวันนั้น
“ ผมไม่ชอบ “ ปีขาลบอกเสียงนิ่งพร้อมกับก้มมองไปยังมือของอีกคนที่ถือบุหรี่อยู่ คิ้วทั้งสองข้างยังขมวดเข้าหากันเพื่อเป็นการยืนยันว่าเขาไม่ชอบในสิ่งที่อีกคนกำลังทำอยู่
กุนหันไปมองหน้าของปีขาลนิดๆและดับบุหรี่ที่อยู่ในมือให้ดับทันที ปีขาลที่เห็นแบบนั้นก็เริ่มค่อยๆคลายคิ้วที่ขมวดอยู่ออก
“ เครียดอะไรนักหนา ทำไมต้องดูดบุหรี่ด้วย “ ปีขาลถามด้วยความอยากรู้เพราะเขาเคยได้ยินมาว่าคนส่วนมากที่ดูดบุหรี่นั้นจะต้องมีเความเครียด
**(คำเตือน : ไม่อนุญาตให้ลอกเลียบแบบนะคะ การสูบบุหรี่ไม่ได้ช่วยลดความเครียดแต่อย่างใด แต่ทำให้เราสูญเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์อีกด้วย ถ้าอยากคลายเครียดแนะนำให้อ่านนิยายของเค้าดีกว่า หายเครียดเรื่องที่มีปัญหาอยู่แน่นอนค่ะแต่จะมาเครียดกับคนแต่งแทน5555แบบว่า…แต่งอะไรให้อ่านฟะเนี้ยยย อะไรแบบนี้ แหะๆ ห่วงเด้อถึงได้เขียนคำเตือนอะไรแบบนี้ออกมา เพราะงั้น..อย่าทำให้คนแต่งต้องเป็นห่วงมากนะคะ มันบาปปป)
“ พี่ไม่รู้จริงๆเลยถามหรือพี่ถามเพราะต้องการได้ยินอะไรกันแน่ครับ “ กุนหันไปมองหน้าปีขาลตรงๆแล้วถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ ผมถามเพราะ..ผมอยากได้ยิน “ ปีขาลสบตาอีกฝ่ายนิ่ง
“ ถ้าพี่อยากได้ยินผมก็จะบอกกับพี่ว่า “ กุนยืนตรงๆเพื่อประจันหน้ากับปีขาลตรงๆ
“ ผมเครียดเรื่องวันนั้น ถ้าพี่ไม่ชอบผมพี่บอกผมตรงๆมาเลยได้มั้ยครับ ผมมไอยากต้องมาตั้งคำถามอะไรแบบนี้กับตัวเองแล้ว และไอสิ่งที่พี่บอกว่าเป็นไปไม่ได้..ผมเองก็มีคำถามครับว่าทำไมมันถึงเป็นไปไม่ได้ พี่ไม่แม้แต่จะเปิดใจยอมให้ผมเข้าไปในใจพี่เลยสักนิดแล้วทำไมพี่ถึงมั่นใจนักละครับว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ “ แววตาของร่างสูงฉายความเจ็บเจ็บปวดและไม่เข้าใจออกมาจนปีขาลเองก็รับรู้ความรู้สึกนี้ได้ดี
“ ผมมีคำตอบให้คุณนะ แต่ผมยังไม่สามารถที่จะตอบคุณในตอนนี้ได้ “
กุนขมวดคิ้วนิดและมองหน้าอีกคนด้วยความไม่เข้าใจ
“ เอาไว้จบรับน้องเมื่อไหร่ ผมจะบอกคุณเอง “
“ แต่คุณรู้เอาไว้..ว่าผมไม่ได้เกลียดหรือไม่อยากเปิดใจให้คุณ “ ปีขาลยกยิ้มมุมปากนิดๆ
ใบหน้าของกุนที่สงสัยในตอนแรกก็เริ่มค่อยๆคลายกังวล ริมฝีปากของกุนค่อยๆมีรอยยิ้มกว้างขึ้นเรื่อยๆด้วยความดีใจ
“ พี่สัญญากับผมแล้วนะครับ “ กุนพูดยิ้มๆ ปีขาลเองก็พยักหน้ายิ้มๆเช่นกัน
“ แต่ผมขออะไรคุณอย่างได้มั้ย “ ปีขาลพูดขึ้นเสียงจริงจัง
“ ครับ “
“ คุณเลิกสูบมันได้มั้ย “ ปีขาลมองไปยังมือของกุนที่ถือซองบุหรี่อยู่ กุนมองตามสายตาของปีขาลไปยังมือของตัวเอง
“ ถ้าเป็นสิ่งที่พี่ไม่ชอบ ผมเลิกได้ครับ “ กุนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังและโยนซองบุหรี่ใส่ถังขยะที่อยู่ไม่ไกลทันที
“ ห้ามแอบนะ “ ปีขาลชี้นิ้วแล้วมองอีกฝ่ายอย่างดุดุ
“ ครับผม สัญญาด้วยเกียรติของวิศวะเลยครับ “ กุนยิ้มกว้าง
“ อย่ามามั่ว คุณยังไม่ได้เกียร์จากผมนะ..เพราฉะนั้นจะมาเป็นรุ่นน้องผมในคณะนี้ไม่ได้หรอก “ ปีขาลยักคิ้วนิดๆพร้อมกับชูเกียร์ที่ข้อมือของตัวเองขึ้นมา
“ ไม่สนใจฝากเกียร์ไว้ที่ผมก่อนหรอครับ “ กุนพูดแหย่ เพราะเขาเองก็รู้ความหมายของเกียร์เป็นอย่างดี
“ ตอนนี้ยัง “ ปีขาลยักคิ้วใส่ร่างสูงอย่างกวนๆ
“ งั้นแสดงว่าอีกไม่นานก็มีสิทธ์ “ กุนเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“ ผมไปอาบน้ำเข้านอนดีกว่า ส่วนคุณ..ถ้าอยากจะนอนข้างนอกตากน้ำค้างก็ตามใจนะ “ ปีขาลรีบพูดเปลี่ยนเรื่องและหันหลังเดินเข้าไปข้างในทันที กุนได้แต่มองตามไปยิ้มๆ