เคลียร์นะเฮีย! เป็น’เมีย’ผมนะ – ตอนที่ 40

“ พี่พอส คนที่ชื่อระกาคือใครอะ “ พนาถามพอสด้วยความสงสัย

หลังจากที่ทั้งสองเลิกเรียนแล้ว พอสก็พาพนามาที่คอนโดหรูของตัวเอง ซึ่งตอนนี้ทั้งสองกำลังนอนกอดกันอยู่บนเตียงกว้าง

“ จะอยากรู้ไปทำไม “ พอสเลิกคิ้วถามคนในอ้อมกอด

“ แล้วทำไมผมถึงถามไม่ได้ “ พนามองหน้าพอสอย่างหาเรื่อง

“ ก็เปล่า..ไม่ได้บอกว่าถามไม่ได้ แค่อยากรู้เฉยๆว่าจะถามไปทำไม “ พอสรีบตอบปฎิเสธเพราะกลัวว่าพนาจะอารมณ์ไม่ดี

“ ก็มันดูเหมือนมีซัมติงอะไรกับพี่ปีขาลนี่ แล้วอีกอย่างนะเหมือนกับว่าคนชื่อระกาอะไรนี่จะเข้ามาทำให้ไอนิ่งกับพี่ปีขาลต้องทะเลาะกันด้วย “ คิ้วสวยของพนาขมวดเข้าหากันแล้วพูดด้วยความมั่นใจเพราะเขาเชื่อในเซ้นของตัวเองไม่น้อยว่ามันจะต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ พอสกลืนน้ำลายลงคอนิดๆเมื่อรู้สึกว่าคนรักของตัวเองทำไมถึงได้มีเซ้นที่แม่นขนาดนี้

“ ตกลงยังไง “ พนาเงยหน้าถามพอสอีกครั้ง

“ ก็.. “ พอสมองหน้าพนาอีกครั้งอย่างช่างใจว่าควรจะเล่าเรื่องนี้ให้กับพนาฟังดีหรือเปล่า เพราะเขาเองก็ยังไม่รู้ว่าตอนนี้ปีขาลได้เล่าเรื่องนี้ให้กับกุนฟังบ้างหรือไม่ แล้วถ้าเขาเล่าเรื่องนี้ให้กับพนาฟัง อีกฝ่ายจะเอาไปเล่าให้กุนต่อปีขาลจะรู้สึกยังไง

“ ก็? “ พนาเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

“ ระกาคือพี่ชายต่างสายเลือดของไอขาลมันอ่ะ เป็น..พี่น้องที่คิดกันมากกว่าพี่น้อง ไอขาลเองมันก็รู้เรื่องนี้ดี..ตอนนี้พี่ระกามันกำลังตามตื้อไอขาลอยู่ “ พอสเล่าให้อีกคนฟังคร่าวๆเพราะเขาเองก็ไม่กล้าที่เจาะลึกมากนัก ถึงแม้ในใจอยากจะบอกคนรักให้หมดเลยก็ตาม

“ แค่นี้? “

“ อื้อ แค่นี้แหละ “ พอสพยักหน้าน้อยๆ

“ ผมว่าแล้วไง ว่าไอพี่ระกาอะไรนี่จะต้องมาทำให้สองคนนั้นแตกแยกกันแน่ๆ ทีนี้พี่เชื่อผมยังว่าเซ้นผมอ่ะ แม่น “ พนายักคิ้วใส่พอสอย่างกวนๆ พอสยิ้มกว้างใส่คนน่ารักพร้อมกับลูบหัวเล็กด้วยความเอ็นดู

“ เออเก่ง เก่งที่สุดแล้วเราอ่ะ “ เสียงเข้มของพอสพูดด้วยความหมั่นเขี้ยวพร้อมกับขยี้หัวเล็กเบาๆ

“ ทีนี้ก็รู้แล้วใช่มั้ยว่าไม่ควรคิดนอกใจผม “ พนาแกล้งหรี่ตาถามคนตรงหน้ากลับไป

“ รู้แล้วครับ “ พอสอมยิ้มด้วยความเอ็นดูพร้อมกับกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น

.

.

.

ปีขาลลืมตาตื่นขึ้นมาในช่วงเวลาทุ่มกว่าๆ เขาหันไปมองรอบๆเพื่อหาร่างสูงแต่ก็ไม่พบ ปีขาลลุกขึ้นนั่งแล้วเอื้อมมือไปเปิดโคมไฟที่อยู่ตรงหัวเตียงเพื่อให้ภายในห้องได้สว่างมากขึ้น

พรึบ!

“ หายไปไหนของเขานะ “ ปีขาลพึมพำกับตัวเองเบาๆด้วยความสงสัย

“ หรือว่าจะอยู่ข้างนอก “

ปีขาลพูดจบก็ลุกขึ้นจากเตียงเพื่อออกไปหากุนที่นอกห้อง เมื่อเปิดประตูออกไปเขาก็พบว่าร่างสูงของกุนกำลังนั่งพิมพ์อะไรบางอย่างอยู่ที่ห้องนั่งเล่น

“ กุน.. “ ปีขาลเรียกชื่อกุนเสียงแผ่ว เพราะไม่อยากเสียงดังให้อีกฝ่ายต้องตกใจ

“ ตื่นแล้วหรอครับ “ กุนเงยหน้าขึ้นไปมองร่างบางยิ้มๆ ปีขาลพยักหน้าน้อยๆ

“ ทำอะไรอยู่หรอ “ ปีขาลถามด้วยความสงสัย

“ กำลังทำรายงานอยู่ครับ มานั่งนี่สิ “ กุนบอกให้ร่างบางมานั่งข้างๆเขา ปีขาลเองก็ค่อยๆเดินเข้าไปหากุนแล้วนั่งลงข้างๆ

“ ช่วยมั้ย “ ปีขาลพูดเสนอ เพราะเท่าที่เขามองไปที่หน้าจอของอีกฝ่ายก็พบว่าเป็นรายงานที่เขาเองก็เคยทำมาแล้ว

“ ไม่เป็นไร กุนไม่อยากให้ปีเหนื่อย “ เสียงนุ่มเอ่ยบอกคนน่ารักที่นั่งอยู่ข้างๆ ปีขาลอมยิ้มนิดเมื่อเจอคำหวานของอีกคน

“ มันไม่ได้เหนื่อยอะไรเลย รายงานนี้เคยทำมาแล้ว “ ปีขาลยักคิ้วนิดๆ

“ นั่งเฉยๆเถอะหน่า กุนอยากให้ปีนั่งเป็นกำลังใจให้กุนมากกว่า “ กุนพูดเสียงหวาน ปีขาลมองใบหน้าที่จริงจังของกุนก็ได้แต่ยิ้มกว้างแล้วพยักหน้าตอบตกลง

“ อื้อ “

กุนลูบหัวเล็กด้วยความอ่อนโยนและหันหน้าไปพิมพ์รายงานต่อ

เวลาผ่านไปสักพักกุนหันไปมองนาฬิกาและพบว่าตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มกว้าแล้ว ร่างสูงจึงหันไปมองคนข้างๆที่นั่งเงียบมาหลายชั่วโมงแต่ก็พบว่าตอนนี้ใบหน้าหวานได้เอียงหน้าซบไปที่พนักพิงของโซฟาและหลับลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กุนอมยิ้มน้อยๆพร้อมกับใช้มือลูบไปที่ใบหน้าหวานที่หลับพริ้มอยู่

“ ทำไมต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ด้วยนะ “

ครืดดด ครืดดด

โทรศัพท์ที่สั่นของกุนทำให้เขาหันไปมองทันทีพร้อมกับหยิบขึ้นมาแล้วกดรับสาย

“ ฮัลโหล “

“ ( สวัสดีครับคุณกุน ) “ เสียงที่คุ้นเคยทำให้กุนรู้ได้ทันทีว่าเป็นใคร

“ ว่าไงเมฆา “ กุนเอ่ยเรียกผู้เป็นคนสนิทของตัวเองตั้งแต่เด็ก เมฆานับเป็นเสมือนเพื่อนรุ่นน้องของเขาเลยก็ว่าได้ เพราะทำงานให้กับที่บ้านของเขาตั้งแต่เด็ก ซึ่งอายุของเมฆากับกุนนั้นห่างเพียงแค่2ปีเท่านั้น อุปนิสัยของเมฆาก็เป็นคนที่เงียบขรึม สุขุม ไม่ค่อยยุ่งกับใครเท่าไหร่นักถ้าไม่จำเป็น ซึ่งนิสัยของเมฆาจะค่อนข้างใกล้เคียงกับเขาไม่น้อย ตอนนี้เมฆาเองก็ยังเรียนอยู่เพียงแค่ยังอยู่มัธยมก็เท่านั้น ส่วนเรื่องงานที่บ้านของกุนนั้นเมฆาเองก็ยังทำปกติเพียงแค่อาจจะละเว้นบ้างถ้าหากมีงานที่โรงเรียน ซึ่งพ่อแม่ของกุนนั้นก็เอ็นชดูและรักเมฆาเหมือนลูกบุญธรรมไม่น้อย

“ ( คุณกุนอยู่ที่ไหนครับ ) “ เมฆาถามเสียงนิ่ง

“ นายเองก็รู้อยู่แล้ว จะถามทำไม “ กุนบอกกลับไปด้วยท่าทีสบายๆ

“ ( คุณผู้หญิงเล่าให้ผมฟังหมดแล้ว..คุณกุนคิดดีแล้วใช่มั้ยครับ ) “

“ อืม “ กุนตอบกลับไป เพราะเขาเองก็คิดมาดีแล้วจริงๆ

“ ( ช่วงนี้มันช่วงปิดเทอมของผมพอดี เดี๋ยวผมจะเข้าไปหาคุณกุนนะครับ ) “ เมฆาบอก เพราะเขาเองก็รู้สึกห่วงกุนไม่น้อย ถึงแม้จะรู้ฝีมือกันอยู่แล้วก็ตามแต่ในฐานะที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กมันก็ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะห่วง

“ จะมาทำไม นายก็มีงานต้องทำอีกไม่ใช่หรอ ไหนจะต้องตามไปดูแลพ่อฉันอีก “ กุนขมวดคิ้วถามปลายสายกลับไป

“ ( ผมขออนุญาตคุณท่านแล้วว่าจะขอตามมาดูแลคุณกุนที่นี่ คุณท่านโอเคครับ ) “ เมฆาบอก กุนได้แต่ถอนหายใจออกมาเมื่อได้ยิน

“ ตามใจแล้วกัน แต่นายคงมานอนที่ห้องฉันเหมือนที่ผ่านมาไม่ได้หรอกนะ “ กุนพูดดัก เพราะทุกครั้งเวลาที่เมฆาจะแวะเวียนเข้ามาหาเขาทีไรจะต้องมานอนที่ห้องของเขาทุกครั้ง

“ ( ผมเข้าใจครับ ผมเลยจัดเตรียมซื้อคอนโดเอาไว้ใกล้กับคุณกุนแล้ว คุณกุนไม่ต้องห่วงนะครับ ) “ เมฆาตอบ

“ แล้วแม่ฉันว่าอะไรมั้ยละที่นายจะมาที่นี่ “ กุนถามด้วยน้ำเสียงขบขัน

“ ( ตอนแรกคุณหญิงท่านไม่ยอมหรอกครับ แต่ผมพูดคุยกับคุณหญิงท่านด้วยเหตุผล คุณหญิงท่านเลยเข้าใจ ) “

“ ( แล้วอีกอย่าง..คุณหญิงท่านก็เป็นห่วงคุณกุนไม่น้อยครับ เพราะท่านเองก็รู้ว่าทางฝั่งนั้นไม่ปกติ ) “ เมฆาพูดด้วยความกังวล

“ ฉันไม่เป็นไรเมฆา นายเองก็รู้ฝีมือฉันดีนี่ “ กุนพูดพร้อมกับยิ้มบางๆใส่โทรศัพท์ โดยที่ดวงตาก็หันไปดันใบหน้าหวานให้มาซบที่หน้าอกของตัวเอง

“ ( แต่คุณกุนก็ไม่ควรประมาทนะครับ ) “ เขาเอ่ยเตือนอีกครั้งด้วยความเป็นห่วง

“ ขอบใจที่ห่วง แล้วนี่นายจะมาเมื่อไหร่ละ “ กุนถาม

“ ( อีกสองวันครับ ถ้าผมเคลียร์เรื่องทุกอย่างเรียบร้อยแล้วจะรีบไปหา ) “

“ ยังไงก็โทรหาฉันก่อนแล้วกัน อ่อแล้วอีกอย่างนะเมฆา “

“ ( ครับ? ) “ เมฆานิ่งรอฟังคำสั่ง

“ นายควรเลิกเรียกฉันว่าคุณได้แล้ว ส่วนพ่อกับแม่นายก็ไม่ควรเรียนว่าท่านอีก แม่ฉันเองก็เคยบอกแล้วไงว่าถ้านายเรียกท่านว่าแม่ไม่ได้ก็ให้เรียกว่าป้าแทน “ กุนบอกด้วยน้ำเสียงที่เอ็นดูไม่น้อย

“ ( ผมทำแบบนั้นไม่ได้คุณกุนเองก็ทราบนี่ครับ ) “ เมฆาตอบกลับไปด้วยท่าทีสุภาพเช่นเดิม

“ งั้นฉันจะต่อสายตรงไปที่แม่ของฉันแล้วให้คุยกับนายแทน ดูสิ๊จะรู้เรื่องมั้ย “ กุนแกล้งพูดขู่

“ ( อย่านะครับคุณกุน! คุณกุนเองก็รู้นี่ครับว่าถ้าคุณกุนบอกกับคุณหญิงท่าน ท่านจะต้องน้อยใจผมแน่ๆ ) “ เมฆาบอกเสียงเครียด

“ ถ้าอย่างนั้นก็ตามนี้แหละ มาที่นี่ก็เปลี่ยนคำเรียกใหม่ด้วยละ แม่ฉันไม่ใช่หม่อมเจ้าที่ไหนไม่ต้องเรียกคุณท่านหรอก แค่นี้นะ “ กุนพูดจบก็กดตัดสายไปทันที เขาจ้องมองโทรศัพท์พร้อมกับส่ายหัวน้อยๆ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เมฆาก็ยังคงเป็นเหมือนเดิมแบบนี้ไม่เคยเปลี่ยน แต่ก็เพราะนิสัยแบบมนี้ของเจ้าตัวนั่นแหละที่ทำให้เขารักเหมือนน้องชายแท้ๆ

เป็นเมียผมนะ

เป็นเมียผมนะ

ปวดหัวกับหน้าที่ที่โดนยัดเยียดไม่พอยังต้องมาปวดหัวกับไอเด็กปีหนึ่งที่ชอบแหกกฎอีกงานนี้เขาจะรับมือกับไอเด็กตัวแสบไหวมั้ยนะหรือว่าจะต้องทำโทษให้มันตายไปข้างนึงดีแต่ทำไมยิ่งอยู่ใกล้ใจเขามันถึงเต้นแปลกๆนะ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset