“ โดนคุณกุนเธอดุหรอเม “ นิชา เพื่อนร่วมทีมของเมฆาเอ่ยแซวยิ้มๆเมื่อเดินผ่านมาที่สวนหลังบ้านแล้วได้ยินเมฆาคุยโทรศัพท์อยู่
นิชาเป็นผู้หญิงคนเดียวที่อายุเท่ากับกุนและเมฆา แถมฝีมือของหญิงสาวเองก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน เพราะเธอเก่งมากในการใช้ทักษะป้องกันตัวหรือทำร้ายคู่ต่อสู้ในระยะประชิด ซึ่งถ้าเป็นระยะไกลเธอเองก็เก่งไม่แพ้กันแต่ถ้าพูดถึงทักษะที่ถนัด นิชาจะเก่งเรื่องระยะประชิดมากกว่าคนอื่นๆ นิชาเป็นเสมือนเด็กสาวที่แม่และพ่อของกุนนั้นเอ็นดูเช่นเดียวกับเมฆา บุคลิกภายนอกเธอจะดูเป็นคนนิ่งๆเรียบร้อยไม่ค่อยยุ่งกับใครมากนักแต่ถ้าเธอได้อยู่ต่อหน้าคู่ต่อสู้เมื่อไหร่เธอจะเปลี่ยนเป็นคนละคนโดยทันที ซึ่งความเด็ดขาดและเลือดเย็นของนิชาเป็นที่เรื่องลือจนทำให้ไม่ค่อยมีใครกล้าที่จะต่อสู้กับเธอตัวต่อตัว
“ อืม เรื่องเดิมนั่นแหละ “ เมฆาบอกเสียงเครียดไม่น้อย
“ หึหึหึ ก็เราบอกเมแล้วนี่ว่าให้เรียกพวกเขาตามที่พวกเขาอยากให้เรียก ต่อหน้าคนอื่นเราค่อยเรียกในแบบของเรา ไม่อย่างนั้นคุณกุนก็ต้องมาบังคับเธอแบบนี้แหละ “ นิชาพูดใส่เมฆายิ้มๆ เพราะเธอเองก็โดนกุนและคนอื่นๆต่อว่าเรื่องการใช้สรรพนามเรียกเหมือนกัน
“ ………… “ เมฆาไม่ได้ตอบอะไรนิชาไป เขาได้แต่ขมวดคิ้วแล้วถอนหายใจออกมาด้วยความไม่สบายใจ
“ เรารู้นะว่าเมคิดอะไรอยู่ เมไม่ต้องคิดมากหรอกนะยังไงพวกเราก็ยังเคารพพวกเขาเหมือนเดิม แค่ต่อหน้าคนอื่นเราก็เรียกพวกเขาตามที่พวกเราอยากเรียกนั่นแหละ แต่พอต่อหน้าพวกเขาเราก็แค่เรียกพวกเขาเหมือนกับคนในครอบครัวของเราก็เท่านั้นเอง เมอย่าลืมนะว่าเรา เมและคุณกุน เราโตมาด้วยกัน เพราฉะนั้นถ้าคุณกุนเธออยากให้พวกเราเรียกเธอเหมือนเพื่อนคนนึงมันก็ไม่แปลก นิเข้าใจพวกเขานะ..แล้วเมละเข้าใจพวกเขาบ้างรึเปล่า “ นิชาส่งยิ้มอ่อนๆให้กับเมฆาพร้อมกับเดินออกไปเพื่อให้เพื่อนคนนี้ได้คิดอะไรคนเดียว
ทางฝั่งของกุน
หลังจากวางสายของคนสนิท กุนก็หันไปมองคนที่นอนซบไหล่ตัวเองด้วยท่าทีที่อ่อนโยน
“ ปีครับ ปี “ กุนค่อยๆเขย่าไหล่เล็กของปีขาลเพื่อให้ตื่นขึ้น เพราะเขาอยากให้อีกคนไปนอนในห้องดีดีมากกว่าตรงนี้
“ ……… “ แต่ก็ไม่ได้มีท่าทีว่าคนตัวเล็กของเขาจะลืมตาตื่นขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย กุนที่เห็นแบบนั้นก็ได้แต่ยิ้มมุมปากและตัดสินใจที่จะไม่ปลุกร่างบางต่อ เขาค่อยๆช้อนตัวของร่างบางมาอุ้มไว้ในท่าเจ้าหญิงแล้วพาเดินเข้าไปในห้องเพื่อให้นอนที่เตียงกว้างแบบสบายๆ กุนเดินออกไปปิดไฟและสำรวจรอบห้องว่าปิดทุกอย่างเรียบร้อยรึยัง เมื่อปิดทุกอย่างหมดแล้วเขาเลยเดินกลับเข้าไปในห้องอีกครั้งและล้มตัวลงนอนข้างๆพร้อมกับโอบไปที่เอวบางแล้วหลับลงตามไป
—————-
เช้าวันต่อมา
ปีขาลตื่นขึ้นมาก็พบกับใบหน้าของกุนอยู่ในระยะประชิด เขาตกใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้รู้สึกกลัวหรือแปลกใจแต่อย่างใด กลับกันในความรู้สึกตอนนี้มันดันเป็นความรู้สึกที่ดีมากด้วยซ้ำที่ตื่นขึ้นมาแล้วยังเจออีกคนอยู่กับเขา
“ ดีใจนะที่ยังอยู่ด้วยกัน “
ปีขาลค่อยยกมือจับไปที่ใบหน้าคมด้วยความอ่อนโยน เขายิ้มให้กับความน่ารักของคนที่นอนหลับอยู่
“ ขอคิดค่ามองเป็นหอมแก้มทีนึงได้มั้ยครับ “
ปีขาลได้แต่เบิกตากว้างด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่าอีกคนจะตื่นแล้ว
“ ตะ..ตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะ “ ปีขาลถามเสียงตะกุกตะกัก
“ ตื่นตั้งแต่ปีเริ่มขยับตัวแล้ว “ กุนบอกยิ้มๆพร้อมกับกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น ปีขาลอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
“ งั้นก็ตื่นนานแล้วนี่! “
“ หึหึหึ อื้อ “ กุนพยักหน้ายิ้มๆ ปีขาลทำแก้มพองลมด้วยความไม่พอใจ เขาทุบไปที่อกแกร่งไม่แรงนัก
ปึก!
“ นิสัย! ตื่นแล้วทำไมไม่บอก ปล่อยให้ปีมองอยู่ได้ “
กุนจับมือที่ทุบอยู่ที่อกมากุมไว้หลวมๆ
“ ถ้าตื่นก่อนก็ไม่เห็นปีสิ “ กุนพูดยิ้มๆ ปีขาลได้แต่มองค้อนอีกคนอย่างเคืองๆ
“ วันนี้ต้องไปมอนะ ตื่นแล้วลุกไปอาบน้ำได้แล้ว “ ปีขาลพูดขึ้นเมื่อนึกได้
“ หึหึ แล้ว..ปีหิวมั้ย “ กุนถาม ปีขาลส่ายหน้าน้อยๆ
“ เดี๋ยวไปกินกับพวกไอป้อง “
กุนพยักหน้าแล้วค่อยๆลุกขึ้น ปีขาลเองก็ลุกตามด้วยเช่นกัน
“ งั้นปีไปอาบน้ำก่อนแล้วเดี๋ยวกุนอาบต่อ วันนี้กุนจะขับรถไปส่งปีเองนะ..ปีไม่ต้องขับรถไป “ กุนยิ้มบางๆส่งไปให้คนตัวเล็กที่มองเขาอยู่
“ อื้ม “ ปีขาลพยักหน้าน้อยๆเมื่อได้ยิน กุนยิ้มให้อีกคนนิดๆพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปหอมที่หน้าผากมนเบาๆ
“ น่ารัก “ เสียงนุ่มของกุนเอ่ยขึ้นเบาๆ
“ ไป..ไปอาบน้ำก่อน..ดีกว่า “ ปีขาลเม้มปากด้วยความขัดเขินพร้อมกับลุกขึ้นแล้วรีบเดินเข้าห้องน้ำไปทันที กุนได้แต่มองภาพตรงหน้ายิ้มๆ
.
.
.
มหาลัย
“ ปีลงหน้าคณะแล้วไปหาพวกพี่ป้องก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวกุนไปหาที่จอดรถก่อน “ กุนหันไปบอกคนตัวเล็กเมื่อเลี้ยวเข้ามาที่มหาลัยและกำลังขับตรงไปยังคณะของตัวเอง
“ ไม่เป็นไร ไว้ไปด้วยกันก็ได้ ยังไงเพื่อนกุนก็คงอยู่กับไอพอสมันแล้วแหละ “ ปีขาลบอกยิ้มๆ
“ เอางั้นก็ได้ครับ “ กุนหันไปยิ้มให้กับปีขาลเช่นกัน
เมื่อจอดรถตรงหลังคณะของตัวเองเสร็จแล้ว ปีขาลและกุนต่างก็ลงรถมาด้วยท่าทีปกติโดยไม่ได้สนใจคนรอบข้างที่มองมาที่พวกเขาด้วยความสงสัย
“ อยากกินอะไร “ กุนหันไปถามร่างเล็กยิ้มๆในขณะที่เดินเข้าไปที่ตึกเล็ก เพราะมันเป็นทางผ่านของโรงอาหารของคณะ
“ ไม่รู้สิ อาจจะ..ข้าวมันไก่ “ ปีขาลตอบเมื่อนึกถึงเมนูโปรด
“ โอเค “ กุนพยักหน้า
“ ไอกุนไอขาล ทำไมพวกมึงมาด้วยกันวะ “ ฟิวเดินตรงเข้ามาหาทั้งสองแล้วพูดขึ้นด้วยความแปลกใจ
“ …แล้วมึงมาทำเชี้ยไรตรงนี้อ่ะ “ ปีขาลแกล้งพูดเปลี่ยนเรื่อง
“ กูพึ่งมานี่แหละ กำลังจะเดินไปหาพวกมึงที่โรงอาหารแต่กูดันมาเห็นมึงก่อนเลยเดินเข้ามาทักเนี้ย ว่าแต่..มึงยังไม่ตอบคำถามกูเลยนะไอห่าขาล ว่าทำไมมึงมากับไอเด็กกุนนี่ได้ “ ฟิวแกล้งเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ถึงแม้ว่าพอจะมองออกอยู่บ้างก็ตามว่าเพราะอะไร
“ ก็.. “ ปีขาลอึกอักและหันไปมองใบหน้าของร่างสูงนิดๆ กุนเองก็ไม่ได้พูดหรือตอบอะไรแทนร่างบางเพราเขาเองก็อยากรู้ว่าคนตัวเล็กข้างๆจะตอบคำถามเพื่อนสนิทยังไง
“ หรือว่า…พวกมึง..นอนด้วยกันเมื่อคืน “ ฟิวชี้นิ้วไปหาทั้งสองคนยิ้มๆ ซึ่งมันก็ยิ่งทำให้ปีขาลมีใบหน้าที่แดงกล่ำมากกว่าเดิมด้วยความเขิน
“ ไอเชี้ยฟิว! พูดจาให้มันเบาๆหน่อยมึง ที่มหาลัยนะเว้ย “ ปีขาลตีไหล่แกร่งของเพื่อนไม่แรงนัก ฟิวได้แต่ยิ้มขำให้กับการกระทำของเพื่อน
“ หึหึหึ มึงจะเขินเชี้ยไรเนี้ยไอห่าขาล ตกลง..ยังไง “ ฟิวเลิกคิ้วเป็นเชิงถามพร้อมกับมองกุนและปีขาลสลับกันไปมา
“ ก็..ก็นั่นแหละ โว๊ะ! มึงจะถามห่าอะไรนักหนาเนี้ย ป่านนี้พวกไอป้องแม่งมากันครบหมดแล้วมั้ง ไปๆๆไปหาพวกมันได้ละ “ ปีขาลดันไหล่แกร่งของฟิวให้เดินไปข้างหน้า ฟิวก็ขยับตามแรงดันของเพื่อนยิ้มๆ โดยมีกุนเดินตามหลังทั้งสองไปด้วยรอยยิ้มที่เกิดขึ้นเช่นกัน
“ อ้าวพวกมึง นึกไงมาด้วยกันได้วะเนี้ย “ นุร้องทักเมื่อเห็นทั้งสามคนเดินเข้ามาหาพวกเขาพร้อมกัน
“ กูอ่ะมาคนเดียว แต่บังเอิญเจอพวกมันมาด้วยกัน เลยเข้าไปทัก “ ฟิวยักคิ้วใส่นุและคนอื่นๆยิ้มๆ ป้อง พอส นุหรือแม้กระทั่งพนา ก็ได้แต่มองปีขาลกับกุนสลับกันไปมายิ้มๆเช่นกัน
“ แหมๆๆเดี๋ยวนี้ตัวติดกันเลยนะครับ “ ป้องพูดแซว
“ สัส! “ ปีขาลแกล้งด่าป้องเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกเขินอายของตัวเอง
“ แล้วนี่พวกมึงมาด้วยกันได้ไงวะ “ นุถามขึ้น
“ อย่าบอกนะมึงไอนิ่ง ว่ามึง… “ พนาเบิกตากว้างเมื่อเห็นมุมปากของเพื่อนสนิทยกยิ้มขึ้น เพียงเท่านี้เขาก็รู้เรื่องทั้งหมดทันทีโดยที่ไม่ต้องถามอะไรเลยแม้แต่น้อย
“ ร้ายสัส “ พนาได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆ
“ คือกู…กู.. “ ปีขาลอึกอักเมื่อเห็นสายตาที่คาดคั้นของเพื่อนแต่ละคนที่มองมา
“ เอ้าๆๆมึงจะอึกอักห่าอะไรของมึงครับเพื่อนขาล มึงก็บอกพวกมันไปดิว่ามึงหนีตามไอน้องกุนไปอยู่กินกับมันแล้วอ่ะ “ ฟิวพูดแซวยิ้มๆ
“ ไอฟิวไอสลัดผัก! “ ปีขาลได้แต่ถลึงตาใส่เพื่อนดุดุ
“ ฮ่าๆๆๆ “ ฟิวได้แต่หัวเราะอย่างขำๆ
“ นี่มึงไปอยู่ห้องน้องมันจริงดิ “ ป้องอ้าปากค้างอย่างอึ้งๆ
“ พ่อมึงสิไอฟายป้อง เมื่อวานไอเชี้ยนั่นมันโทรมาแล้วพอดีกุนอยู่ตรงนั้น.. “ ปีขาลเล่าเพียงเท่านี้ก็เงียบไป เพราะเผลอนึกถึงเรื่องเมื่อวานขึ้นมา กุนที่เห้นแบบนั้นก็จับมือของปีขาลมากุมเอาไว้พร้อมกับส่งยิ้มเพื่อให้อีกฝ่ายได้คลายความกังวล เพื่อนทุกคนได้แต่มองหน้ากันนิ่งเพราะพอเดาเรื่องทั้งหมดได้แล้ว
“ เออๆๆถ้างั้นก็ช่างมันเหอะ เอาเป็นว่ามึงมานั่งกับพวกกูก่อนมา เดี๋ยวค่อยไปหาอะไรกิน “ ป้องรีบพูดเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นว่าปีขาลเริ่มรู้สึกไม่ดี ปีขาลเองก็เดินเข้าไปนั่งตรงที่ว่างโดยมีกุนตามลงมานั่งข้างๆด้วย
“ เดี๋ยวผมไปซื้อข้าวให้นะ “ กุนบอกปีขาลยิ้มๆ เขาพยักหน้าตอบกลับร่างสูงไป
“ กูไปด้วย! พอดี..กูอยากไปซื้อน้ำด้วย เอ่อ..เดี๋ยวผมมานะพี่ “ พนาพูดกับกุนเสร็จก็หันไปทางพอสที่นั่งอยู่ข้างๆแล้วเอ่ยขอ พอสพยักหน้ายิ้มๆ หลังจากได้รับอนุญาตพนาก็รีบเดินไปทางกุนแล้วจับมือเพื่อนสนิทเดินไปทางร้านข้าวทันที
“ ตั้งแต่มีเมียอะไรๆก็ครับผมนะไอสัส “ ป้องเอ่ยแซว เมื่อเห็นท่าทางที่ว่านอนสอนง่ายของเพื่อนสนิท
“ เสือก “ พอสด่าป้องนิ่งๆ ซึ่งป้องเองก็รู้ว่าเพื่อนสนิทอย่างพอสกำลังกวนตีนเขาอยู่
“ คนไม่มีเมียอย่างมึงอย่าไปแซวเพื่อนครับขอร้อง “ นุพูดขัดขึ้นยิ้มๆ
“ เหมือนมึงมีมากเลยมั้งไอเชี้ยนุ “ ป้องสวนกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน
“ พอๆๆพวกมึงเลิกตีกันได้ละไอห่า “ ฟิวรีบพูดห้าม
ทั้งคู่เลยได้แต่มองค้อนกันอยู่แบบนั้น แต่ก็ไม่ได้ทะเลาะกันอีก