ปีขาลวิ่งไปที่หน้ามหาลัยแล้วรีบโบกแท็กซี่เพื่อกลับไปยังหอของตัวเองด้วยความรีบร้อน ในเมื่ออีกฝ่ายตำหนิเขาต่อหน้าคนอื่นแบบนี้ เขาเองก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ฟังอะไรอีกต่อไป ตามจริงปีขาลเองก็รู้ตัวว่าคำพูดเขามันไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่นัก แต่จะให้เขาทำยังไงได้ในเมื่อตอนนั้นเขาโมโหใบหน้าของเมฆาสุดๆ เพราะอีกฝ่ายเอาแต่พูดกวนหน้านิ่งเหมือนไม่รู้สึกอะไรในสิ่งที่พูดไป มันก็เลยทำให้เขากลายเป็นผู้ร้ายในสายตาของร่างสูง
“ เชิญโอ๋กันไปให้พอใจแล้วกัน “ ปีขาลพึมพำด้วยความโมโห
“ เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะครับ “ ลุงขับแท็กซี่ถามขึ้นด้วยความสงสัยเพราะได้ยินไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่นัก
“ เอ่อ..เปล่าครับลุง ไม่มีไร “ ปีขาลยิ้มแห้งๆใส่กระจกหลังที่มีสายตาลุงมองมา
“ ครับ “ ลุงแท็กซี่พยักหน้ารับรู้
คอนโด
ปีขาลเดินเข้าไปในห้องด้วยอารมณ์ที่ยังขุ่นเคืองไม่หาย เขาเหวี่ยงกระเป๋าตัวเองไปบนเตียงกว้างอย่างแรง
“ คงจะโอ๋กันอยู่สินะ หึ! “ ปีขาลกัดฟันกรอดด้วยความโมโห ร่างเล็กของปีขาลกระแทกตัวนั่งลงบนเตียงกว้างอย่างแรง
ครืดดดด ครืดดดด
ปีขาลหันไปมองโทรศัพท์ของตัวเองที่วางอยู่ข้างๆ และก็พบว่าเป็นร่างสูงของกุนนั่นเองที่โทรเข้ามาหาเขา ปีขาลช่างใจสักพักก็ตัดสินใจกดรับสาย
“ มีอะไร “ เสียงนิ่งของปีขาลเอ่ยขึ้น
“ ( ปีอยู่ที่ห้องใช่มั้ย ) “ กุนถามด้วยความร้อนใจ
“ ถามทำไม “
“ ( ตอนนี้กุนอยู่หน้าห้องปีแล้ว ) “
สิ้นสุดเสียงของอีกฝ่ายปีขาลก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจและรีบวิ่งไปดูตาแมวที่ประตูฝั่งตัวเอง เมื่อส่องดูก็พบว่าร่างสูงของกุนมาอยู่ที่หน้าห้องของเขาจริงๆ
“ มาทำไม “ ปีขาลถามกลับเสียงนิ่ง จู่ๆความรู้สึกโกรธก็กลับมาอีกครั้ง
“ ( กุนอยากมาบอกกับปีให้เข้าใจ เปิดประตูให้กุนหน่อยได้มั้ย ) “ เขาเอ่ยขอ
“ จะคุยอะไรก็คุยตรงนี้แหละ คุยเสร็จก็กลับไป “ ปีขาลยังคงใจแข็งไม่ยอมที่จะเปิดประตูให้กับกุนง่ายๆ
“ ( ปีครับ มีอะไรก็คุยกันดีดีเถอะนะ ขอกุนเข้าไปหน่อยได้มั้ย ) “ เสียงนุ่มของกุนเอ่ยขอ ปีขาลกัดปากตัวเองนิดเพราะเขาเริ่มรู้ตัวแล้วว่าตอนนี้ตัวเองกำลังจะใจอ่อน
“ ยังต้องคุยอะไรอีกหรอไง มันก็ชัดทุกอย่างแล้วนี่ว่ากุนปกป้องเขา คิดอะไรกับเขารึไง “ ปีขาลถามด้วยน้ำเสียงประชด
“ ( กุนจะคิดอะไรกับเขาได้ยังไงละ ในเมื่อคนที่กุนคิดก็อยู่ในห้องแล้วนี่ไง ปีครับ..เปิดประตูให้กุนหน่อยนะ มาคุยกันดีดีนะครับ ตกลงมั้ย ) “ เสียงอ้อนของกุนทำให้ปีขาลหลับตาลงอย่างชั่งใจแต่ร่างกายของปีขาลนั้นดูเหมือนจะไปไวกว่าที่ใจกำลังคิดเพราะเขาเอื้อมมือไปจับลูกบิดแล้วปลดล็อกเพื่อให้อีกคนเข้ามาเรียบร้อยแล้ว
“ ปีครับ “ กุนกดวางแล้วรีบเข้าไปหาปีขาลทันที ปีขาลมองร่างสูงด้วยใบหน้าบึ้งตึง พร้อมกับเดินเข้ามาในห้องโดยไม่ได้พูดอะไร กุนรีบเดินตามเข้ามาทันทีพร้อมกับปิดประตูและล็อกห้องของอีกคนให้เรียบร้อย
“ มีอะไรจะพูดก็รีบพูด พูดจบก็ออกไป “ ปีขาลหันหลังและกอดอกใส่ร่างสูง กุนเดินเข้าไปสวมกอดปีขาลทางด้านหลังทันที
“ ไหนคนดีของกุนโกรธกุนเรื่องอะไรครับ ลองบอกให้กุนฟังหน่อยได้มั้ย กุนจะได้อธิบายถูก “ เสียงนุ่มของกุนพูดอย่างอ้อนๆ ปีขาลปลายหางตามองคนที่กอดอยู่ด้านหลังนิดๆ
“ มาขนาดนี้ยังไม่รู้อีกหรอว่าโกรธเรื่องอะไร “ ปีขาลถามอีกฝ่ายอย่างหาเรื่อง
“ รู้ครับ แต่กุนอยากได้ยินจากปากของปีมากกว่าว่าโกรธกุนเรื่องอะไร “
“ …กับเมฆา..เป็นอะไรกัน “ ปีขาลถามออกไปทันทีด้วยความอยากรู้ เขาไม่จำเป็นที่จะต้องปิดบังความรู้สึกอีกต่อไปแล้ว ในเมื่อเขาคิดที่จะเปิดใจให้กับร่างสูงตรงหน้า เขาเองก็ต้องเปิดรับความรู้สึกทั้งหมดด้วย
“ เมเป็นเพื่อนสนิทครับ อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว พนามันก็รู้ครับ “ กุนอธิบาย
“ แล้วทำไมต้องปกป้องขนาดนั้น นี่ขนาดแค่เพื่อนยังปกป้องขนาดนี้แล้วถ้าเป็นแฟนจะขนาดไหน “ ปีขาลพูดประชดด้วยความโมโห
“ ก็ขนาดนี้ไงครับ “ กุนกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น เพื่อยืนยันในสิ่งที่ตัวเขาพูดว่าหมายถึงคนในอ้อมกอด
“ จะห่ากันรึไง “ ปีขาลโวยวายออกมาทันทีด้วยความอึดอัด กุนหัวเราะในลำคอนิดๆเมื่อได้ยิน
“ อยากรู้อะไรอีกมั้ยครับ กุนจะบอกปีให้หมดเลย จะไม่มีความลับกับปีเลยครับ “ กุนให้คำมั่น เมื่อปีขาลได้ยินแบบนั้นจึงถามต่อทันที
“ แล้วทำไมต้องนอนด้วยกันด้วย “
“ เมยังหาที่พักไม่ทันครับ กุนเลยจะให้เมมานอนที่ห้องกุนก่อน “
“ แล้วก็นอนด้วยกันอ่ะนะ “ ปีขาลขมวดคิ้วถามขึ้นด้วยความไม่พอใจ
“ กุนจะนอนกับเมได้ยังไงละครับ ในเมื่อกุนต้องมานอนกับปีที่นี่ “ กุนยิ้มกว้างเมื่อพูดจบ
“ นะ..นอนที่นี่ “ ปีขาลกระพริบตาปริบๆเอียงคอมองคนที่อยู่ด้านหลัง
“ ครับ นอนที่นี่..หรือปีคิดว่ากุนจะนอนกับเมหรอกครับ “ กุนเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“ ก็เห็นพูด.. “
“ กุนมีปีแล้วนะ..จะให้กุนไปนอนกับคนอื่นได้ยังไงละ ถึงกุนกับปียังไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่อย่างน้อยกุนก็เลือกแล้วว่าจะให้ปีเป็นคนสำคัญมากที่สุดของกุน เพราะฉะนั้น..กุนไม่นอนกับคนอื่นหรอกครับ “ กุนพูดเสียงนุ่มพร้อมกับรอยยิ้มที่แสนอบอุ่นมอบให้กับร่างบางตรงหน้า
“ แล้วทำไม..ถึงได้ดูสนิทกันนัก มันดูมากกว่าเพื่อนทั่วไป “ ปีขาลถามต่อ
“ เมเป็นแบบนี้เสมอครับ และนี่คือข้อเสียที่กุนเองก็พยายามที่จะห้ามอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าปีเห็นเมนานๆไปปีก็จะรู้เองครับ เพราะถ้ากุนรักใคร เมก็จะดูแลคนที่กุนรักเหมือนกับที่ดูแลกุน และอีกหน่อยเมก็จะดูแลปีเหมือนที่ดูแลกุนแช่นกัน “ กุนอธิบายอีกครั้งด้วยรอยยิ้ม เขาไม่เคยคิดเบื่อเลยสักนิดที่จะต้องมาตอบคำถามอะไรแบบนี้ กลับกันเขาดันรู้สึกดีเสียอีกเพราะอย่างน้อยอีกคนก็พยายามที่จะรู้เกี่ยวกับคนรอบข้างเขา
“ ไม่เห้นอยากให้มาดูแลเลยสักนิด “ ปีขาลพูดใส่ด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง กุนที่เห็นแบบนั้นก็ได้แต่ยิ้มด้วยความเอ็นดู
“ ทีนี้ก็หายโกรธกุนได้แล้วนะ กุนรู้สึกไม่ดีเลยที่ทำให้ปีโกรธแบบนี้ “ กุนพูดเสียงแผ่ว ปีขาลหันไปมองทางกุนนิดๆแล้วพยักหน้า
“ รู้เหตุผลก็ไม่โกรธแล้ว “ รอยยิ้มหวานของปีขาลที่ส่งมาเป็นการยืนยันได้ดีว่าอีกคนหายโกรธเขาแล้วจริงๆ
“ ปีครับ กุนขออะไรปีอย่างนึงได้มั้ย “
“ อะไร? “ ปีขาลเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“ เวลาปีโกรธ อย่าหนีไปแบบนี้อีกได้มั้ยครับ “ กุนเอ่ยขอ ปีขาลชะงักไปนิดเมื่อได้ยิน
“ ทำไมอ่ะ เสียเวลาตามหรอ “ ปีขาลแกล้งถาม
“ เปล่าเลย การอธิบายให้ปีเข้าใจมันไม่ใช่เรื่องเสียเวลาสำหรับกุนเลยสักนิด แต่กุนแค่อยากให้เราคุยกันดีดี ดีกว่าที่ต้องเดินหนีกันไปแบบนั้น ถ้าเกิดอะไรขึ้นมากับปี..กุนจะทำยังไง “ กุนพูดเสียงเครียด ปีขาลนิ่งไปนิดเมื่อได้ฟัง เขาจ้องมองไปที่ใบหน้าของกุนนิ่งๆ เด็กตรงหน้าทำให้เขาสงสัยในหลายๆเรื่องถึงความรักที่อีกคนมีให้กับเขา
“ ไม่คิดว่ามันเร็วไปหรอสำหรับคำว่ารักที่พูดมา “ ปีขาลถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ คำว่ารัก..มันต้องรอถึงเมื่อไหร่ถึงจะพูดได้หรอครับ? คำๆนี้มันไม่ได้มีนิยามนะปีว่าจะต้องพูดตอนไหนเมื่อไหร่ การที่เราจะรู้สึกยังไงกับใครมันก็เป็นความรู้สึกของเรา ไม่เกี่ยวกับระยะเวลา ตอนแรกกุนเองก็คิดว่าปีน่ารักดี กุนเลยชอบ แต่ตอนนี้…กุนรัก แล้วคิดว่าจะรักขึ้นเรื่อยๆด้วย “ กุนกระชับอ้อมกอดอีกครั้งพร้อมกับเอาคางเกยไปที่ไหล่เล็กเบาๆ
“ แน่ใจแล้วใช่มั้ย “ ปีขาลถามกุนอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“ แน่ใจครับ จะถามอีกกี่ครั้งคำตอบก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม “ กุนยืนยันเสียงหนักแน่น
“ โอเค..งั้นคบกันนะ “
คำพูดของปีขาลทำให้กุนที่ฟังอยู่ชะงักด้วยความตกใจ เขาปล่อยอ้อมกอดของอีกคนออกและดึงร่างบางให้หันมาเผชิญหน้ากับเขา
“ เมื่อกี้…ปีว่ายังไงนะ “ กุนถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“ ปีบอกว่า…คบกันนะ “ ปีขาลพูดยิ้มๆ
“ ปี..ปีแน่ใจแล้วใช่มั้ย “ กุนถามขึ้น และพยายามเก็บอาการดีใจของตัวเองเอาไว้
“ ไม่แน่ใจจะถามทำไมละ “ ปีขาลแกล้งมองค้อน
“ ………. “ กุนไม่ได้พูดอะไรกลับไป เขายิ้มกว้างออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ไม่รู้ว่าตอนนี้ควรจะพูดอะไรหรือจะทำอะไรก่อนดี ในใจมันตื่นเต้นแล้วก็ดีใจไปหมด
“ จะยิ้มให้ปากฉีกเลยรึไง “ ปีขาลแกล้งแซว
“ กุน..กุนอยากตะโกน แต่..มันตะโกนไม่ออก “ น้ำเสียงตื่นเต้นและดีใจของกุน ทำให้ปีขาลรู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายคงรู้สึกแบบที่พูดมาจริงๆ
“ เดี๋ยวนะปี..ขอเอาใหม่ได้มั้ยครับ กุนอยากเป็นคนขอปีคบเอง “ กุนเลียริมฝีปากที่แห้งผาดของตัวเองอย่างตื่นเต้น ปีขาลส่ายหน้ายิ้มๆด้วยความเอ็นดู
“ อื้อ “ เขาพยักหน้าตอบรับ กุนกายใจเข้าลึกๆพร้อมกับจับมือเล็กทั้งสองข้างขึ้นมา
“ ปีครับ..เป็นแฟนกับกุนนะ “
“ อื้อ “ ปีขาลพยักหน้ายิ้มๆ หลังจากนั้นกุนก็โผลเข้ากอดร่างบางทันทีด้วยความดีใจ
“ เป็นแฟนกันแล้วนะ “ กุนพูดย้ำอีกครั้ง
“ อื้อ เป็นแฟนกันแล้ว “ ปีขาลพูดย้ำยิ้มๆ
“ กุนขี้หวงมากๆด้วยนะรู้มั้ย “ กุนกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น
“ เหมือนกัน “
“ ไม่ชอบให้เข้าใกล้ใครด้วย “
“ เหมือนกัน “
“ ห้ามเป็นพี่ว๊ากแล้วนะ “ กุนพูดสั่งเสียงเข้ม
“ อื้อ “ ปีขาลพยักหน้าน้อยๆ
“ ห้ามใจดีกับใครด้วย “
“ อื้อ รู้แล้ว “
กุนดันไหล่เล็กออก แล้วจ้องใบหน้าหวานด้วยแววตาที่จริงจังอีกครั้งพร้อมกับเอ่ยขอบางอย่าง
“ ย้ายมาอยู่ด้วยกันนะ “
ปีขาลนิ่งคิดสักพักก็ยอมพยักหน้าตอบตกลงในที่สุด
“ อื้อ “
“ ย้ายมาพรุ่งนี้เลยนะ “ กุนพูดขึ้นอีกครั้งด้วยความดีใจ
“ อื้อ! มาช่วยขนของด้วยนะ “ ปีขาลพูดยิ้มๆ
“ แน่นอนครับ “
ทั้งสองคนโผลเข้ากอดกันอีกครั้ง และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของทั้งคู่ที่จะได้เป็นแฟนกัน ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ไม่มีใครรู้ได้ว่าทั้งคู่จะต้องเจออะไรกันบ้างนับจากนี้..พวกเขาได้แต่หวังว่าจะผ่านแต่ละอุปปสรรค์ไปได้ด้วยดี..