หลังจากที่เขาเดินออกมานอกห้องเรียนแล้ว ก็เดินตรงไปยังด้านหลังของโดมซึ่งไม่มีใครอยู่บริเวณนั้นพอดี หลังจากนั้นปีขาลก็จัดการกดรับสายอีกฝ่ายทันที อันที่จริงเขาไมได้อยากรับสายอีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำ แต่เพราะเขากลัวว่าอีกคนจะบุกมาหาเขาถึงที่เหมือนที่เคยทำ มันเลยทำให้ปีขาลต้องกดรับทุกครั้งที่อีกฝ่ายโทรมา
“ มึงโทรมาทำเหี้ยอะไร! “ ปีขาลตะคอกถามปลายสายกลับไปด้วยความโมโห
“ ( เดี๋ยวนี้พี่โทรไปหาไม่ได้หรอครับ ทีแต่ก่อนพี่โทรไปเรายังไม่เคยถามอะไรพี่แบบนี้เลยนะ ) “ ระกาพูดเสียงหวาน
“ คนเหี้ยอย่างมึงกูกดรับสายก็บุญละ ตกลงมึงโทรมาหากูทำไม ถ้าไม่มีเหี้ยอะไรกูจะได้กดวาง “ ปีขาลตะคอกถามปลายสายกลับไปด้วยความโมโห เพราะรู้ดีว่าตอนนี้อีกฝ่ายกำลังยั่วโมโหเขาอยู่
“ ( จุ๊ๆๆไม่เอาสิที่รัก ไม่พูดกับผัวแบบนี้นะทูนหัว ) “
“ ผัวพ่อมึงสิสัส!!! “ ปีขาลตะคอกกลับไปด้วยความโกรธ
“ ( หึหึหึ เอาเป็นว่าที่พี่โทรมาหาน้องชายสุดที่รักของพี่ก็เพราะพี่อยากจะบอกกับน้องขาลของพี่ว่า…เร็วๆนี้พี่จะกลับไปหานะครับสวย หึหึ ) “ สายตัดไปทันทีเมื่ออีกฝ่ายพูดจบ
ปีขาลกำโทรศัพท์แน่นด้วยความโกรธแค้น เขาทำท่าจะปาโทรศัพท์ทิ้งเพื่อระบายความโกรธแต่มีมือใหญ่ของใครบางคนมาจับที่ข้อมือเขาเอาไว้ก่อน
**(การกระทำของตัวละครไม่เหมาะสมอย่างยิ่งนะคะ! การทำลายข้าวของในขณะที่เรากำลังโมโหเป็นสิ่งที่ไม่น่ารักเลย คนอ่านที่น่ารักของเค้าห้ามทำตามเด็ดขาดนะคะ มันรุนแรงต่อใจและเสียหายต่อทรัพย์สินด้วยค่ะ ห้ามทำเด้อ^0^)
“ กุน.. “
“ ขาลจะทำอะไร “ กุนขมวดคิ้วพูดกับอีกคนเสียงนิ่ง ปีขาลค่อยๆลดมือลงอย่างช้าๆ ดวงตาหวานมีน้ำตาเอ่อขึ้นมาทั้งสองข้าง ซึ่งกุนเองก็รู้ว่าตอนนี้อีกฝ่ายพยายามอย่างมากที่จะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมา
“ มานี่มา “ กุนพูดเสียงนุ่มและจัดการจับมือสวยให้เดินตามเขามา ปีขาลเองก็เดินตามไปอย่างเงียบๆโดยไม่พูดอะไร
ย้อนกลับไป
“ ระกาคือใคร? “
ทั้งหมดมองหน้ากันทันที เพราะรู้ดีว่ากุนนั้นยังไม่รู้เรื่องนี้
“ กูว่ามึงไปถามมันเองเถอะ ถ้ามันอยากให้มึงรู้เรื่องของมัน…มันจะบอกมึงด้วยตัวของมันเอง “ พอสพูดขึ้นด้วยท่าทีนิ่งๆ เพราเขารู้ดีว่าเรื่องที่ปีขาลเจอมันใช่ว่าจะเล่าให้ใครฟังก็ได้ และถ้าปีขาลเป็นคนเลือกที่จะเล่าให้กุนฟัง นั่นก็แปลว่ากุน..ได้เข้าไปอยู่ในใจของปีขาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ ……….. “ กุนนิ่งไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เพราะพอจะเข้าใจในสิ่งที่รุ่นพี่ตรงหน้าสื่อ เขาลุกขึ้นและรีบวิ่งตามปีขาลออกไปทันที
กลับมาปัจจุบัน
กุนพาปีขาลมาที่รถของตัวเองและให้อีกฝ่ายเข้าไปนั่งรอข้างใน พร้อมกับกดโทรศัพท์เพื่อต่อหาใครบางคน
“ แม่ครับ ผมมีเรื่องจะรบกวน…เอาคนของแม่ตามสืบใครบางคนให้ผมหน่อย…ว่าที่แฟนครับ…ถ้าคบจะพาไปเปิดตัว…เขาชื่อปีขาล…น่ารักดีครับ…ผมไม่แน่ใจว่าเขาเป็นใครแต่ผมคิดว่าต้องเกี่ยวข้องกับคนของผมอย่างแน่นอน…รู้ชื่อครับ..คนนั้นน่าจะเป็นผู้ชายครับ ชื่อระกา…ขอบคุณครับ…แค่นี้นะครับแม่..ครับ “ หลังจากวางสายกุนก็อ้อมไปที่ฝั่งคนขับและเปิดประตูเข้าไปนั่ง พร้อมกับออกรถด้วยท่าทีนิ่งๆ
“ คุยกับใครหรอ “ ปีขาลถาม ซึ่งน้ำเสียงไม่ได้ดูโอเคเท่าไหร่นักจนกุนเองก็สัมผัสได้
“ แม่ครับ “ กุนตอบตามความจริง ปีขาลพยักหน้าน้อยๆและไม่ได้ถามอะไรอีกคนต่อ
——————–
คอนโดส่วนตัวของร่างสูง
“ พามาที่นี่ทำไมอ่ะ “ ปีขาลหันไปถามอีกคนด้วยความตกใจ เมื่ออีกฝ่ายเลี้ยวเข้ามาภายในคอนโดที่เขาเองก็เคยมาสัมผัสที่แล้ว ซึ่งเขาเองก็ไม่คิดว่าจะได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง
“ ผมรู้ว่าพี่คงไม่อยากวุ่นวายกับใครเท่าไหร่ ผมเลยเลือกมาที่นี่ “ กุนหันไปตอบปีขาลยิ้มๆและหันไปขับรถต่อ
เมื่อจอดรถในที่วีไอพีแล้ว กุนก็ปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วเปิดประตูเดินลงมาและตามด้วยปีขาล
“ สวัสดีครับคุณกุน “ รปภ.เดินเข้ามาสวัสดีกุนด้วยท่าทีสุภาพ กุนพยักหน้านิดๆและหันไปมองปีขาลที่เดินตามหลังอยู่
“ อ้าวนี่มันคุณ.. “ รปภ.ชี้ไปทางปีขาลด้วยความตกใจที่ได้เจออีกฝ่ายอีกครั้ง
“ แฟนผมครับ “ กุนแนะนำให้อีกฝ่ายได้รับรู้ ปีขาลหันขวับมองอีกฝ่ายด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่าอีกคนจะแนะนำเขาแบบนี้
“ เอ่อ…สวัสดีครับ “ ปีขาลผงกหัวให้กับรปภ.ที่มองเขาอยู่
“ สวัสดีครับ! “ เขารีบทำความเคารพเจ้านายอีกคนของตัวเองทันที
“ ขอตัวก่อน “ กุนพูดจบก็โอบเอวบางของปีขาลแล้วเดินเข้าไปข้างในคอนโด
———-30%———–
เมื่อเข้ามาในห้อง ปีขาลก็มองไปรอบๆด้วยความคุ้นเคย
“ ขาลนั่งที่โซฟาก่อนนะ เดี๋ยวกุนไปเอาน้ำมาให้ “ กุนบอกอีกฝ่ายยิ้มๆ ปีขาลพยักหน้าน้อยๆแล้วเดินไปนั่งตามที่อีกคนบอก
เขานั่งทบทวนความรู้สึกของตัวเองที่เกิดขึ้นพร้อมกับมองไปยังร่างสูงที่กำลังเทน้ำมาให้เขาด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ยามที่เขารู้สึกเสียใจมากๆมักจะมีคนคนนี้คอยอยู่เคียงข้างตลอด ไม่ว่าจะตอนที่ยังรับน้องอยู่หรือไม่ก็ตาม มันจึงทำให้เขาต้องเริ่มมองอีกฝ่ายใหม่ซะแล้วสิว่ายังเป็นรุ่นน้องของเขาจริงๆหรือเปล่า..
“ น้ำครับ “ กุนยื่นน้ำส่งไปให้ร่างบาง ปีขาลยื่นมือไปรับด้วยท่าทีนิ่งๆ
“ ขอบใจ “
“ …ไม่สบายใจอะไรรึเปล่า “ กุนนั่งลงข้างๆแล้วถามด้วยความเป็นห่วง
“ ……… “ ปีขาลมองหน้ากุนนิดๆอย่างชั่งใจ
“ ขาลครับ ถ้าไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไรนะ กุนอยากให้ขาลสบายใจมากกว่า “ กุนเอื้อมมือไปลูบหัวเล็กเบาๆ สายตาทอดมองไปยังใบหน้าหวานด้วยความอ่อนโยน เขาไม่รู้หรอกนะว่าร่างบางตรงหน้าต้องเจออะไรบ้างแต่ที่เขารู้สึกได้เลยก็คืออีกฝ่ายคงเจอเรื่องไม่ดีแน่นอน
“ คือปี.. “ ปีขาลเอ่ยชื่อตัวเองออกมาเบาๆด้วยความลังเล
“ ไม่ต้องคิดมาก กุนจะอยู่เป็นเพื่อนจนกว่าขาลจะดีขึ้นเอง “ กุนยิ้มให้ร่างบางอย่างอ่อนโยน
“ เรียกใหม่ “ ปีขาลมองหน้ากุนนิ่งแล้วพูดย้ำอีกครั้งเมื่อเห็นใบหน้าที่ไม่เข้าใจของร่างสูง
“ เรียกชื่อใหม่ เรียกว่าปี ไม่ใช่ขาล “
“ ปี..? “ กุนเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“ คนในครอบครัวจะให้เรียกแบบนี้ “ ปีขาลตอบเสียงอ้อมแอ้มพร้อมกับหลบสายตาที่ร่างสูงมองมา
“ อ๋อ… “ กุนพยักหน้ายิ้มๆ และหลุดหัวเราะออกมาด้วยความกลั้นไม่อยู่เมื่อเจอความน่ารักของอีกฝ่ายเข้าอย่างจัง
“ ขำอะไร “ ปีขาลหันไปมองร่างสูงด้วยความไม่เข้าใจ
“ เปล่าครับ หึ แค่คิดว่า..น่ารักจัง “ กุนยิ้มกว้างแล้วเอื้อมมือไปลูบที่แก้มนิ่มของอีกฝ่ายเบาๆ ปีขาลก้มหน้างุด เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆเมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าจะเล่าเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้กับอีกคนได้รับรู้
“ พร้อมแล้ว “
“ พร้อมเล่าแล้วใช่มั้ยครับ “ เสียงนุ่มของกุนถามอีกคนเพื่อความแน่ใจ ปีขาลพยักหน้าพร้อมกับนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อตอนที่เขาอายุ11ปี
พ่อกับแม่ของปีขาลนั้นได้รับอุปการะเด็กคนนึงซึ่งเป็นลูกเพื่อนสนิทของพ่อเขาซึ่งชื่อว่าระกา ที่เพื่อนสนิทของพ่อเขาตั้งชื่ออีกฝ่ายว่าระกาเหตุผลก็เพราะเพื่อนสนิทของพ่อเขานั้นได้เกิดปีระกาพอดี ส่วนชื่อของเขาก็มาจากปีเกิดของพ่อตัวเองเช่นกัน ครั้งแรกที่ปีขาลเจอกับระกา เขาบอกตรงๆว่าเขารู้สึกดีใจมากที่กำลังจะมีพี่ชายและอีกอย่างก็คือตัวของระกานั้นเป็นคนที่นิสัยดีมาก คอยดูแลและช่วยเหลือเขาในทุกๆอย่าง นุ่มนวนและอ่อนโยนกับเขาเสมอทำให้เขายิ่งรักระกาเหมือนพี่ชายแท้ๆเข้าไปทุกวัน จนเมื่อเขาอายุ14ก็เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น..
วันนั้นเขาอยู่บนห้องเพราะกำลังนั่งทำการบ้านที่ครูสั่ง จู่ๆระกาก็มาเคาะประตูที่ห้องของเขา พอเขาถามอีกฝ่ายว่ามีอะไรรึเปล่า ระกาก็บอกว่าอยากจะเข้ามานอนเล่นที่ห้องเฉยๆ ปีขาลเองก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะด้วยความที่อีกฝ่ายเป็นพี่ชายที่สนิทมันเลยทำให้เขายอมอีกฝ่ายให้เข้ามาในห้องของเขาครั้งแรก
“ ปีทำอะไรอยู่หรอ “ ระกาเดินไปดูสมุดของขาลที่โต๊ะคอม
“ ปีกำลังนั่งทำการบ้านอยู่ครับ “ ปีขาลตอบร่างสูงไปยิ้มๆ
“ ให้พี่ช่วยมั้ยครับปี “ ระกาหันไปลูบหัวเล็กของปีขาลด้วยความอ่อนโยน
“ ไม่เป็นไรครับ ปีทำได้ “ ปีขาลหันไปยิ้มกว้างให้กับพี่ชายที่แสนจะใจดีของเขา เขามักชอบอวดพี่ชายตัวเองให้เพื่อนฟังบ่อยๆว่าเขามีพี่ชายที่แสนดีแล้วก็ใจดีกับเขามากๆ
“ ไหนการบ้านอะไรครับ พี่ขอดูหน่อย “ ระกาไปนั่งแทนที่ปีขาลและหันหน้าไปทางงคนตัวเล็กที่ยืนมองเขาตาแป๋วอยู่
“ มานั่งนี่มา “ ระกาตบไปที่ตักของตัวเองเบาๆเพื่อให้ร่างบางมานั่งที่ตัก แต่ปีขาลนั้นส่ายหน้าปฎิเสธ ถึงแม้ว่าเขายังจะเป็นเด็กแต่เขาก็พอจะรู้อยู่บ้างว่าการนั่งแบบนี้มันไม่ค่อยสมควรเท่าไหร่นัก
“ ทำไมดื้อกับพี่ละ “ ระกาขมวดคิ้วนิดๆเมื่อเด็กน้อยที่น่ารักของเขาเริ่มที่จะดื้อแล้ว
“ พี่ระก็ลุกก่อนสิ ปีถึงจะนั่ง “ ปีขาลบอกอย่างต่อรอง ซึ่งคำพูดของปีขาลไม่ได้ทำให้ระการู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด
“ ทำไมพี่ต้องลุก แต่ก่อนตอนเด็กๆปีก็นั่งตักพี่บ่อยๆนะ ทำไมตอนนี้ถึงได้เปลี่ยนไป “ ระกาบอกปีขาลเสียงดุ
“ แต่ตอนนี้ไม่เหมือนตอนเด็กแล้วนี่ ปีโตแล้วนะ ไม่เห็นต้องนั่งตักพี่เลย “ ปีขาลบอก พร้อมกับมองใบหน้าของพี่ชายต่างสายเลือดด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมอีกฝ่ายถึงดูเหมือนจะโมโหเขาขนาดนั้น
“ แต่พี่อยากให้ปีนั่ง “ เสียงเข้มของระกาพูดขึ้นอีกครั้ง
“ แต่ปีไม่อยากนั่ง ทำไมพี่ต้องบังคับปีด้วย “ ปีขาลขมวดคิ้วแล้วเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ ระกาลุกขึ้นยืนทันทีด้วยความโมโหพร้อมกับมองใบหน้าของปีขาลนิ่ง
“ มันคือคำสั่งของพี่! ปีไม่เข้าใจรึไง “ ระกามองปีขาลอย่างดุดุพร้อมกับคว้าแขนของร่างบางทั้งสองของข้างอย่างแรง
“ โอ๊ย! ปีเจ็บนะ! “
“ ทำไม! พี่จับแค่นี้ทำเป็นเจ็บงั้นหรอ ต้องให้ผู้ชายที่ปีไปเอามันจับใช่มั้ย ปีถึงไม่รังเกียจเหมือนพี่! “ ระกาตะคอกใส่ปีขาลเสียงดังลั่น เพราะมีอยู่วันนึงที่ระกาเห็นเพื่อนสนิทของปีขาลกำลังเล่นกอดรัดร่างบางอยู่ ในตอนนั้นเขาแทบจะควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่อยู่ รู้สึกอยากจะเข้าไปซัดหน้าเพื่อนสนิทของปีขาลให้ล้ม แต่ดีที่เขายังพอมีสติอยู่บ้างเลยไม่ได้ทำอะไรลงไป
ปีขาลนิ่งอึ้งอย่างตกตะลึง เพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะขึ้นเสียงใส่เขาแบบนี้
“ พี่เป็นบ้าอะไรของพี่เนี้ย “ ปีขาลมองร่างสูงด้วยความตกใจและพยายามที่จะแกะมือของระกาทั้งสองข้างที่บีบแขนเขาอยู่ แต่ก็ไม่สามารถที่จะทำให้มือหนาของระกาหลุดออกไปได้
“ บ้าหรอ..เออพี่บ้า! บ้าเพราะพี่แอบรักปีมาตลอดไงเข้าใจรึยัง!!! “
ปีขาลนิ่งอึ้งดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ เขาไม่เคยคิดเลยว่าคนที่เขานับถือเสมือนพี่ชายแม้ๆจะคิดกับเขาเกินเลยขนาดนี้
“ พี่แอบชอบปีมานานแล้ว ชอบมาตลอดแล้วพี่ก็ชอบปีแค่คนเดียว “ ระกาสบตากับปีขาลด้วยความจริงจัง
“ พี่ระ…. “ เป็นครั้งแรกที่ปีขาลรู้สึกว่าเขาไม่สามารถที่จะเอื้อนเอ่ยคำใดออกไปได้เลยแม้แต่น้อย
“ กูชอบมึงปีขาล เป็นของกูเถอะนะ “ ระกาพูดจบก็ก้มลงไปซุกไซ้ซอกคอของปีขาลทันที
ปีขาลที่เริ่มรู้สึกตัวก็ออกแรงผลักร่างสูงของระกาออกทันที แต่ไม่เป็นผลเพราะว่าร่างกายของทั้งสองนั้นค่อนข้างแตกต่างกันมาพอสมควร
“ เป็นเมียพี่..แล้วพี่จะดูแลปีเป็นอย่างดี “ ระกากระซิบข้างหูของปีขาลเสียงแหบพร่า
“ ไอเหี้ยปล่อยกู!! “ ปีขาลพยายามดิ้นหนีออกจากกรงเล็บของเสืออย่างระกาแต่เหมือนว่าจะไม่เป็นผล เพราะระกานั้นดันร่างบางของปีขาลไปที่เตียงกว้างเป็นที่เรียบร้อย
ตุบ!
“ ปล่อย! “ ปีขาลถีบไปยังอกของระกาแต่มือหนาดึงขาของปีขาลเอาไว้และดึงเข้ามาหาตัว ทำให้ปีขาลหงายหลังไปที่เตียงอย่างแรง
“ อยู่นิ่งๆ! “
“ เป็นเมียกู..แล้วมึงจะสบายปี “ ระกายกยิ้มมุมปากอย่างร้ายๆ ซึ่งมันทำให้ปีขาลที่ได้เห็นรอยยิ้มนั้นยิ่งรู้สึกกลัวมากขึ้นกว่าเดิม
“ พ่อ! แม่! ช่วยปีด้วยย!!! “ ปีขาลตะโกนออกไปอย่างสุดเสียง แล้วดูเหมือนว่าสวรรค์จะเข้าข้างปีขาลในครั้งนี้ เพราะจู่ๆก็มีเสียงทุบประตูดังขึ้นอย่างแรง
ปึกๆๆๆ!
“ ปี! ใครทำอะไรลูก! “ พ่อของปีขาลตะโกนถามกลับไปด้วยความเป็นห่วง
“ ช่วยปีด้วย!!! “ ปีขาลตะโกนอีกครั้งอย่างสุดเสียง ทำให้ระกาที่กำลังค่อมร่างบางอยู่นั้นเริ่มหมดความอดทน เขาต่อยไปที่ท้องของปีขาลอย่างแรงด้วยความโมโห
อุก!
ปีขาลตัวงอด้วยความจุก ระกาที่เห็นว่าอีกคนนิ่งเงียบได้แล้วก็ก้มหน้าไปซุกไซ้ซอกคอขาวต่อทันที
พลั่ก!!
เสียงประตูเปิดเข้ามาอย่างแรง โดยฝีมือแม่ของปีขาลที่วิ่งไปเอากุญแจสำรองที่ห้องของตัวเองนำมาให้กับสามีเพื่อให้เปิดประตูห้องของลูกชาย
“ ไอเหี้ยระกา!! “ พ่อของปีขาลตะคอกด้วยความโมโหและวิ่งไปดึงคอเสื้อของระกาให้ออกห่างจากลูกชาย ส่วนแม่ของปีขาลนั้นก็รีบเข้าไปกอดปีขาลทันทีด้วยความเป็นห่วง เธอเองก็ไม่เคยคิดเลยว่าเด็กที่เธอนึกสงสารในตอนเด็กดจะทำเรื่องที่เลวร้ายกับลูกชายของเธอแบบนี้
“ ไอสัส! “
ผั๊วะ!!
พ่อของปีขาลต่อยไปที่ใบหน้าระกาอย่างแรง จนเลือดที่มุมปากของระกาไหลออกมาเป็นทางยาว
“ มึงจะทำระยำอะไรกับลูกกูไอเหี้ย! “ เขาทำท่าจะต่อยไปที่ลูกเลี้ยงของตัวเองอีกครั้ง แต่อีกฝ่ายกลับรับหมัดของเขาได้ก่อนและต่อยสวนคืนไปทันที
“ กรี๊ดดด “ เธอร้องกรี๊ดด้วยความตกใจเมื่อเห็นสามีล้มลงไปที่พื้น
“ ถุย! กูก็กำลังจะเอาลูกมึงไง “ ระกาดันกระพุ้งแก้มตัวเองแล้วจ้องหน้าพ่อของปีขาลอย่างไม่นึกกลัว
“ แกทำอย่างนี้ได้ยังไง! นี่มันน้องแกนะระกา “ เธอตะโกนถามด้วยความไม่เข้าใจและความโกรธ
“ กูไม่เคยคิดว่ามันเป็นน้องกู แล้วกูก็ไม่เคยคิดว่าพวกมึงเป็นพ่อเป็นแม่กูด้วย ไม่ต้องมานับญาติกับกู! “ ระกาตะโกนใส่หน้าผู้มีพระคุณทั้งสองคนด้วยความโกรธแค้น เหมือนสิ่งที่สะสมอยู่ในใจของเขามันอัดอั้นมานานแสนนาน
“ มึงเป็นบ้าไปแล้วหรอ! “ ปีขาลตะคอกใส่คนตรงหน้าด้วยความโมโห ระกาหันไปมองทางปีขาลนิดๆ
“ ปีไม่รู้อะไร ปีเงียบไปดีกว่า ปีรู้มั้ยว่าพ่อแม่ปีทำอะไรกับพ่อแม่พี่บ้าง! “
“ อย่าไปฟังมันปี มันคิดเลวระยำกับลูกแถมมันยังจะใส่ร้ายพ่อกับแม่อีก ลูกอย่าไปฟังมันนะ “ พ่อของปีขาลหันไปบอกลูกชาย ปีขาลขมวดคิ้วด้วยความลังเลเพราะเขารู้สึกสงสัยในสิ่งที่ระกาพูด
“ มึงนั่นแหละหุบปาก!! “ ระกาตะคอกใส่พ่อของปีขาลพร้อมกับหยิบปืนที่อยู่ทางด้านหลังมาจ่อที่หัวของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีพระคุณของเขา พ่อของปีขาลชะงักไปในทันทีด้วยความตกใจ ส่วนแม่ของปีขาลและตัวของปีขาลนั้นก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจเช่นกัน
“ มึงนี่มันเหี้ยเลวระยำจริงๆเลยนะไอสัส “ ระกากระตุกยิ้มมุมปาก
“ ยะ..อย่าทำเหี้ยไรพ่อกูนะ “ เสียงสั่นของปีขาลเอ่ยขอ ระกาหันไปทางปีขาลนิดๆ
“ พี่ระจะไม่ทำอะไรพ่อของปีก็ได้ แต่ให้พ่อกับแม่ของปี…กราบตีนพี่ก่อนสิ “
ทั้งหมดนิ่งอึ้งด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่าอีกคนจะกล้าพูดแบบนี้ออกมา เดิมทีนิสัยของระกาที่พวกเขารับอีกฝ่ายมาดูแล คือเป็นคนเรียบร้อยและก็อบอุ่นมาก แต่พอมาวันนี้นิสัยช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว
“ ใครจะกราบตีนคนเนรคุณอย่างมึง ไอเลว! “ พ่อของปีขาลพูดขึ้นด้วยความโมโห
ผั๊วะ!!
ด้ามปืนของระกาตบไปที่ใบหน้าพ่อของปีขาลอย่างแรง ปีขาลและแม่เบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“ ปากดีนักนะไอแก่ จะตายห่าอยู่แล้วยังจะมาปากดีใส่กูอีกหรอ “
“ นี่มันจะเกินไปแล้วนะ “ แม่ของปีขาลรีบวิ่งมาแย่งปืนในมือของระกาทันที
เพี๊ยะ!
ใบหน้าของเธอหันไปตามแรงตบที่อีกฝ่ายตบมา
“ แม่!! “ ปีขาลเรียกแม่ตัวเองเสียงดังลั่นและทำท่าจะเข้ามาหาพ่อกับแม่ที่นั่งอยู่ที่พื้น แต่ระกาหันปืนมาทางปีขาลเสียก่อน
“ หยุดอยู่ตรงนั้นแหละปี ถ้าไม่อยากให้พี่ฆ่าพวกมัน ปีก็อยู่เฉยๆซะ “
ปีขาลหยุดชะงักขาที่กำลังจะก้าวลงมาจากเตียงทันที
พ่อของปีขาลเริ่มเห็นช่องว่างของระกา เขาจึงเล็งไปที่มือของระกาที่มีปืนถืออยู่ และพุ่งเข้าไปแย่งปืนในมือออกมาแต่ระกานั้นรู้ทัน ทั้งคู่จึงยื้อแย่งกันไปมาสักพักจนในที่สุดระกาก็ได้ปืนมาครอบครองตามเดิมได้สำเร็จ เขาหันปืนไปจ่อที่หัวของพ่อปีขาลทันที แต่ไม่ทันไรแม่ของปีขาลก็ทำท่าจะมาดึงปืนออกจากระกาอีกครั้ง และทั้งสองก็ยื้อแย่งกันอีกจนในที่สุดปืนที่ทั้งคู่จับอยู่มันก็ลั่นไปที่หัวของพ่อปีขาลและลั่นไกลใส่อีกฝ่ายทันที
ปัง!
ทุกอย่างหยุดชะงักไปทันที ทั้งปีขาลและแม่ของเขาต่างก็มองไปยังร่างของผู้เป็นเสาหลักของครอบครัวที่ตอนนี้ได้เสียชีวิตลงแล้ว
“ พ่อ!!/คุณ! “ ทั้งสองคนรีบเข้าไปหาร่างของคนที่ไม่มีลมหายใจทันที ระกาได้แต่มองภาพนั้นด้วยสายตาที่ว่างเปล่า ดวงตาคมมองไปยังมือของตัวเองที่ถือปืนอยู่ พร้อมกับเช็ดด้ามปืนด้วยท่าทีนิ่งๆ
“ ตายซะเถอะมึง! “ แม่ของปีขาลทำท่าจะเข้ามาทำร้ายร่างสูงอย่างระกา แต่อีกฝ่ายรู้ทันแล้วลั่นไกลใส่ทันทีโดยไม่ลังเล
“ แม่!!!! “ ปีขาลตะโกนเรียกแม่ตัวเองเสียงดังลั่น เขาเข้าไปรับร่างของผู้เป็นแม่ที่ล้มลงสู่อ้อมแขนของเขาพอดี
“ อย่าเสียใจนานนักละ..อ่อ..เดี๋ยวพี่จะให้ป้าทางบ้านพี่ส่งเราเรียนต่อนะ ไม่ต้องห่วง “ ระกาพูดด้วยเสียงนิ่งๆแล้วเดินข้ามศพพ่อของปีขาลไปโดยไม่หันไปมองทั้งสามคนอีกเลย..และหลังจากนั้นระกาก็หายไปจากชีวิตของปีขาลและไม่ติดต่อมาอีก จนกระทั่งเขาเข้ามหาลัย ส่วนเรื่องพ่อกับแม่ของเขาก็ถูกปิดข่าวและไม่มีใครค้นพบความจริงอีกเลยว่าสาเหตุการตายนั้นเกิดมาจากอะไร