หลังจากที่พนาลากกุนออกห่างจากพวกรุ่นพี่ได้แล้ว เขาก็พากุนมายังข้างหลังตึกซึ่งตอนเช้าแบบนี้ยังไม่มีใครอยู่ที่นี่มากนัก
“ นี่ไอนิ่ง กูถามอะไรมึงหน่อยได้ปะ “ พนามองหน้าเพื่อนสนิทด้วยแววตาที่จริงจังไม่น้อย
“ ได้ “ กุนพยักหน้า
“ มึงกับพี่เขามีอะไรกันรึยังวะ “ พนาขมวดคิ้วถามเสียงเครียด
“ ยัง “
สิ้นสุดคำตอบของเพื่อน ทำให้พนาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“ ทำไม? “ กุนขมวดคิ้วถามกลับไป
“ ก็มึงกับพี่เขายังไม่คบกันไม่ใช่รึไง ถ้ามึงไปทำอะไรพี่เขาโดยที่มึงยังไม่ได้ขอพี่เขาคบ งี้พี่เขาจะไม่คิดมากแย่หรอวะ “ พนาอธิบายในสิ่งที่เขาคิด
“ ปีไม่งี่เง่าแบบนั้น “ กุนตอบ
“ นี่ไอทึ่ม กูจะบอกอะไรให้มึงรู้ไว้นะ การที่พี่เขาไม่พูดอะไรไม่ได้หมายความว่าเขาไม่คิดมากนะเว้ย มึงอ่ะหัดสังเกตุพี่เขาให้มากกว่านี้หน่อย “ พนาบ่นออกมาเล็กน้อย
“ อืม “ กุนพยักหน้ารับรู้ แต่ก็หรี่ตามองที่พนานิดๆ
“ มึงอย่าบอกนะว่ามึง…ตั้งแต่เมื่อไหร่ “ กุนขมวดคิ้วถามพนากลับไปเสียงนิ่ง พนาได้แต่มองกุนอย่างอึกอัก
“ ก็…เออหน่า อย่ามาคาดคั้นอะไรกูเลย เอาเรื่องมึงก่อนดีกว่า ว่าแต่..มึงจะขอพี่เขาคบตอนไหน “ พนารีบพูดเปลี่ยนเรื่องเพราะเขารู้สึกเขินเกินกว่าที่จะต้องมาพูดเรื่องอะไรแบบนี้กับเพื่อนสนิท
“ สักพัก กูอยากรอเคลียร์เรื่องคนที่ชื่อระกาก่อน “ กุนพูดเสียงนิ่ง เมื่อนึกถึง
“ คนที่ชื่อระกาแค่ชอบพี่ปีขาลเองไม่ใช่หรอวะ มึงก็ไม่น่าจะอาฆาตแค้นอะไรเขาขนาดนั้นมั้ย “ พนาขมวดคิ้วถามด้วยความไม่รู้
“ พี่พอสบอกมึงว่าไง “ กุนขมวดคิ้วถามเพื่อนสนิทกลับไป
“ ก็บอกแค่ว่า..เขาเป็นพี่น้องต่างสายเลือดกับคนของมึงแล้วก็คิดไม่ดีกับคนของมึงก็แค่นั้น “ พนาบอกตามที่รู้มาจากคนรัก
“ มันไม่ใช่แค่นั้น “ กุนพูดสวนกลับไป แต่เขาเองก็พอรู้ว่าทำไมพอสถึงบอกพนาเพียงแค่นั้น
“ ห๊ะ!? มึงหมายความว่าไง ทำไมมันไม่ใช่แค่นี้วะ? “ พนาเอียงคอถามเพื่อนด้วยความตกใจ
“ มันจะข่มขืนปีแล้วก็ฆ่าพ่อกับแม่ปี “ กุนพูดเสียงนิ่ง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโกรธและโมโหเมื่อพูดถึง
“ เหี้ย!! “ พนาอ้าปากค้างด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่าสิ่งที่ตัวเองได้ยินจะเป็นเรื่องที่ร้ายแรงแบบนี้
“ ไม่ต้องไปด่าพี่พอสละ กูรู้ว่าพี่เขาคงไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับมึงทั้งหมดเพราะกลัวว่ามึงจะเอามาบอกกู เพราะไม่มีใครรู้ว่ากูรู้เรื่องนี้แล้ว “ กุนพูดขึ้น พนาได้แต่ถอนหายใจออกมาเพราะยังคงอึ้งไม่หายกับสิ่งที่ได้ยิน
“ แล้วนี่มึงจะเอาไงต่อไปเนี้ย “ เสียงเครียดของพนาถามด้วยความสงสัย
“ เมจะมาหากูพรุ่งนี้ “ กุนพูดเสียงเรียบ เพียงเท่านี้พนาเองก็รู้ได้ทันทีว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นเพราะเคยเห็นฝีมือของเมฆามาแล้ว
“ ไอเหี้ยนั่นไม่รอดแน่ๆ “ พนาส่ายหน้าน้อยๆเมื่อพูดจบ
“ กูก็ไม่คิดที่จะให้รอดไปอยู่แล้ว “ กุนพูดเสียงเหี้ยม พนาได้แต่มองเพื่อนสนิทด้วยความหวั่นใจไม่น้อย
“ จะทำเหี้ยอะไรก็คิดดีดีนะมึง กูไม่อยากให้พี่เขาเป็นหม่ายเพราะผัวตายนะเว้ย “ พนาตบบ่ากุนเบาๆ กุนปลายหางตามองเพื่อนสนิทนิดๆ
“ กูไม่เอามันถึงตายหรอก อย่างมากก็แค่…พิการ “
———————–
“ พวกมึงไปไหนกันมาตั้งนานวะ “ ป้องร้องทักขึ้นเมื่อเห็นพนากับกุนเดินถือจานข้าวและน้ำเข้ามา
“ พอดีผมปวดท้องนิดหน่อยน่ะพี่ เลยชวนไอกุนมันไปเข้าห้องน้ำเป็นเพื่อน “ พนารีบพูดแก้ต่าง พร้อมกับนั่งลงข้างๆพอส
“ เป็นอะไรมากรึเปล่า “ พอสขมวดคิ้วแน่นแล้วถามด้วยความเป็นห่วง พนาส่ายหน้าน้อยๆ
“ ไม่เป็นไร “
“ โอ๊ยยยพวกมึงหยุดส่งสายตาหวานสักสิบนาทีได้ปะ กูแดกข้าวไม่ลงเว้ยย “ ป้องแกล้งพูดขึ้น
“ เดี๋ยวผมกินให้เอาปะ “ พนาแกล้งยื่นมือเพื่อจะดึงจานข้าวของป้องเข้ามาถือไว้ แต่ป้องยกจานข้าวหลบเสียก่อน
“ พอเลยมึงไอห่าพนา “
“ เออแล้วนี่เรื่องบัดดี้พวกมึงเป็นไงกันบ้างวะ “ ป้องถามขึ้น
“ เดี๋ยวกูดูแลมึงเอง “ พอสหันไปยิ้มหวานให้กับคนรัก พนาเองก็ยิ้มตอบกลับพอสไปเช่นกัน เขาเอนตัวซบไปที่ไหล่แกร่งของพอสแล้วเงยหน้ามองคนรักของตัวเองยิ้มๆ
“เฮ้อออ “ ทั้งหมดได้แต่ถอนหายใจด้วยความเอือมละอากับความหวานของสองคนนี้
“ เป็นเหี้ยไรกัน “ พอสหันไปมองขวางเพื่อนสนิทนิดๆ
“ กูละเบื่อคู่มึง “ ป้องกรอกตามองบนพร้อมกับแบะปากนิดๆ
“ อย่าอิจฉาครับขอร้อง “ พนาแกล้งพูดใส่ป้องยิ้มๆ
“ ไอพอสเอาเมียมึงไปเก็บดิ๊สัส กวนส้นตีนกูอยู่ได้เนี้ย “ ป้องหันไปฟ้องพอส พอสเองก็มองไปที่ป้องสลับกับใบหน้าของพนา
“ เมียกูน่ารัก “ พอสลูบหัวเล็กของพนายิ้มๆ
“ อวยเมียไม่เลิกจริงๆเพื่อนกู “ ฟิวส่ายหน้าน้อยๆ
“ พี่พอส! เดี๋ยวเถอะ “ พนาได้แต่ถลึงตาใส่พอสด้วยความเขิน
“ ก็มึงน่ารัก จะให้กุชมว่าอะไรละ “ พอสบอกพนายิ้มๆ
“ รีบแดกข้าวรีบไปเรียนเถอะไอสัส ก่อนที่กูจะอ้วกจนไปเรียนไม่ได้ “ ป้องบอก ทั้งหมดจึงได้ก้มหน้าก้มตากินข้าวของตัวเองไป มีเพียงกุนและปีขาลเท่านั้นที่มองหน้ากันนิ่งๆ
“ ได้เจอซูชิรึยัง “ ปีขาลถามด้วยความอยากรู้
“ ยังครับ ว่าจะเข้าไปหาพี่เขาอยู่เหมือนกัน “ กุนตอบกลับไป
“ อื้อ “ ปีขาลพยักหน้าน้อยๆ
“ พาไปหน่อยสิ “ กุนเอ่ยขอ ปีขาลเลิกคิ้วหันมามองหน้ากุนด้วยความสงสัย
“ ทำไมไม่ให้.. “
“ อยากให้ปีพาไป “ กุนพูดสวนขึ้นเมื่อรู้ว่าร่างบางกำลังจะพูดอะไร
“ งั้น..เดี๋ยวเลิกเรียนแล้วจะพาไป ไอซูชิมันคงอยู่แถวหลีดคณะนั่นแหละ “ ปีขาลบอกยิ้มๆ
“ ครับ “
ครืดดดด ครืดดดด
โทรศัพท์ของกุนสั่นขึ้น ทำให้เขาหยิบขึ้นมาดูทันที
“ ใครอ่ะ “ ปีขาลถามขึ้นด้วยความอยากรู้ กุนชะงักมือที่กำลังจะกดรับไปนิดแล้วหันมามองปีขาลนิ่งๆ ปีขาลที่เหมือนลืมตัวไปชั่วขณะก็เริ่มรู้สึกอึกอักขึ้นมา
“ เอ่อ.. “
“ คนที่บ้านโทรมาหาครับ “ กุนบอกยิ้มๆแล้วกดรับ
“ ฮัลโหลเม “
“ ( ผมถึงแล้วนะครับคุณกุน ) “ เสียงของเมฆาพูดขึ้น ทำให้กุนขมวดคิ้วทันที
“ บอกให้เรียกฉันว่าอะไร “
“ ( เอ่อ..เราอยู่หน้ามหาลัยของกุนแล้วนะ ) “ เมฆารีบเปลี่ยนสรรพนามทันที
“ เข้ามาที่โรงอาหารสิ มาถูกใช่มั้ย “ กุนถาม
น้ำเสียงที่ดูเป็นห่วงของกุนที่พูดกับปลายสายทำให้ความรู้สึกของปีขาลเริ่มรู้สึกคันยุบยิบในใจแปลกๆ
“ ( ถูกครับ ) “ เมฆาตอบ
“ ระวังตัวด้วย “ กุนพูดักบปลายสายด้วยความเป็นห่วง เพราะตัวของเมฆานั้นก็เคยโดนตามล่าตัวอยู่เหมือนกันในช่วงนึง แต่ด้วยความที่เมฆาเป็นคนที่มีไหวพริบดีจึงเอาตัวรอดไปได้ทุกครั้ง
“ ( ครับคุณกุน ) “ เมื่อรับรู้แล้วกุนจึงตัดสายของอีกฝ่ายและหันไปมองทางด้านหลังเพื่อรอ
ปีขาลที่เห็นท่าทางที่เป็นห่วงของกุนแบบนั้นก็คิ้วขมวดนิดๆเพราะเขาไม่เคยเห็นความเป็นห่วงของร่างสูงแบบนี้มาก่อน แต่ปีขาลนั้นก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยปากพูดอะไรออกไป
รอไม่นานปีขาลก็เห็นผู้ชายตัวเล็กคนนึงเดินตรงมาทางพวกเขาด้วยท่าทีนิ่งๆ เขาหันไปมองกุนที่นั่งอยู่ข้างๆก็พบว่าร่างสูงของกุนกำลังยกยิ้มมุมปากใส่ชายหนุ่มคนนั้น
“ ทำไมมาเร็ว “ กุนถามเมฆาด้วยน้ำเสียงแปลกใจไม่น้อย
“ เราอยากดูแลกุนให้เร็วที่สุด “ น้ำเสียงจริงจังของเมฆาพูดขึ้น ทุกคนได้แต่มองหน้ากันด้วยความแปลกใจและงงงวย ยกเว้นก็แต่พนาที่เคยเห็นเมฆาอยู่แล้วจึงไม่แปลกใจเท่าไหร่นัก
“ เม ไม่เจอตั้งนานน่ารักขึ้นนะเนี้ย “ พนาเอ่ยแซวยิ้มๆ
“ ขอบคุณครับพนา “ เมฆาพยักหน้าใส่พนานิดๆ
“ นั่งก่อนสิ “ กุนบอกพร้อมกับขยับที่นั่งให้กับเมฆาได้นั่งข้างๆ ปีขาลและคนอื่นๆจำต้องขยับตามลงไปด้วย
“ หาที่พักได้รึยัง “ กุนหันหน้าไปถามเมฆา เมฆาส่ายหน้าน้อยๆ
“ ยังเลยครับ “
“ งั้นคืนนี้นอนกับฉันก่อนก็ได้ “ กุนเอ่ยชวน เพราะเขากับเมฆาก็นอนห้องเดียวกันตั้งแต่เด็กทำให้กุนไมได้รู้สึกแปลกเท่าไหร่นักที่จะเอาเมฆามานอนที่ห้องด้วย
พรึบ!
ทั้งหมดหันไปมองกุนเป็นตาเดียวด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่ากุนจะเอ่ยคำนี้ออกมาต่อหน้าปีขาล
“ ครับ “ เมฆาส่งยิ้มบางๆให้กับคนตรงหน้า
ปีขาลที่เริ่มทนไม่ไหวจึงลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากตรงนั้นทันที