“ มึงจะไปไหนวะ “ ปิติถามธนาด้วยความสงสัย เพราะเขาและออยกำลังเดินไปทางโรงอาหารซึ่งอยู่คนละทางที่ธนากำลังเดินไป ซึ่งธนานั้นได้เดินไปทางลานจอดรถที่อยู่ทางด้านหลังสของตึก
“ กูว่าจะไปหาเดินห้างแถวนี้หน่อยว่ะ “ ธนาบอก
“ แล้วมึงไม่ไปหาอะไรกินกับพวกกูรึไง “ ปิติขมวดคิ้วถาม
“ นั่นดิไอธนา “ ออยพูดสมทบด้วยความสงสัยเช่นกัน
“ เดี๋ยวไปหาอะไรกินที่นั่นทีเดียว “ ธนาตอบสั้นๆ
“ อกหักจากน้องปีขาลสุดที่รักจนถึงขั้นตัดเพื่อนฝูงเลยหรอวะ “ ปิติแซวเพื่อนสนิทยิ้มๆ เพราะตั้งแต่ที่ธนาได้รู้ข่าวเรื่องของปีขาลที่คบกับเด็กปีหนึ่งที่ชื่อกุน มันก็ทำให้ธนานิ่งมากขึ้นและไม่ได้หาปีขาลเหมือนอย่างเคย แถมยังเมินเรื่องการจับสายรหัสที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วนี้ด้วย
“ กูไม่ได้ตัดเพื่อนฝูง แต่กูจะไปเดินเล่น ถ้าพวกมึงอยากมาก็ตามกูมา จะมายืนพูดจี้ใจกูเพื่อ!? “ ธนามองเพื่อนสนิทอย่างอารมณ์เสีย ออยและปิติรีบเข้าไปโอบไหล่เพื่อนสนิทยิ้มๆ
“ โอ๋ๆๆนะเพื่อน เอาหน่าาาาเดี๋ยวคืนนี้กูพาแดกเหล้าครับ “ ออยตบบ่าธนายิ้มๆ ธนากรอกตามองบนอย่างเอือมๆแล้วพูดดักทางเพื่อนทั้งสองอย่างรู้ทัน
“ จะหาเรื่องแดกที่ห้องกูอีกละสิ “
“ ถูกต้องนะคร้าบบบ!! “ ทั้งสองคนประสานเสียงออกมาด้วยความพร้อมเพรียง
“ ถ้าจะนอนห้องกูก็หัดเอาเสื้อผ้าแล้วก็ชุดใส่ไปมอ.มาเปลี่ยนบ้างนะพวกมึง เอาชุดกูไปใส่จนกูต้องซื้อชุดนักศึกษาใหม่ทุกอาทิตย์แล้วเนี้ยไอพวกเวร! “ ธนาบ่นออกมาเล็กน้อย ปิติและออยได้แต่ยิ้มแหยๆส่งไปให้เพื่อนสนิท
“ โอเคครับเพื่อนธนา เดี๋ยววันนี้พวกกูทั้งสองคนจะเอาเสื้อผ้าไปที่ห้องของมึงนะครับ “ ปิติพูดขึ้นยิ้มๆ
“ เออ “ ธนาพยักหน้าน้อยๆ
“ แล้วนี่จะไปเลยปะ “ ออยถาม
“ เออ “ ธนาบอกเสียงนิ่ง ออยและปิติขยับตัวออกห่างจากธนาทันทีแล้วโบกมือลาเพื่อนสนิท
“ บายยย “
“ สัส “
ธนาพูดจบก็หันหลังเดินไปทางลานจอดรถเพื่อที่จะขับไปเดินเล่นที่ห้างใกล้กับมหาลัย
ห้างBBN
ธนาเดินตรงเข้าไปด้วยท่าทีนิ่งๆ ซึ่งมีนักศึกษาที่เรียนอยู่กับมหาลัยเดียวกับเขาต่างหันมายิ้มและแอบถ่ายรูปของเขา ซึ่งตัวของธนาเองก็เริ่มชินกับเหตุการ์ณอะไรแบบนี้แล้ว เพราะเขาเองก็เป็นเดือนมหาลัยมาก่อน จึงไม่รู้สึกแปลกใจอะไรเท่าไหร่นักที่จะมีคนรู้จักเยอะขนาดนี้
ธนาเดินไปเรื่อยๆก็รู้สึกเหมือนเห็นด้านหลังที่คุ้นเคยของใครบางคน เขาเดินเข้าไปใกล้ๆเพื่ออยากรู้ว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นใช่หรือไม่
“ นาย “ ธนาเรียกร่างเล็กตรงหน้า
เมฆาหันไปทางด้านหลังที่มีคนเรียก ก็ต้องรู้สึกตกใจเล็กน้อยที่เจอรุ่นพี่ตัวสูงปากไม่ดีคนนี้อีกแล้ว
“ ครับ “ เมฆาถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ธนายิ้มให้อย่างกวนๆ
“ มาทำไรที่นี่อ่ะ “
“ เดินเล่นครับ “ เสียงนิ่งๆของเมฆาตอบกลับร่างสูงไป
“ อ๋อ…เดินด้วยดิ “ ธนาพูดขึ้น เขาเองก็รู้สึกเบื่อๆอยู่เหมือนกัน ถ้ามีคนตรงหน้าเดินเป็นเพื่อนอาจจะทำให้เขาคลายเหงาลงได้บ้าง
“ พี่ไม่มีเพื่อนหรอครับ “ เมฆาถามกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ติดรำคาญไม่น้อย ธนาหัวเราะในลำคออย่างขำๆ เขาเริ่มรู้สึกสนุกที่ได้ต่อปากต่อคำกับคนตรงหน้าเสียแล้วสิ
“ มี แต่ตอนนี้เพื่อนไม่ว่าง “
“ ทำไมอ่ะ หวงพื้นที่ส่วนตัวหรอ “ ธนาเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม แต่มุมปากก็ยังคงมีรอยยิ้มติดอยู่
“ ผมว่าพี่จะไปไหนก็ไปเถอะครับ ผมอยากเดินคนเดียว “ เมฆาเอ่ยปากไล่และหันหลังทำท่าจะเดินหนี แต่ธนาที่ไวกว่ารีบคว้าแขนเล็กของเมฆาเอาไว้ก่อน
“ เดี๋ยวดิ เดินไปด้วยกันนี่แหละ ไหนๆเราก็สนิทกันแล้ว ไปเที่ยวด้วยกันก็คงไม่เสียหายอะไร “ ธนายิ้มกว้างแล้วบอกเหตุผลให้อีกฝ่ายฟัง เมฆาขมวดคิ้วแล้วมองหน้าธนาด้วยความสงสัย
“ สนิทกัน? โทษนะครับ เราไปรู้จักกันตอนไหนไม่ทราบ “
“ ก็…เออ แล้วชื่ออะไรอ่ะ ยังไม่ได้ถามเลย “ ธนามองหน้าหวานนิ่ง เมฆาถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ถ้าขืนเขาไม่ยอมบอกอีกฝ่าย มีหวังอีกคนน่าจะตามเขาไปตลอดแน่ๆ
“ ผมชื่อเมฆา ทีนี้ก็เลิกยุ่งกับผมได้แล้วนะ “
“ ฉันชื่อธนานะ เอาละตอนนี้เรารู้จักกันแล้ว ฉันว่าเราไปเที่ยวด้วยกันได้ละ ปะ “ พูดจบร่างสูงของธนาก็จับข้อมือเล็กของเมฆาลากไปทางบรรไดเลื่อนทันที
“ นี่พี่! ผมยังไม่ได้บอกเลยนะว่าจะไปกับพี่เนี้ย “ เมฆาขืนตัวเองเล็กน้อยแล้วโวยวายออกมาเสียดังลั่น
“ ก็เรารู้จักกันแล้วไง “ ธนาหันมาตอบร่างเล็กที่อยู่ทางด้านหลัง
“ ใครเขาอยากรู้จักพี่เนี้ย “ เมฆาพยายามดึงแขนตัวเองออกมา แต่ยิ่งเขาพยายามที่จะดึงมืออีกฝ่ายออกเท่าไหร่มันก็ยิ่งทำให้อีกฝ่ายบีบมือเขาแน่นขึ้น
“ อยู่เฉยๆดิ จะดิ้นเพื่อ “ ธนาหันมาดุนิดๆ
“ พี่ก็ปล่อยผมสิครับ ผมเดินเองได้ “ เมฆาบอกและขมวดคิ้วมองหน้าธนาด้วยความไม่พอใจ
“ ปล่อยเดี๋ยวนายก็หนีฉันไป “ ธนาบอกอย่างรู้ทัน
“ ผมไม่หนีหรอกครับ แต่พี่มาบีบข้อมือผมแบบนี้มันทำให้ผมเจ็บ “ เมฆาอธิบาย อันที่จริงเขาเองก็สามารถเอามือแกร่งออกจากข้อมือของเขาได้อย่างง่ายได้ แต่เขาไม่อยากให้ทุกคนหรือแม้กระทั่งคนตรงหน้าตกใจกับการกระทำของเขา
ธนาได้ได้ฟังก็ค่อยๆคลายมือออกจากข้อมือเล็ก
“ โทษที “ ธนาพูดด้วยความรู้สึกผิดนิดๆ เมฆามองขวางธนาอย่างเคืองๆ
“ พี่จะพาผมไปไหน “ เมฆาถามเมื่อมาหยุดอยู่ที่ชั้นสองของห้าง
“ พาไปหาอะไรกิน “ ธนาหันมาตอบสั้นๆ เมฆาเดินไปอยู่ข้างๆธนา
“ แต่ผมไม่หิว “
“ แต่ผมหิว “ ธนาบอกออกมาอย่างเอาแต่ใจ
“ นี่พี่! “ เมฆาขมวดคิ้วมองธนาด้วยความไม่พอใจ
“ กินอะไรดี “ ธนาหันไปมองรอบๆเมื่อเห็นร้านอาหารจำนวนมากอยู่ด้านหน้า เมฆาถอนหายใจออกมานิดๆ
“ แล้วแต่พี่แล้วกันครับ “
“ เอ็มเคมั้ย? ปะ “ พูดจบร่างสูงก็ดึงแขนของเมฆาให้เดินตามไปทันที เมฆาได้แต่กรอกตามองบนด้วยความเหนื่อยใจกับการดื้อดึงของคนตรงหน้า
“ สวัสดีค่ะ มากันกี่ท่านคะ “ พนักงานสาวเอ่ยทักชายหนุ่มทั้งสองยิ้มๆ
“ สองครับ “ ธนาตอบ พนักงานสาวพยักหน้าแล้วพาทั้งสองคนเข้าไปข้างใน
“ เชิญค่ะ “ พนักงานผายมือไปทางโต๊ะว่างที่อยู่ติดริมกระจกเพื่อให้ชายหนุ่มทั้งสองได้นั่งเข้าไปข้างใน ธนาและเมฆาเดินตรงไปและนั่งลงตรงข้ามกัน
“ เดี๋ยวมารับออเดอร์นะคะ “ หญิงสาวบอกทั้งสองคนยิ้มๆ ธนาพยักหน้าน้อยๆ
“ อยากกินอะไร “ เขาถามร่างเล็กตรงหน้าที่เอาแต่มองไปนอกร้าน
“ แล้วแต่พี่สิ พี่เป็นคนอยากกินไม่ใช่หรอ “ เมฆาตอบไปด้วยน้ำเสียงติดเซ็งเล็กน้อย
“ แต่ฉันมากับนายนะ ก็ต้องถามนายสิ “ ธนาบอกคนตรงหน้ายิ้มๆ
“ เฮ้อ! ผมกินได้ทุกอย่าง ไม่ได้แพ้อะไร พี่สั่งๆมาเถอะ “ เมฆาบอกอีกฝ่ายเพื่อตัดความรำคาญ ธนายิ้มกว้างออกมาเมื่อกวนโมโหอีกฝ่ายได้สำเร็จ เขาเองก็รู้ว่าอีกคนไม่อยากมากับเขาและที่มาก็เพราะถูกเขาบังคับ แต่มันก็ทำให้รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาแบบแปลกๆ
“ โอเค “ ธนาหันไปเรียกพนักงานและสั่งอาหารไปทันที พร้อมกับยื่นเมนูคืนพนักงานไปด้วย
“ เรียนที่ไหน “ ธนาเริ่มต้นสนทนาด้วยยคำถามที่เขาเองก็อยากถามอีกฝ่ายมานานแล้ว
“ วิทยาลัยCCM “ เมฆาตอบกลับไปนิ่งๆ
“ เรียนภาคสมทบหรอ “ ธนาเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม เพราะวิทยาลัยนี้ส่วนมากจะเรียนภาคสมทบกันแทบทุกคน
“ ครับ “
“ แล้วอยู่ปีไหน หนึ่งหรอ “ ธนายังถามต่อ
“ ครับ พึ่งเข้า “ เมฆาถอนหายใจออกมานิดๆ เพราะเขารู้สึกว่าเหมือนตัวเองต้องมาตอบคำถามของญาติผู้ใหญ่ไม่มีผิด
“ เรียนสาขาไรอ่ะ “ ธนาถามยิ้มๆ
“ บัญชีครับ “
“ ยากป้ะ “
“ ไม่ครับ “
“ มีเพื่อนมั้ย “
เมฆาหันมามองหน้าธนาด้วยความไม่พอใจ เพราะเขาเริ่มรู้สึกว่าอีกฝ่ายกำลังกวนโมโหเขาอยู่ไม่มีผิด
“ พี่จะอยากรู้ทำไมนักหนาครับ “
“ เอ้า ก็จะได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นไง “ ธนาตอบกลับไป แต่ริมฝีปากกลับยกยิ้มด้วยความสนุก
“ พี่กวนโมโหผมมากกว่า “ เมฆามองหน้าธนาดุดุ
“ ฉันเปล่าสักหน่อย แค่อยากรู้เรื่องของนายก็เท่านั้นเอง “ ธนาปฎิเสธ
“ เพื่ออะไรครับ เราไม่ได้รู้จักกันขนาดนั้น “
“ เดี๋ยวก็รู้เองแหละหน่า “ ธนายักคิ้วอย่างกวนๆ
“ ………… “ เมฆาถอนหายใจและหันหน้าไปทางนอกร้านต่อโดยไม่สนใจอะไรธนาอีก
“ แล้ว..มีแฟนรึยัง “ ธนายังคงถามต่อ ซึ่งคำถามนี้ทำให้เมฆาหันไปมองหน้าธนาด้วยความแปลกใจ
“ ทำไมผมต้องตอบด้วย “ เมฆาขมวดคิ้วมองหน้าธนาด้วยความไม่เข้าใจ
“ แสดงว่ามี “ ธนาเลิกคิ้วแล้วจ้องใบหน้าหวานนิ่งๆ
“ ผมไม่มี แต่มีคนที่ชอบแล้ว “ เมฆาตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ติดโมโหเล็กน้อย
“ อ๋ออออ “ ธนาพยักหน้ารับรู้ แต่ในสายตาของเมฆานั้นใบหน้าของธนาดูกวนสำหรับเขามาก
“ แต่ยังไม่ได้คบกันใช่ป้ะ “ ธนายังคงถามต่อ
“ พี่เมื่อไหร่จะเลิกถามแล้วก็เลิกยุ่งวุ่นวายกับชีวิตของผมสักที เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นนะครับ “ เมฆาพูดขึ้นอีกครั้งด้วยความโมโห
“ แล้วเมื่อไหร่จะสนิท “ ธนามองหน้าเมฆายิ้มๆ ยังไม่ทันที่เมฆาจะได้ตอบอะไรออกไปอาหารก็นำมาวางไว้ที่โต๊ะของพวกเขาเสียก่อน หลังจากวางอาหารจนครบธนาก็หันไปมองหน้าเมฆา
“ มองทำไมครับ “ เมฆาถาม
“ เมื่อกี้นายยังไม่ได้ตอบคำถามฉัน “ ธนาเอ่ยทวง
“ คงไม่มีวันที่จะสนิทกันได้หรอกครับ “ เมฆาตอบกลับไปด้วยท่าทีนิ่งๆ
ไม่ใช่ว่าตัวของเขาไม่รู้จักคนใหม่ๆในชีวิต แต่เพราะเขารู้ว่างานที่เขาทำมันไม่เหมาะที่จะรู้จักกับใครหรือแม้กระทั่งคบใครเป็นแฟน เพราะงานเขามันค่อนข้างเสี่ยง ซึ่งเขาทำงานเสี่ยงแบบนี้มาตั้งแต่มัธยมแล้ว มันเลยทำให้เขาไม่ค่อยได้คบใคร หรือถ้าคบก็คบเพียงแค่หน้าที่เท่านั้น
“ ทำไมละ เพราะอายุหรอ “ ธนาถามด้วยความไม่เข้าใจ เมฆาส่ายหน้าน้อยๆ
“ เปล่าครับ แต่… “ เมฆาอึกอัก ธนาที่เห็นแบบนั้นเลยไม่อยากเซ้าซี้เพื่อให้อีกคนไม่สบายใจ
“ ไม่เป็นไร เดี๋ยวคุยๆกันไปนายก็สนิทกับฉันเองนั่นแหละ “
“ …… “ เมฆาเองก็ขี้เกียจตอบคำถามอะไรอีกคนออกไปแล้วเช่นกันเลยให้ความเงียบเป็นคำตอบ เพราะเขาเองก็คิดว่าคงไม่มีโอกาสที่จะได้มาเจออีกฝ่ายอีก
“ แล้วมาทำอะไรที่มหาลัยฉันละ “
“ มาหาเพื่อนครับ “ เมฆาตอบกลับนิ่งๆและหยิบเป็ดที่อยู่ในจานมาวางไว้ที่จานตัวเอง
“ เพื่อนนาย? อยู่วิศวะหรอ “ ธนาขมวดคิ้วถามกลับไป เมฆาพยักหน้าตอบพร้อมกับคีบเป็ดเข้าปาก
“ ชื่ออะไรละ เผื่อว่าฉันจะรู้จัก “ ธนาถามด้วยน้ำเสียงปกติพร้อมกับหยิบหมี่หยกที่เขาสั่งคีบมาไว้ที่จานตัวเอง แต่คำตอบของเมฆาทำให้เขาชะงักมือที่กำลังกินหมี่หยกอยู่ทันที
“ กุนครับ “
ธนาเงยหน้ามองเมฆานิ่งๆ
“ นั่นเพื่อนนายหรอ “
“ ครับ “ เมฆาพยักหน้า และมองร่างสูงด้วยความไม่เข้าใจเพราะจู่ๆอีกคนก็ดูเหมือนจะนิ่งๆไป
“ พี่เป็นอะไรรึเปล่า “ เขาถามด้วยความสงสัย
“ รู้จักกันนานรึยัง “ ธนาถามอีกฝ่ายกลับไปโดยเมินคำถามของเมฆาที่ถามมา
“ ตั้งแต่เด็กครับ “ เมฆาตอบ
“ พี่..เป็นอะไรรึเปล่า “
“ เพื่อนนายคบกับคนที่ฉันแอบชอบ “ ธนามองหน้าเมฆานิ่ง เมฆาเองเมื่อได้ยินก็ชะงักไปนิดเพราะรับรู้ถึงอารมณ์เศร้าของอีกฝ่ายได้
“ แต่ช่างเหอะ ชอบคนที่เขาไม่ชอบเราแม่งก็อกหักงี้แหละ “ ธนาไหวไหล่นิดๆเพราะเขาเองก็ไม่อยกาคิดอะไรมากนัก
“ พี่..โอเครึเปล่าครับ “ เมฆาถามอีกฝ่ายด้วยความเป็นห่วง
“ ทำไมจะไม่โอเคละ แค่อกหักไม่ทำให้ตายหรอก “ ธนาส่งยิ้มอ่อนๆไปให้กับร่างเล็กที่จ้องหน้าเขาอยู่
“ ทำไม?เป็นห่วงฉันหรอ “ ธนาเลิกคิ้วแล้วแกล้งถาม
“ อย่าเข้าข้างตัวเองนักสิครับ “ เมฆาส่ายหน้าน้อยๆ
“ หึหึหึ “ ธนาหัวเราะในลำคออย่างขำๆ
“ เออนี่ นายมีไลน์ป้ะ “ ธนาถาม
“ พี่จะเอาไปทำอะไรครับ “ เมฆามองหน้าอีกฝ่ายอย่างระแวง
“ ก็คุยดิ ไม่ได้เอาไปบูชาหรอก “ ร่างสูงตอบอย่างกวนๆและหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าออกมาแล้วยื่นไปตรงหน้าอีกฝ่าย
“ ไม่ให้ครับ “ เมฆาปฎิเสธ ทำให้ธนาชะงักมือที่จับโทรศัพท์อยู่ทันที
“ อย่าหวงมากได้ป้ะ แค่ไลน์เอง “
“ ไม่ให้ครับ “ เขายังคงยืนยันในคำตอบ
“ ทำไม “ ธนาขมวดคิ้วมองอีกฝ่ายด้วยความไม่เข้าใจ
“ ผมไม่ได้อยากรู้จักพี่ “ คำพูดนิ่งๆของเมฆาทำให้ธนาสะอึกไปนิด เพราะเขาไม่เคยโดนใครปฎิเสธในเรื่องนี้มาก่อน ซึ่งส่วนมากนั้นจะมีคนเข้ามาขอไลน์เขาเองมากกว่า
“ แต่ฉันอยากรู้จักนาย “ ธนาพูดสั้นๆ
“ นี่คือถ้าผมไม่ให้พี่ก็ตื้อไม่จบใช่มั้ย “ เมฆาถามด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยใจไม่น้อย
“ อาห๊ะ “ ธนาพยักหน้าอย่างกวนๆ
“ งั้นก็เอามา “ เมฆาแบมือเพื่อขอโทษศัพท์ของร่างสูง ธนายิ้มกว้างพร้อมกับส่งโทรศัพท์ของตัวเองไปให้ร่างบาง เมฆาก้มหน้าพิมพ์อะไรบางอย่าง สักพักก็ยื่นโทรศัพท์คืนร่างสูงไป
“ ถ้าพี่ทักมากวนผมมากๆผมบล็อกแน่ “ เมฆาพูดขู่ ธนารับโทรศัพท์และกดแอดไปทันที
“ แล้วทักไปคุยเล่นๆได้ป้ะ “ ธนาแกล้งถาม
“ ไม่ได้ครับ “ เมฆาพูดดัก
“ แล้ว..ทักไปจีบได้ป้ะ “ ธนายิ้มกรุ้มกริ่ม เมฆาได้แต่มองคนตรงหน้าอย่างอึ้งๆ
“ พี่..พี่พูดบ้าอะไรเนี้ย “
“ เอ้า พูดเล่นไม่ได้รึไง “
เมฆาก้มหน้างุดไม่ได้ตอบอะไรอีกฝ่ายกลับไป
“ หึหึหึ กินต่อเถอะ เดี๋ยวเย็นหมด “ ธนาพูดยิ้มๆแล้วตักหมูที่อยู่ในหม้อ เอาไปไว้ในถ้วยของร่างบาง