“ตูม”
ทันใดนั้นฝาโลงก็เกิดการขยับขึ้นมาด้วยตัวเอง ทุกคนต่างก็ได้มองไปยังโลงศพอย่างพร้อมเพรียง !
ไม่ทราบว่าเป็นเพราะคนเหล่านั้นไปกระทบกับกลไกอะไรบางอย่างหรือไม่ ฝาโลงขนาดใหญ่นั้น จึงได้ถูกเปิดออกมาด้วยตัวเอง เผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ภายใน
เมื่อฝาโลงศพได้ถูกเปิดออก ก็ได้มีเสียงครืนๆดังสนั่นขึ้นมา โลงศพนั้นมีวัตถุขนาดใหญ่อยู่ภายใน
ที่ด้านบนของแท่นศิลาใหญ่ยักษ์ ก็ได้ส่องแสงเป็นประกายคมกล้าออกมา แม้ว่าจะถูกผนึกไว้อยู่นานหลายปี แต่ก็ยังคงสว่างไสวเหมือนใหม่อยู่
บนแท่นได้มีเครื่องมือชนิดต่างๆวางเอาไว้ ทั้งยังได้แผ่กระจายความล้ำค่าออกมาเป็นวงกว้าง คล้ายกับแฝงเอาไว้ด้วยพลังชีวิต
“แท่นหลอมสร้าง”
ทุกผู้คนต่างก็เกิดงุนงง คิดไม่ถึงว่าภายในโลงศพนี้จะหาได้มีศพของคนโบราณ วิชาลับหรืออาวุธยุทโธปกรณ์แต่อย่างไร กลับเป็นเพียงแท่นหลอมสร้างขนาดใหญ่แท่นหนึ่ง
“มีอาวุธอยู่”
ได้มีคนที่มีสายตาคมกล้า มองเพียงคราเดียวก็พบเห็นว่าที่ด้านบนแท่นหลอมสร้าง ได้วางเอาไว้ด้วยค้อนที่เปล่งประกายอยู่ด้ามหนึ่ง
ค้อนด้ามนั้นหาได้ใหญ่โตอะไรมากมาย ที่ส่วนหัวของค้อนกลับมีขนาดใหญ่เท่ากล่องเพียงใบหนึ่ง ที่ด้านหลังติดเอาไว้ด้วยหอกที่มีความยาวขนาดสองฉื่อกว่าอยู่ก้านหนึ่ง
หลังจากที่ทุกคนได้มองไปที่ค้อนนั้นแล้ว ภายในจิตใจก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที ค้อนเล่มนี้แฝงเอาไว้ด้วยแรงกดดันอันมหาศาลแก่พวกเขา
“ซวบซวบ……”
ทันใดนั้นคนของฝ่ายธรรมะบางส่วนก็ได้แตกฮือออกมา เนื่องจากทนต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว จึงพุ่งไปยังแท่นหลอมสร้างนั้นตั้งแต่แรก
“พรวด”
แต่ยังไม่ทันที่คนผู้นั้นจะเข้าไปใกล้แท่นหลอมสร้าง ก็ถูกผู้อยู่เหนือขอบเขตผู้หนึ่งใช้ดาบฟันจนขาดออกเป็นสองส่วน
“วัตถุชิ้นนี้เป็นของหมู่ตึกพลิกสวรรค์ทั้งหมด ผู้ใดที่กล้าเข้าไปแตะต้องมีโทษตายเพียงสถานเดียว” ผู้อยู่เหนือขอบเขตที่เป็นผู้ติดตามจ้าวหมิงซาน ได้ตวาดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เดือดดาล
แม้ภายในสถานที่แห่งนี้ไม่มีผู้ใด ที่เป็นผู้หลอมศาสตราวุธแม้แต่คนเดียว แต่ว่าแท่นหลอมสร้างเก่าแก่แท่นนี้ หากส่งมอบให้แก่ทางหมู่ตึก จะต้องได้รับแต้มคุณประโยชน์หรือรางวัลอย่างมากมายมหาศาลเลยทีเดียว
แท่นหลอมสร้างหนึ่งชิ้นย่อมยากที่แบ่งกันได้ แต่ว่าหากเปลี่ยนเป็นแต้มคะแนนที่มากมายมหาศาล เช่นนั้นก็จะง่ายขึ้นมากแล้ว กำลังพลของยอดฝีมือฝ่ายธรรมะและสุดยอดฝีมืออีกคนหนึ่งก็ยังถือได้ว่าเหนือกว่าเป็นอย่างมาก
แท่นหลอมสร้างแท่นหนึ่งยังไงเสียก็นำไปใช้ไม่ได้อยู่ดี ทั้งยังไม่คิดที่จะลงมือต่อสู้เพื่อแย่งชิงมันกันอยู่แล้ว เมื่อทั้งสองคนได้รับประโยชน์แล้ว ก็ย่อมต้องมีผลพวงให้แก่เหล่าลูกน้องกันอยู่แล้ว
ส่วนยอดฝีมือจากหมู่ตึกอื่นๆ จะได้รับประโยชน์หรือไม่นั้นก็คงต้องดูที่น้ำใจของทั้งสองคนกันแล้ว
ศิษย์ของฝ่ายอธรรมเมื่อได้เห็นแท่นหลอมสร้างนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะทอแววตาแดงซ่านขึ้นมา เพราะสิ่งของเก่าแก่โบราณเช่นนี้ ราคาค่างวดของมันถือได้ว่ามหาศาลอยู่แล้ว
หากเป็นปรมาจารย์ผู้หลอมสร้าง ได้รับแท่นหลอมสร้างที่เก่าแก่โบราณเช่นนี้ไปได้ ทั้งยังได้รับเคล็ดการหลอมสร้างจากผู้คนในสมัยโบราณแม้จะเพียงน้อยนิดก็ยังดี นั่นก็ถือได้ว่าเป็นโชคลาภอันประเสริฐแล้ว
หากเป็นไปตามที่ได้บันทึกเอาไว้ความรู้ความสามารถของผู้คนในสมัยโบราณ ประดั่งคลื่นยักษ์แห่งมหาสมุทร ไม่ว่าจะเป็นวิชาทักษยุทธ์ หรือว่าจะเป็นวิชาการหลอมสร้าง หลอมโอสถ ก็จะสามารถที่จะเข้าถึงความรุ่งเรืองได้
แต่ว่าไม่ทราบเป็นเพราะอะไรจนถึงขณะนี้ ทั้งหมดกลับสูญสลายหายไปจนสิ้น คล้ายกับว่าในหน้าประวัติศาสตร์ ถูกทุกสรรพสิ่งตัดไปจนสิ้นก็มิปาน
หลายสิบหมื่นปีมานี้ ผู้ฝึกยุทธ์ต่างก็ได้ตามหาร่องรอยโบราณอย่างไม่หยุดไม่หย่อน จนกระทั่งได้พบว่า ความรู้ของผู้คนในสมัยก่อน แทบจะไม่ต่างอะไรจากความลึกล้ำของมหาสมุทร
เหล่าผู้คนที่อยู่ท่ามกลางแดนลับที่ได้รับสมบัติก็มีอยู่มากมาย แต่สิ่งของมากมายเหล่านั้นความรู้ของคนในยุคนี้ก็ไม่อาจที่จะทำความเข้าใจได้เลย
แต่เมื่อได้ผ่านการวิเคราะห์อยู่หลายปี เหล่าผู้คนก็มักจะเกิดความโลภขึ้นหวังจะใช้ความเข้าใจที่มาจากความรู้ของคนสมัยโบราณ เพื่อครอบครองความรุ่งโรจน์ของคนในสมัยนั้น
และแท่นหลอมเบื้องหน้านี้ แม้พวกเขาจะไม่อาจประเมินค่าทั้งหมดได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า มันจะไม่มีราคา ทั้งยังมีความเป็นไปได้อย่างยิ่งที่จะมีราคาสูงเทียบฟ้าเลยทีเดียว
ศิษย์ของฝ่ายอธรรมภายในแววตาเดือดพล่านไปด้วยเพลิงไฟขึ้น ผู้อยู่เหนือขอบเขตที่เป็นผู้นำ ก็ได้ลอบส่งสายตามองไปที่สุดยอดฝีมือฝ่ายอธรรมผู้นั้นคราหนึ่ง จนอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าไปมา เพราะหาได้มีความเคลื่อนไหวใดกลับมาไม่
หลงเฉินมองไปที่แท่นหลอมสร้าง ถึงแม้ภายในจิตใจจะเกิดความหวั่นไหวขึ้นมา ทว่าก็ยังคงปรับสภาพจิตใจเอาไว้ได้
ไม่ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญโอสถอย่างเขาก็ดี จะเป็นบรรพจารย์แห่งการตีเหล็กก็ช่าง เป็นธรรมดาที่บุคคลเช่นนี้ ต่างก็มีความทระนงเป็นอย่างยิ่งกันอยู่แล้ว
สิ่งของที่พวกเขาเคยใช้เองมาก่อน โดยส่วนมากแล้วหากสิ้นใจขึ้นมาก็จะนำไปฝังพร้อมกับตนเอง น้อยนักที่จะสืบทอดให้แก่บรรดาลูกศิษย์
เพียงแต่หลงเฉินเดิมทียังคิดว่า เจ้าของสุสานน่าจะหลงเหลือเครื่องมือเอาไว้เพียงแค่บางส่วนเท่านั้น แต่ที่คิดไม่ถึงก็คือคนผู้นี้ถึงกับทิ้งแท่นหลอมสร้างทั้งชิ้นเอาไว้เลย
ในขณะที่กำลังมองไปยังแท่นหลอมสร้างขนาดใหญ่ ภายในจิตใจของหลงเฉินก็ได้เกิดเพลิงไฟขึ้นมา เขาทราบว่าหากกัวเหรินพบเห็นแท่นหลอมสร้างแท่นนี้ จะต้องช่วงชิงมาอยู่ในมือโดยไม่คิดชีวิตเลยทีเดียว
ถึงแม้จะพบแท่นหลอมสร้างนั้น ทว่าจ้าวหมิงซานและพวกต่างก็หาได้ผ่อนปรนกันไม่ กลับยังคงโจมตีหลงเฉินอย่างหนักหน่วง แต่มิได้รีบหันไปเก็บแท่นหลอมสร้างขนาดใหญ่นั้นไปไม่
จ้าวหมิงซานกับสุดยอดฝีมืออีกผู้หนึ่งต่างก็เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่ง ในที่แห่งนี้มีคนของหมู่ตึกมากที่สุด ทั้งยังมีศิษย์อยู่ไม่น้อยที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ในที่แห่งนี้พวกเขาทั้งสองคนถือได้ว่าแข็งแกร่งที่สุด ยังไงซะก็ไม่มีคนใดสามารถที่จะแย่งชิงกับพวกเขาได้อยู่แล้ว
ในส่วนยอดฝีมือฝ่ายอธรรม พวกเขาหาได้หวาดกลัวไม่ เพียงแต่ก่อนหน้านี้เป็นเพราะยังไม่มีการปรากฏขึ้นมาของสมบัติ จึงยังไม่ถึงคราวที่พวกเขาจะต้องเอาชีวิตเข้าแลก ถ้าหากสุดยอดฝีมือของฝ่ายอธรรมผู้นั้นผิดคำพูดขึ้นมาจริง พวกเขาก็ย่อมต้องสวนกลับอย่างไม่คิดชีวิตแน่
สองรุมหนึ่ง แล้วยังมีศิษย์หมู่ตึกที่มากมายเหล่านั้น พวกเขาแทบไม่ต้องหวาดกลัวเลย จ้าวหมิงซานและพวกจึงเกิดความคิดจะร่วมมือกับสุดยอดฝีมือฝ่ายอธรรมผู้นั้นนับตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพื่อที่จะฆ่าหลงเฉินแล้วค่อยว่ากันถึงเรื่องอื่น
หลงเฉินถือได้ว่าแข็งแกร่งจนเกินไป หากไม่มีสุดยอดฝีมือของฝ่ายอธรรมคอยช่วยเหลือ พวกเขาทั้งสองต่อให้ใช้พลังทั้งหมดออกมา ก็ย่อมไม่สามารถที่จะรั้งหลงเฉินเอาไว้ได้ หากปล่อยให้หลงเฉินหนีไป เช่นนั้นก็จะต้องเป็นหนามยอกอกในภายหลังอย่างแน่นอน
“ตูมตูมตูม……”
ทั้งสี่คนยังคงสู้กันไม่หยุด ผู้คนต่างก็ทำได้แต่เพียงแค่มองดู ฝ่ายธรรมะก็ทำได้แต่เพียงสลายตัวไป ทั้งยังลอบมองไปยังแท่นหลอมสร้างขนาดใหญ่อยู่อีกครา ภายในจิตใจกลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความไม่ยินยอมและอับจนปัญญา
พวกเขาสามารถทำได้แค่เพียงลอบถอนหายใจออกมา ถึงแม้ว่าจะเกิดความผิดหวังอยู่บ้างเมื่อเข้ามาภายในสุสานโบราณแห่งนี้ ขณะนี้พวกเขาที่หยุดอยู่กันโดยส่วนมากก็คือพวกที่ยังไม่ได้รับสิ่งใด
หากคิดที่จะออกไป แต่ศิษย์ของฝ่ายอธรรมเหล่านั้นกลับปิดตายเส้นทางนั้นเอาไว้ อีกทั้งพวกนั้นก็ไม่กล้าที่จะปล่อยพวกเขาไป
ต่อให้ต้องให้พวกเขาหลีกทาง ก็เกรงว่าจะกลายเป็นการกระตุ้นอาวุธในมือของพวกเขาขึ้นมาเสียแทน เพราะศิษย์ของฝ่ายอธรรมเพียงแค่ร่วมมือกับศิษย์ของหมู่ตึกเป็นการชั่วคราวเท่านั้น แต่กลับหาได้ร่วมมือกับเหล่าพวกผู้ติดตามเหล่านี้ไม่
ดังนั้นเมื่อพวกเขาไปก็ไม่ได้ อยู่ก็ไม่ใช่เรื่อง จึงทำได้เพียงยืนอยู่ในที่แห่งนี้อย่างโง่งม เหมือนกับเป็นเพียงผู้ชมเท่านั้น
“กู่ฉี ไปเก็บแท่นหลอมสร้างเอาไว้” จ้าวหมิงซาน เกรงว่าจะเอาหลงเฉินไม่ลงเพื่อความปลอดภัย จึงให้ผู้อยู่เหนือขอบเขต ทำการเก็บแท่นหลอมสร้างเอาไว้”
ผู้ที่ถูกเรียกว่ากู่ฉีถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้อยู่เหนือขอบเขตที่แข็งแกร่งผู้หนึ่ง ก็รีบร้อนวิ่งเข้าไปยังทางด้านแท่นหลอมสร้างแท่นนั้น
“บัดซบ แท่นหลอมสร้างแท่นนี้หนักเกินไป ข้าไม่อาจที่จะเก็บได้” กู่ฉีที่เป็นผู้อยู่เหนือขอบเขตได้ร่ำร้องขึ้นมา เมื่อได้ทดลองอยู่หลายครั้ง ก็ยังไม่อาจที่จะเก็บแท่นหลอมสร้างเข้าไปในแหวนมิติได้
แหวนมิตินั้นถือได้ว่าเร้นลับเป็นอย่างยิ่ง สามารถที่จะเก็บวัตถุสิ่งของเข้าสู่ภายในมิติที่สาม แต่ว่านั่นยังจำเป็นที่จะต้องดูว่า ความสามารถในการยกสิ่งของแต่เดิมของผู้คนได้หรือไม่อีกด้วย และยังต้องมีพลังแห่งจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งจึงจะสามารถที่จะทำได้
แท่นหลอมสร้างนั้น มีความสูงประมาณหนึ่งจั้งกว่า ยาวห้าจั้งกว่า กว้างสองจั้ง และที่ด้านบนยังมีอุปกรณ์แต่ละชนิดเอาไว้ จนทำให้ทั้งหมดของแท่นหลอมสร้างต่างก็รวมจนกลายเป็นชิ้นเดียวกัน จึงไม่ทราบว่ามีน้ำหนักอยู่มากน้อยเท่าไหร่
ผู้อยู่เหนือขอบเขตที่ถูกเรียกขานว่ากู่ฉีผู้นั้น ได้ใช้พลังทั้งหมดเพื่อขยับแท่นหลอมสร้างนั้น แต่ว่าแท่นหลอมสร้างนั้น กลับเพียงแค่สั่นไหวขึ้นเล็กน้อยอยู่ครู่หนึ่ง แทบจะไม่อาจที่จะสัมผัสได้ถึงความเคลื่อนไหวของแท่นหลอมสร้างได้
“เช่นนั้นก็เก็บค้อนเล่มนั้นก่อนแล้วค่อยว่ากัน” จ้าวหมิงซานกล่าว
เขาเองก็ดูออก นอกเสียจากแท่นหลอมสร้างแล้ว ค้อนเล่มนั้นจะต้องเป็นสมบัติชิ้นหนึ่งแน่ เห็นๆกันอยู่แล้วว่าเพียงแค่วัตถุชิ้นหนึ่ง แต่กลับสามารถที่จะสร้างแรงกดดันให้แก่พวกเขาได้เป็นอย่างมาก
“ใยต้องเปลืองแรงถึงเพียงนั้นกัน ? ยกให้ข้าก็แล้วกัน”
บนใบหน้าหลงเฉินได้ปรากฏรอยยิ้มขึ้น ทันใดนั้นก็ฟันออกไปหนึ่งดาบพร้อมกับสายลมกรรโชกที่เปี่ยมไปด้วยพลังที่สามารถตัดได้แม้กระทั่งภูผา ทั้งสามคนนั้นถูกดาบของหลงเฉินกดดันจนต้องถอยร่นไปหลายก้าว
ดาบนั้นทำให้ทั้งสามคนถอยร่นไป หลงเฉินย่างก้าวออกไปหนึ่งก้าวแล้วทันใดนั้นก็ได้สลายหายไปจากเบื้องหน้าของทั้งสามคน
“ระวัง”
“พรวด”
จ้าวหมิงซานที่เพิ่งจะพบว่าหลงเฉินหายไป ก็รู้สึกว่าย่ำแย่ขึ้นมา ได้ตะโกนขึ้นด้วยความเร่งร้อน แต่ว่าก็ยังสายไปแล้ว
แขนของกู่ฉีเพิ่งจะแตะไปโดนค้อนด้ามนั้น แต่ทันใดนั้นช่วงคอก็รู้สึกเย็นวาบจากนั้นก็รู้สึกว่าฟ้าหมุนแผ่นดินกลับขึ้นเป็นสาย
มุมสายตาของเขาก็ได้เกิดการหมุนคว้างไม่หยุด ทั้งยังเห็นสีหน้าที่หวาดผวาของผู้คนมากมาย จนกระทั่งพบว่าร่างกายที่คุ้นเคยของเขานั้นไม่มีศีรษะอยู่แล้ว ช่วงคอมีโลหิตฉีดพุ่งออกมาอย่างบ้าคลั่ง
เขาได้ยินเสียงเตือนจากจ้าวหมิงซาน แต่ว่าเสียงนั้นราวกับห่างไกลจนเกินไป ทันใดนั้นที่เขาคล้ายกับเข้าใจอะไรขึ้นมาได้ ก็ได้เข้าสู่ห้วงแห่งความมืดมิดไปตลอดกาลแล้ว
“หลงเฉิน เจ้าหาที่ตาย”
จ้าวหมิงซานคิดไม่ถึงว่าหลงเฉินจะมีท่าร่างที่พิสดารได้ถึงเพียงนี้ ถึงกับสามารถสังหารกู่ฉีลงได้ภายในพริบตา
หลงเฉินหัวเราะอย่างเย็นเยียบขึ้นมา จากนั้นก็ได้ยื่นมือเข้าไปคว้าค้อนด้ามนั้นเอาไว้
“เด็กน้อยที่ดี เมื่อเทียบกับทลายมารของข้าเจ้ายังหนักกว่าถึงเท่าตัวเลยทีเดียว”
หลงเฉินแทบจะไม่มีเวลามาตรวจสอบค้อนด้ามนี้ได้อย่างละเอียด ก็ยัดมันเข้าไปในแหวนมิติในทันที จากนั้นก็หมายที่จะเข้าไปเก็บแท่นหลอมสร้างนั้นเอาไว้
“ไปตายซะ”
ทันใดนั้นหลังศีรษะก็ได้เกิดลมกรรโชกเข้ามา หอบพลังสภาวะที่น่าหวาดกลัวซัดเข้ามา หลงเฉินยังไม่ทันที่จะเก็บแท่นหลอมสร้าง ก็ได้ถอยไปทางด้านข้างอย่างรวดเร็ว
“ตูม”
กระแสพลังดาบอันน่าหวาดกลัวสายหนึ่ง ก็ได้ฟันเข้าไปบนแท่นหลอมสร้างอย่างหนักหน่วง ครั้งนี้จ้าวหมิงซานถือได้ว่ามีโทสะขึ้นมาอย่างแท้จริงแล้ว ดาบเล่มนี้ถูกใช้ออกมาด้วยพลังทั้งหมด จนแทบจะไม่อาจที่จะคาดคะเนผลลัพธ์อะไรได้เลย
ด้วยพลังจากหนึ่งดาบก็ทำให้เพดานของห้องเก็บโลงศพเกิดรูขนาดใหญ่ขึ้นมา ทั่วทั้งห้องเกือบจะต้องถูกเขาผ่าออกเป็นสองส่วน ภายในห้องเก็บโลงศพเกิดการสั่นไหวขึ้นมาอย่างรุนแรง ด้วยน้ำหนักของแท่นหลอมสร้างที่ไม่ทราบว่ามีน้ำหนักมากเท่าใด ถึงกับถูกดาบฟันเข้าไปที่ด้านบนจนสั่นคลอนขึ้นมา จนทำให้ทั่วทั้งแท่นหลอมสร้างทับไปทางด้านของหลงเฉิน
“ฮาฮาขอบคุณนะ”
สายตาที่กำลังมองไปยังแท่นหลอมสร้างที่กำลังจะทับหลงเฉินอยู่นั้น แต่หลงเฉินไม่แตกตื่นกลับยินดีขึ้นมา แล้วก็ได้ยื่นมือข้างหนึ่งออกไปหันเข้าไปคว้าจับแท่นหลอมสร้างเอาไว้
“แย่แล้ว”
จ้าวหมิงซานและพวกรู้สึกได้ว่าผิดปกติทันที
“ซูม”
ในช่วงเวลาที่มือของหลงเฉินแตะถูกแท่นหลอมสร้าง ก็ทำให้แท่นหลอมสร้างหายวับไปภายในพริบตา ได้ถูกหลงเฉินเก็บเอาไว้ภายในแหวนมิติไปแล้ว
เดิมทีด้วยสภาพของแหวนมิติจะสามารถรับสิ่งของที่ถูกยกขึ้นจากพื้นได้ ผู้คนมากมายต่างก็คิดว่า ขอเพียงเป็นสิ่งของที่สามารถขยับเขยื้อนขึ้นได้ จึงจะสามารถเก็บใส่ภายในแหวนมิติได้เท่านั้น
ตามความเป็นจริงขอเพียงทำให้วัตถุออกจากพื้นดินได้ เมื่อผสานเข้ากับพลังแห่งจิตวิญญาณที่กล้า ก็ย่อมสามารถที่จะเก็บวัตถุเข้าสู่ภายในแหวนมิติได้เช่นเดียวกัน
เดิมทีหลงเฉินยังคิดว่าคงต้องสิ้นเปลืองเรี่ยวแรงสักรอบ จึงจะเก็บแท่นหลอมสร้างเอาไว้ได้ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจ้าวหมิงซานจะแสนรู้ได้ถึงเพียงนี้ ถึงกับส่งมอบสมบัติให้เองกับมือเลย
“ครืนครืน……”
ทั่วทั้งห้องเก็บโลงศพที่ถูกดาบของจ้าวหมิงซานฟันลงมา ก็เริ่มที่จะระเบิดขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง คล้ายกับเกิดแผ่นดินไหว ก้อนดินอันมหาศาลบนกำแพงได้ร่วงหล่นออกมา ก้อนดินขนาดใหญ่ที่ด้านบนของห้องเก็บโลงศพก็ได้หล่นลงมาเป็นจำนวนมาก
“สถานที่แห่งนี้จะถล่มแล้ว รีบหนีเร็ว”
ในระหว่างนั้นก็มีเสียงร้องดังขึ้นมา ศิษย์ฝ่ายธรรมะเหล่านั้นต่างก็ได้แยกย้ายกันมุ่งหน้าออกไปยังภายนอกของถ้ำ แม้แต่ศิษย์ของฝ่ายอธรรมก็ยังต้องทอแววตางุนงงขึ้นมา เมื่อถสานที่แห่งนี้ถล่ม ทุกคนก็มีแต่ตายเท่านั้น
เมื่อมองไปที่ศิษย์ของฝ่ายธรรมะที่พุ่งเข้ามานั้น ก็ไม่ทราบว่าควรที่จะฆ่า หรือว่าควรจะหลบหนีไปดี
“ตูม”
ทันใดนั้นก็ได้มีเสาขนาดใหญ่ต้นหนึ่งถล่มลงมา เสาใหญ่ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางหลายฉื่อ ถล่มทับคนที่โชคร้ายตายไปสองคนในทันที
ที่ทำให้ทุกคนคิดไม่ถึงก็คือ เสาต้นนั้นหล่นทับโลงศพขนาดใหญ่โลงนั้นเข้าอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย จนทำให้โลงศพที่มีขนาดใหญ่โตแหลกลานไปในที่สุด
หลังจากที่โลงศพได้ระเบิดออก ทันใดนั้นก็ได้มีโลงศพขนาดเล็กอยู่โลงหนึ่ง ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าของทุกคน ที่ด้านบนของโลงศพนั้น ก็มีชิ้นส่วนสีทองผืนหนึ่งครอบเอาไว้อยู่