หลงเฉินก็หันไปมองตามต้นเสียง ในเวลาที่มองเข้าไปก็ได้พบเห็นใบหน้าที่คล้ายกับสุนัขคู่หนึ่งปรากฏขึ้นมา กำลังหัวเราะกันอย่างเย็นชามองไปที่เขา
ทั้งสองคนนั้นย่อมมิใช่ใครอื่น แท้จริงก็คือป่อซื่อตง ป่อซื่อซีสองพี่น้องที่ถูกกัวหรานเรียกว่า“ไม่ใช่ตัวดีอะไร”นั้นเอง อีกทั้งยังมีรูปโฉมที่น่ารังเกียจเป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังมีน้ำเสียงที่น่าชิงชังเสียยิ่งกว่าอะไร แม้ว่าจะไม่ต้องการจดจำก็ยังยากที่จะทำได้
ครั้งที่แล้วเป็นเพราะด้วยฝีปากอันเลวทราม กระตุ้นโทสะของถังหว่านเอ๋อขึ้นมา จนเกือบที่จะถูกทุบตีปางตายไป ขณะนี้ยังกล้าที่จะมากระโดดโลดเต้นอยู่ต่อหน้าหลงเฉินอีก
“เหอะเหอะ หลงเฉิน คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะเป็นโจรราคะไปได้ ช่างดูไม่ออกเลยจริงๆนะ ให้พวกเราดูหน่อยสิ คนที่เจ้าฆ่าปิดปากนั้นได้อะไรไปบ้าง แท้จริงแล้วบันทึกอะไรเอาไว้กันนะ ?”
หนึ่งในนั้นก็ได้หยิบเอาหยกบันทึกภาพในมือของคนผู้นั้นมา ทันใดนั้นที่อากาศก็ได้ปรากฏภาพขึ้น หอกยาวในมือหลงเฉินกำลังชี้ไปที่สตรีที่สวมอารมณ์ไม่สมส่วนเอาไว้ ราวกับว่าพาดอยู่บนต้นคอของหญิงสาวนางนั้น
หญิงสาวนางนั้นได้ทอสีหน้าเสียใจออกมา แต่หลงเฉินกลับเพียงทอสีหน้าเย็นเยียบออกมาเท่านั้น หาได้แยแสสนใจการอ้อนวอนของสตรีผู้นั้นไม่
เมื่อได้ดูภาพที่เกิดขึ้นนี้ สองพี่น้อง“ไม่ใช่ตัวดีอะไร”คู่นี้ ก็อดไม่ได้ที่จะทอแววตาเป็นประกายขึ้นมา จนหัวเราะฮาฮาขึ้นมายกใหญ่
“ยอดไปเลย ยอดไปเลย นี่เป็นของดีเลยทีเดียว พี่น้องที่อยู่ทางด้านหลังเอาหยกบันทึกภาพไปคัดลอกเร็วเข้า ให้ศิษย์ฝ่ายธรรมะทั้งหมดเห็นเป็นที่ประจักษ์ถึงใบหน้าของโจรราคะคนนี้เถอะ”
ในเวลานี้ก็ได้มีศิษย์หกเจ็ดคนรุดกันเข้ามา ในขณะที่กำลังมองไปที่หลงเฉินด้วยใบหน้าที่สงสัย ป่อซื่อตงก็ได้นำเอาหยกบันทึกภาพในมือ โยนให้แก่ศิษย์อีกคนในกลุ่ม
หลงเฉินจำได้ว่า ศิษย์ผู้นั้นเคยมายังหมู่ตึกลำดับที่ร้อยแปดมาก่อน ในการต่อสู้รอบที่หนึ่ง เป็นศิษย์สายตรงที่ถูกทุบตีจนแทบปัสสาวะเรี่ยราดผู้นั้น
หลังจากที่ศิษย์ผู้นั้นได้รับหยกบันทึกภาพไปแล้ว ก็ทำสีหน้าดีใจขึ้นมายกใหญ่ แล้วก็รีบเก็บหยกบันทึกภาพชิ้นนั้นไปอย่างรวดเร็ว เพื่อทำการคัดลอกหยกบันทึกภาพชิ้นนั้นขึ้นมา
ในขณะที่กำลังดูเพียงช่วงหนึ่งลมหายใจ ก็ได้คัดลอกหยกบันทึกภาพไปแล้วหลายชิ้น ทั้งยังฉีกยิ้มกว้างอยู่เต็มใบหน้า ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสะใจอยู่อย่างเปี่ยมล้น
เห็นได้ชัดว่าในสายตาของพวกเขาประโยชน์ของหยกบันทึกภาพชิ้นนี้ แทบจะไม่ต่างอะไรจากการใช้ดาบแทงไปที่หลงเฉินอยู่หลายดาบยิ่งทำก็ยิ่งติดลม ยิ่งคลายความเกลียดชังได้มากยิ่งขึ้น
หลงเฉินก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา นี่มันก็เป็นเพียงแค่ตัวโง่งมที่กินอิ่มแล้วไม่มีอะไรทำ แล้วเพราะอะไรต้องมาหาเรื่องกับข้ากันเล่า ?
“หลงเฉิน ฮาฮาฮา คราวนี้เจ้าต้องตายแน่นอนแล้ว”
สองพี่น้องมิใช่ตัวดีอะไร ก็ได้ทอสีหน้าที่เต็มเปี่ยมไปความสุขอย่างล้นพ้นมองไปทางหลงเฉิน ต่อให้หลงเฉินตายตกอยู่ในสถานที่แห่งนี้ แต่เมื่อนำเอาหยกบันทึกภาพนี้ออกไปจากแดนลับได้ เช่นนั้นก็สามารถที่จะสร้างความอับอายให้แก่หมู่ตึกลำดับที่ร้อยแปดได้ดีเลยทีเดียว นี่เป็นสิ่งที่พวกเขาชอบที่จะชมที่สุดแล้ว
“ข้าจะตายหรือไม่ตายนั้นข้าไม่ทราบ แต่พวกเจ้านั้นต้องตายแน่นอนอยู่แล้ว วันนี้ข้าหลงเฉินขอสัตย์สาบานเอาไว้เลยว่า ผู้ใดที่หาญกล้าจะลงมือต่อคนของหลงเฉินข้าจะทำให้พวกมันไม่ได้ตายดีแน่”
หลงเฉินในเวลานี้ก็เกิดโทสะจนใบหน้าเขียวคล้ำขึ้นมา เขารู้สึกเบื่อหน่ายที่ต้องมาถูกเจ้าพวกโง่งมก่อกวนจนไม่เป็นสุขได้อีกแล้ว หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเส้นทางแห่งวิทยายุทธ์ของเขาจะต้องถูกชะลอการก้าวหน้าให้ช้าลงอย่างแน่นอน
ในขณะนี้หลงเฉินกำลังอยู่ในช่วงที่รีบร้อนที่จะพัฒนาขึ้นไปอยู่ เพื่อจะรับมือกับอันตรายที่ยังไม่เกิดขึ้น เด็กน้อยกลุ่มนี้เห็นได้ชัดว่ากำลังจงใจที่จะถ่วงแข้งถ่วงขาเขาเอาไว้ นี่ก็ไม่ต่างอะไรไปจากต้องการทำให้เขาอับอาย
“ซูม”
หลงเฉินย่างก้าวออกไปก้าวหนึ่ง แล้วก็มุ่งหน้าพุ่งไปทางด้านของทั้งสองคน ในเวลาเดียวกันทลายมารก็ได้ปรากฏขึ้นบนมือ ตวัดผ่านห้วงสภาวะอากาศออกไป จนกลายเป็นเงาดาบปกคลุมอยู่เต็มท้องฟ้า
หนึ่งดาบที่ถูกใช้ออกไป ฟ้าดินก็สั่นคลอนกันขึ้นมา ความน่าหวาดกลัวของพลังความแน่วแน่ก็ได้พุ่งขึ้นสู่สวรรค์ชั้นเก้า ดาบนี้ไม่แต่เพียงแฝงเอาไว้ด้วยพลังของหลงเฉินเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นเหมือนตัวแทนแห่งความโกรธเกรี้ยวของหลงเฉินอีกด้วย
สองพี่น้องนั้นแตกตื่นขึ้นมายกใหญ่ คิดไม่ถึงว่าหลงเฉินจะน่าหวาดกลัวกว่าครั้งที่แล้ว ดาบนี้ได้ผนึกทั้งฟ้าทั้งดินเอาไว้จนแน่นิ่ง จนทำให้พวกเขาสองคนไม่อาจที่จะขยับเคลื่อนไหวได้เลยทีเดียว
ทั้งสองคนก็ได้ตะโกนขึ้นมาเสียงดัง ใจกลางฝ่ามือก็ปรากฏโล่กลมชิ้นใหญ่ขึ้นขวางอยู่ทางด้านหน้า บนตัวของโล่ก็ได้เปล่งเป็นประกายขึ้นมาอยู่นับไม่ถ้วน แผ่พลังแรงกดดันอันแข็งแกร่งออกมา
“ตูม”
ทั้งสองคนก็ได้เกิดความหวาดผวาเมื่อได้พบว่า ภายใต้การโจมตีของหลงเฉินที่เบื้องหน้าทำให้โล่ใหญ่ที่มีความแข็งแกร่งอย่างไรที่เปรียบของพวกเขาถึงกับเปราะบางได้ถึงเพียงนี้
โล่ทั้งสองชิ้นแตกระเบิดราวกับเครื่องปั้นดินเผาก็มิปาน แต่ดาบยาวของหลงเฉินกลับหาได้เกิดริ้วรอยเลยแม้แต่น้อย ทั้งยังได้ฟันเข้าไปที่สองคนพี่น้อง
“ไม่……”
“พรวด”
เมื่อถูกฟันเข้าไปหนึ่งดาบ ทั้งสองคนก็ตะโกนร้องขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว ดาบยาวของหลงเฉินแฝงเอาไว้ด้วยพลังอันมหาศาลฟันจนพวกเขาแหลกละเอียดไปในทันที กลายเป็นเพียงแค่ฝุ่นโลหิตที่ปกคลุมไปทั่วทั้งผืนฟ้า
“ซูม”
ทันใดนั้นพลังจากต้นตระกูลแห่งธรรมชาติทั้งสองสายก็ได้ลอยขึ้น หมายที่จะลอยขึ้นสู่อากาศ แต่ก็ได้ถูกหลงเฉินสะบัดจนหายไปเพียงแค่ดาบเดียว พลังจากต้นตระกูลแห่งธรรมชาติทั้งสองสายถึงกับแหลกสลายลงภายในกระบวนท่าเดียวจากความแน่วแน่ของหลงเฉิน
“พลังจากต้นตระกูลแห่งธรรมชาติ?พวกเจ้าดวงตาเลอะเลือนกันแล้วหรือไงกัน กับพวกโง่เง่าเช่นนี้ยังคิดที่จะให้การสนับสนุนกันอีก อยู่ว่างกันจนไม่มีอะไรทำกันแล้วงั้นหรือ ?”
ในเวลานี้ก็ได้มียอดฝีมือฝ่ายธรรมะหลายสิบคนรุดกันมาถึงกันแล้ว ทั้งยังได้พบเห็นดาบที่สะท้านไปทั้งฟ้าของหลงเฉินเองกับตา อดไม่ได้ที่จะแสดงความแตกตื่นจนโง่งมขึ้นมา
ในหมู่ผู้อยู่เหนือขอบเขตสองพี่น้องป่อซื่อตงกับป่อซื่อซี แม้ว่าจะมิใช่บุคคลที่ยอดเยี่ยมที่สุด
ทว่าเมื่อทั้งสองคนได้ใช้วิชาผสานกันก็ถือได้ว่าแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง ท่ามกลางหมู่ตึกยังถือได้ว่าเป็นคู่แฝดเพียงคู่เดียวที่เป็นผู้อยู่เหนือขอบเขตอีกด้วย ดังนั้นทุกผู้คนต่างก็รู้จักพวกเขากัน
ขณะนี้เมื่อได้เห็นพวกเขาถูกหลงเฉินสังหารไปเพียงแค่ดาบเดียว ก็อดไม่ได้ที่จะต้องทอสีหน้าหวาดผวากันขึ้นมา โดยเฉพาะศิษย์ที่ได้ทำการคัดลอกหยกบันทึกภาพอย่างบ้าคลั่งผู้นั้น ก็ได้ตะโกนขึ้นมาด้วยเสียงที่ดัง และวิ่งตะบึงออกไปในทันที
หลงเฉินคร้านที่จะไล่ตามคนผู้นั้นไป ตอนนี้เขาเห็นศิษย์กลุ่มนี้ของฝ่ายธรรมะเป็นเพียงตัวโง่เง่าเท่านั้น เขาหาได้มีความคิดที่จะต้องมาเล่นเกมที่น่าเบื่อหน่ายเช่นนี้อีกแล้ว
มีแต่จะทำให้เขาเสียเวลาในการค้นหาสมบัติ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปหากว่ามีคนคิดที่จะขวางทางของเขา ก็มีแต่ต้องตายสถานเดียวเท่านั้น ไม่เช่นนั้นเขาก็จะไม่มีเวลาแล้วจริงๆ
“หลงเฉิน เจ้าถึงกับสังหารศิษย์ฝ่ายธรรมะไปมากมาย เจ้าไม่กลัวจะถูกลงโทษหรือยังไงกัน ?” ศิษย์สายตรงผู้หนึ่งได้กล่าวขึ้นมาด้วยโทสะ
หลงเฉินกวาดสายตามองไปยังคนผู้นั้นอย่างเย็นชา วินาทีนั้นเองคนผู้นั้นร่างกายก็ได้แข็งทื่อขึ้น รู้สึกได้ว่ามีพลังสภาวะขุมหนึ่งกดดันไปที่เขาอยู่ คนผู้นั้นราวกับรู้สึกว่ามีสภาวะแห่งความตายที่รุนแรงกำลังปกคลุมเข้ามาที่เขาอยู่ พริบตานั้นแม้แต่การหายใจก็ยังลืมเลือนไป
หลงเฉินหลังจากที่ได้มองไปที่คนผู้นั้น ก็หาได้กล่าวอะไรออกมา เพียงแค่ลากทลายมารมุ่งหน้าเข้าสู่ส่วนลึกของแดนลับ
“หลงเฉิน เจ้ามันก็เป็นแค่โจรราคะหน้าด้านไร้ยางอายเท่านั้น ทั้งยังลงมือสังหารศิษย์ร่วมสำนักอย่างโหดเหี้ยม ยังคิดที่จะจากไปอีกอย่างงั้นหรือ ?”
สถานที่แห่งนี้ได้เกิดความเคลื่อนไหวขึ้นมา จนกลายเป็นชักนำศิษย์ไม่น้อยให้เข้ามาใกล้ ยอดฝีมือระดับผู้อยู่เหนือขอบเขตผู้หนึ่ง ก็ได้ตะโกนขึ้นมาอย่างเย็นเยียบ
จนในที่แห่งนี้ได้มีศิษย์สายตรงรวมตัวกันมากถึงสี่สิบกว่าคนแล้ว ทั้งยังมียอดฝีมือระดับผู้อยู่เหนือขอบเขตอีกเจ็ดคน ต่างก็ทอสีหน้าหวาดหวั่นมองไปที่หลงเฉิน
ทันใดนั้นหลงเฉินก็ได้หยุดเท้าลง มองไปที่พวกเขาทุกคนแล้วกล่าว “ข้าทราบว่าในหมู่ของพวกเจ้ามีอยู่ไม่น้อยกันทีเดียวที่ได้เปิดการบันทึกของหยกบันทึกภาพกันไปแล้ว นี่ถือเป็นคำเตือนครั้งแรกจากข้า แล้วก็เป็นคำเตือนสุดท้ายสำหรับพวกเจ้าเช่นเดียวกัน
อย่าได้มารบกวนข้า พวกเจ้าต่างก็โตกันแล้วหาได้เป็นเด็กไม่ ต่างก็มีหน้าที่และความรับผิดชอบกันอยู่แล้ว ถ้าหากพวกเจ้ายังไม่แยกแยะคิดที่จะลงมือกับข้า ข้าก็จะไม่ไว้หน้าเช่นกัน” หลงเฉินกล่าวจบ ก็ได้หันกายจากไป
“สามหาว ก็แค่ข้ออ้างของโจรราคะไร้ยางอายเท่านั้น ทุกคนยังจะมัวรีรออะไรกันอีกเล่า ลงมือพร้อมกันฆ่าโจรราคะผู้นี้ ขจัดเภทภัยให้แก่ฝ่ายธรรมะ”
คนผู้นั้นกล่าวจบไปหนึ่งประโยค กระบี่ยาวในมือถูกชักออกจากฝัก ลอยออกไปดุจวิหคเหินหาว เข้าหาหลงเฉินไปในทันทีใช้กระบี่แทงเข้าไปทางด้านหลังของหลงเฉิน
“ตายซะ”
หลงเฉินไม่แม้แต่จะหันหน้ากลับไป ไม่แม้แต่คิดที่จะหันกลับมามองไปที่คนผู้นั้นแม้ซักครา เพียงแค่กระชับทลายมารที่อยู่บนไหล่ฟาดฟันเข้าไปที่คนผู้นั้น
คนผู้นั้นถือได้ว่าเป็นผู้อยู่เหนือขอบเขตที่แข็งแกร่งคนหนึ่งเลยทีเดียว เขาซึ่งมาถึงในภายหลังเท่านั้น กลับหาได้พบเห็นชั่วเวลาที่หลงเฉินได้ใช้เพียงดาบเดียวสังหารผู้อยู่เหนือขอบเขตไปสองคนไม่
ในครั้งที่รวมตัวกันที่ลานกว้าง หลงเฉินถูกถังหว่านเอ๋อและเยี่ยจื่อชิวสาวงามทั้งสองนาง คล้องแขนเอาไว้อย่างใกล้ชิด ครานั้นทำให้เขาเกิดความอิจฉาจนแทบเป็นบ้าขี้นมาเลยทีเดียว
ทั้งๆที่เป็นเพียงแค่ขอบเขตก่อโลหิตตัวเล็กๆเพียงคนเดียว คิดว่าเก่งกาจถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?ดังนั้นเมื่อเห็นหลงเฉินเอ่ยออกมาเพียงประโยคเดียวจนหยุดทุกคนไปแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะเกิดจิตใจที่เปี่ยมไปด้วยโทสะขึ้นมา ทั้งยังคิดว่าตนเองยังสามารถที่จะกระตุ้นให้เกิดความเคลื่อนไหวได้ เพื่อที่จะได้มีแนวร่วมเพิ่มขึ้น
น่าเสียดายที่เขาไม่ทันได้เห็นว่า ทางด้านหลังของเขากลับหาได้มีคนคิดที่จะขยับตามไม่ มีแต่เขาเพียงแค่คนเดียวที่ทะยานร่างออกไปเท่านั้น
และเมื่อในวินาทีที่ดาบของหลงเฉินนั้นตวัดเข้ามาถึง ก็ได้ผนึกไปทั้งฟ้าทั้งดินเอาไว้ ทั้งยังระเบิดความแน่วแน่ขึ้นมาแค่ชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น เพียงครู่เดียวเขาก็เข้าใจขึ้นมาว่าตนเองรนหาที่ตายแล้ว
ความแน่วแน่ที่ไร้ผู้ต้านเช่นนี้ มีแต่เพียงสุดยอดฝีมือเท่านั้นที่จะมีได้ เวลานี้เขาเองในที่สุดก็นึกขึ้นได้ว่า เคยได้ยินว่าหลงเฉินมีพลังความสามารถที่เทียบเท่ากับสุดยอดฝีมือแล้ว
“กระบี่อักษรทศ”
คนผู้นั้นแน่นอนว่าย่อมต้องแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง แม้ว่าจะถูกความแน่วแน่ของหลงเฉินปกคลุมเอาไว้ แต่ก็ยังคงสามารถที่จะสงบจิตสงบใจเอาไว้ได้ กระบี่ยาวก็ได้ตัดตวัดท่ามกลางอากาศไป
ที่เบื้องหน้าได้ปรากฏตัวอักษร“ทศ(十)”ขึ้นมา เข้ากระแทกไปที่ดาบยาวของหลงเฉินอย่างรุนแรง
แต่ว่าที่ทำให้คนผู้นั้นหวาดผวาขึ้นมาก็คือพลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งอย่างเขา แต่หากการที่ต้องมาอยู่เบื้องหน้าทลายมารของหลงเฉิน ก็มีแต่ต้องถูกทำลายไปในทันทีอยู่ดี ดาบยาวหาได้ลดทอนสภาวะแม้แต่น้อย แต่กลับยังคงฟันเข้ามาที่เบื้องหน้าของเขา
“พรวด”
เลือดเนื้อก็ได้แหลกระเบิดขึ้นมา ผู้อยู่เหนือขอบเขตผู้นั้นก็ได้ถูกสังหารไปภายในดาบเดียว แม้แต่กรีดร้องก็ยังไม่ทันที่จะได้ร้องออกมา
กายเนื้อของคนผู้นั้นหลังจากที่แหลกละเอียดไปแล้ว แล้วก็มีอักขระแห่งฟ้าปรากฏขึ้นอยู่ท่ามกลางอากาศ หมายที่จะหลบหนีไป
“โครม”
ทลายมารตวัดอยู่กลางอากาศกำจัดอักขระแห่งฟ้านั้นทิ้งไปในทันที ทำให้ทุกคนมีสีหน้าเปลี่ยนไป
หลงเฉินร้ายกาจเกินไปแล้ว ไม่เพียงแต่ฆ่าคนเท่านั้น ยังถึงกับทำลายพลังจากต้นตระกูลแห่งธรรมชาติที่แสนล้ำค่าไปอย่างไม่ใส่ใจอีกด้วย
ศิษย์สายตรงตามปกติ หากสามารถที่จะสยบรอยตรานั้นเอาไว้ได้ ก็จะมีโอกาสที่จะทำสำเร็จได้ถึงหนึ่งในสิบส่วน จนสามารถที่จะกลายเป็นผู้อยู่เหนือขอบเขตคนใหม่ขึ้นมาได้
หลงเฉินย่อมต้องทราบถึงเหตุผลเช่นนี้อยู่แล้ว แต่ว่ากลุ่มคนโง่เง่าเบื้องหน้านี้เรียกได้ว่าไม่คู่ควรที่จะให้หลงเฉินมอบโอกาสให้แก่พวกเขา
ถึงแม้ร่างกายจะเจ็บปวดอยู่บ้าง ทว่าก็ยังดีกว่าผู้อื่นอยู่มาก การฟันของหลงเฉินทั้งสองครั้ง ต่างก็ได้ใช้ด้วยพลังทั้งหมด ทั้งยังหาได้ยั้งมือเลยแม้แต่น้อย
เพียงครู่เดียวทุกผู้คนต่างก็นิ่งไม่กล้าขยับ ฆ่าฟันผู้อยู่เหนือขอบเขตไปถึงคนหนึ่งแต่ไม่แม้ที่จะเงยหน้ามองเลยด้วยซ้ำ นี่มันเป็นสภาวะในระดับใดกันแล้ว ?
คนที่อยู่ในสนาม ต่างก็มิใช่คนโง่งมโดยทั้งสิ้น แม้ว่าก่อนหน้านี้ทุกคนจะได้เห็นภาพที่บันทึก ทว่าภาพที่เกิดขึ้นนั้นกลับหาได้บันทึกทุกอย่างเอาไว้ ความจริงที่เป็นอยู่นั้นยังเป็นที่น่าสงสัยอยู่ดี
แต่ว่าหลงเฉินที่อยู่เบื้องหน้านั้น เป็นของจริงอย่างแน่นอนโดยที่ไม่ต้องสงสัยเลยด้วยซ้ำ คนที่แข็งแกร่งและองอาจถึงเพียงนี้ จะเกิดจิตชั่วร้ายต่อสตรีเพศเช่นนั้นได้อย่างงั้นหรือ ?
หลงเฉินก่อนหน้านี้ได้เตือนพวกเขาไปแล้ว ให้พวกเขารู้ว่าอะไรถูกอะไรผิดกันด้วยตัวเอง มีผู้คนอยู่ไม่น้อยที่รู้สึกตัวขึ้นมา เกรงว่าภายในเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ยังมีเรื่องที่พวกเขาไม่ทราบกันอยู่ แต่ไม่ว่าจะกล่าวเช่นไร เรื่องที่หลงเฉินฆ่าศิษย์ฝ่ายธรรมะติดต่อกัน ต่อให้หนีก็หนีไม่พ้น
ไม่ว่าเขาจะมีเหตุผลอะไร แต่การที่ได้สังหารผู้อยู่เหนือขอบเขตติดต่อกันถึงสามคน โทษเช่นนี้ เขาย่อมไม่อาจที่จะไม่ชำระได้
หลังจากที่หลงเฉินได้ใช้หนึ่งดาบสังหารผู้อยู่เหนือขอบเขตไปแล้ว ตั้งแต่ต้นจนจบก็หาได้มีการหันหน้ากลับมา แต่กลับมุ่งหน้าไปทางด้านหน้าต่อไป
“แปะแปะแปะ”
มีเสียงปรบมือดังขึ้นมา ในเวลาเดียวกันก็มีเสียงที่หลงเฉินรู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างยิ่งดังขึ้นมา
“ไม่เลวเลยหลงเฉินเจ้าก้าวหน้าขึ้นอีกแล้ว ช่างควรค่าที่ข้าทุ่มเทเวลาตั้งมากมายมาเพื่อเสาะหาเจ้า”
ทุกผู้คนต่างก็ตกใจขึ้นมา เพราะไม่ทราบว่าตั้งแต่เวลาใดที่ได้มีเงาร่างสวมเอาไว้ด้วยชุดคลุมสีดำปรากฏขึ้นมา ทั้งยังมีเส้นผมที่ยาวจรดเอว ชายหนุ่มที่มีใบหน้าเยือกเย็นปรากฏตัวขึ้นที่บริเวณนั้น
ชายหนุ่มผู้นั้นราวกับปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางอากาศอยู่ก็มิปาน ผู้คนทั้งหมดต่างก็ไม่ทราบว่านับตั้งแต่เวลาใดถึงได้มีผู้คนเพิ่มขึ้นมาอีกคน
“ฝ่ายอธรรม?”
เมื่อได้มองไปยังอาภรณ์ที่สวมใส่ของคนผู้นั้นที่มีสีโลหิตพร้อมสัญลักษณ์รูปโครงกระดูก ทุกผู้คนมีสีหน้าเปลี่ยนไป อดไม่ได้ที่จะหัวใจเต้นตูมตาม ต่างก็ได้แยกย้ายถอยหลังไปกันหลายก้าว
ในเวลาที่ได้พบเห็นคนที่อยู่ทางด้านหน้าอย่างชัดเจน แม้แต่หลงเฉินก็อดไม่ได้ที่จะต้องอ้าปากตาค้างได้ มือขวาถึงกับกระชับทลายมารเอาไว้จนแน่น
“หยินหลอ”