เช้าวันต่อมา
พนาค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆ เขารู้สึกเหมือนว่าโลกมันจะหมุนไม่น้อยเพราะอาการแฮงค์จากเมื่อคืน
“ ตื่นแล้วหรอ “
เสียงเข้มเอ่ยทัก พนารีบลุกขึ้นแล้วหันไปมองทางประตูด้วยความตกใจ
“ พี่! “
“ เมื่อคืนเมาเหมือนหมาเลยนะคุณ “ พอสเอ่ยแซวยิ้มๆ มองคนที่นั่งเปลื่อยเปล่าอยู่บนที่นอน
“ ผม..ผมจำไรไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าเมาตอนไหน “ พนากุมขมับตัวเองนิดๆ จนเขาเริ่มสังเกตบริเวณร่างกายของตัวเองที่ไม่มีสิ่งปกปิดใดอยู่บนร่างกายเลย
“ เฮ้ย! “ พนาร้องออกมาด้วยความตกใจ
“ จะร้องทำไม “ พอสเลิกคิ้วเป็นเชิงถามแล้วเดินเข้ามาหาอีกฝ่ายเรื่อยๆ
“ นี่พี่ปล้ำผมอีกแล้วหรอ!? “ พนาถามเสียงตื่นๆ
“ เมียตัวเอง ทำไมต้องปล้ำด้วย “ พอสขมวดคิ้วแล้วถามด้วยความสงสัย พนาอ้าปากค้างด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าพูดอะไรแบบนี้ออกมา
“ มะ..เมียบ้าอะไรของพี่วะ! “
“ ขี้เกียจพูดเพราะแล้วว่ะ ขอพูดมึงกูเลยแล้วกันนะ “ พอสพูดเป็นเชิงขอแต่พนาเองก็รู้ดีว่าอีกฝ่ายคงไม่ได้พูดขอเขาหรอก พนาพยักหน้านิดๆ
“ หิวรึยังจะได้พาไปหาอะไรกินข้างล่าง “ พอสถาม พนาขมวดคิ้วมองอีกฝ่ายด้วยความไม่เข้าใจ
“ เมื่อคืน..พี่ได้ทำอะไรผมมั้ย “ พนาถามอีกฝ่ายด้วยความอยากรู้ อันที่จริงเขาเองก็รู้สึกถึงความผิดปกติของร่างกายตัวเองเหมือนกันแต่แค่อยากถามอีกฝ่ายให้แน่ใจเท่านั้น
“ นี่ไม่รู้จริงๆหรอ “ พอสมองหน้าพนานิ่ง เขาก้มหน้าไปหาอีกฝ่ายช้าๆจนใบหน้าของเขาทั้งคู่อยู่ระดับเดียวกัน
“ ระ..รู้ รู้อะไร “ พนาถามเสียงตะกุกตะกัก ดวงตาหวานมองพอสนิ่งเหมือนโดนมนต์สะกด
“ ไม่รู้ว่าเมื่อคืน..เรามีอะไรกันอีกครั้งไง “ พอสยกยิ้มมุมปากนิดๆ พนาที่เห็นรอยยิ้มนั้นก็เริ่มรู้สึกใจเต้นแรงแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เขาบอกตามตรงว่าตอนที่เขาตื่นเช้ามาแล้วรู้ว่าตัวเองได้มีอะไรกับพอสแล้ว มันทำให้เขารู้สึกช็อคและตกใจไม่น้อยเพราะเขาไม่คิดว่าตัวเองจะพลาดไปมีอะไรกับรุ่นพี่ปากมอมที่หาเรื่องทะเลาะกับเขาทุกวันแบบนี้ เช้าที่ตื่นมาแล้วพบกับร่างของรุ่นพี่ที่นอนอยู่ข้างๆ พนาแทบจะกระโดดถีบขาคู่ใส่อีกคนด้วยซ้ำแต่ดีที่ยังพอมีสติและยับยั้งร่างกายเอาไว้ได้จึงไม่ได้ทำ และสิ่งที่ทำให้เขาช็อคกว่าเดิมนั่นก็คืออีกฝ่ายตั้งใจเพื่อจะให้เรื่องมันเกิดขึ้น ซึ่งในตอนนั้นพนาทั้งรู้สึกงุนงงและสับสนไม่น้อย ถ้าพอสบอกกับเขาว่าเมื่อคืนเขาทั้งคู่ไม่มีสติเหมือนกันมันก็ยังทำให้พนานั้นไม่ได้รู้สึกอะไรมากนักเพราะถือว่ามันคือความผิดพลาดครั้งแรกในชีวิตของเขา ซึ่งตัวของพนาเองก็ไม่ได้ชอบผู้หญิงร้อยเปอร์เซ็น เพียงแต่แค่ไม่เคยคิดจะหันมองผู้ชายคนไหน และยิ่งเป็นผู้ชายที่ปากเสียแบบพอสแล้วละก็พนายิ่งเมินมากกว่าเดิม แต่ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นมาแล้วตัวของเขาเลยบอกกับอีกฝ่ายว่าให้ลืมๆมันไปซะแล้วไม่ต้องบอกกับใครถึงเรื่องนี้ แต่พอสเองนั่นแหละที่ไม่ยอมและยังบอกกับเขาอีกด้วยว่า
“ จะให้ลืมได้ไงเมียทั้งคน แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะเอาเรื่องนี้ไปบอกกับใครหรอกนะจนกว่าเราจะคบกัน “
สิ้นสุดคำพูดนั้นมันก็ทำให้พนาถึงกับพูดไม่ออกและนิ่งอึ้งไปในทันที หลังจากนั้นพนาเองก็พยายามที่จะหลบหน้าของอีกคนมาตลอดแต่ก็ไม่วายที่จะได้พบกันอยู่ดี จนกระทั่งในเมื่อคืนที่เขาและพอสได้กลับมามีอะไรกันอีกครั้ง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ตัวก็ตามแต่พอตื่นมาเขาเริ่มรู้ถึงความผิดปกติของร่างกายตัวเองมันก็ทำให้เขารู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองบ้าง
“ พี่ กับ ผม..อีกแล้วหรอ “ พนากระพริบตาปริบๆถามอีกฝ่ายอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจ
“ อื้อ “ พอสพยักหน้านิดๆแต่ใบหน้าก็ยังไม่ละไปจากใบหน้าของอีกฝ่าย
“ ทำไม “ พนาขมวดคิ้วมองหน้าอีกฝ่ายด้วยความไม่เข้าใจ
“ กูชอบมึง “
คำพูดสั้นๆที่จริงจังหลุดออกมาจากปากของพอส ซึ่งมันทำให้พนาที่ไม่ทันได้ตั้งตัวนั้นถึงกับชะงักไปด้วยความตกใจ
“ พี่..พี่ว่าอะไรนะ “
พอสไม่ได้พูดซ้ำ เขาค่อยๆขยับใบหน้าเข้าไปหาอีกฝ่ายเรื่อยๆจนริมฝีปากประกบเข้าหากันอย่างช้าๆ
“ อื้มมม “
พนาหลับตาลงเพื่อรับรสจูบที่อีกฝ่ายมอบให้ ความหวานที่เขาสัมผัสมันทำให้ใจของพนาเริ่มเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ พอสค่อยๆถอดจูบออกมาช้าๆ สายตาของทั้งสองจ้องมองกันนิ่ง
“ กูชอบมึง คบกับกูนะ “
พนาเบิกตากว้างด้วยความตกใจอีกครั้ง จนพอสทนกับท่าทางที่น่ารักแบบนั้นไม่ไหวจึงหอมไปที่แก้มขาวหนึ่งฟอดใหญ่แล้วผละออกมา
“ ตกลง..คบกันนะ “ พอสเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม มุมปากมีรอยยิ้มติดอยู่เล็กน้อย
แววตาของพนามีความลังเลเล็กน้อย เขากัดปากตัวเองอย่างเครียดๆเพราะไม่รู้ว่าจะตัดสินใจกับการที่อีกคนขอเขาคบกระทันหันแบบนี้
“ พี่ไม่คิดว่ามันเร็วไปหน่อยหรอ เรา..เรายังไม่ทันรู้จักนิสัยอะไรกันเลยนะ แถม..พี่เองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมนิสัยยังไง ผมเองก็ไม่รู้ว่าแท้จริงๆแล้วพี่นิสัยยังไง เราต่างคนยังไม่รู้เรื่องราวของกันและกันเลยด้วยซ้ำ แล้วเรา..จะคบกันได้ยังไง “ พนาหลบดวงตาคมของพอสที่มองมาที่ตัวเอง พอสยิ้มมุมปากนิดๆแล้วลูบหัวเล็กเบาๆด้วยความเอ็นดู
“ กูรู้ แต่เราจะมาทำความรู้จักกันตอนที่คบแล้วไม่ได้หรอ ถ้ามันไม่ใช่..ก็แค่กลับไปเป้นพี่น้องกันเหมือนเดิมไง “
“ แล้วถ้าตอนนั้นผมรักพี่แล้วล่ะ แล้วพี่ไม่รักผม ผมไม่เจ็บหรอ “ พนาขมวดคิ้วมองพอสด้วยแววตาจริงจัง
“ แล้วมึงรู้ได้ไงว่าวันนั้นกูจะไม่รักมึง หื้ม? “ พอสเดินเข้าไปนั่งอยู่ข้างๆพนาแล้วดึงอีกคนเข้ามากอดไว้หลวมๆ พนาเองก็เอนตัวพิงไหล่แกร่งของพอสไว้
“ พี่ชอบผมหรือยัง “ พนาถามในสิ่งที่ใจอยากรู้
“ …ชอบสิ ไม่ชอบจะเอาหรอ “ พอสตอบยิ้มๆ
พลั่ก!
พนาทุบอกแกร่งด้วยความหมั่นไส้
“ พูดดีดีเหมือนคนอื่นเป็นมั้ย “
“ หึหึหึ กูอยากบอกให้มึงรู้ไว้ว่ากูไม่ใช่สุภาพบุรุษนัก อาจจะทำอะไรที่มันรวดเร็วไปบ้างแต่ถ้ากูไม่ชอบมึงหรือกูไม่รู้สึกอะไรด้วย..กูจะไม่มีวันแตะต้องมึง จำคำกูไว้ “ พอสหอมไปที่ผมนุ่มของพนาเบาๆด้วยความอ่อนโยน
“ แต่..ผมยังไม่ได้ชอบพี่ “ พนาบอกเสียงแผ่ว เพราะรู้สึกเหมือนว่าคำพูดของเขาอาจจะไปทำร้ายความรู้สึกของอีกฝ่าย
“ กูรู้ ตอนนี้มึงยังไม่ต้องชอบกูก็ได้ แต่มึงรู้ไว้แค่ว่ากูชอบมึงอยู่ก็พอ “ เสียงนุ่มของพอสเอ่ยบอกเบาๆ มือหนายังคงลูบหัวเล็กด้วยความเอ็นดูอยู่แบบนั้น
พนาเงยหน้ามองไปยังพอสเล็กน้อยแล้วมุมปากก็ยกยิ้มขึ้นบางๆ เพราะรู้สึกดีกับสิ่งที่อีกคนพูดไม่น้อย
——————-
“ คนดี..ตื่นได้แล้วครับ “ เสียงทุ้มของกุนกระซิบที่ข้างหูเล็กของคนในอ้อมกอด
“ อื้ออ “ ปีขาลขยับตัวเล็กน้อยแต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลืมตาตื่นขึ้นมา
“ ถ้าไม่ตื่นกุนจะจูบแล้วนะ “ กุนแกล้งพูดขู่
พรึบ!
ปีขาลลืมตาทันทีด้วยความตกใจ และหันไปมองคนที่อยู่ข้างๆทันทีแต่ก็ต้องชะงักเมื่อจู่ๆเรื่องเมื่อคืนก็หลั่งไหลเข้ามาในหัว ใบหน้าของปีขาลแดงซ่านด้วยความเขินเพราะเขาเองก็จำเรื่องเมื่อคืนได้ดี
“ หน้าแดงๆนะ คิดเรื่องเมื่อคืนอยู่หรอ “ กุนถามเสียงนุ่มพร้อมกับใช้มือเกลี่ยไปที่แก้มขาวของร่างบางเบาๆ
“ ปะ..เปล่า “ ปีขาลอึกอักตอบปฎิเสธไป
“ แสดงว่าจำเรื่องเมื่อคืนได้? “ กุนแกล้งเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ปีขาลอึกอักอย่างเห็นได้ชัดซึ่งมันก็ยิ่งทำให้กุนมั่นใจว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นมันถูกต้อง
“ ก็.. “
“ หึหึหึ “ กุนหัวเราะในลำคออย่างขำๆ
“ ขำอะไรเล่า! “ ปีขาลมองขวางกุนอย่างเคืองๆ กุนก้มลงไปหอมแก้มขาวด้วยความหมั่นเขี้ยว
ฟอดดด
“ อื้อ!! “
“ น่ารัก “ กุนพูดเสียงหวาน ปีขาลทุบไปที่อกแกร่งเบาๆเมื่ออีกฝ่ายเอาแต่แกล้งเขา
“ ไม่คุยด้วยแล้ว! “ ปีขาลลุกขึ้นและทำท่าจะเดินลงจากเตียงเพื่อไปอาบน้ำแต่กุนนั้นดึงเอวของร่างบางเอาไว้ก่อน
“ เดี๋ยวสิครับ “
ร่างสูงของกุนโอวเอวบางและท้าวคางไปที่ไหล่เล็ก ปีขาลดิ้นเล็กน้อยเพราะยังรู้สึกเคืองอีกฝ่ายอยู่ไม่น้อยที่แกล้งเขา
“ โอ๋ๆขอโทษที่แกล้งครับ อย่าโกรธกุนเลยนะคนเก่ง “
“ นิสัยไม่ดี “ ปีขาลกระแทกเสียงด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ไมได้โกรธอีกฝ่ายอะไรจริงจังนักแค่ขุ่นเคืองเท่านั้น
“ หึหึหึ รีบไปอาบน้ำนะครับ เดี๋ยวพาไปหาอะไรทาน “ กุนเอียงคอมองใบหน้าหวานที่งอง่ำ
“ เลี้ยง “ ปีขาลพูดสั่งสั้นๆ
“ ได้ครับ “ กุนตอบยิ้มๆ ปีขาลปลายตามองไปที่กุนนิดๆแล้วอมยิ้มออกมา
“ อืม “