เจ้าของร้านพิศวง [我真不是邪神走狗] – ตอนที่ 241

บทที่ 241 : ประตูแห่งสัจธรรม

ปุ้บ!

หลินเจี๋ยวางหนังสือไว้บนเคาน์เตอร์

ชื่ออีกชื่อของ ‘ขุมทรัพย์สุดปลายฝัน’ ในภาษาจีนคือ ‘การเดินทางสุดวิเศษของเด็กหนุ่มเลี้ยงแกะ’ แต่ชื่อแปลนี้ไม่ได้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางเท่ากับชื่อหลักของมัน แต่มันตรงกับเนื้อหาของหนังสือมากกว่า

เนื้อเรื่องของมันเรียบง่ายมาก มันเป็นการเล่าเรื่องราวของเด็กหนุ่มเลี้ยงแกะที่ฝันถึงสมบัติที่อยู่ในพีระมิดอียิปต์ และความยากลำบากที่เขาได้ประสบระหว่างการค้นหาสมบัติ ที่ซึ่งเขาได้รับพลังลึกลับและได้พบกับความรัก

ทว่าเมื่อเขาได้มาถึงพีระมิดในท้ายที่สุด เขากลับไม่สามารถหาสมบัติใด ๆ ได้เลย แล้วสุดท้ายเขาก็ได้ตระหนักว่าสมบัตินั้นอยู่ในโบสถ์ร้างที่เขาไปนอนหลับฝันในครั้งแรกนั่นต่างหาก

หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือเชิงเปรียบเทียบที่คลาสสิกสุด ๆ ที่ไม่ว่าใครในทุกเพศทุกวัยก็สามารถตีความความจริงออกมาได้ต่างกัน และต่างก็ได้แรงบันดาลใจจากมันในรูปแบบต่าง ๆ กันไป

มันสามารถถือได้ว่าเป็นหนังสือที่ดีสำหรับทุกเพศทุกวัย

หรือพูดอีกอย่างก็คือ หนังสือเล่มนี้ขายดีแน่ ๆ และคนส่วนใหญ่จะเปิดใจอ่านมันได้เมื่อถูกแนะนำ

หลินเจี๋ยมักจะเลือกหนังสือขายดีให้กับลูกค้าที่เขาไม่รู้จักเท่าไหร่ และไม่รู้จะหาทางเยียวยาปัญหาของพวกเขาให้ถูกต้องได้อย่างไร

ยิ่งกว่านั้น รองประธานคนนี้ยังดูเหมือนเขากำลังตกที่นั่งลำบากอยู่ ในฐานะผู้ศึกษาวิถีชาวบ้าน หลินเจี๋ยจึงพอรู้วิธีดูโหงวเฮ้งแบบจีนอยู่นิดหน่อย

แสกหน้าสีเข้ม แสดงให้เห็นว่าช่วงนี้ไม่ดีนักสำหรับเขา และเขาต้องการพลังบวกมาเยียวยาสักหน่อย…

“มีภาษาแห่งจักรวาลประเภทหนึ่งที่ไม่ว่าใครก็เข้าใจมันได้ แต่มันกลับถูกลืมเลือนไปแล้ว”

หลินเจี๋ยชี้หน้าปกด้วยสีหน้าสื่อความนัยแล้วพูดว่า “หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับภาษาประเภทนั้นครับ และทุกคำตอบที่คุณหาอยู่จะอยู่ในนี้แหละ”

ผู้แต่งเรื่องขุมทรัพย์สุดปลายฝันไม่ได้เขียนเรื่องการเล่นแร่แปรธาตุอย่างที่ชื่อของมันแสดงจริง ๆ หรอก แต่เขาหมายถึง ‘การแปรธาตุของจิตใจและชีวิต’ ต่างหาก

อันที่จริงแล้ว ภาษาที่ถูกลืมที่หนังสือเล่มนี้อยากจะสื่อก็คือปรัชญาของหัวใจ

แน่นอนว่านั่นไม่ใช่วิธีขายหนังสือ หลินเจี๋ยไม่สามารถปรี่ไปหาแอนดรูว์แล้วบอกเขาว่าเขาขายการเยียวยาจิตใจหรอก มันต้องใช้วิธีการแบบอ้อม ๆ กันสักหน่อย

“ภาษาแห่งจักรวาล…” แอนดรูว์แทบนั่งไม่ติดแล้วเมื่อเขาได้เห็นชื่อหนังสือ ‘ประตูแห่งสัจธรรม’ เมื่อเขาได้ยินคำพูดล่าสุดของหลินเจี๋ย เขาก็เริ่มสั่นไปทั้งร่าง

ราวกับผู้แสวงบุญที่ออกเดินทางเพื่อปลุกจิตวิญญาณให้ตื่นขึ้น เขาสูดหายใจลึก ๆ แล้วยื่นนิ้วของเขาไปสัมผัสรูปร่างของหนังสือ

ขุมทรัพย์สุดปลายฝัน!

ขุมทรัพย์สุดปลายฝัน!

นี่คือความหมายที่แท้จริงของขุมทรัพย์สุดปลายฝัน นั่นคือภาษาแห่งจักรวาล!

เหมือนอย่างเจ้าของร้านหนังสือว่า นี่คือหนังสือสำหรับเหล่านักเล่นแร่แปรธาตุ!

ชื่อเต็มของแอนดรูว์คือแอนดรูว์ รุสเซล

นามสกุลและตระกูลของเขานั้นขึ้นชื่อเรื่องการเล่นแร่แปรธาตุ

ยิ่งกว่านั้น แม้ว่าแอนดรูว์จะก้าวขาเข้าไปในวงการอื่น ๆ มากมาย แต่ทั้งหมดนั้นต่างถูกความสำเร็จด้านการเล่นแร่แปรธาตุของเขากลบรัศมีเสียมิด

ก่อนที่เขาจะมาเป็นรองประธาน แอนดรูว์เคยเป็นหัวหน้าฝ่ายเล่นแร่แปรธาตุของสมาคมแห่งสัจธรรมมาก่อน

ทว่าในตอนนั้น ไม่มีนักวิชาการคนใดในสมาคมแห่งสัจธรรมที่ประสบความสำเร็จในด้านเล่นแร่แปรธาตุได้เทียบเท่าวัลเตอร์ หัวหน้าฝ่ายเล่นแร่แปรธาตุคนปัจจุบันเลย ดังนั้นแอนดรูว์จึงทำได้เพียงยกตำแหน่งของตัวเองให้

และด้วยเหตุผลนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างแอนดรูว์และวัลเตอร์จึงไม่ได้กลมเกลียวกันนัก

หนอนเฟืองนาฬิกานั้นเป็นผลงานการเล่นแร่แปรธาตุของตระกูลเขา และแป้นทับทิมบนเครื่องกลนั้นก็ถูกสร้างจากศิลานักปราชญ์ที่บริสุทธิ์ที่สุดที่พวกเขาจะสังเคราะห์ขึ้นมาได้ในปัจจุบัน

พลังงานส่วนใหญ่ที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมเพื่อการควบคุมเวลานั้นมาจากศิลานักปราชญ์

ดวงตาของแอนดรูว์จ้องเขม็งที่หนังสือตรงหน้าเขาราวกับตกในภวังค์

ความคิดของเขาอาละวาดไปทั่ว เซลล์ในร่างของเขากำลังกรีดร้อง สัญชาตญาณในฐานะนักเล่นแร่แปรธาตุบอกเขาว่าหนังสือเล่มนี้บรรจุคำตอบที่เขาตามหามาทั้งชีวิต!

“ผ…ผมเปิดมันอ่านได้ไหมครับ?”

ก่อนที่เขาจะรู้ตัว เสียงของแอนดรูว์ก็กลับกลายเป็นเสียงอ่อน ระมัดระวังและเต็มไปด้วยการวิงวอนและความกระตือรือร้นไปแล้ว สายตาของเขามุ่งไปที่หนังสือราวกับว่ามันคือสมบัติที่เลอค่าที่สุดในโลก

หัวใจของเขาเต้นแรง ปากของเขาแห้งผาก ในตอนนี้เขาประหม่ายิ่งกว่าในสมัยหนุ่มที่เขามีสัมพันธ์รักกับสุภาพสตรีบางคนเป็นครั้งแรกเสียอีก

คนอื่นไม่เข้าใจหรอก หากนี่คือเป้าหมายสุดท้ายที่นักเล่นแร่แปรธาตุทุกคนเสาะหาล่ะก็ พวกเขาจะทิ้งได้ทุกอย่างเพื่อมัน

นักวิชาการทุกคนต่างไล่ตามสัจธรรม แม้ว่าพวกเขาอาจจะมีหนทางและวิธีการที่ต่างออกไป แต่พวกเขาต่างค้นหาสัจธรรมของโลกและจักรวาล

นี่คือเหตุผลที่สมาคมแห่งสัจธรรมถูกก่อตั้งขึ้น และเป็นวิสัยทัศน์ที่พวกเขาไล่ตามอย่างแข็งขัน

แต่ตอนนี้ แอนดรูว์มีความรู้สึกลาง ๆ ว่าสัจธรรมถูกวางไว้ตรงหน้าเขาอย่างง่ายดายแล้ว

ไร้สาระสิ้นดี…

แอนดรูว์ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขาเคยสงสัยว่าทำไมบุคคลผู้ภาคภูมิอย่างไวลด์ถึงขายวิญญาณของเขาให้ร้านหนังสือ ทำไมโจเซฟถึงได้ละทิ้งความแค้นส่วนตัวของเขาแล้วเทิดทูนบูชาร้านหนังสือขนาดนี้ กระทั่งหอพิธีกรรมต้องห้ามยังยอมหยุดความสัมพันธ์เชิงร่วมมือกับสมาคมแห่งสัจธรรมในการสืบสวนเรื่องร้านหนังสือนี้

เขาก็ไม่สามารถเข้าใจการล่มสลายของโบสถ์แห่งจุดสูงสุดและการก่อตั้งศาสนาใหม่ที่ได้รับอิทธิพลจากร้านหนังสือได้ด้วย เพราะระดับเหนือนภาที่แข็งแกร่งกว่าคนอื่น ๆ ก็ทำเรื่องแบบนี้ได้เหมือนกัน แค่ว่าพวกเขาอยากลงทุนลงแรงแค่ไหนเท่านั้นเอง

ทว่าเขาเข้าใจขึ้นมากะทันหันเมื่อเจ้าของร้านหนังสือวางหนังสือเล่มนี้ตรงหน้าเขา

อะไรจะเกิดขึ้นถ้าสิ่งที่ผู้คนเสาะหามาตลอดชีวิตมีค่าแค่หนังสือที่จะสุ่มหยิบมาง่าย ๆ ตอนไหนก็ได้?

เมื่อสิ่งที่คน ๆ หนึ่งเชื่อมาโดยตลอดพังทลายลง แล้วพวกเขาจะยังพึ่งพาอะไรได้อีก?

“แน่นอนครับ” หลินเจี๋ยผลักหนังสือไปหาเขาแล้วพูดตามจริง “หนังสือมีไว้ให้อ่านครับ ผมคิดว่าหนังสือเล่มนี้เหมาะสมกับคุณมาก บางทีมันอาจช่วยคุณจากปัญหาในตอนนี้ของคุณได้ก็ได้นะครับ”

เจ้าของร้านหลินแย้มยิ้มเมตตา

พอคุณได้อ่าน คุณก็จะต้องซื้อมันแหละ…ฮี่ ๆ มองแวบเดียวเราก็รู้แล้วว่าเขาเป็นลูกค้ากระเป๋าหนักที่ถือหน้าตาตัวเองมาก ถ้าเขาอยากสร้างความประทับใจดี ๆ เขาก็ต้องซื้อมันอยู่ดีแม้จะไม่อยาก

แอนดรูว์ชะงักนิ่ง

เป็นของขวัญที่ใจกว้างเหลือเกิน…นี่คือความหมายของคำว่า ‘สัจธรรมคือการเสียสละ’

“คุณไม่เชื่อผมเหรอครับ?” หลังจากสังเกตเห็นสีหน้าที่นิ่งค้างของแอนดรูว์ หลินเจี๋ยก็จิบชายาว ๆ หนึ่งทีแล้วคิดว่าแอนดรูว์คงเคลือบแคลงในสิ่งที่เขาเพิ่งพูด

ดังนั้นหลินเจี๋ยจึงตุ๋นเขาต่อด้วยรอยยิ้มเจิดจ้า “เหมือนที่หนังสือเล่มนี้เปิดเผยครับ เมื่อใดที่คุณตัดสินใจ คุณจะตกลงไปในกระแสน้ำขนาดใหญ่ที่จะนำคุณไปในที่ที่คุณไม่เคยคิดถึงมันเมื่อตัดสินใจ ประสบการณ์ของทุก ๆ คนบนโลกเชื่อมต่อกันจากกระแสน้ำนี้ครับ”

“นั่นแหละเหตุผลว่าทำไมเรารู้ทุกอย่างได้ เพราะทุกสิ่งถูกลิขิตไว้แล้วครับ”

หลินเจี๋ยพูดต่อด้วยรอยยิ้มลึกลับ “วันนี้ เมื่อคุณได้เห็นหนังสือเล่มนี้ ที่จริงคือคุณกำลังเผชิญตัวเลือกและทางแยกแห่งโชคชะตา และสักวันในอนาคต คุณจะรู้เองว่าทางเลือกของคุณถูกหรือผิดครับ”

แม้ว่าการเลือกใช้คำของเขาจะเต็มไปด้วยความคลุมเครือ แต่คนที่ได้ยินมันจะลังเลไปครู่หนึ่งแน่นอน

เขาอาจเสียใจภายหลังไปสักพักหากเขาซื้อมัน หรือเขาอาจเสียใจไปตลอดชีวิตถ้าเขาไม่ซื้อมัน

ตาชั่งในใจของเขาจะผันแปร ทำให้เขาคิดว่าในเมื่อมันไม่แพง เขาก็ควรซื้อมันไปลองอ่านดูหน่อย

แอนดรูว์กลืนน้ำลาย โชคชะตาเหมือนถูกแบ่งเป็นทางเดินสองเส้นตรงหน้าเขาแล้ว

เขาหลับตาลงแล้วเอื้อมมือสั่น ๆ ข้างหนึ่งไปเปิดหนังสือออก

“ผมคิดว่าผมคงไม่เสียใจในทางเลือกของผมในวันนี้หรอกครับ” เขากระซิบ

เจ้าของร้านพิศวง [我真不是邪神走狗]

เจ้าของร้านพิศวง [我真不是邪神走狗]

IRNDGL, I’m Really Not the Evil God's Lackey, 我真不是邪神走狗
Score 9
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2020 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง เจ้าของร้านพิศวง [我真不是邪神走狗]Lin Jie เป็นเจ้าของร้านหนังสือในอีกโลกหนึ่ง เขาเป็นคนใจดีและอบอุ่น มักจะแนะนำหนังสือการรักษาให้กับลูกค้าที่กำลังผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก ในบางครั้งเขาแอบโปรโมตงานของเขาเองด้วย เมื่อเวลาผ่านไป ลูกค้าเหล่านี้เริ่มให้ความเคารพเขาอย่างมาก บางคนถึงกับนำอาหารพิเศษประจำท้องถิ่นมาตอบแทนบุญคุณของเขาบ่อยๆ พวกเขามักจะขอความเห็นจากมืออาชีพเมื่อต้องเลือกหนังสือ และแบ่งปันประสบการณ์กับเจ้าของร้านหนังสือธรรมดาๆ คนนี้ให้คนรอบข้างฟัง พวกเขาเรียกเขาด้วยความเคารพและสนิทสนมโดยใช้ชื่อต่างๆ เช่น “ลูกสมุนของเทพปีศาจ”, “ผู้เผยแผ่ข่าวประเสริฐแห่งเนื้อและเลือด”, “'ผู้แต่งพิธีกรรมและศุลกากรแห่งนิกายกินศพ” และ “ผู้เลี้ยงแกะแห่งดวงดาว”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset