เดิมทีหลงเฉินที่กำลังจะเดินออกไป ทันใดนั้นสีหน้าก็แปรเปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำ ท่าทางดูดุร้ายแข็งแกร่งไม่มีใครเทียบ
“กล้าดีหนิ”
ยินหวูซวงที่เห็นหลงเฉินกำลังมุ่งเข้ามาเพียงคนเดียวด้วยใบหน้าเด็ดเดี่ยวเย็นชาแฝงไว้ด้วยโทสะ ดาบยาวในมือเปี่ยมไปด้วยขุมพลังมหาศาลจนทำให้สภาววะโดยรอบถึงกับสั่นสะเทือน
แสงจากดาบปกคลุมไปทั่วบริเวณ เกิดเป็นม่านตาข่ายขนาดใหญ่ขึ้นมาบดบังทางเบื้องหน้าของหลงเฉิน
“ไสหัวไป”
เสียงที่เปล่งออกไปรุนแรงดุจดั่งสายฟ้า ทำให้เกิดการสั่นไหวของอากาศ ขณะเดียวกันพลังไร้ขอบเขตจากดาบยาวสีทองก็ได้ตัดทำลายม่านตาข่ายได้อย่างง่ายดาย
“ตูม”
ยินหวูซวงไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าหลงเฉินจะเเข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ด้วยพลังมากมายมหาศาลดุจคลื่นยักษ์ ทำให้นางไม่สามารถต้านทานได้ ยินหวูซวงโดนพลังจากดาบจนต้องถอยหลังออกไปหลายจั้ง
ขณะที่หลงเฉินกลับมุ่งตรงไปยังศิษย์สายตรงผู้หนึ่งผู้ที่กล่าวดูถูกหลงเฉิน ศิษย์สายตรงผู้นี้รู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัว ทั่วทั้งร่างกายก็รู้สึกเย็นเยือกขึ้นมา แม้ว่ารอบข้างจะมีพวกพ้องอยู่นับสิบแต่เขาก็ยังรู้สึกหวาดกลัวอยู่ลึกๆ
“ฆ่ามัน”
เมื่อเห็นหลงเฉินตรงเข้ามา เหล่าผู้ติดตามต่างก็ส่งเสียงดังทั้งยังระเบิดพลังลงมือทำร้ายหลงเฉิน
“ฟิ้วว”
พวกเขารู้สึกถึงกลิ่นคาวเลือดที่ลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ สายตาก็เกิดพร่ามัว ขณะนั้นหลงเฉินก็หายไปไม่เหลือแม้แต่เงา จนทุกคนต่างตกใจกลัวไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น ทันใดนั้นเองก็เกิดเสียงดังสนั่นไปทั่วบริเวณ เมื่อพวกเขาตั้งสติขึ้นได้ก็พบว่ามีคนๆหนึ่งได้ถูกฆ่าตายไปแล้ว
ร่างไร้ศีรษะที่ล้มลงอยู่กับพื้น เลือดไหลทั่วบริเวณคอและหลังจนทำให้พื้นดินเต็มไปด้วยสีแดง
ภาพตรงหน้าที่พวกเขาเห็นในระยะไกลออกไปสิบจั้ง คือมือข้างขวาของหลงเฉินได้ถือดาบยาววางพาดไว้บนไหล่ ส่วนมือซ้ายถือศีรษะของคนปากเสียเอาไว้
ใบหน้าศิษย์สายตรงผู้นี้ถึงกับบิดเบี้ยวทั้งยังมีสีหน้าหวาดกลัวสุดขีด แววตาคู่นั้นแสดงถึงความตื่นตระหนกคาดไม่ถึง
“ปัง”
หลงเฉินปล่อยศีรษะร่วงลงพื้น แล้วใช้เท้าเตะศีรษะให้กลิ้งไปที่เบื้องหน้าของทุกคน จนทำให้ผู้คนต่างก็เกิดอาการขนลุกขึ้นมา
“คิดจะยั่วโทสะคนอย่างข้าก็ตามใจ สิ่งที่ข้าต้องการมีไม่มาก ขอเพียงแค่กระโหลกคนเท่านั้น” น้ำเสียงของหลงเฉินเหมือนดั่งมัจจุราช ทำให้ในจิตใจผู้คนรู้สึกเย็นเยือกขึ้นมา
“หลงเฉิน เจ้าหาที่ตาย”
ยินหวูซวงที่ถูกพลังจากดาบของหลงเฉินจนทำให้ต้องกระเด็นถอยหลังออกไป กว่านางจะทรงกายตัวเองไว้ได้ ศิษย์สายตรงที่เป็นถึงสุดยอดฝีมือก็ถูกหลงเฉินจัดการไปเสียแล้ว ด้วยความเร็วที่น่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง ทำให้นางไม่อาจจะช่วยไว้ได้ทัน
เหตุการณ์นี้ทำให้ยินหวูซวงเกิดโทสะขึ้นมา พวกเขาเหล่านี้แม้จะเป็นคนต่างสำนักแต่ล้วนเป็นคนที่ซื่อสัตย์ และยังเป็นคนที่ทางตระกูลของนางส่งมาดูแล ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เรียกยินหวูซวงว่าศิษย์พี่
แต่จะเรียกนางว่าคุณหนูแทน
“หุบปาก ผู้หญิงโง่อย่างเจ้า อย่าคิดว่าสิ่งที่เจ้าทำข้าจะไม่รู้ ตอนนี้ที่ข้าไม่ฆ่าเจ้าก็เพราะว่าเจ้าไม่ได้เป็นเป้าหมายของข้า
แต่ถ้าตอนนี้เจ้ากล้าที่จะใช้ดาบยาวนั่น ข้าก็กล้ายืนยันว่าข้าสามารถจะฟันศีรษะของเจ้าได้เช่นกัน หากไม่เชื่อก็ลองดู” หลงเฉินกล่าว
แม้หลงเฉินอยากฆ่าหญิงสาวผู้นี้ แต่ว่าเรื่องทั้งหมดก็ยังไม่กระจ่างเขาไม่ควรฟังความข้างเดียว อย่างไรก็แล้วแต่เมื่อไม่มีหลักฐานเขาก็ไม่สามารถทำตามใจตนเองได้
แต่หากยินหวูซวงเกิดลงมือกับเขาโดยตรง นั่นก็ไม่มีเหตุผลใดให้ลังเลอีก “ถ้าเจ้าคิดจะฆ่าข้า เจ้าก็เตรียมตัวถูกฆ่าให้ดี”
ใบหน้าขาวซีดของยินหวูซวง จ้องมองหลงเฉินตาไม่กระพริบ สายตาเต็มไปด้วยความอาฆาต
ดาบยาวในมือที่ถูกกระชับจนแน่น แต่ก็ไม่สามารถจะโจมตีออกไปได้ นางจึงได้แต่สูดลมหายใจเข้าไปแล้วกัดฟันพูดอย่างเยือกเย็น
“หลงเฉิน วันนี้ข้าจะยังไม่ฆ่าเจ้า เพราะข้าอยากให้เจ้าตายด้วยน้ำมือจากพี่ชายข้าเทียนหวู่ หากเจ้าตายด้วยมือของข้า มันก็จะไม่มีความหมายอะไร”
หลงเฉินขบกรามเข้าหากัน แล้วเอ่ยขึ้นมาอย่างเยือกเย็น “ถ้าหากคอของหานเทียนหวู่คัน ข้าก็จะช่วยเอง”
“เจ้า……”
ยินหวูซวงโกรธจนแทบคลั่ง คำพูดหลงเฉินช่างเย่อหยิ่งนัก ถึงกับกล้าคิดที่จะต่อสู้กับอัจฉริยะหานเทียนหวู่
เหล่าผู้ติดตามที่อยู่ด้านหลังของยินหวูซวง ต่างก็มีสีหน้าโกรธแค้นไม่แพ้กัน แม้พวกเขาอยากจะพูดอะไรออกมา แต่เมื่อนึกถึงคนที่ถูกหลงเฉินฆ่าไปก่อนหน้า ก็ต้องกลืนคำพูดกลับลงไปไม่กล้าเอื้อนเอ่ยคำพูดใดออกมา
“ข้าหลงเฉินถ้าร้ายมาก็ย่อมร้ายตอบไม่เคยทำผู้ใดก่อน แม้ส่วนตัวจะไม่เคยมีเรื่องแต่ก็ไม่เคยกลัว
หากอยากจะจัดการกับข้าก็จงมาอย่างเปิดเผย ไม่ต้องใช้วิธีแบบคนสกปรก” หลงเฉินกล่าว โดยไม่แม้แต่จะมองยินหวูซวง แล้วดึงลู่ฟางเอ๋อเดินออกไปจากกลุ่มผู้คน
“หลงเฉินเจ้าทำให้ข้าโกรธจริงๆแล้ว ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าตายดีแน่” สายตามองแผ่นหลังของหลงเฉินเดินจากไป ยินหวูซวงกัดฟันกรอด
“คุณหนูเหตุใดถึงไม่ฆ่าเขา” ชายคนหนึ่งถามขึ้น
คนอื่นอาจจะไม่รู้ถึงความน่ากลัวของยินหวูซวง แต่พวกเขาที่ติดตามยินหวูซวงมาหลายปีเข้าใจถึงความสามารถของผู้หญิงคนนี้ นอกจากหานเทียนยวู่พวกเขาก็ไม่คิดว่าจะมีใครสามารถต่อสู้กับยินหวูซวงได้
“ไม่ได้ ตอนนี้ฆ่าเขาไม่ได้ มิฉะนั้นที่ตั้งใจไว้ก็จะสูญเปล่า ตอนนี้หลงเฉินมีชื่อเสียงที่ไม่ดีอยู่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่พวกเราสร้างเรื่องขึ้นมา เพราะข้าจะให้พี่เทียนหวู่ฆ่าหลงเฉินด้วยมือของตัวเอง อย่างแรกก็จะเป็นการเตือนเจ้าพวกโง่เหล่านั้น ว่าอำนาจของสำนักไม่ใช่ใครจะสามารถฝ่าฝืนได้”
“ส่วนอย่างที่สองนั้น เมื่อพี่เทียนหวู่ฆ่าหลงเฉิน หญิงสาวสองคนที่ติดตามหลงเฉิน ก็ไม่ควรมีหน้าอยู่ต่อ และไม่ไปวุ่นวายพี่เทียวหวู่” ยินหวูซวงพูด
“คุณหนู” ผู้ติดตามของยินหวูซวงแสดงสีหน้าเต็มไปด้วยโทสะ
“หลงเฉินคนนี้ก็แค่หมากตัวนึงของข้าก็เท่านั้น ถ้าหากฆ่าเขาก็เท่ากับว่าทำลายตัวหมากไป แม้ข้าจะโกรธแต่ว่าก็ต้องควบคุมตัวเอง” ยินหวูซวงพูดอย่างเยือกเย็น
“ไปเถอะ พวกเราแค่ทำเป็นไม่เห็น” ยินหวูซวงพูดแล้วนำทุกคนเดินออกไป
“คุณหนู เขา……” ชายคนหนึ่งชี้ไปที่ศพบนพื้น
“ก็ทิ้งไว้ที่นี่ แม้แต่คนมากมายก็กันเอาไว้ไม่อยู่ช่างทำให้ข้าขายหน้าเสียจริง งั้นก็สมควรตายแล้ว ปล่อยให้เขาอยู่ที่นี่แหล่ะ” ยินหวูซวงแสดงสีหน้ารังเกียจเย้ยหยัน รีบเร่งออกจากที่นี่ไปยังป่าเงียบสงัด
หลงเฉินที่พาลู่ฟางเอ๋อเดินออกมา ทั้งสองคนต่างไม่กล่าววาจาใดๆ ทำให้เกิดบรรยากาศอึดอัด
“ฟางเอ๋อเจี่ย เจ้าว่าข้าใจอ่อนหรือไม่?” หลงเฉินถอนหายใจแล้วกล่าว
“ใจอ่อน?งั้นหรือ” ลู่ฟางเอ๋อกล่าวอย่างลังเล
ในขณะหลงเฉินฆ่าคนแววตาแน่วแน่ไร้ความปรานี แม้แต่นางที่เป็นฝ่ายเดียวกันยังรู้สึกถึงความน่ากลัว
คำถามที่หลงเฉินถามขึ้น ทำให้ลู่ฟางเอ๋อกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกไม่รู้จะตอบอย่างไรดี กลัวว่าถ้าตอบผิดก็จะทำให้หลงเฉินโกรธ
“จริงๆแล้วข้าเชื่อในความรู้สึกของตัวเองมาโดยตลอด ข้ากล้ายอมรับเป้าหมายของข้าก็คือจัดการผู้หญิงคนนี้ แต่ว่าเมื่ออยู่ต่อหน้านาง ข้าก็ไม่โหดเหี้ยมพอที่จะฆ่านางได้ทันที ข้าจำเป็นต้องหาหลักฐานก่อน มันจึงทำให้ข้ารู้สึกว่าตัวเองช่างโง่เหลือเกิน” หลงเฉินรู้สึกอึดอัดใจจนยากที่จะเอ่ย
“ข้าเข้าใจความรู้สึกของเจ้า” แม้เขาจะฆ่าคนอย่างไร้ความปรานี แต่ส่วนใหญ่ที่เขาทำก็ไม่ใช่เพื่อตัวเอง
“เจ้าสามารถทนให้ใครทำร้ายเจ้าได้ แต่ว่าเจ้าไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายคนรอบข้างของเจ้า เกิดมาเจ้าก็มีจิตใจที่เป็นผู้ปกป้อง
ข้ารู้สึกว่าม่งฉีมองคนไม่ผิด ความสามารถแบบเจ้าถึงจะเป็นลูกผู้ชายที่แท้จริง ไม่เคยเรียกร้องว่าต้องชนะหรือแพ้ และยังปกป้องคนรอบข้างไว้เป็นที่หนึ่ง” ลู่ฟางเอ๋อหัวเราะแล้วพูด
หลงเฉินสับสนเล็กน้อยหลังจากฟังลู่ฟางเอ๋อ “ที่เจ้าพูดก็ถูก คนที่คิดจะมาจัดการข้า ข้าเพียงแค่ด่าว่า ลงมือแค่ทีสองทีก็จบแล้ว แต่ถ้าไปยุ่งกับคนใกล้ตัวของข้า ข้าจะเกลียดจนเข้ากระดูก จนกว่าจะได้ฆ่าพวกเขานั่นถึงจะทำให้หายแค้นได้
ตลอดมาในใจของข้ามีปีศาจอาศัยอยู่ จนบางครั้งมันทำให้ข้ากลัวจะลืมตัวเปลี่ยนตัวเองเป็นปีศาจที่ทำลายฟ้าดิน ดังนั้นข้าถึงต้องควบคุมความรู้สึกของตัวเอง แต่ที่ผ่านมาไม่ว่าข้าจะหลบเลี่ยงอย่างไร ก็ยังมีคนนับไม่ถ้วนที่ต้องการจะเข้ามาสังหารข้า
หากพวกเขาพุ่งมาที่ข้าเพียงคนเดียวข้าย่อมไม่กลัว แต่เมื่อพวกเขาทำร้ายข้าไม่ได้กลับคิดวิธีไปทำร้ายคนรอบข้างของข้า นั่นมันทำให้ข้าตายทั้งเป็น
หลังจากเข้ามาในดินแดนลับนี้แล้วข้าก็สาบานว่าข้าจะไม่ทนอีกต่อไป เพื่อปกป้องคนรอบข้างสุดท้ายก็มีเพียงต้องฆ่าวิธีเดียว ฆ่าจนมีกระโหลกกองเป็นภูเขา ฆ่าจนเลือดนองดั่งแม่น้ำ ฆ่าจนพวกเขาเกิดความกลัวในใจจนไม่กล้าคิดร้าย แบบนี้คนรอบข้างข้าถึงจะปลอดภัย”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลงเฉิน เมื่อได้มองใบหน้าและแววตาของหลงเฉิน ในใจของลู่ฟางเอ๋อก็เกิดเจ็บปวดขึ้นมา หลังของหลงเฉินต้องแบกภาระมากมาย ผู้คนต่างก็เห็นแต่เพียงความโหดเหี้ยมของเขา ไม่เคยมีใครได้เห็นด้านอ่อนโยนหรือตัวตนที่แท้จริงของเขาเลย
“หลงเฉินไม่ว่าเจ้าจะเป็นวีรบุรุษหรือว่าปีศาจ ข้ากับม่งฉีก็จะอยู่ข้างเจ้าเสมอ” ลู่ฟางเอ๋อกุมมือหลงเฉินแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“ฮ่า ฮ่า ขอบคุณฟางเอ๋อเจี่ย แต่ข้าไม่รู้ว่าหากม่งฉีรู้เรื่องของข้าแล้วนางจะ……” หลงเฉินมีความรู้สึกอาย
เห็นได้ชัดว่าลู่ฟางเอ๋อไม่เข้าใจความหมายของหลงเฉิน นางมองไปที่หลงเฉินแล้วกล่าวขึ้น “ก็ใครให้เจ้าหลายใจกันล่ะ?”
เมื่อเห็นหลงเฉินหน้าแดงลู่ฟางเอ๋อก็หัวเราะออกมา ถามด้วยความแปลกใจว่า “เจ้าโง่หรอ? ทั้งสองดินแดนนั้นต่างกัน จึงถูกอบรมเลี้ยงดูมาต่างกัน พวกนางย่อมไม่เกิดความอิจฉาริษยา แต่ว่าข้าขอเตือนเจ้าหากในภายหน้า ถ้าข้างกายเจ้ามีผู้หญิงมากมายแล้วไม่สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสงบได้มันก็จะวุ่นวาย ถึงเวลานั้นหากไม่มีวิธีแก้ไขก็จะลำบาก”
ได้ยินลู่ฟางเอ๋อกล่าวอย่างนี้หลงเฉินก็วางใจไม่น้อย ผู้หญิงข้างกายเขาต่างก็สูงส่งไร้มลทิน น่าจะอยู่ร่วมกันได้ดี
หนึ่งวันผ่านไป เมื่อทั้งสองคนเข้าไปถึงใจกลางพงไพรแห่งความมืดทันใดนั้นก็เกิดเสียงระเบิดขึ้น ขณะนั้นเองก็มีลมขนาดใหญ่พัดมา พร้อมกลิ่นประหลาดทำให้สีหน้าของหลงเฉินเปลี่ยนแปลงไปในทันที