กุนที่เห็นปีขาลเดินออกไป จึงรีบเดินตามไปอย่างรวดเร็ว
“ นี่ไอหนุ่ม “ ป้องเรียกเมฆาเสียงเข้ม เมฆาหันหน้าไปมองป้องนิดๆแล้วเอียงคอเป็นเชิงถาม
“ มึงคิดอะไรกับไอกุนหรอวะ “ คำพูดตรงๆของป้องทำให้เมฆากระตุกยิ้มมุมปากทันทีเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนมาถามอะไรกับเขาแบบนี้ เพราะเขากับกุนนั้นดูสนิทกันมากจนเหมือนเป็นมากกว่าเจ้านายกับลูกน้อง
“ คิดอย่างนั้นหรอครับ “ เมฆาแกล้งเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“ แล้วมึงไม่คิดแบบนั้น? “ ป้องจ้องหน้าเมฆาอย่างหาเรื่อง
“ พี่ป้องพี่ ใจเย็นก่อน “ พนารีบเข้ามาห้ามทัพ อันที่จริงเขาไม่กลัวว่าเมฆาจะเป็นอะไรหรอกแต่ที่เขาห่วงนั่นก็คือกลัวเมฆาจะทำอะไรป้องมากกว่า
“ มึงรู้จักกับมันใช่ปะไอพนา “ ป้องหันไปถามพนาเสียงเข้ม พนาพยักหน้าน้อยๆ
“ งั้นก็บอกแม่งด้วยว่าอย่ากวนส้นตีนกูให้มาก ระวังตีนกูจะไปโดนหน้ามัน “ ป้องกระแทกเสียงใส่เมฆาด้วยความโมโห พนาได้แต่คิดในใจ “ พี่จะโดนตีนมันมากกว่าหน่ะสิ ไม่ใช่มันหรอก “
เมฆามีเพียงรอยยิ้มที่มองให้กับรุ่นพี่ตัวสูงตรงหน้านิ่งๆเท่านั้น เขาไม่ได้พูดหรือโต้ตอบอะไรอีกฝ่ายกลับไปเหตุผลก็เพราะเขารู้ว่ารุ่นพี่กลุ่มนี้นั้นดีกับเจ้านายของเขา ใครที่ดีกับกุนและครอบครัว..เขาจะไม่ทำอะไร นี่คือคติของเขา
“ ปีครับ ปี “ กุนรีบวิ่งมาคว้าข้อมือของปีขาลเอาไว้แน่น ปีขาลหันไปมองกุนนิ่ง
“ ทำไมรีบเดินออกมาละครับ “ กุนขมวดคิ้วถามเสียงนุ่ม
“ จะไปเข้าห้องน้ำ “ ปีขาลตอบเสียงนิ่ง
“ ห้องน้ำไปอีกทางครับ ทางนี้มันทางไปลานจอดรถ “
ปีขาลอึกอักเล็กน้อยเมื่อถูกจับได้
“ ก็… “
“ ปี..ปีโกรธกุนเรื่องอะไร “ กุนถามด้วยความไม่เข้าใจ
“ ไม่ได้โกรธ จะให้โกรธเรื่องอะไรละไม่ได้ทำอะไรให้โกรธสักหน่อยนี่ “ ปีขาลพูดใส่อีกฝ่ายเป็นชุดด้วยความโมโห กุนกระตุกยิ้มมุมปากนิดๆเมื่ออีกคนพูดจบ เพียงแค่นี้เขาก็รู้ได้ทันทีว่าอีกคนกำลังโกรธเขาเรื่องอะไร
“ นี่ขนาดไม่ได้โกรธนะ หึหึหึ “
“ ขำอะไร “ ปีขาลถลึงตาใส่อีกคนอย่างดุดุ
“ ขำคนปากแข็งแล้วก็ขี้งอนครับ “ กุนมองหน้าร่างบางยิ้มๆ
“ ใครปากแข็งใครขี้งอนไม่ทราบ “ ปีขาลเชิดหน้าขึ้น
“ ไม่รู้สิ คนขี้หึงแถวนี้มั้ง “ กุนแกล้งเลิกคิ้วอย่างกวนๆ
“ ปีไม่ได้หึง!! “ ปีขาลตะคอกใส่กุนด้วยความลืมตัว
“ ไม่ได้หึงแล้วทำไมเดินออกมาละครับ หื้ม? “ กุนถามเสียงนุ่ม
“ ก็.. “
“ อะๆๆไม่เข้าห้องน้ำแล้วนะครับ อยู่ปีสามแล้วจะมาลืมทางเข้าห้องน้ำตอนนี้ไม่ได้นะ “ กุนพูดดักขึ้นอย่างรู้ทัน
“ ……… “ ปีขาลเม้มปากตัวเองนิดๆ เพราะจู่ๆก็รู้สึกเขินที่ตัวเองโดนจับได้ซะงั้น
“ ไม่ต้องหึงกุนหรอก เมฆาเป็นเพื่อนกุนตั้งแต่เด็ก เป็นบอดี้การ์ดที่บ้านกุนด้วย แล้วที่เมมาที่นี่ก็เพราะมาอยู่ดูแลกุนตามที่พ่อกับแม่บอกมาเท่านั้นเอง แล้วอีกอย่าง…กุนมีแค่ปีคนเดียวนะ จะไปมองใครได้อีกครับ “ กุนพูดเสียงนุ่ม พร้อมกับลูบใบหน้าหวานเบาๆด้วยความอ่อนโยน ปีขาลที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกเขินอายปนโล่งใจแปลกๆ
“ ทีนี้ก็สบายใจได้แล้วนะครับ “ กุนยิ้มกว้างส่งไปให้อีกคนเมื่อเห็นความสบายใจที่ค่อยเกิดขึ้นที่ใบหน้าหวานของปีขาล
“ ไม่..ไม่มีอะไรกันแน่นะ “ ปีขาลแกล้งถามย้ำด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้ม
“ หึหึ ไม่มีแน่นอนครับ “ กุนยืนยัน
“ อื้อ “ ปีขาลพยักหน้าน้อยๆ
“ งั้น..เรากลับไปนั่งที่โต๊ะกันได้แล้วเนอะ “ กุนเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“ อื้อ “ ปีขาลพยักหน้าอีกครั้ง กุนไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาพาร่างบางเดินกลับไปยังที่โต๊ะทันที
“ ไปง้อกันมาแล้วหรอพวกมึง “ ฟิวแกล้งแซวยิ้มๆ
“ ง้อเชี้ยไรไอสัสฟิว กูไม่ได้งอนเว้ย “ ปีขาลโวยวายพลางนั่งลงที่เดิมของตัวเอง กุนเองก็นั่งลงด้วยเช่นกัน
“ อ๋อหรอออ “ ทุกคนพร้อมใจกันประสานเสียง
“ ไอพวกเวร “ ปีขาลมองค้อนเพื่อนตัวเองนิดๆ
“ ปีครับ “ กุนแตะแขนของปีขาลเบาๆ
“ หื้ม? “ ปีขาลเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“ นี่เมฆา หรือเรียกสั้นๆว่าเมเป็นเพื่อนสนิทกุน “ กุนชี้ไปที่เมฆาและเอ่ยแนะนำให้ปีขาลรู้จักอีกครั้ง
“ สวัสดีครับคุณปีขาล “ เมฆาพยักหน้าน้อยๆ ปีขาลเองก็ส่งยิ้มบางๆกลับไป
“ สวัสดีครับ “
“ ผมได้ยินชื่อคุณมาสักพักแล้ว วันนี้ได้เจอกันสักทีนะครับ “ เมฆาพูดขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มๆแต่แววตานั้นกลับสำรวจปีขาลไปด้วย จนปีขาลเองเริ่มรู้สึกตัว
“ มองผมแบบนี้..มีปัญหาอะไรรึเปล่าครับ “ สิ้นสุดคำถามของปีขาล ก็ทำให้ทั้งโต๊ะเงียบลงในทันที
“ มองไม่ได้หรอครับ “ เมฆาตอบกลับอย่างกวนๆเช่นกัน
“ เม..ไม่เอาหน่า ฉันเคยบอกว่ายังไง “ กุนเอ่ยปรามเมฆาเบาๆ เพราะไม่ว่ากุนจะมีใครเข้ามาในชีวิตเมฆาจะเป็นคนคอยมองและสแกนให้อยู่เสมอ ซึ่งพนาเองก็เคยโดนแบบนี้มาแล้วเช่นกัน
“ ผมก็ไม่ได้ทำอะไรเลยนี่ครับ แค่มองตามนิสัย “ เมฆาตอบกุนเสียงนิ่ง
“ กูว่าให้เชี้ยนี่แม่งกวนส้นตีนเกินไปละ “ ป้องกระซิบบอกกับฟิว เพราะเขาเริ่มรู้สึกหมั่นไส้อีกฝ่ายขึ้นมาอีกครั้งแล้ว
“ กวนตีนมากๆไอเชี้ยขาลไม่ยอมแน่ มึงคอยดูต่อไปเหอะ มึงก็รู้จักนิสัยมันดี มันเคยยอมใครที่ไหน “ ฟิวกระตุกยิ้มมุมปากนิดๆเมื่อเริ่มเห็นอะไรสนุกๆที่กำลังรออยู่
“ นิสัยที่ไร้มารยาทหน่ะหรอ “ ปีขาลพูดแทรกเสียงนิ่งเช่นกัน
“ …พูดแทรกคนอื่นมันมีมารยาทหรอครับ “ เมฆาเอียงคอถามด้วยความสงสัย ซึ่งใครๆก็มองออกว่าอีกฝ่ายกำลังกวนโมโหปีขาลอยู่
“พี่ขาลแม่งโดนแบบผมเลยพี่ “ พนากระซิบบอกพอสเสียงเครียด พอสเองก็ขมวดคิ้วมองเมฆาอย่างสำรวจเช่นกัน เพราะเท่าที่เขามองฝีปากที่คนตรงหน้าพูดโต้ตอบกับป้องและปีขาล เขาเองก็รู้ได้ทันทีว่าเด็กคนนี้ไม่ธรรมดา
“ ไอขาลไม่ใช่คนใจเย็น “ พอสบอกกับคนรักสั้นๆ ซึ่งถ้ามันไม่มีอะไรหนักหนามากนักเขาจะยังไม่เข้าไปยุ่งในตอนนี้เพราะถือว่านี่คือเรื่องส่วนตัวของเพื่อน
“ กูก็ทำนิสัยเดียวกับคนที่ทำนิสัยนี้กับกูก่อนไง “ ปีขาลตอบกลับด้วยใบหน้าที่นิ่งเช่นกัน
“ เม..พอ “ กุนเอ่ยปรามอีกครั้ง ซึ่งทำให้ปีขาลหันไปมองด้วยความไม่พอใจเท่าไหร่นัก
“ หึหึหึ “ เมฆาหัวเราะในลำคอนิดๆ แต่ก็ยอมเงียบลงไม่ต่อปากต่อคำกับปีขาลต่อเพราะเห็นแก่กุนที่เป็นคนกลาง เขาเพียงแค่เย้าแหย่คนของเจ้านายตัวเองเล่นเท่านั้นเพราะใบหน้าของปีขาลเวลาโกรธมันดูน่ารักเหมือนเด็กที่เอาแต่ใจดี
“ หัวเราะอะไรของมึง “ ปีขาลขมวดคิ้วแล้วตะคอกถามเมฆากลับไปด้วยความโมโห ยิ่งเขาเห็นว่ากุนเหมือนทำท่าจะเข้าข้างอีกฝ่ายมันก็ยิ่งทำให้เขาเหมือนเลือดขึ้นหน้า
“ ปีครับ.. “ เสียงนุ่มของกุนเอ่ยปรามร่างบางเมื่อเห็นว่าอีกคนเริ่มพูดจาไม่น่ารักแล้ว
“ ทำไม จะห้ามอะไร “ ปีขาลถลึงตาใส่กุนอย่างหาเรื่อง กุนรีบจับมือของอีกฝ่ายมากุมไว้ทันทีเมื่อเห็นว่าร่างบางกำลังอารมณ์ไม่ดีแล้ว
“ ปีใจเย็นๆก่อน “ กุนพูดอย่างใจเย็น
“ คุณปีนี่..อารมณ์จังเลยนะครับ “ เมฆาแกล้งพูดแซว
“ เสือก! ใครให้มึงเรียกกูแบบนั้น “ ปีขาลตะคอกใส่เมฆากลับไปทันที เขายอมรับเลยว่าตอนนี้เขาไม่มีมารยาทและความอดทนค่อนข้างน้อย เพราะยิ่งเห็นใบหน้าที่กวนหน้าตายแบบนั้นของอีกฝ่ายมันก็ทำให้เขาใจเย็นลงไม่ได้จริงๆ
“ ปีครับ พูดไม่เพราะเลยนะ “ กุนพูดปรามอีกครั้ง
“ ……. “ ปีขาลกัดปากล่างตัวเองนิดๆเมื่อโดนร่างสูงต่อว่าต่อหน้าคนอื่น
“ งานเข้าแล้วไอกุนเอ้ย “ นุส่ายหน้าน้อยๆเมื่อได้ยินรุ่นน้องหน้าคมพุดใส่ปีขาลแบบนั้น
“ งั้นก็ดูแลคนมีมารยาทของกุนต่อไปแล้วกัน ปล่อย!! “ ปีขาลสะบัดข้อมือออกจากการเกาะกุมของร่างสูงอย่างแรงจนหลุดออกจากกัน
“ ปี! “ กุนเรียกปีขาลด้วยความตกใจเมื่อเห็นปีขาลลุกเดินหนีออกไปอีกแล้ว
“ ไม่ต้องไปตามมัน “ พอสพูดขึ้น เมื่อเห็นกุนทำท่าจะตามเพื่อนสนิทของเขาออกไป กุนหันไปมองพอสด้วยความสงสัย
“ มึงเคลียร์กันเด็กมึงให้เรียบร้อย แล้วไปอธิบายกับมันซะ เล่นเข้าข้างไอเด็กนี่แบบนั้นยังไงไอปีมันก็ต้องคิด นี่มันใจเย็นเท่าไหร่แล้วที่ไม่ต่อยปากคนของมึง “ พอสพูดเสียงนิ่ง พร้อมกับหันไปมองเมฆาที่มองมาที่เขาอยู่เช่นกัน
“ ส่วนมึงไอหน้าอ่อน กูไม่รู้หรอกนะว่ามึงเป็นอะไรกับไอกุนมัน แต่ถ้าจะมากวนส้นตีนเพื่อนกูก็ออกไปห่างๆ เพื่อนกูมันไม่ได้ใจเย็นแบบนี้ตลอดหรอกนะ “ พอสพูดเตือน
“ ขอบคุณที่เตือนครับ แต่เก็บไว้เตือนเพื่อนของคุณดีกว่า ถ้าเพื่อนคุณเชื่อใจกุนสักนิดและถามก่อนที่จะคิดไปเอง ก็คงไม่ต้องมาทะเลาะกับกุนแบบนี้หรอกครับ “ เมฆายกยิ้มมุมปากอย่างกวนๆ
“ เม ถ้ามาแล้วจะทำแบบนี้ก็กลับไป “ กุนพูดเสียงนิ่ง เมื่อเห็นว่าเมฆาเริ่มสนุกจนลืมขอบเขตไปเสียแล้ว
“ ขอโทษครับ “ เมฆาก้มหน้านิดๆ เพราะถ้ากุนใช้น้ำเสียงนี้กับเขาเมื่อไหร่นั่นก็แสดงว่าคนตรงหน้าเริ่มไม่พอใจเขาแล้วซึ่งเมฆาไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้นเท่าไหร่
“ มึงไปหาเพื่อนกูได้ละ ส่วนมึงไอหน้าอ่อน อยู่นี่กับพวกกูนี่แหละ “ พอสสั่ง แล้วมองไปที่เมฆาอย่างดุดุ
“ ครับ “ กุนพูดจบก็รีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปตามหาร่างบางทันที
“ โดดแม่งเลยสัส “ ป้องพูดขึ้นอย่างเซ็งๆเมื่อมองนาฬิกาแล้วพบว่าเลยเวลาเข้าเรียนมาสิบกว่านาทีแล้ว
“ ไอขาลไม่อยู่ก็ต้องโดดมั้ยวะ ไม่งั้นใครจะเอาชีทให้ลอกละสัส “ นุพูดขึ้นอย่างขำๆและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเกมส์ต่อ“ เมทำเกินไปนะเราว่า “ พนาพูดขึ้นเสียงเครียด
“ โทษทีอ่ะ เราสนุกเพลินไปหน่อย “ เมฆายิ้มแห้งใส่พนา เพราะเขาเองก็รู้สึกผิดอยู่เหมือนกันที่ทำให้เจ้านายกับปีขาลต้องทะเลาะกัน
“ ถ้าไอนิ่งกลับมามันโกรธเมแน่ “ พนาแกล้งพูดขู่ เพราะเขารู้ว่าเมฆากลัวเรื่องนี้มากที่สุด
“ จะคุยกับมันอีกนานมั้ย อยู่กับกูก็คุยกับกูนี่ “ พอสดันใบหน้าของพนาให้มามองที่ตนเอง
“ โอ๊ยยยพี่พอส ผมคุยกับเพื่อนอยู่นะเนี้ยย “ พนาร้องโวยวาย
“ คุยกับกูนี่ “ พอสแกล้งมองหน้าพนาอย่างดุดุ พนากรอกตามองบนอย่างเซ็งๆแต่ก็ไม่ได้คุยกับเมฆาต่อเพราะกลัวมีปัฐหากับคนรัก