เงารัตติกาลใต้แสงจันทรา – ตอนที่ 84 ไม่ได้คลาดกันกับท่าน ยินดี

มู่ซิ่วตะลึง สายตาที่มองมู่อวิ๋นซีเต็มไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจและเสียใจ นางทำท่าทีราวกับจะพูดกระไร
มู่อวิ๋นซีไม่รอนางตอบคำ พลันหมุนตัวจากไป
“อวิ๋นซี!”
มู่ซิ่วร้อนใจนัก รีบตามไป มู่อวิ๋นซีชะงักฝ่าเท้า หันไปมองมู่ซิ่วที่ตามมาจนถึงหน้าประตู พริบตานั้น ความกล้าหาญของมู่ซิ่วหายสิ้น มือจับมู่ลี่ประตูแน่น ริมฝีปากขยับหากมิได้เอ่ยคำใดออกมา
ลมหนาวพัดมา จนปอยผมนางพัดเข้าใบหน้า ดวงตาแดงเรื่องนั้น ท่าทางอ่อนแอทุกข์ทนที่พูดไม่ออกนั้น
ความเด็ดขาดของมู่อวิ๋นซีเกิดรอยร้าวขึ้น และรอยร้าวนั้นค่อยๆเพิ่มมากขึ้น
นางพลันหันหัวกลับมา ไม่มองท่าทางดุจวิญญาณออกจากร่างของมู่ซิ่วอีก หากในใจยังคงรู้สึกอยู่
ในยามที่นางกำลังอึดอัดใจ หางตาพลันจับร่างคุ้นเคยได้ เมื่อมองไป พบว่าเป็นเฟิ่งเชียนเย่ที่ใส่เสื้อคลุมยืนพิงเสาแดงของทางกลับมองนางอยู่ พอเห็นนางมองมา เขายิ้มมุมปาก สายตาเย็นชาแปรเปลี่ยนเป็นอบอุ่น ราวกับลมฤดูใบไม้ผลิพัดผ่านมา
ความอึดอัดในใจมู่อวิ๋นซีมลายสิ้น การก้าวเดินที่หนักอึ้งเปลี่ยนเป็นเร็วเบา เพียงไม่กี่ก้าวก็เดินไปถึงเขา นางเอียงหัวจ้องเขา ดูสบายตายิ่งนัก “เหตุใดท่านจึงอยู่ที่นี่?”
“มีเรื่องสนุกจะบอกเจ้า”
เฟิ่งเชียนเย่กวาดตามองรอบด้าน เห็นคนรับใช้ สาวใช้ต่างรีบร้อนตระเตรียมอาหารค่ำ ไม่มีใครสนใจพวกเขาถึงเอ่ยขึ้น “ตอนบ่ายข้าเห็นท่านหมอมากมายไปที่ลานช่างยิน เดิมคิดว่าพวกเขาไปเถียงปรึกษากันเรื่องอาการป่วยขององค์หญิงใหญ่ เลยแอบตามไปดู ใครจะรู้พวกเขากำลังศึกษายาสร้างเนื้อ”
“ฮูหยินเล็กเติ้งมียาสร้างเนื้อได้อย่างไร?” มู่อวิ๋นซีสงสัย
หากยามที่คำพูดออกปาก นางพลันเดาคำตอบออก มู่จื่อชวนพึ่งขอยาสร้างเนื้อสองเม็ดจากนางไป ฮูหยินเล็กเติ้งก็มียาสร้างเนื้อมาศึกษาแล้ว เห็นได้ชัดว่า ยาสร้างเนื้อสองเม็ดนั้นคงต้องไปอยู่ในมือฮูหยินเล็กเติ้งแน่

“ดังนั้นการที่มู่ซิ่วเข้าคุกเป็นกลลวงฉากหนึ่ง เป้าหมายเพื่อยาสร้างเนื้อ?”
“ไม่เพียงแค่นั้นไ เฟิ่งเชียนเย่ยกมือขึ้นคลายคิ้วขมวดมุ่นของมู่อวิ๋นซีออก “เพื่อเอาใจผิงจุ่นซือด้วย”
มู่อวิ๋นซีหันไปมองห้องรม ไร้ร่างของมู่ซิ่วแล้ว นางหลอกตนแท้ๆ เหตุใดยังแสร้งทำน่าสงสารอีก?
“พวกเขาวางแผนจะซื้อยาสร้างเนื้อกับเจ้า”
“ไม่ขาย” ชาติก่อนนางโง่เพียงใดกัน พอกลับมาก็มอบของเหล่านี้ให้กับมู่เซิ่งไปเสียสิ้น
“ไม่ ต้องขาย”
มู่อวิ๋นซีมองเฟิ่งเชียนเย่อย่างสงสัย หากเห็นสายตาเจ้าเล่ห์ของเขาที่จับจ้องมายังนาง พลันใจกระตุกเล็กน้อย “ใช่ ต้องขาย แต่ควรเป็นใครซื้อเล่า?”
นางครุ่นคิดชั่วครู่ สายตาพลันเป็นประกาย “ท่านรู้จักท่านชายตงหลีหรือไม่?”
ร้านค้าของตลาดตงซื่อเกือบเก้าส่วนแซ่มู่ ส่วนร้านค้าของตลาดซีซื่อ ก่อนหน้านี้กว่าครึ่งตกเป็นของท่านชายตงหลี หากในระยะครึ่งเดือนมานี้กว่าเก้าส่วนล้วนตกเป็นของท่านชายตงหลีแล้ว นอกจากเขาแล้ว ลางทีคงมิมีใครกล้าแข่งกับมู่เซิ่งแล้ว
ไม่รอเฟิ่งเชียนเย่ตอบคำ มู่อวิ๋นซีกล่าวต่อว่า “ว่ากันว่าท่านชายตงหลีไปมาไม่แน่นอน คนที่เคยเจอคนจริงๆมีไม่กี่คน ดังนั้นข้าเดาว่ามู่เซิ่งไม่เคยเจอเขามาก่อนแน่ แบบนี้พวกเราสามารถหาคนมาปลอมตัวเป็นท่านชายตงหลีได้เลย”
นางจะขายยาสร้างเนื้อต่อหน้ามู่เซิ่ง พวกเขาจะได้มิมาตอแยนางอีก
เฟิ่งเชียนเย่อึ้งเล็กน้อย ก่อนยิ้มมุมปาก “ได้”
มู่อวิ๋นซีใจกระตุก ลมหนาวยะเยือกที่พัดมาพลันอบอุ่น อากาศร้อนชื้นพลันมีกลิ่นอายหวานอ่อนๆแทรกอยู่

ต่อให้มู่จื่อชวนเลือกมู่ซิ่ว ต่อให้มู่ซิ่วทำร้ายนาง นางยังมีเขาอยู่
“เชียนเย่!”
นางเรียกชื่อเขาแผ่วเบา และยิ้มหวานเมื่อสบเข้ากับความตะลึงเล็กน้อยของเขา “ชาตินี้สิ่งที่ข้าโชคดีที่สุดคือ มิได้คลาดกับท่าน”
ชาติก่อนนางช่วยเขา แต่มิได้เอ่ยวาจาใด ก็จากไปเลย
โชคดี ชาตินี้นางมาเร็วทันเวลา
เมฆสีแดงเป็นชั้นๆบนท้องฟ้าทางทิศตะวันตกเริ่มจางหาย ความมืดคืบคลานเข้ามากลืนกินลานหย่งเหอ
แสงตะเกียงที่ถูกตกแต่งในห้องรมตงส่องสว่าง เพื่อดูแลองค์หญิงใหญ่ จึงมิได้ใช้โต๊ะกลมเฉกเช่นทุกวัน หากทุกคนมีโต๊ะเตี้ยคนละตัว และกางออกหน้าตั่งขององค์หญิงใหญ่เรียงไปตามลำดับ อาหารเลิศรสถูกแบ่งออกเป็นจานเล็กส่งไปที่โต๊ะเตี้ยหน้าทุกคน
ในงาน มู่เซิ่งและฮูหยินเล็กเติ้งจงใจเอาใจมู่ซิ่วและมู่อวิ๋นซี มู่จื่อหลันป้อนข้าวซานเอ๋อร์จนอิ่มแล้วส่งเขาไปที่หน้าองค์หญิงใหญ่ แม่นมที่รับใช้คอยหยอกล้อจนซานเอ๋อร์หัวเราะร่วน ใบหน้าที่เหี่ยวย่นขององค์หญิงใหญ่ถูกบรรยากาศพาไปจนยิ้มน้อยๆออกมา
เตาผิงอันอบอุ่น เสียงหัวเราะครึกครื้น บรรยากาศอันเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขนี่…ทันใดนั้นทำให้มู่อวิ๋นซีงุนงงไปชั่วครู่ พริบตานั้นนางแยกไม่ออกว่าภาพความผาสุกเบื้องหน้านี้เป็นความจริง หรือภาพที่มู่เซิ่งด่านางว่าเป็นลูกทรพีคือความจริงกันแน่?
“คุณหนูรอง!”

น้ำเสียงอันอ่อนโยนของฮูหยินเล็กเติ้งดึงมู่อวิ๋นซีตื่นจากภวังส์ นางหันไปตามเสียง สีหน้านางถูกภาพผาสุกเบื้องหน้าทำให้มีรอยยิ้มอ่อนโยนจางๆ
“ยินดีกับคุณหนูรองเจ้าค่ะ” ฮูหยินเล็กเติ้งยิ้มระรื่นใส่มู่อวิ๋นซี พลางยกจอกเหล้าสีขาวในมือขึ้น จากนั้นเหล่มองมู่เซิ่งที่นั่งอยู่เหนือนาง
“นายท่าน อย่างใดพวกเราคารวะคุณหนูรองพร้อมกันหนึ่งจอกไหมเจ้าคะ ยินดีที่นางรับการค้าจากทางวังหลวง เมื่อก่อนในวังแม้จะเลือกแป้งชาดจากแดงดุจท้อ หากมิเคยได้เงินมากมายเท่านี้มาก่อน ได้ยินว่าฮองเฮาเป็นผู้เลือก แป้งประทินโฉมจากแดงดุจท้อเองเลย ได้ยินว่าจะทำเป็นของขวัญปีใหม่มอบให้กับสนมในวัง”
มู่เซิ่งผงกหัว ยิ้มร่วมหันไปทางองค์หญิงใหญ่ที่อยู่บนตั่ง “พี่สะใภ้ ท่านได้ยินแล้วหรือไม่? อวิ๋นซีเก่งนัก ฮองเฮาออกปากต้องการแป้งประทินโฉมที่นางทำขึ้นใหม่”
องค์หญิงใหญ่อ๋าออกมาหนึ่งคำ สายตามองไปทางมู่อวิ๋นซีอย่างยากลำบาก รอยยิ้มบนใบหน้าเพิ่มมากขึ้นอีกขั้น
มู่เซิ่งเองก็มองตามสายตาองค์หญิงใหญ่ไปที่มู่อวิ๋นซี “อวิ๋นซี เจ้าทำให้ดี ถ้าฮองเฮาพอพระทัย มิแน่ว่าอาจจะเรียกเจ้าเข้าเฝ้า ถึงเวลานั้นหากถามเจ้าว่าต้องการของรางวัลอันใดไหม เจ้าสามารถขอร้องพระนางให้ขอร้องฮ่องเต้แทนเจ้า ไม่แน่การกักบริเวณขององค์หญิงอาจจะถูกยกเลิกก็เป็นได้”
มู่อวิ๋นซีนั่งหลังตรงฉับพลัน สายตาที่มองไปทางมู่เซิ่งมิได้ปกปิดความรู้สึกอันแท้จริงต่อหน้ามู่เซิ่งเป็นครั้งแรก น้ำเสียงที่เปล่งออกมาสั่นเทาเล็กน้อยด้วยความตื่นเต้น “ทำเยี่ยงนั้นได้จริงรึ?”
ฮูหยินฉินตื้นตันใจยิ่งนักเมื่อหยกวิไลของตนช่วยรักษาใบหน้านาง นางช่วยตนป่าวประกาศไปไม่น้อย จนถึงกระทั่งยังนำแป้งประทินโฉมของหยกวิไลที่ตนใช้เหลือเล็กน้อยมอบให้กับฉินเหม่ยเหริน*ในวังหลวง ฉินเหม่ยเหรินก็ถวายต่อฮองเฮา ดังนั้นจึงมีเรื่องคนในวังมาสั่งทำแป้งประทินโฉมที่แดงดุจท้อในวันนี้(*ฉินเหม่ยเหริน พระสนมของฮ่องเต้ ตำแหน่งต่ำฮองเฮาเยอะ)
“แน่นอน” มู่เซิ่งถอนหายใจยาว “เดิมท่านย่าเจ้ารับเคราะห์แทนผู้อื่นอยู่แล้ว มาวันนี้ร่างกายนางมิสู้ดี หากมีฮองเฮาช่วยขอร้อง ลางทีฮ่องเต้น่าจะรับปาก”
มู่อวิ๋นซีเบนสายตาไปทางองค์หญิงใหญ่ที่กลืนน้ำลายอยู่บนตั่ง ก่อนตัดสินใจ ต่อให้มีความหวังแม้เพียงเล็กน้อย นางก็จะลองดู นางอยากให้องค์หญิงใหญ่ได้เห็นภาพด้านนอกลานหย่งเหอ
“ไม่ว่าจะพูดอย่างไร จอกนี้พวกเราจะร่วมกันคารวะเจ้า” มู่เซิ่งหัวเราะเหอะๆ ยกจอกเหล้าหันไปทางมู่อวิ๋นซีด้วยสีหน้ามีเมตตา
คนที่เหลือพากันยกจอกเหล้าขึ้น มองมู่อวิ๋นซีด้วยใบหน้าเปี่ยมรอยยิ้ม
“ขอบใจ!” มู่อวิ๋นยกจอกขึ้น “เพื่อองค์หญิง”
นางดื่มเหล้าในจอกจนหมด จอกเหล้าวางลงกับโต๊ะดังแกร๊ก น้ำเสียงอ่อนโยนของฮูหยินเล็กเติ้งพลันดังขึ้นอีก “คุณหนูรอง ไม่ทราบว่าท่านรู้เรื่องตัวยาด้วยหรือเจ้าคะ?”

เงารัตติกาลใต้แสงจันทรา

เงารัตติกาลใต้แสงจันทรา

Comment

Options

not work with dark mode
Reset