เคล็ดกายานวดารา (Lc by Novel Kingdom) – ตอนที่ 314 แกล้งตาย

 

หลงเฉินก็หันไปมองตามต้นเสียง ในเวลาที่มองเข้าไปก็ได้พบเห็นใบหน้าที่คล้ายกับสุนัขคู่หนึ่งปรากฏขึ้นมา กำลังหัวเราะกันอย่างเย็นชามองไปที่เขา

 

ทั้งสองคนนั้นย่อมมิใช่ใครอื่น แท้จริงก็คือป่อซื่อตง ป่อซื่อซีสองพี่น้องที่ถูกกัวหรานเรียกว่า“ไม่ใช่ตัวดีอะไร”นั้นเอง อีกทั้งยังมีรูปโฉมที่น่ารังเกียจเป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังมีน้ำเสียงที่น่าชิงชังเสียยิ่งกว่าอะไร แม้ว่าจะไม่ต้องการจดจำก็ยังยากที่จะทำได้

 

ครั้งที่แล้วเป็นเพราะด้วยฝีปากอันเลวทราม กระตุ้นโทสะของถังหว่านเอ๋อขึ้นมา จนเกือบที่จะถูกทุบตีปางตายไป ขณะนี้ยังกล้าที่จะมากระโดดโลดเต้นอยู่ต่อหน้าหลงเฉินอีก

 

“เหอะเหอะ หลงเฉิน คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะเป็นโจรราคะไปได้ ช่างดูไม่ออกเลยจริงๆนะ ให้พวกเราดูหน่อยสิ คนที่เจ้าฆ่าปิดปากนั้นได้อะไรไปบ้าง แท้จริงแล้วบันทึกอะไรเอาไว้กันนะ ?”

 

หนึ่งในนั้นก็ได้หยิบเอาหยกบันทึกภาพในมือของคนผู้นั้นมา ทันใดนั้นที่อากาศก็ได้ปรากฏภาพขึ้น หอกยาวในมือหลงเฉินกำลังชี้ไปที่สตรีที่สวมอารมณ์ไม่สมส่วนเอาไว้ ราวกับว่าพาดอยู่บนต้นคอของหญิงสาวนางนั้น

 

หญิงสาวนางนั้นได้ทอสีหน้าเสียใจออกมา แต่หลงเฉินกลับเพียงทอสีหน้าเย็นเยียบออกมาเท่านั้น หาได้แยแสสนใจการอ้อนวอนของสตรีผู้นั้นไม่

เมื่อได้ดูภาพที่เกิดขึ้นนี้ สองพี่น้อง“ไม่ใช่ตัวดีอะไร”คู่นี้ ก็อดไม่ได้ที่จะทอแววตาเป็นประกายขึ้นมา จนหัวเราะฮาฮาขึ้นมายกใหญ่

 

“ยอดไปเลย ยอดไปเลย นี่เป็นของดีเลยทีเดียว พี่น้องที่อยู่ทางด้านหลังเอาหยกบันทึกภาพไปคัดลอกเร็วเข้า ให้ศิษย์ฝ่ายธรรมะทั้งหมดเห็นเป็นที่ประจักษ์ถึงใบหน้าของโจรราคะคนนี้เถอะ”

 

ในเวลานี้ก็ได้มีศิษย์หกเจ็ดคนรุดกันเข้ามา ในขณะที่กำลังมองไปที่หลงเฉินด้วยใบหน้าที่สงสัย ป่อซื่อตงก็ได้นำเอาหยกบันทึกภาพในมือ โยนให้แก่ศิษย์อีกคนในกลุ่ม

 

หลงเฉินจำได้ว่า ศิษย์ผู้นั้นเคยมายังหมู่ตึกลำดับที่ร้อยแปดมาก่อน ในการต่อสู้รอบที่หนึ่ง เป็นศิษย์สายตรงที่ถูกทุบตีจนแทบปัสสาวะเรี่ยราดผู้นั้น

 

หลังจากที่ศิษย์ผู้นั้นได้รับหยกบันทึกภาพไปแล้ว ก็ทำสีหน้าดีใจขึ้นมายกใหญ่ แล้วก็รีบเก็บหยกบันทึกภาพชิ้นนั้นไปอย่างรวดเร็ว เพื่อทำการคัดลอกหยกบันทึกภาพชิ้นนั้นขึ้นมา

 

ในขณะที่กำลังดูเพียงช่วงหนึ่งลมหายใจ ก็ได้คัดลอกหยกบันทึกภาพไปแล้วหลายชิ้น ทั้งยังฉีกยิ้มกว้างอยู่เต็มใบหน้า ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสะใจอยู่อย่างเปี่ยมล้น

 

เห็นได้ชัดว่าในสายตาของพวกเขาประโยชน์ของหยกบันทึกภาพชิ้นนี้ แทบจะไม่ต่างอะไรจากการใช้ดาบแทงไปที่หลงเฉินอยู่หลายดาบยิ่งทำก็ยิ่งติดลม ยิ่งคลายความเกลียดชังได้มากยิ่งขึ้น

หลงเฉินก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา นี่มันก็เป็นเพียงแค่ตัวโง่งมที่กินอิ่มแล้วไม่มีอะไรทำ แล้วเพราะอะไรต้องมาหาเรื่องกับข้ากันเล่า ?

 

“หลงเฉิน ฮาฮาฮา คราวนี้เจ้าต้องตายแน่นอนแล้ว”

 

สองพี่น้องมิใช่ตัวดีอะไร ก็ได้ทอสีหน้าที่เต็มเปี่ยมไปความสุขอย่างล้นพ้นมองไปทางหลงเฉิน ต่อให้หลงเฉินตายตกอยู่ในสถานที่แห่งนี้ แต่เมื่อนำเอาหยกบันทึกภาพนี้ออกไปจากแดนลับได้ เช่นนั้นก็สามารถที่จะสร้างความอับอายให้แก่หมู่ตึกลำดับที่ร้อยแปดได้ดีเลยทีเดียว นี่เป็นสิ่งที่พวกเขาชอบที่จะชมที่สุดแล้ว

 

“ข้าจะตายหรือไม่ตายนั้นข้าไม่ทราบ แต่พวกเจ้านั้นต้องตายแน่นอนอยู่แล้ว วันนี้ข้าหลงเฉินขอสัตย์สาบานเอาไว้เลยว่า ผู้ใดที่หาญกล้าจะลงมือต่อคนของหลงเฉินข้าจะทำให้พวกมันไม่ได้ตายดีแน่”

 

หลงเฉินในเวลานี้ก็เกิดโทสะจนใบหน้าเขียวคล้ำขึ้นมา เขารู้สึกเบื่อหน่ายที่ต้องมาถูกเจ้าพวกโง่งมก่อกวนจนไม่เป็นสุขได้อีกแล้ว หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเส้นทางแห่งวิทยายุทธ์ของเขาจะต้องถูกชะลอการก้าวหน้าให้ช้าลงอย่างแน่นอน

 

ในขณะนี้หลงเฉินกำลังอยู่ในช่วงที่รีบร้อนที่จะพัฒนาขึ้นไปอยู่ เพื่อจะรับมือกับอันตรายที่ยังไม่เกิดขึ้น เด็กน้อยกลุ่มนี้เห็นได้ชัดว่ากำลังจงใจที่จะถ่วงแข้งถ่วงขาเขาเอาไว้ นี่ก็ไม่ต่างอะไรไปจากต้องการทำให้เขาอับอาย

 

“ซูม”

 

หลงเฉินย่างก้าวออกไปก้าวหนึ่ง แล้วก็มุ่งหน้าพุ่งไปทางด้านของทั้งสองคน ในเวลาเดียวกันทลายมารก็ได้ปรากฏขึ้นบนมือ ตวัดผ่านห้วงสภาวะอากาศออกไป จนกลายเป็นเงาดาบปกคลุมอยู่เต็มท้องฟ้า

 

หนึ่งดาบที่ถูกใช้ออกไป ฟ้าดินก็สั่นคลอนกันขึ้นมา ความน่าหวาดกลัวของพลังความแน่วแน่ก็ได้พุ่งขึ้นสู่สวรรค์ชั้นเก้า ดาบนี้ไม่แต่เพียงแฝงเอาไว้ด้วยพลังของหลงเฉินเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นเหมือนตัวแทนแห่งความโกรธเกรี้ยวของหลงเฉินอีกด้วย

 

สองพี่น้องนั้นแตกตื่นขึ้นมายกใหญ่ คิดไม่ถึงว่าหลงเฉินจะน่าหวาดกลัวกว่าครั้งที่แล้ว ดาบนี้ได้ผนึกทั้งฟ้าทั้งดินเอาไว้จนแน่นิ่ง จนทำให้พวกเขาสองคนไม่อาจที่จะขยับเคลื่อนไหวได้เลยทีเดียว

 

ทั้งสองคนก็ได้ตะโกนขึ้นมาเสียงดัง ใจกลางฝ่ามือก็ปรากฏโล่กลมชิ้นใหญ่ขึ้นขวางอยู่ทางด้านหน้า บนตัวของโล่ก็ได้เปล่งเป็นประกายขึ้นมาอยู่นับไม่ถ้วน แผ่พลังแรงกดดันอันแข็งแกร่งออกมา

 

“ตูม”

 

ทั้งสองคนก็ได้เกิดความหวาดผวาเมื่อได้พบว่า ภายใต้การโจมตีของหลงเฉินที่เบื้องหน้าทำให้โล่ใหญ่ที่มีความแข็งแกร่งอย่างไรที่เปรียบของพวกเขาถึงกับเปราะบางได้ถึงเพียงนี้

โล่ทั้งสองชิ้นแตกระเบิดราวกับเครื่องปั้นดินเผาก็มิปาน แต่ดาบยาวของหลงเฉินกลับหาได้เกิดริ้วรอยเลยแม้แต่น้อย ทั้งยังได้ฟันเข้าไปที่สองคนพี่น้อง

 

“ไม่……”

 

“พรวด”

 

เมื่อถูกฟันเข้าไปหนึ่งดาบ ทั้งสองคนก็ตะโกนร้องขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว ดาบยาวของหลงเฉินแฝงเอาไว้ด้วยพลังอันมหาศาลฟันจนพวกเขาแหลกละเอียดไปในทันที กลายเป็นเพียงแค่ฝุ่นโลหิตที่ปกคลุมไปทั่วทั้งผืนฟ้า

 

“ซูม”

 

ทันใดนั้นพลังจากต้นตระกูลแห่งธรรมชาติทั้งสองสายก็ได้ลอยขึ้น หมายที่จะลอยขึ้นสู่อากาศ แต่ก็ได้ถูกหลงเฉินสะบัดจนหายไปเพียงแค่ดาบเดียว พลังจากต้นตระกูลแห่งธรรมชาติทั้งสองสายถึงกับแหลกสลายลงภายในกระบวนท่าเดียวจากความแน่วแน่ของหลงเฉิน

 

“พลังจากต้นตระกูลแห่งธรรมชาติ?พวกเจ้าดวงตาเลอะเลือนกันแล้วหรือไงกัน กับพวกโง่เง่าเช่นนี้ยังคิดที่จะให้การสนับสนุนกันอีก อยู่ว่างกันจนไม่มีอะไรทำกันแล้วงั้นหรือ ?”

 

ในเวลานี้ก็ได้มียอดฝีมือฝ่ายธรรมะหลายสิบคนรุดกันมาถึงกันแล้ว ทั้งยังได้พบเห็นดาบที่สะท้านไปทั้งฟ้าของหลงเฉินเองกับตา อดไม่ได้ที่จะแสดงความแตกตื่นจนโง่งมขึ้นมา

 

ในหมู่ผู้อยู่เหนือขอบเขตสองพี่น้องป่อซื่อตงกับป่อซื่อซี แม้ว่าจะมิใช่บุคคลที่ยอดเยี่ยมที่สุด

 

ทว่าเมื่อทั้งสองคนได้ใช้วิชาผสานกันก็ถือได้ว่าแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง ท่ามกลางหมู่ตึกยังถือได้ว่าเป็นคู่แฝดเพียงคู่เดียวที่เป็นผู้อยู่เหนือขอบเขตอีกด้วย ดังนั้นทุกผู้คนต่างก็รู้จักพวกเขากัน

 

ขณะนี้เมื่อได้เห็นพวกเขาถูกหลงเฉินสังหารไปเพียงแค่ดาบเดียว ก็อดไม่ได้ที่จะต้องทอสีหน้าหวาดผวากันขึ้นมา โดยเฉพาะศิษย์ที่ได้ทำการคัดลอกหยกบันทึกภาพอย่างบ้าคลั่งผู้นั้น ก็ได้ตะโกนขึ้นมาด้วยเสียงที่ดัง และวิ่งตะบึงออกไปในทันที

 

หลงเฉินคร้านที่จะไล่ตามคนผู้นั้นไป ตอนนี้เขาเห็นศิษย์กลุ่มนี้ของฝ่ายธรรมะเป็นเพียงตัวโง่เง่าเท่านั้น เขาหาได้มีความคิดที่จะต้องมาเล่นเกมที่น่าเบื่อหน่ายเช่นนี้อีกแล้ว

 

มีแต่จะทำให้เขาเสียเวลาในการค้นหาสมบัติ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปหากว่ามีคนคิดที่จะขวางทางของเขา ก็มีแต่ต้องตายสถานเดียวเท่านั้น ไม่เช่นนั้นเขาก็จะไม่มีเวลาแล้วจริงๆ

 

“หลงเฉิน เจ้าถึงกับสังหารศิษย์ฝ่ายธรรมะไปมากมาย เจ้าไม่กลัวจะถูกลงโทษหรือยังไงกัน ?” ศิษย์สายตรงผู้หนึ่งได้กล่าวขึ้นมาด้วยโทสะ

หลงเฉินกวาดสายตามองไปยังคนผู้นั้นอย่างเย็นชา วินาทีนั้นเองคนผู้นั้นร่างกายก็ได้แข็งทื่อขึ้น รู้สึกได้ว่ามีพลังสภาวะขุมหนึ่งกดดันไปที่เขาอยู่ คนผู้นั้นราวกับรู้สึกว่ามีสภาวะแห่งความตายที่รุนแรงกำลังปกคลุมเข้ามาที่เขาอยู่ พริบตานั้นแม้แต่การหายใจก็ยังลืมเลือนไป

 

หลงเฉินหลังจากที่ได้มองไปที่คนผู้นั้น ก็หาได้กล่าวอะไรออกมา เพียงแค่ลากทลายมารมุ่งหน้าเข้าสู่ส่วนลึกของแดนลับ

 

“หลงเฉิน เจ้ามันก็เป็นแค่โจรราคะหน้าด้านไร้ยางอายเท่านั้น ทั้งยังลงมือสังหารศิษย์ร่วมสำนักอย่างโหดเหี้ยม ยังคิดที่จะจากไปอีกอย่างงั้นหรือ ?”

 

สถานที่แห่งนี้ได้เกิดความเคลื่อนไหวขึ้นมา จนกลายเป็นชักนำศิษย์ไม่น้อยให้เข้ามาใกล้ ยอดฝีมือระดับผู้อยู่เหนือขอบเขตผู้หนึ่ง ก็ได้ตะโกนขึ้นมาอย่างเย็นเยียบ

 

จนในที่แห่งนี้ได้มีศิษย์สายตรงรวมตัวกันมากถึงสี่สิบกว่าคนแล้ว ทั้งยังมียอดฝีมือระดับผู้อยู่เหนือขอบเขตอีกเจ็ดคน ต่างก็ทอสีหน้าหวาดหวั่นมองไปที่หลงเฉิน

 

ทันใดนั้นหลงเฉินก็ได้หยุดเท้าลง มองไปที่พวกเขาทุกคนแล้วกล่าว “ข้าทราบว่าในหมู่ของพวกเจ้ามีอยู่ไม่น้อยกันทีเดียวที่ได้เปิดการบันทึกของหยกบันทึกภาพกันไปแล้ว นี่ถือเป็นคำเตือนครั้งแรกจากข้า แล้วก็เป็นคำเตือนสุดท้ายสำหรับพวกเจ้าเช่นเดียวกัน

 

อย่าได้มารบกวนข้า พวกเจ้าต่างก็โตกันแล้วหาได้เป็นเด็กไม่ ต่างก็มีหน้าที่และความรับผิดชอบกันอยู่แล้ว ถ้าหากพวกเจ้ายังไม่แยกแยะคิดที่จะลงมือกับข้า ข้าก็จะไม่ไว้หน้าเช่นกัน” หลงเฉินกล่าวจบ ก็ได้หันกายจากไป

 

“สามหาว ก็แค่ข้ออ้างของโจรราคะไร้ยางอายเท่านั้น ทุกคนยังจะมัวรีรออะไรกันอีกเล่า ลงมือพร้อมกันฆ่าโจรราคะผู้นี้ ขจัดเภทภัยให้แก่ฝ่ายธรรมะ”

 

คนผู้นั้นกล่าวจบไปหนึ่งประโยค กระบี่ยาวในมือถูกชักออกจากฝัก ลอยออกไปดุจวิหคเหินหาว เข้าหาหลงเฉินไปในทันทีใช้กระบี่แทงเข้าไปทางด้านหลังของหลงเฉิน

 

“ตายซะ”

 

หลงเฉินไม่แม้แต่จะหันหน้ากลับไป ไม่แม้แต่คิดที่จะหันกลับมามองไปที่คนผู้นั้นแม้ซักครา เพียงแค่กระชับทลายมารที่อยู่บนไหล่ฟาดฟันเข้าไปที่คนผู้นั้น

 

คนผู้นั้นถือได้ว่าเป็นผู้อยู่เหนือขอบเขตที่แข็งแกร่งคนหนึ่งเลยทีเดียว เขาซึ่งมาถึงในภายหลังเท่านั้น กลับหาได้พบเห็นชั่วเวลาที่หลงเฉินได้ใช้เพียงดาบเดียวสังหารผู้อยู่เหนือขอบเขตไปสองคนไม่

 

ในครั้งที่รวมตัวกันที่ลานกว้าง หลงเฉินถูกถังหว่านเอ๋อและเยี่ยจื่อชิวสาวงามทั้งสองนาง คล้องแขนเอาไว้อย่างใกล้ชิด ครานั้นทำให้เขาเกิดความอิจฉาจนแทบเป็นบ้าขี้นมาเลยทีเดียว

 

ทั้งๆที่เป็นเพียงแค่ขอบเขตก่อโลหิตตัวเล็กๆเพียงคนเดียว คิดว่าเก่งกาจถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?ดังนั้นเมื่อเห็นหลงเฉินเอ่ยออกมาเพียงประโยคเดียวจนหยุดทุกคนไปแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะเกิดจิตใจที่เปี่ยมไปด้วยโทสะขึ้นมา ทั้งยังคิดว่าตนเองยังสามารถที่จะกระตุ้นให้เกิดความเคลื่อนไหวได้ เพื่อที่จะได้มีแนวร่วมเพิ่มขึ้น

 

น่าเสียดายที่เขาไม่ทันได้เห็นว่า ทางด้านหลังของเขากลับหาได้มีคนคิดที่จะขยับตามไม่ มีแต่เขาเพียงแค่คนเดียวที่ทะยานร่างออกไปเท่านั้น

 

และเมื่อในวินาทีที่ดาบของหลงเฉินนั้นตวัดเข้ามาถึง ก็ได้ผนึกไปทั้งฟ้าทั้งดินเอาไว้ ทั้งยังระเบิดความแน่วแน่ขึ้นมาแค่ชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น เพียงครู่เดียวเขาก็เข้าใจขึ้นมาว่าตนเองรนหาที่ตายแล้ว

 

ความแน่วแน่ที่ไร้ผู้ต้านเช่นนี้ มีแต่เพียงสุดยอดฝีมือเท่านั้นที่จะมีได้ เวลานี้เขาเองในที่สุดก็นึกขึ้นได้ว่า เคยได้ยินว่าหลงเฉินมีพลังความสามารถที่เทียบเท่ากับสุดยอดฝีมือแล้ว

 

“กระบี่อักษรทศ”

 

คนผู้นั้นแน่นอนว่าย่อมต้องแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง แม้ว่าจะถูกความแน่วแน่ของหลงเฉินปกคลุมเอาไว้ แต่ก็ยังคงสามารถที่จะสงบจิตสงบใจเอาไว้ได้ กระบี่ยาวก็ได้ตัดตวัดท่ามกลางอากาศไป

ที่เบื้องหน้าได้ปรากฏตัวอักษร“ทศ(十)”ขึ้นมา เข้ากระแทกไปที่ดาบยาวของหลงเฉินอย่างรุนแรง

 

แต่ว่าที่ทำให้คนผู้นั้นหวาดผวาขึ้นมาก็คือพลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งอย่างเขา แต่หากการที่ต้องมาอยู่เบื้องหน้าทลายมารของหลงเฉิน ก็มีแต่ต้องถูกทำลายไปในทันทีอยู่ดี ดาบยาวหาได้ลดทอนสภาวะแม้แต่น้อย แต่กลับยังคงฟันเข้ามาที่เบื้องหน้าของเขา

 

“พรวด”

 

เลือดเนื้อก็ได้แหลกระเบิดขึ้นมา ผู้อยู่เหนือขอบเขตผู้นั้นก็ได้ถูกสังหารไปภายในดาบเดียว แม้แต่กรีดร้องก็ยังไม่ทันที่จะได้ร้องออกมา

 

กายเนื้อของคนผู้นั้นหลังจากที่แหลกละเอียดไปแล้ว แล้วก็มีอักขระแห่งฟ้าปรากฏขึ้นอยู่ท่ามกลางอากาศ หมายที่จะหลบหนีไป

 

“โครม”

 

ทลายมารตวัดอยู่กลางอากาศกำจัดอักขระแห่งฟ้านั้นทิ้งไปในทันที ทำให้ทุกคนมีสีหน้าเปลี่ยนไป

 

หลงเฉินร้ายกาจเกินไปแล้ว ไม่เพียงแต่ฆ่าคนเท่านั้น ยังถึงกับทำลายพลังจากต้นตระกูลแห่งธรรมชาติที่แสนล้ำค่าไปอย่างไม่ใส่ใจอีกด้วย

 

ศิษย์สายตรงตามปกติ หากสามารถที่จะสยบรอยตรานั้นเอาไว้ได้ ก็จะมีโอกาสที่จะทำสำเร็จได้ถึงหนึ่งในสิบส่วน จนสามารถที่จะกลายเป็นผู้อยู่เหนือขอบเขตคนใหม่ขึ้นมาได้

 

หลงเฉินย่อมต้องทราบถึงเหตุผลเช่นนี้อยู่แล้ว แต่ว่ากลุ่มคนโง่เง่าเบื้องหน้านี้เรียกได้ว่าไม่คู่ควรที่จะให้หลงเฉินมอบโอกาสให้แก่พวกเขา

 

ถึงแม้ร่างกายจะเจ็บปวดอยู่บ้าง ทว่าก็ยังดีกว่าผู้อื่นอยู่มาก การฟันของหลงเฉินทั้งสองครั้ง ต่างก็ได้ใช้ด้วยพลังทั้งหมด ทั้งยังหาได้ยั้งมือเลยแม้แต่น้อย

 

เพียงครู่เดียวทุกผู้คนต่างก็นิ่งไม่กล้าขยับ ฆ่าฟันผู้อยู่เหนือขอบเขตไปถึงคนหนึ่งแต่ไม่แม้ที่จะเงยหน้ามองเลยด้วยซ้ำ นี่มันเป็นสภาวะในระดับใดกันแล้ว ?

 

คนที่อยู่ในสนาม ต่างก็มิใช่คนโง่งมโดยทั้งสิ้น แม้ว่าก่อนหน้านี้ทุกคนจะได้เห็นภาพที่บันทึก ทว่าภาพที่เกิดขึ้นนั้นกลับหาได้บันทึกทุกอย่างเอาไว้ ความจริงที่เป็นอยู่นั้นยังเป็นที่น่าสงสัยอยู่ดี

 

แต่ว่าหลงเฉินที่อยู่เบื้องหน้านั้น เป็นของจริงอย่างแน่นอนโดยที่ไม่ต้องสงสัยเลยด้วยซ้ำ คนที่แข็งแกร่งและองอาจถึงเพียงนี้ จะเกิดจิตชั่วร้ายต่อสตรีเพศเช่นนั้นได้อย่างงั้นหรือ ?

 

หลงเฉินก่อนหน้านี้ได้เตือนพวกเขาไปแล้ว ให้พวกเขารู้ว่าอะไรถูกอะไรผิดกันด้วยตัวเอง มีผู้คนอยู่ไม่น้อยที่รู้สึกตัวขึ้นมา เกรงว่าภายในเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ยังมีเรื่องที่พวกเขาไม่ทราบกันอยู่ แต่ไม่ว่าจะกล่าวเช่นไร เรื่องที่หลงเฉินฆ่าศิษย์ฝ่ายธรรมะติดต่อกัน ต่อให้หนีก็หนีไม่พ้น

 

ไม่ว่าเขาจะมีเหตุผลอะไร แต่การที่ได้สังหารผู้อยู่เหนือขอบเขตติดต่อกันถึงสามคน โทษเช่นนี้ เขาย่อมไม่อาจที่จะไม่ชำระได้

 

หลังจากที่หลงเฉินได้ใช้หนึ่งดาบสังหารผู้อยู่เหนือขอบเขตไปแล้ว ตั้งแต่ต้นจนจบก็หาได้มีการหันหน้ากลับมา แต่กลับมุ่งหน้าไปทางด้านหน้าต่อไป

 

“แปะแปะแปะ”

 

มีเสียงปรบมือดังขึ้นมา ในเวลาเดียวกันก็มีเสียงที่หลงเฉินรู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างยิ่งดังขึ้นมา

 

“ไม่เลวเลยหลงเฉินเจ้าก้าวหน้าขึ้นอีกแล้ว ช่างควรค่าที่ข้าทุ่มเทเวลาตั้งมากมายมาเพื่อเสาะหาเจ้า”

 

ทุกผู้คนต่างก็ตกใจขึ้นมา เพราะไม่ทราบว่าตั้งแต่เวลาใดที่ได้มีเงาร่างสวมเอาไว้ด้วยชุดคลุมสีดำปรากฏขึ้นมา ทั้งยังมีเส้นผมที่ยาวจรดเอว ชายหนุ่มที่มีใบหน้าเยือกเย็นปรากฏตัวขึ้นที่บริเวณนั้น

 

ชายหนุ่มผู้นั้นราวกับปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางอากาศอยู่ก็มิปาน ผู้คนทั้งหมดต่างก็ไม่ทราบว่านับตั้งแต่เวลาใดถึงได้มีผู้คนเพิ่มขึ้นมาอีกคน

 

“ฝ่ายอธรรม?”

 

เมื่อได้มองไปยังอาภรณ์ที่สวมใส่ของคนผู้นั้นที่มีสีโลหิตพร้อมสัญลักษณ์รูปโครงกระดูก ทุกผู้คนมีสีหน้าเปลี่ยนไป อดไม่ได้ที่จะหัวใจเต้นตูมตาม ต่างก็ได้แยกย้ายถอยหลังไปกันหลายก้าว

 

ในเวลาที่ได้พบเห็นคนที่อยู่ทางด้านหน้าอย่างชัดเจน แม้แต่หลงเฉินก็อดไม่ได้ที่จะต้องอ้าปากตาค้างได้ มือขวาถึงกับกระชับทลายมารเอาไว้จนแน่น

 

“หยินหลอ”

 

เคล็ดกายานวดารา

เคล็ดกายานวดารา

เคล็ดกายานวดารา
Status: Ongoing
เป็นจักพรรดิโอสถกลับเกิดใหม่งั้นหรือ ? เป็นการผสานจิตวิญญาณกันหรือ ? หลงเฉิน เด็กหนุ่มที่ถูกช่วงชิงรากปราณ โลหิตปราณ กระดูกปราณทั้งสามสิ่งไป ได้หยิบยืมวิชาการหลอมโอสถระดับเทวะภายใต้ความทรงจำ ฝึกปรือวิชาเคล็ดกายานวดาราอันลี้ลับ แหวกม่านหมอกที่หนาทึบออก ปลดปล่อยโชคชะตาครอบครองพลังวงแหวนเทวะแห่งฟ้าดิน เหยียบย่างชั้นดาราตะวันจันทรา พบพานสาวงามต่างๆ กำราบมารร้ายเทพแห่งความชั่วจนกลายเป็นที่เลื่องลือก้องแดนเจียงหนาน หลงเฉินมาถึง สวรรค์คำรนพสุธาคำราม หลงเฉินไปจาก ภูตผีหลั่งน้ำตาเทพร่ำไรจนเป็นที่ตำนานแห่งยุทธ์ภพ หลงเฉินปรากฎ ฟ้าดินสั่นสะเทือน หลงเฉินเดินจาก ภูตผีหลั่งน้ำตาเทพยดาร้ำไห้ ระดับพลัง 1.ขอบเขตก่อรวม 2.ขอบเขตก่อโลหิต 3.ขอบเขตเปลี่ยนเส้นเอ็น 4.ขอบเขตปรือกระดูก 5.ขอบเขตเชื่อมชีพจร 6.ขอบเขตแห่งการก่อฟ้า ระดับโอสถ 1.โอสถสามัญ 2.โอสถปัญญา 3.เชี่ยวชาญโอสถ 4.ราชาโอสถ 5.ราชันโอสถ 6.จ้าวโอสถ 7.เซียนโอสถ 8.ปราชญ์โอสถ 9.จักรพรรดิ์โอสถ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset