เคลียร์นะเฮีย! เป็น’เมีย’ผมนะ – ตอนที่ 29

วันต่อมา

14:45น.

“ ผมเคยบอกพวกคุณแล้ว! ว่าการที่จะได้เกียร์จากผมนั้นมันไม่ง่าย ถ้าพวกคุณยังทำตัวล่องลอยและไม่พยายามกันแบบนี้! ผมก็คงต้องบอกพวกคุณคำเดิมว่าพวกคุณ…ไม่เหมาะที่จะเป็นรุ่นน้องของพวกผมและไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง!ที่จะเข้ามาเรียนคณะนี้ “ ปีขาลเอามือไขว้หลังและจ้องมองใบหน้าของเด็กปีหนึ่งที่ก้มหน้าด้วยความสำนึกผิด

กิจกรรมในวันนี้ที่เขาให้พวกน้องๆทำนั่นก็คือ ทำยังไงก็ได้ให้เชือกที่เขาให้นำไปร้อยเป็นรูปเกียร์ให้สวยที่สุด ซึ่งเขาให้เวลาตั้งแต่7โมงครึ้งจนถึงบ่าย2ครึ้ง แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าเชือกจำนวนสองร้อยเส้นจะเสร็จสมบูรณ์แบบที่เขาได้สั่งไป

“ ขออนุญาตครับ “ บอลยกมือขึ้น เขารู้สึกว่าสิ่งที่รุ่นพี่สั่งมันค่อนข้างจะหมักมากไปสำหรับพวกเขาซึ่งระยะเวลาเพียงแค่นี้มันไม่สามารถทำให้เขาทั้งหมดได้ทำทุกอย่างจนบรรลุเป้าหมายได้อย่างแน่นอน

“ ว่ายังไงครับปีหนึ่ง “ ปีขาลมองหน้าบอลนิ่ง

“ ผมคิดว่าเวลาที่พวกพี่ให้มันไม่เพียงพอสำหรับพวกผมครับ “

“ แล้วคุณคิดว่าคุณควรใช้เวลาเท่าไหร่หรอครับ หนึ่งอาทิตย์! สองอาทิตย์!หรือว่าหนึ่งปีมันถึงจะเพียงพอกับสิ่งที่ผมมอบหมายให้กับพวกคุณ “ เสียงเข้มของปีขาลเอ่ยขึ้นนิ่งๆพร้อมกับมองไปยังปีหนึ่งที่อยู่ตรงหน้าทีละคน

“ พวกคุณทำให้ผมเห็นแล้วว่า! พวกคุณไม่ได้มีความพยายามที่จะทำมันให้ดีเลย! ดูสิครับ!ดูในสิ่งที่พวกคุณทำมันครับ “ ปีขาลโยนเชือกที่ยังร้อยไม่สมบูรณ์ไปทางด้านหน้า

“ นี่หรอครับความพยายามของพวกคุณ สิ่งที่เหมือนของที่พึ่งเก็บมาจากถังขยะแบบนี้หรอครับ คือความพยายามของพวกคุณ “

“ ผมจะให้เวลาพวกคุณถึงแค่6โมงเย็นเท่านั้น ถ้าของชิ้นนี้มันยังไม่เป็นรูปเป็นร่างให้ผมเห็น ผมจะถือว่าการรับน้องของเราสิ้นสุดลงเพียงเท่านี้ ซึ่งมันก็หมายความว่าพวกผมจะไม่เข้าไปยุ่งอะไรกับพวกคุณอีกและพวกคุณก็จะไม่ได้รับเกียร์จากผม ไม่ได้เป็นรุ่นน้องของพวกผมอีกต่อไป แยกย้ายได้ครับ!!! “ ปีขาลตำคอกเสียงดังลั่น ทำให้ปีหนึ่งที่เป็นผู้หญิงรู้สึกตกใจและมีน้ำตาเอ่อคลอจนแทบจะไหลลงมาอาบแก้ม ตัวแทนของปีหนึ่งคนนึงได้เดินมาหยิบเชือกที่พวกเขาทำแบบไม่สมบูรณ์ขึ้นมาและเดินกลับมายังที่เดิมเพื่อปรึกษาถึงปัญหาที่กำลังเจอกันอยู่

“ จะเอายังไงกันดี “

“ นั่นสิ ถ้าเราทำไม่เสร็จมีหวังไม่ได้เกียร์แน่เลยอ่ะแก “

“ เขาจำเป็นต้องจริงจังขนาดนี้เลยหรอ ไม่ได้ก็ไม่เอาก็ได้ป้ะไม่เห็นจะอยากได้เลยอ่ะก็แค่เกียร์อันเดียว “ เธอจีบปากจีบคอพูดขึ้นอย่างไม่แคร์

“ แกจะไม่แคร์ก็ได้นะแต่แกลองคิดดูนะฟาง ทุกอย่างที่เราทำมาทั้งหมดมันจะไม่สูญเปล่าหรอ ความพยายามของเราที่ผ่านมาละ เราต้องเสียเวลาที่ผ่านมาโดยเปล่าประโยชน์อย่างนั้นหรอ ที่ทำมาทั้งหมดเราทำกันเพื่ออะไร..ก็เพราะอยากจะอยู่ที่นี่ไม่ใช่หรอ เราอยากจะเป็นรุ่นน้องของพวกเขาไม่ใช่หรอ และถ้าทุกคนคิดแบบนี้เหมือนกันหมด..สิ่งที่เราทำไปทั้งหมดมันจะมีประโยชน์อะไรอ่ะ “ เธอมองหน้าทุกคนนิ่งๆ

“ เอาละทุกคนอย่าพึ่งทะเลาะกันเลย เรามาช่วยกันคิดดีกว่าว่าจะทำยังไงต่อกับเชือกเส้นนี้ดี “ บอลพูดขึ้นเพราะเริ่มเห็นว่าบรรยากาศเริ่มตึงเตรียดไม่น้อย

“ นั่นดิ เราจะเอายังไงกันดีกับเชือกที่มันใหญ่ขนาดนี้อ่ดีะ ทำยังไงให้มันเป็นรูปเกียร์ดี “ เพื่อนร่วมคณะคนนึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“ ให้พวกพี่ช่วยมั้ยครับ “ เสียงเข้มของใครบางคนดังขึ้น ทำให้ปีหนึ่งทั้งหมดกันไปทางด้านหลังทันทีด้วยความตกใจ

“ พี่ติ! “ หนึ่งในนั้นมีคนเอ่ยเรียกรุ่นพี่ที่ยิ้มให้พวกเขาอยู่

“ สวัสดีครับน้องๆ พวกพี่อยู่ปีสี่นะครับ พี่ชื่อติส่วนไอนี่ชื่อธนาและไอนั่นมันชื่อออย อยู่คณะเดียวกับพวกเรานั่นแหละ โทษทีที่พวกพี่มาช้านะ พอดีว่าเกิดเรื่องนิดหน่อยครับเลยมาไม่ทันวันแรกที่พวกน้องๆทำกิจกรรม “ ปิติพูดยิ้มๆ ปีหนึ่งทั้งหมดมองหน้ากันด้วยความดีใจเพราะเหมือนจะมีคนที่จะเข้ามาช่วยพวกเขาทั้งหมดแล้ว

“ มีอะไรให้พวกพี่ช่วยมั้ย “ ธนาพูดขึ้นแต่สีหน้าก็ยังคงเรียบนิ่งเช่นเดิม

“ มีครับพี่ คือว่า.. “

.

.

“ นี่มันรุ่นพี่เฮดว๊ากเก่านี่หว่า “ พนาพูดขึ้นเมื่อเขาหันไปเห็นรุ่นพี่ปีสี่จำนวนสามคนยืนคุยกับเพื่อนร่วมคณะของเขาอยู่

“ มาทำไม “ กุนขมวดคิ้วนิดๆ ไม่รู้ว่าเขาคิดมากไปเองหรือเปล่าแต่เขามีความรู้สึกว่าเขาไม่ค่อยชอบรุ่นพี่ที่ชื่อธนาเท่าไหร่นัก ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไรแต่เพียงแค่เห็นหน้าอีกฝ่ายมาที่นี่มันก็ทำให้เขารู้สึกไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก

“ อาจจะมาช่วยดูแลพวกน้องๆอีกทีเปล่า เพราะพรุ่งนี้ก็เป็นวันสุดท้ายที่อยู่ที่นี่แล้วนะเว้ยมึง “ พนาบอกตามที่ตัวเองคิด

“ กูไม่ชอบ “ กุนพูดเสียงนิ่ง พนาหันไปมองเพื่อนสนิทด้วยความสงสัย

“ มึง..ไม่ชอบไรวะ “

“ กูไม่ชอบนั่น “ กุนมองไปทางธนาที่กำลังยืนพูดอะไรสักอย่างกับพวกเพื่อนร่วมคณะของพวกเขาอยู่

“ เอ้า แล้วมึงไม่ชอบเขาทำไมอ่ะ “ พนาถามด้วยความสงสัย

“ กูไม่รู้ กูรู้แค่ไม่ชอบ “ กุนตอบนิ่งๆกลับไป

“ แปลกๆนะมึงอ่ะ “ พนาส่ายหน้าเล็กน้อยด้วยความไม่เข้าใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรกลับไปเช่นเดียวกันเพราะเขาคิดว่าอาจจะเป็นเพราะไม่ถูกชะตากันก็เป็นได้ เลยทำให้จู่ๆก็รู้สึกไม่ชอบหน้ากันตั้งแต่แรกเห็นแบบนี้

“ พวกมึง..ปะ “ บอลเดินเข้ามาใกล้กับพวกกุนและพยักหน้าเรียกให้เขาทั้งสองคนเดินไปใกล้ๆพวกเขาเพื่อช่วยกันทำเกียร์ให้เสร็จ

“ ลองใช้วิธีพวกพี่ดูนะ สู้ๆ “ ปิติชูสองนิ้วเพื่อให้กำลังใจให้กับพวกน้องๆ

“ ครับ/ค่ะ!! “ ทั้งหมดตอบรับพร้อมกันยิ้มๆด้วยความดีใจ

——————–

17:46น.

“ มึงว่าพวกน้องๆมันจะทำกันเสร็จทันปะวะ “ ป้องยื่นหน้าไปกระซิบถามฟิวอย่างลุ้นๆ ตอนนี้พวกเขานั่งอยู่ที่โต๊ะม้าหินซึ่งค่อยข้างใหญ่พอสมควรแต่มุมของพวกเขาที่นั่งอยู่ก็สามารถมองเห็นพวกน้องๆที่กำลังพร้อมใจกันจับเชือกร้อยเข้าด้วยกัน

“ กูว่าทัน พวกน้องๆมันมีพวกพี่ธนาเป็นคนช่วยนะมึง ถึงแม้จะช่วยแค่ออกความคิดเห็นบางอย่างก็เถอะ แต่กูก็เชื่อนะว่ายังไงพวกน้องๆแม่งต้องมีความพยายามที่จะทำมันให้สำเร็จให้ได้ “ ฟิวบอกอย่างมั่นใจ และสาเหตุที่ทำให้เขามั่นใจนั่นก็คือกลุ่มรุ่นพี่ปีสี่อย่างธนาได้เข้ามาช่วยเหลือพวกน้องๆด้วย ซึ่งมันก็เป็นการดีที่พวกรุ่นน้องทุกคนจะได้รู้จักกับเฮดว๊ากอย่างธนาและรุ่นพี่คนอื่นๆ

“ มึงคิดว่าไงวะขาล “ ป้องหันไปถามความเห็นของเพื่อนสนิทที่นั่งเงียบอยู่

“ กูเชื่อว่ายังไงพวกน้องๆมันต้องทำได้ “ ปีขาลบอกอย่างมั่นใจ

“ ไงมึง “ ธนาเดินเข้ามาใกล้กลุ่มของปีขาลแล้วเอ่ยทักปีขาลยิ้มๆ ปีขาลเองก็พยักหน้าทักทายกลับไป

“ พี่ไปพูดอะไรกับพวกน้องๆมันวะพี่ “ ป้องถามด้วยความสงสัย

“ ความลับเว้ย “ ปิติยักคิ้วใส่ป้องอย่างกวนๆ

“ ความลับเชี้ยไรละ มันแค่บอกแนวทางว่าต้องทำยังไงก็แค่นั้นแหละแล้วก็บอกให้พวกน้องมันสู้ๆ “ ออยเกาะไหล่ปิติและยักคิ้วใส่ป้องนิดๆ

“ ไอเชี้ยออย ไอสัส “ ปิติมองขวางออยอย่างเคืองๆ ปีขาลและคนอื่นๆต่างก็อมยิ้มในสิ่งที่ได้ยิน

“ เหนื่อยมั้ยมึง “ ธนานั่งลงข้างๆปีขาลแล้วถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง

“ ไม่เท่าไหร่พี่ แค่นี้จิ๊บๆ “ ปีขาลยักคิ้วใส่ธนาอย่างกวนๆ

“ มึงเก่งอยู่แล้ว..กูรู้ “ ธนาลูบหัวเล็กของปีขาลด้วยความอ่อนโยน ปีขาลเองก็ส่งยิ้มให้กับรุ่นพี่ตรงหน้ากลับไปเช่นกัน

“ มึงว่าจะมีสงครามมั้ยวะ “ ฟิวกระซิบถามพอสเสียงเบาเมื่อหันไปเห็นแววตาของรุ่นน้องอย่างกุนกำลังขมวดคิ้วมองมาทางนี้

“ มึงคอยดูอะไรสนุกๆแล้วกัน “ พอสกระตุกยิ้มมุมปากนิดๆ

.

.

.

“ เชี้ยกุนไอสัส มึงใจเย็นก่อนเพื่อน “ พนารีบจับแขนเพื่อนสนิทแน่น เมื่อกุนทำท่าจะเดินเข้าไปหาปีขาลเมื่อเห็นว่ารุ่นพี่ตัวเล็กมีคนมาลูบหัว

“ เย็นเหี้ยไรละสัส มึงไม่เห็นหรอว่าใครจับหัวเขาอยู่! “ กุนหันมาตะคอกใส่พนาด้วยความโกรธ

“ ไอสัสกูรู้เพื่อน แต่มึงต้องใจเย็นก่อนดิวะ ทำงานตรงนี้ให้เสร็จก่อน ไม่งั้นคนอื่นจะเดือดร้อนไปด้วยนะเว้ยมึง “ พนาพยายามลูบแขนเพื่อนเพื่อให้ใจเย็นลง

“ แม่ง!! “ กุนแตะทรายอย่างแรงเพื่อระบายความโกรธ

“ ไอเชี้ยกุนนน แตะมาโดนกูไมเนี้ยย “ บอลร้องโวยวายทันทีเมื่อทรายโดนหัวของเขาเต็มๆแต่กุนไม่ได้สนใจอะไรบอลเลยแม้แต่น้อย เขาเอาแต่มองภาพที่ทั้งสองมองหน้าและยิ้มให้กันด้วยความโมโห

“ สัส! “ กุนสบถด้วยความโมโหและหันหน้าหนีภาพนั้นเพื่อไปทำงานต่อให้เสร็จ

เป็นเมียผมนะ

เป็นเมียผมนะ

ปวดหัวกับหน้าที่ที่โดนยัดเยียดไม่พอยังต้องมาปวดหัวกับไอเด็กปีหนึ่งที่ชอบแหกกฎอีกงานนี้เขาจะรับมือกับไอเด็กตัวแสบไหวมั้ยนะหรือว่าจะต้องทำโทษให้มันตายไปข้างนึงดีแต่ทำไมยิ่งอยู่ใกล้ใจเขามันถึงเต้นแปลกๆนะ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset