“เจ้าเดรัจฉานน้อย จงพบกับความตายซะ”
ยิงฮวาตะโกนด่าทอด้วยความเหลืออดเต็มที บรรยากาศโดยรอบปกคุลมด้วยความเย็นยะเยือกของขุมพลังหนึ่ง กว่าหลงเฉินจะตรวจสอบขึ้นมาได้ก็พบว่ายิงฮวาใช้กระบี่ยาวชี้เข้ามายังคอหอยของตัวเองแล้ว
แม้ว่าหลงเฉินจะตั้งรับการลงมือของยิงฮวาไว้ ทว่าก็ไม่อาจเทียบชั้นกับความเร็วปานสายฟ้าฟาดของยิงฮวาได้ ขณะที่ร่างกายเพิ่งจะไหลเวียนพลังขึ้นมานั้น ร่างของชายฉกรรจ์ก็ได้มายืนอยู่ที่เบื้องหน้าของเขาแล้ว
หลงเฉินได้เตรียมใจเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว หากยิงฮวาไม่แข็งแกร่งแล้วจะสามารถเทียบเคียงกับบิดา หรือเป็นหนึ่งในสามยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่แห่งจักรวรรดิได้อย่างไรกัน?
สายตาคู่คมสะท้อนประกายแสงกระบี่ที่กำลังทิ่มแทงคอหอยของตนเองอยู่ ความเงียบสงบเกิดขึ้นภายในจิตใจ ในเวลานี้คงจะทำได้แค่เพียงปล่อยวางความหวาดกลัวไปเข้าสู่สภาวะที่พิสดารอยู่ชนิดหนึ่ง
กระบี่ของยิงฮวาไม่อาจดึงดูดความสนใจของหลงเฉินได้ พลังที่ไหลเวียนถูกรวมไว้ที่กระบี่หนักในมือที่บัดนี้ได้หันคมแหลมเข้าไปที่เอวของยิงฮวาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ด้วยพลังหนุนทั้งสิบสองสายที่ได้ไหลเวียนไปทั่วทั้งร่างจึงไม่อาจทำให้ความหนักของกระบี่หนักเล่มนั้นเป็นปัญหาใหญ่ของหลงเฉินเลย กระบี่หนักแหวกผ่าหมู่มวลอากาศที่อยู่โดยรอบด้วยพลังทั้งหมดที่ไม่มีเก็บงำเอาไว้แม้แต่น้อย
ยิงฮวาจ้องมองไปยังใบหน้าที่ไม่หวาดกลัวความตายของหลงเฉิน ก็ยิ่งกระตุ้นบันดาลโทสะขึ้นมา หากปล่อยไปเช่นนี้คงจะต้องเจ็บหนักทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน
กระบี่ยาวในมือของยิงฮวานั้นยาวเพียงสี่เซียะถือเป็นกระบี่ยาวตามมาตรฐานทั่วไป ทว่ากระบี่หนักในมือของหลงเฉินกลับยาวถึงเจ็ดเซียะ หากโจมตีเข้าพร้อมกันก็คงจะมีเพียงผลลัพธ์เดียวเท่านั้นคือกระบี่ยาวของเขาแทงทะลุคอหอยของหลงเฉิน ส่วนกระบี่หนักของหลงเฉินก็คงจะแทงเข้ามาที่ร่างของเขาด้วยเช่นกัน
แม้ว่ายิงฮวาจะมีความแข็งแกร่งอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่อาจใช้ร่างกายเข้าแลกกับกระบี่ของหลงเฉินได้โดยเด็ดขาด ต่อให้เขาเป็นยอดฝีมือพลังขอบเขตเปลี่ยนเส้นเอ็นก็ไม่อาจปล่อยปละการโจมตีนี้ไป พลันร่างกายก็ได้ขยับทะยานถอยไปทางด้านหลัง หลบเลี่ยงการโจมตีของหลงเฉินที่ใกล้เพียงหนึ่งสมหายใจเท่านั้น
หลงเฉินมองไปยังกระบี่คมคู่นั้นที่จะทำให้บาดเจ็บกันทั้งสองฝ่าย เขาเชื่อว่าหากตัวเองหลบออกจากคมกระบี่ของยิงฮวาได้ ก็ไม่อาจหลบกระบวนท่าตามหลังอันน่ากลัวของยิงฮวาได้อยู่ดีด้วยความเร็วที่ไม่อาจเทียมทัดกับยิงฮวานั้นคงจะมีแต่ต้องตายไปอย่างแน่นอน
ทว่าเมื่อพบว่ายิงฮวาได้ถอยหลบไปเสียเอง หลงเฉินจึงได้ตะโกนออกมาเสียงดังประดุจสายฟ้าที่ผ่าลงมาในยามฤดูใบไม้ผลิ หยุดกระบี่ที่กำลังกวาดออกไปแล้วเปลี่ยนแปลงสภาวะเล็กน้อยพวยพุ่งไปยังหน้าอกของยิงฮวาในฉับพลัน
ยิงฮวาที่เพิ่งจะหลบรอดจากกระบี่ของหลงเฉินไปอย่างฉิวเฉียด ทันใดนั้นเองก็พบว่าหลงเฉินเปลี่ยนกระบวนท่าจึงไม่ได้ที่จะมีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
เพราะเห็นได้ชัดอยู่แล้วว่าผู้ที่สามารถกวัดแกว่งกระบี่หนักที่มีน้ำหนักมหาศาลเช่นนั้นออกไปได้ นับว่าน่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง ยิงฮวามองออกตั้งแต่หลงเฉินคว้ากระบี่เล่มนั้นขึ้นมาแล้ว ฉะนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะแลกชีวิตกับคมกระบี่ของหลงเฉิน
ทว่าบัดนี้ก็ยิ่งตกตะลึงหนักขึ้นไปอีกหลายเท่า เมื่อเห็นหลงเฉินสามารถพลิกแพลงกระบี่หนักไปเป็นอีกกระบวนท่าหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว นี่จึงบ่งบอกได้ว่าพลังอันมหาศาลของหลงเฉินนั้นน่าสะพรึงกลัวถึงเพียงใด
“ชิ ก็แค่พละกำลังมากกว่าเท่านั้น”
ยิงฮวาสบถออกมาอย่างแผ่วเบา กระบี่ยาวในมือโบกสะบัดออกไปกระแทกเข้ากับกระบี่หนักของหลงเฉินจนเกิดเสียงดังกังวานขึ้นมา
“ติง”
ประกายเพลิงสาดกระเซ็นออกมาจากการปะทะกันของสองคมดาบ หลงเฉินเบิกตากลมโตขึ้น การโจมตีด้วยพลังทั้งหมดกลับถูกขัดขวางด้วยกระบี่ของยิงฮวาจากทางด้านข้าง การผสานกันของสองพลังอันแรงกล้าได้ทำให้ร่างกายของหลงเฉินสูญเสียการควบคุมจนต้องพุ่งตัวออกไปด้านหน้า
“เชอะ”
กระบี่ยาวในมือของยิงฮวาทอแสงประกายแห่งภยันตรายประดุจต้องพิษของอสรพิษ พุ่งอย่างเร็วแรงดั่งมีสายฟ้าแล่นผ่านหัวใจของหลงเฉินไป
“เชอะ”
ยิงฮวาพุ่งตัวเข้ามาด้วยความเร็วประดุจม้าพยศ ปลายกระบี่ทิ่มแทงเข้าไปที่หน้าอกของหลงเฉินจนเกิดสายโลหิตไหลทะลักออกมาอย่างมหาศาล
ทว่าโชคยังดีที่ไม่ถูกจุดอันตราย ทว่ายิงฮวาก็ไม่รั้งรอให้หลงเฉินได้ผ่อนลมหายใจแม้แต่เสี้ยวเดียว หันคมกระบี่ครั้งที่สองเข้ามาที่คอหอยของหลงเฉินในทันที
หลงเฉินตกใจจนหัวใจเต้นระรัวอยู่ภายในทรวงอก นี่คือพลังของยอดฝีมือขอบเขตเปลี่ยนเส้นเอ็นอย่างนั้นหรือ? ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของชายผู้นี้ได้เลยจริงๆ ในสายตาของยิงฮวานั้นเขาคงเป็นเพียงเด็กน้อยที่ต่อสู้อย่างวุ่นวายผู้หนึ่งเท่านั้น
กระบี่กวัดแกว่งได้อย่างรวดเร็วจนแทบจะไม่มีเวลาให้ครุ่นคิด คิดที่จะหลบเลี่ยงแต่ก็ไม่ทันการณ์เสียแล้ว เพียงพริบตาเดียวกระบี่ยาวเล่มนั้นก็แทงทะลุคอหอยของเขาแล้ว
แววตาของของหลงเฉินทอประกายเย็นเยียบไปยังปลายกระบี่ของยิงฮวา และสายตาของชายฉกรรจ์ก็ได้มองไปยังบุตรชายของศัตรูด้วยความเย้ยหยันที่เต็มเปี่ยมอยู่ในจิตใจ นี่เป็นครั้งแรกที่หลงเฉินเข้าใจถึงคำว่า ‘เข้าใกล้ความตาย’ อย่างแท้จริง
“ไสหัวไป”
เสียงตวาดด้วยโทสะเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากเบื้องหน้า ประกายแสงสีทองสายหนึ่งได้แหวกผ่านอากาศแล้วหอบสายลมพริ้วไหวดั่งคลื่นพายุฝนผ้าคะนอง
“ตูม”
ในช่วงที่กระบี่ยาวของยิงฮวาทิ่มแทงไปที่คอหอยของหลงเฉินจนจมมิดไปส่วนหนึ่ง ขวานศึกสีทองเล่มหนึ่งถูกฟาดออกมาประดุจเทพจากสวรรค์ปรารถนาจะแบ่งแยกภูผาอย่างไรอย่างนั้น ประกายคมขวานฟันลงเข้ามาอย่างรุนแรงที่ร่างของยิงฮวา
อาหมานมีปฏิกิริยาเชื่องช้าเล็กน้อย เพราะเมื่อครู่ในสายตาของเขายังเห็นชายทั้งสองคนกำลังสนทนากันอยู่ จู่จู่การต่อสู้ก็เริ่มขึ้นอย่างกะทันหัน พอเขาเริ่มมีปฏิกิริยากลับคืนมาก็พบว่าหลงเฉินเกือบถูกปลิดชีพไปเสียแล้ว จึงรีบร้อนเข้ามาช่วยด้วยการฟันคมขวานออกมาอย่างรุนแรง
ในช่วงเวลาที่เห็นยิงฮวากำลังจะสังหารหลงเฉิน ทันใดนั้นภายในร่างกายก็เย็นวาบขึ้นมา ทะลวงเข้าไปถึงกระดูกสันหลังจนเขารู้สึกได้ถึงขุมพลังหนึ่งกำลังคุกคามชีวิตอยู่ ถึงแม้ว่าส่วนหนึ่งจะยังไม่ยินยอมพร้อมใจแต่ก็ไม่อาจทนเห็นผู้ใดสังหารหลงเฉินได้
กระบี่ยาวที่เคยอยู่ตรงคอหอยของศัตรูก็ได้ถูกยกขึ้นไปปัดป้องขวานยักษ์ของอาหมานจนบังเกิดเสียงระเบิดดังขึ้นมาสนั่นหวั่นไหว ร่างใหญ่ของเขาถูกซัดเข้าอย่างแรงจนกระเด็นถอยออกไปหลายสิบก้าว ใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความตกใจก็ได้จ้องมองไปที่ยิงฮวา
ยิงฮวาเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันมากนัก ร่างของชายฉกรรจ์ก็ได้กระเด็นถอยออกไปด้วยเช่นกัน กระบี่ในมือที่ใช้พลังพิสดารออกมากลับถูกสลายด้วยการปะทะจากอาหมานไปได้
อีกทั้งแขนข้างที่จับกระบี่ไว้ก็ได้เกิดอาการชาซ่านขึ้นมาเป็นสาย ภายในจิตใจเกิดความหวาดหวั่นขึ้นมาส่วนหนึ่ง ชายร่างยักษ์ผู้นี้คล้ายกับสัตว์มายาในร่างของมนุษย์อย่างแท้จริง
เมื่อหลงเฉินสบโอกาสในการคว้าชีวิตกลับคืนมา ก็ได้กระโดดไปยืนอยู่ข้างอาหมานอย่างรวดเร็ว พร้อมกับกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “อาหมาน เด็กน้อยผู้นี้ร้ายกาจเป็นอย่างยิ่ง พวกเราต้องแลกชีวิตกับเขาแล้วล่ะ”
“แลกชีวิต?”