เคลียร์นะเฮีย! เป็น’เมีย’ผมนะ – ตอนที่ 45

เช้าวันต่อมา

กุนขับรถมาส่งปีขาลที่ตึกเพราะวันนี้ปีขาลมีเรียนในตอนเช้า ซึ่งเขาเองก็มีเรียนเช่นกันแต่แค่คนละตึกกับร่างบางเท่านั้น

“ เลิกเรียนกี่โมงครับ “ กุนถามปีขาลเสียงนุ่ม ปีขาลชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตูรถลงและหันไปมองคนรัก

“ สิบเอ็ดโมง “

“ เดี๋ยวกุนมารอหน้าตึกนะ “ กุนพูดเสียงนุ่ม

“ อื้อ “ ปีขาลพยักหน้าน้อยๆ กุนเอื้อมมือไปจับมือเรียวของปีขาลมากุมเอาไว้

“ แล้วอย่าลืมนะว่าเย็นนี้ปีต้องย้ายของมาอยู่กับกุน “ กุนพูดย้ำด้วยรอยยิ้มกว้าง

“ รู้แล้วหน่า “ ปีขาลย่นจมูกใส่ร่างสูงอย่างน่ารัก

“ ตั้งใจเรียนนะครับคนเก่ง “ กุนลูบหัวเล็กด้วยความอ่อนโยน ปีขาลเองก็หลับตาเพื่อรับสัมผัสนั้น

“ เหมือนกันนะ “

กุนพยักหน้าน้อยๆพร้อมกับปล่อยมือเรียวให้เป็นอิสระ ปีขาลเองก็เปิดประตูรถลงไปด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข แต่ยังไม่ทันที่กุนจะได้ขับรถออกไป จู่ๆโทรศัพท์ของเขาก็สั่นขึ้น เมื่อเขาหยิบขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นเมฆาที่โทรเข้ามา

ครืดดดด ครืดดดดด

“ ฮัลโหล “

“ ( กุนอยู่ไหน ) “ เสียงของเมฆาถามขึ้น

“ ฉันอยู่หน้าตึกปีสี่ นายละอยู่ไหน “ กุนถามกลับไป

“ ( ผมอยู่ที่มหาลัยแล้วครับ ) “

“ เจอกันที่ตึกฉัน “ กุนพูดจบก็กดวางสายไปทันที พร้อมกับขับรถออกไปด้วยท่าทีนิ่งๆ

หลังจากที่กุนเอารถไปจอดไว้ที่ตึก เขาก็ยืนพิงรถของตัวเองเพื่อรอเมฆาให้มาหา แต่รอได้ไม่เท่าไหร่เสียงของเมฆาก็ดังขึ้น

“ กุน “

กุนหันไปมองด้วยท่าทีนิ่งๆ

“ ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับกุนด้วย “ เมฆาพูดเสียงเครียดเล็กน้อย

“ ฉันเองก็อยากคุยกับนายเหมือนกัน “

“ งั้น..มาทางเถอะครับ นักศึกษาส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยมาในเวลานี้เท่าไหร่ “ เมฆาเดินนำกุนไปทางโต๊ะนั่งม้าหินซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่จอดรถเท่าไหร่นัก เมื่อมาถึงเมฆาและกุนต่างก็นั่งหันหน้าเข้าหากัน เมฆาสูดลมหายใจเข้าลึกพร้อมกับมองหน้าคนที่เหมือนเจ้านายของตัวเองอีกคนด้วยความรู้สึกผิด

“ นายมีอะไรก็พูดเถอะ “ กุนพูดขึ้นเมื่อเห็นท่าทางของเมฆาที่ดูไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่นัก

“ ผมอยากขอโทษเรื่องเมื่อวานครับ “ เมฆาพูดขึ้น กุนพยักหน้ารับรู้

“ ฉันเข้าใจว่านายอาจจะแค่อยากทดสอบ แต่ฉันไม่ใช่คนที่นายควรจะขอโทษหรอกนะเม “ กุนจ้องไปที่ใบหน้าของคนที่เป็นเพื่อนตัวเองนิ่งๆ

“ ผมรู้ว่าผมควรจะขอโทษคุณปีขาล แต่ผมอยากมาขอโทษกุนก่อน ที่ทำตัวไม่ดีเมื่อวานนี้ “ เสียงนิ่งของเมฆาพูดขึ้นด้วยความรู้สึกผิด

“ ไม่เป็นไร ฉันไม่โกรธ เรื่องที่จะบอกฉันมีแค่นี้ใช่มั้ย “ กุนถาม

“ ครับ “ เมฆาพยักหน้าน้อยๆ

“ งั้นตาฉันบอกนายบ้าง “

เมฆาขมวดคิ้วแล้วเอียงคอนิดๆด้วยความสงสัย

“ ฉันกับปี…เราคบกันแล้ว “ กุนส่งยิ้มบางๆให้กับเมฆาหลังจากที่พูดจบ

“ ยินดีด้วยนะครับ “ เมฆายิ้มให้กุนนิดๆ

“ ขอบใจ “

“ นายจะขึ้นไปห้องเรียนกับฉัน หรือว่าจะรออยู่ข้างล่าง “ กุนเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

“ ผมอยู่ข้างล่างดีกว่าครับ เดี๋ยวจะคุยกับนิเรื่องนายนั่นด้วย “ เมฆาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังไม่น้อยเมื่อพูดถึงระกา คนที่เขาต้องตามล่าหาตัวให้เร็วที่สุด

“ ดี ฝากบอกนิด้วยว่าให้ตามให้เร็วที่สุด ฉันไม่อยากรอนาน “ กุนพูดเสียงเหี้ยม เมฆาพยักหน้าพร้อมกับมองกุนด้วยสายตาที่จริงจัง

“ ไม่เกินสามวันนี้ เราต้องได้พบมันแน่นอนครับ “ เมฆาให้คำมั่น กุนพยักหน้านิดๆแล้วลุกขึ้นเพื่อเข้าไปที่ตึกเรียนของตัวเองทันที ซึ่งตอนนี้พนาเองก็คงอยู่ที่ห้องเพื่อรอเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

หลังจากที่กุนลุกออกไป ใบหน้าของเมฆาที่จริงจังในตอนแรกก็แปลเปลี่ยนเป็นเรียบนิ่งในทันที พร้อมกับกดโทรศัพท์เพื่อติดต่อไปยังนิชา รอไม่นานปลายสายของนิชาก็กดรับ

“ ( ยังไงเม ) “

“ ตามไปถึงไหนแล้วนิ “ เมฆาถามในสิ่งที่อยากรู้ออกไปทันทีเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา

“ ( พรุ่งนี้น่าจะรู้แล้วว่ามันอยู่ที่ไหน ) “ นิชาตอบ เพราะเธอเองก็เก่งเรื่องโปรแกรมอยู่พอสมควรเหมือนกัน ทำให้พอที่จะหาตัวของคนคนนึงได้ไม่ยากนัก ซึ่งเธอเองก็มีทีมที่เก่งพอสมควรในการให้ความช่วยเหลือเช่นกัน

“ ดี คุณกุนอยากเจอมันให้เร็วที่สุด ก่อนที่มันจะทำอะไรคุณปีขาล “ เมฆาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังไม่น้อย

“ ( โอเค อีกสิบนาทีฉันจะส่งข้อมูลที่อยู่ของมันในที่ต่างๆให้นาย ) “

“ ขอบใจ “

หลังจากที่นิชากดวางสายไปเมฆาก็นั่งจ้องไปยังโทรศัพท์นิ่งๆเพื่อรอข้อมูลที่นิชาจะส่งเข้ามา

“ เฮ้ย! มึงเด็กที่ไหนเนี้ย มานั่งทำอะไรตรงนี้ “ เสียงเข้มของใครบางคนดังขึ้นจากทางด้านหลัง ทำให้เมฆาหันไปมองทันที

“ ไม่ใช่เด็กคณะกูนี่ “ ธนาขมวดคิ้วมองหน้าเมฆาไม่วางตา

“ ……….. “ เมฆาหันกลับที่เดิมโดยไม่สนใจอะไรคนที่ยืนอยู่ด้านหลังตัวเองอีกต่อไป เพราะตอนนี้เขากำลังรอข้อมูลของนิชาที่ต้องส่งมาให้เขา

“ เป็นใบ้ไง๊วะ ถามแล้วไม่ตอบเนี้ย “ ธนาเดินเข้ามาใกล้เมฆาแล้วถามอย่างหาเรื่อง

“ คุณเป็นใคร “ เมฆาเงยหน้าถามธนาเสียงนิ่ง

“ กูเป็นรุ่นพี่ที่คณะนี้ มึงอ่ะเป็นใคร มานั่งทำอะไรที่นี่..แต่เท่าที่กูดูจากหน้าตาของมึง…มึงไม่ใช่เด็กที่มหาลัยนี้นี่ “ ธนาขมวดคิ้วแล้วมองเมฆาอย่างสำรวจ

“ ว่างหรอครับ ถึงได้มาจ้องจับผิดคนอื่นเขาแบบนี้ “ เมฆาจ้องใบหน้าของธนานิ่งๆ

“ อ้าวไอเชี้ยนี่ กวนส้นตีนกูแล้วไง “ ธนาถลึงตาใส่คนตรงหน้าอย่างหาเรื่อง

ติ๊ง!

เสียงข้อความในมือถือของเมฆาดังขึ้น ทำให้เมฆาก้มลงไปเปิดดูทันทีเพราะรู้ว่าเป็นนิชาที่ส่งเข้ามา โดยไม่สนใจอะไรรุ่นพี่ตรงหน้าอีก

เวลาผ่านไปสักพัก หลังจากที่เมฆาอ่านข้อความจนจบก็ทำให้รู้ข้อมูลอะไรหลายๆอย่างจากที่นิชาส่งมา เขาเงยหน้าขึ้นมาเพราะรู้สึกว่าเหมือนมีใครมายืนมองอยู่

“ นี่พี่ยังไม่ไปอีกหรอครับ “ เมฆาขมวดคิ้วมองคนที่ยืนกอดอกจ้องเขาอยู่ด้วยความสงสัย

“ นี่มหาลัยกู คนนอกอย่างมึงมีสิทธิ์ไรที่ถาม “ ธนาตอบอย่างกวนๆ

อันที่จริงเขาเองก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะเข้ามาหาเรื่องอะไรเด็กหนุ่มตรงหน้าหรอกนะ ตอนแรกเขาตั้งใจที่จะเดินผ่านไปด้วยซ้ำ แต่ติดตรงที่ว่ารูปร่างหน้าตาของเด็กหนุ่มตรงหน้าไม่ได้ดูคุ้นเคยเท่าไหร่นัก และก็ไม่รู้อะไรดลจิตดลใจให้เขาเข้าไปหาเรื่องคนตรงหน้า

“ งั้นก็เชิญครับ “ เมฆาพูดเพียงแค่นั้นก็ลุกขึ้นเพื่อที่จะกลับไปที่ห้องของตัวเองที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่เท่าไหร่นัก เพราะเขาเองก็พึ่งทำการหาห้องใหม่ได้วันนี้ เขาเลยสั่งให้ลูกน้องขนของทุกอย่างเข้าไปไว้เรียบร้อยแล้ว

“ เดี๋ยว “ ธนาร้องห้าม เมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าทำท่าจะเดินจากไป

“ ครับ “ เมฆากันไปมองธนานิดๆ

“ มึงชื่ออะไร “ ธนาถามด้วยน้ำเสียงที่กวนไม่น้อย

“ ………… “ เมฆาจ้องหน้าธนานิ่งๆ แล้วหันหลังเดินจากไปทันทีโดยไม่ได้เอ่ยบอกอะไรในสิ่งที่คนตรงหน้าอยากรู้ เพราะเขาถือว่า เขาและคนตรงหน้าไม่ได้รู้จักกัน จึงไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องรู้ชื่อของกันและกัน

“ เฮ้ย! “ ธนาได้แต่ขมวดคิ้วด้วยความงุ่นงง เพราะจู่ๆอีกคนก็เดินจ้ำอ้าวไปโดยไม่พูดอะไรเลยสักคำ

“ มารยาททรามฉิบ! เด็กอะไรวะ ถามห่าไรก็ไม่ตอบ “ ธนาได้แต่บ่นอุบอย่างอารมณ์เสีย

เป็นเมียผมนะ

เป็นเมียผมนะ

ปวดหัวกับหน้าที่ที่โดนยัดเยียดไม่พอยังต้องมาปวดหัวกับไอเด็กปีหนึ่งที่ชอบแหกกฎอีกงานนี้เขาจะรับมือกับไอเด็กตัวแสบไหวมั้ยนะหรือว่าจะต้องทำโทษให้มันตายไปข้างนึงดีแต่ทำไมยิ่งอยู่ใกล้ใจเขามันถึงเต้นแปลกๆนะ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset