ยิงฮวาทอสีหน้าฉุนเฉียวขึ้นมา สายตากวาดมองไปโดยรอบอย่างรีบร้อน ก็พบเห็นร่างของหลงเฉินกำลังวิ่งห่างออกไปไกลนับร้อยช่วงตัว มุ่งหน้าวิ่งไปยังใจกลางของภูเขาลูกใหญ่อย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง
“บัดซบ”
ยิงฮวาที่สุขุมมาโดยตลอดก็ได้ตะโกนด่าทอออกมาด้วยวาจาหยาบคายเป็นครั้งแรก ภายในดวงตาทั้งคู่เต็มไปด้วยเพลิงโทสะสาดกระเซ็นออกมา นี่เขาถูกหลอกอย่างนั้นหรือ
หลงเฉินพบว่าการจู่โจมด้วยพลังทั้งหมดของตัวเองยังไม่อาจทำให้ยิงฮวาได้รับบาดเจ็บจนสาหัสได้ จึงคิดว่าคงไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของขอบเขตเปลี่ยนเส้นเอ็นได้แล้ว
เมื่อได้พ่นวาจาอันโหดเ**้ยมออกไป ใช้สภาวะของกระบี่สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งฟ้าดินแล้ว เขาก็หันหลังวิ่งหลบหนีไปในทันที เพราะว่าการหลบหนีถือเป็นวิธีการต่อสู้ที่ได้ผลมากที่สุดในตอนนี้
ทว่าเมื่อหลงเฉินพบว่าอาหมานไม่ได้หนีตามมาด้วย อีกทั้งยังยืนอยู่ที่เดิมด้วยใบหน้าโง่งม จึงระเบิดโทสะจนแทบจะกระอักโลหิตออกมา
ก่อนหน้านี้เขาได้ส่งสายตาไปให้อาหมานแล้วครั้งหนึ่ง นั่นเป็นความหมายที่จะสื่อต่ออาหมานว่ามีโอกาสก็รีบหลบหนีไปซะ คิดไม่ถึงเลยว่าเด็กน้อยผู้โง่งมยังไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับมาได้ทัน
ทว่าในเวลานี้กลับหนีมาได้ไกลแล้ว แน่นอนว่าย่อมไม่อาจหันหลังกลับไปได้ เขาปักใจเชื่อว่าเป้าหมายของยิงฮวาคือเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น ขอเพียงอาหมานติดตามมาตั้งแต่แรกก็คงจะปลอดภัยอย่างแน่นอน
หลงเฉินที่กำลังหลบหนีไปได้ร้อยช่วงตัวอยู่นั้น ยิงฮวาก็ได้ส่งเสียงคำรามออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว แล้วออกไล่ล่าหลงเฉินมาในทันที
“คิดฆ่าพี่หลงของข้าอย่างนั้นหรือ เจ้ากลับมาเลยนะ”
ทันใดนั้นอาหมานก็ส่งเสียงร้องออกมาอย่างเกรี้ยวกราดด้วยเช่นกัน ผิวหนังบนร่างกายทอเป็นประกายแสงสีแดงขึ้นมาหลายสาย พลังอันมหาศาลระเบิดขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งและยิ่งทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ คล้ายกับเป็นสัตว์โบราณตัวหนึ่งที่กำลังตื่นจากการหลับใหลอันยาวนาน
ในขณะที่ยิงฮวากำลังจะไล่ตามหลงเฉินไปอย่างรีบร้อนอยู่นั้น ขวานยักษ์เล่มหนึ่งก็ได้หอบสายลมอันมหาศาลพวยพุ่งเข้ามา ฟาดฟันลงกลางศีรษะของเขาพอดี จนภายในจิตใจเกิดความหวาดหวั่นขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ที่น่าตกใจก็คือการโจมตีของอาหมานที่ผ่านไปเพียงครู่เดียวกลับแข็งแกร่งขึ้นกว่าก่อนหน้านี้เป็นเท่าตัว ขวานที่ยังไม่ได้มาถึงตัวทว่ากลับหอบสายลมที่รุนแรงผ่าแสกหน้าของเขาไปจนแทบจะทำให้ลมหายใจของเขาต้องสะดุดไปครู่หนึ่ง
“ตูม”
ยิงฮวาไม่ได้เข้ารับการโจมตีโดยตรง เพราะกระบี่ยาวในมือของเขาในตอนนี้ไม่ใช่กระบี่คู่กายอันแกร่งกล้าเฉกเช่นเดิมอีกต่อไปแล้ว สันขวานของอาหมานกระแทกลงไปบนพื้นพสุธาจนเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
ด้วยพลังอันน่าหวาดกลัวทำให้พื้นดินเกิดการสั่นไหวไปทั่ว เศษหินเศษดินได้ลอยคละคลุ้งไปกลางอากาศ ผืนดินเกิดร่องรอยร้าวเป็นวงกว้างคล้ายใยแมงมุมขนาดมหึมา
“พี่หลง ท่านหนีไปเร็ว ข้าจะต้านทานเขาเอาไว้เอง”
อาหมานโจมตีไปอย่างสะเปะสะปะ ไร้ซึ่งการจับทิศทางของศัตรู เอาแต่หันสันขวานมุ่งหน้าฟันไปยังยิงฮวาหลายต่อครั้ง ในขณะเดียวกันก็ได้กู่ร้องคำรามออกมาเสียงดัง
หลงเฉินที่กำลังวิ่งหน้าตั้งออกไปอย่างบ้าคลั่งอยู่นั้น ก็ทั้งตื้นกลัวทั้งตื้นเต้นระคนกันขึ้นมาอย่างไม่อาจแยกได้ พลังการต่อสู้ที่อาหมานได้ระเบิดออกมาในตอนนี้ช่างน่าหวาดกลัวที่สุดเท่าที่เขาเคยได้พบเจอมา
ทว่าที่น่าโกรธนั้นก็คือเจ้าจะรั้งเขาเอาไว้ด้วยเหตุอันใดกัน ที่ข้าทำไปอยู่นี้ก็เพื่อให้เขาไล่ตามข้าอย่างไรเล่า! อาหมานไม่นึกเสียดายชีวิตของตัวเองเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าอาหมานจะโง่งมในบางครั้งและโง่เขลาในบางที ทว่าเขากลับยังเชื่อมั่นต่อหลงเฉินอย่างเต็มเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณทั้งหมดที่มี แม้แต่ชีวิตของตัวเองก็ยังไม่สนใจ
หลงเฉินแทบจะร้องไห้ออกมาพร้อมกับด่าทออยู่ในใจ ทว่าก็ควบคุมอารมณ์เอาไว้อย่างรวดเร็ว เขาไม่กล้าที่จะหยุดฝีเท้าลงตอนนี้ หากกระทำเช่นนั้นก็จะกลายเป็นว่าส่งสัญญาณให้ยิงฮวารู้ว่าเขาไม่อาจทอดทิ้งอาหมานได้อันเป็นการเผยจุดอ่อนของตัวเองออกมา แล้วทั้งสองคนก็คงจะต้องตายไปอย่างไม่ต้องสงสัย
แผนการเดิมทีก็คือการชักจูงให้ยิงฮวาตามออกมา แล้วให้อาหมานหลบหนีไปอีกทาง ทว่าอาหมานกลับไม่เข้าใจในความหมายที่หลงเฉินได้สื่อออกไปเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังคิดจัดการยิงฮวาด้วยตัวเองอีกด้วย
“ตูม”
ยิงฮวาเหวี่ยงตัวหลบจากการโจมตีของอาหมานที่ติดต่อกันถึงสามครั้ง ห้วงความคิดของชายฉกรรจ์ก็เกิดความว้าวุ่นขึ้นมาส่วนหนึ่ง เรี่ยวแรงของอาหมานนั้นมากมายเกินกว่าคำว่าปกติไปมากนัก เพียงกระบวนท่าที่ไร้ทิศทางยังทำให้เขาไม่อาจหลบรอดไปได้อย่างง่ายดาย ได้แต่เพียงทานรับเอาไว้จนต้องร่นถอยหลังออกไปสี่ห้าก้าว
“หาที่ตาย”
ยิงฮวาเกิดบรรดาลโทสะขึ้นมาอย่างเดือดดาล การจะสังหารหลงเฉินกลับต้องมาประสบพบเจอกับอุปสรรคที่มากมายถึงเพียงนี้เลยหรืออย่างไรกัน ตัวเองเป็นถึงสุดยอดฝีมือพลังขอบเขตเปลี่ยนเส้นเอ็น คิดไม่ถึงเลยว่ายังไม่อาจโค่นล้มเด็กน้อยที่อยู่ในพลังขอบเขตขั้นก่อรวมเพียงสองคนลงไปได้
โดยเฉพาะกระบวนท่านั้นของหลงเฉินกลับทำให้เขาได้รับบาดเจ็บภายในอยู่มากทีเดียว ถึงแม้ว่าจะไม่ได้แสดงอาการออกมาแต่อย่างใด นั่นก็เป็นเพราะว่าเขานั้นพยายามข่มกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้อยู่ก็เท่านั้นเอง
ทว่าบัดนี้กลับถูกเด็กน้อยร่างยักษ์เข้ามาขวางการไล่ล่าเอาไว้ เดิมทีที่ไม่คิดจะออกแรงเพราะเกรงว่าจะไปกระตุ้นอาการบาดเจ็บ ยิ่งพบว่าหลงเฉินได้เริ่มห่างไกลออกไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งร้อนรนกระวนกระวายขึ้นมา
หากไม่จบเรื่องราวในตอนนี้ให้เร็วที่สุด หลงเฉินคงจะหลบหนีไปได้อย่างแน่นอน นั่นเป็นสิ่งที่เขายอมไม่ได้อย่างถึงที่สุด สายตาจ้องมองไปยังการโจมตีของอาหมานที่กำลังใกล้เข้ามานั้น เส้นโลหิตทั่วร่างก็ได้สั่นไหวขึ้นมา พลันก็ได้พุ่งปลายกระบี่ออกมาไปพร้อมกับหอบพลังที่สามารถตัดได้ทั้งฟ้าดิน
“เคร้ง”
อาหมานสัมผัสได้ถึงขุมพลังชนิดหนึ่งกำลังไหลเวียนเข้ามาภายในร่างกายจนไม่อาจยืนอยู่ได้ ร่างของเขาจึงลอยกระเด็นถอยออกไปไกลสิบก้าวแล้วค่อยยืนหยัดขึ้นมาได้ ถึงแม้ว่ายิงฮวาอาจจะไม่ได้มีพละกำลังที่แข็งแรงเท่าอาหมาน ทว่าหลังจากที่เข้าสู่ขอบเขตเปลี่ยนเส้นเอ็นได้แล้วนั้นพลังกายกลับถูกเพิ่มพูนขึ้นมาอย่างมากมายด้วยเช่นกัน
กระบี่เล่มนั้นทำให้อาหมานกระเด็นออกไป ส่วนยิงฮวาเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันมากนัก ที่ใจกลางทรวงอกของเขาเกิดความเจ็บปวดไหลเวียนขึ้นมา นั่นก็คือผลกระทบจากการฝืนใช้พลังออกมาในขณะที่ยังบาดเจ็บ
กระบวนท่าที่ของหลงเฉินใช้ออกมาในครั้งนั้นช่างร้ายกาจจนเกินไปแล้ว ไม่เพียงแต่คอยบ่อนทำลายอวัยวะทั้งห้า (ศีรษะ แขน และขา) ของเขาเท่านั้น แม้แต่จุดตันเถียนก็ยังได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงด้วยเช่นเดียวกัน ส่งผลให้เขาไหลเวียนพลังลมปราณได้เชื่องช้าลงอย่างเห็นได้ชัด
หลังจากที่ปะทะกับอาหมานจนร่างยักษ์นั้นกระเด็นถอยไปไกลพอสมควรแล้ว ฝีเท้าของเขาก็ได้มุ่งหน้าไล่ล่าหลงเฉินไปอีกครั้ง การสังหารของหลงเฉินนั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ “จะหนีไปไหน”
ยิงฮวาเหลือบหันไปมองยังต้นเสียงด้วยดวงตาเบิกกว้างด้วยความคลุ้มคลั่ง อาหมานที่ถูกเขาซัดออกไปกลับไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด อีกทั้งยังมุ่งเป้ามาที่เขาอีกครั้งหนึ่ง
อาหมานราวกับเป็นสัตว์มายาในร่างมนุษย์อย่างไรอย่างนั้น ด้วยความแข็งแรงของกายเนื้ออันมหาศาลเพียงอย่างเดียวก็สามารถต้านทานการโจมตีของยอดฝีมือพลังขอบเขตเปลี่ยนเส้นเอ็นเอาไว้ได้แล้ว เรื่องน่าประหลาดใจเช่นนี้แทบจะไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อนเลย
เมื่อคิดว่าจะสลัดหลุดจากเงื้อมมือของอาหมานได้แล้ว ทว่ากลับต้องฟาดกระบี่เข้าต้านกับขวานยักษ์ของอาหมานอีกครั้ง จากนั้นก็รีบพลิกแพลงคมกระบี่ยาวหมายจะทิ่มแทงเข้าไปยังอกข้างซ้ายของอาหมานในทันที
เมื่อกระบี่ยาวแทงผ่านเข้าไปยังร่างกายของอาหมานราวกับว่ากำลังทิ่มแทงหนังของวัวที่หนาเป็นอย่างมากอย่างไรอย่างนั้น ปลายกระบี่หยุดชะงักลงอย่างแน่นิ่ง เดิมทีที่มีพลังสภาวะอยู่เต็มสิบส่วน กลับถูกลดทอนลงไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง
“เชอะ”