เจ้าของร้านพิศวง [我真不是邪神走狗] – ตอนที่ 252

บทที่ 252 : การผนึกกำลังบรรลุผล

แน่นอนว่าหลินเจี๋ยรู้ว่าศิลานักปราชญ์คืออะไร!

ในฐานะผู้ศึกษาคติชนที่วิจัยเรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติด้วย วัตถุที่มีความหมายเชิงสัญลักษณ์ของการเดินบนเส้นทางนักเล่นแร่แปรธาตุไม่ใช่ของใหม่สำหรับชายหนุ่มเลย

ความหมกมุ่นในศิลานักปราชญ์ของนักเล่นแร่แปรธาตุจากซีกโลกตะวันตกนั้นคล้ายกับเหล่านักพรตเต๋าจีนที่ไขว่คว้าหาโอสถอมตะและยาอายุวัฒนะต่าง ๆ

มนุษย์นั้นหวังจะสร้างสิ่งที่สามารถเติมเต็มความปรารถนาใด ๆ ได้อยู่เสมอ แต่ในความเป็นจริงแล้ว นอกจากศิลานี้ พวกเขาก็จบลงด้วยการสร้างอะไรก็ไม่รู้บ้าบอไปหมด มอง ๆ ไปนี่ก็นับได้ว่าเป็นการเติมเต็มทุกความปรารถนาของพวกเขาได้เช่นกัน…

และในอาซีร์ แนวคิดของนักเล่นแร่แปรธาตุ ศิลานักปราชญ์ และอื่น ๆ ก็ดูไม่ต่างกันเลย ถึงแม้จะไม่มีใครทำสำเร็จก็ตาม

สิ่งที่น่าจดจำไว้ก็คือศิลานักปราชญ์ก็ถูกเรียกว่าเป็นธาตุที่ห้าด้วย หรือก็คืออีเธอร์ บ่อยครั้งที่หลินเจี๋ยมักสงสัยว่าทั้งสองสิ่งอาจจะเป็นสองด้านของเหรียญก็ได้

เมื่อความคิดของเขาถูกนำมายังจุดนี้ได้ คิ้วที่ขมวดอยู่ของเจ้าของร้านหลินก็คลายออกในขณะที่เขาครุ่นคิดต่อ เขาพอจะเดาได้สองสามอย่างจากประเด็นที่เจโรมเป็นไส้ศึกที่วิถีแห่งดาบอัคคีส่งมาแทรกแซงสมาคมแห่งสัจธรรม

วิถีแห่งดาบอัคคีซับซ้อนกว่าที่เขาคิด

มันเป็นองค์กรลับอันทะเยอทะยานที่ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อแสวงหาพลังที่หลงเหลือจากยุคเหนือธรรมชาติ และมีพลังที่สามารถหนุนจุดประสงค์นั้นได้

ประสบการณ์เก่า ๆ ของหลินเจี๋ยที่สั่งสอนเจ้าหนูไมค์ได้ทำให้เขาพอจะหยั่งได้ว่าองค์กรนี้อาจมีพลังเหนือธรรมชาติบางอย่างซุกซ่อนอยู่ ถึงจะขาดความแข็งแกร่งก็ตามที

เพราะถึงอย่างไร พื้นฐานง่อย ๆ ที่เรียนมาจากซิลเวอร์ได้แค่ไม่กี่เดือนของหลินเจี๋ยจะไปทำอะไรผู้มีพลังเหนือธรรมชาติตัวจริงได้ล่ะ?

แต่ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นมากมายเป็นล้นพ้นเมื่อเทียบกับคนธรรมดาสักคน

ดังนั้น ถ้าคิดว่า ‘เทวดา’ คนอื่น ๆ ของวิถีแห่งดาบอัคคีอยู่ในระดับเดียวกับมิคาเอลแล้ว ถึงหลินเจี๋ยจะพบว่ามันช่างตลกสิ้นดีที่เจ้าพวกจูนิเบียวพวกนี้จะมองว่าตัวเองสูงส่งหรือศักดิ์สิทธิ์ก็เถอะ ลำพังการมีอยู่ขององค์กรนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะเป็นภัยต่อนอร์ซินได้ราวกับเป็นระเบิดเวลา (ถึงแม้ว่าหลินเจี๋ยจะไม่ได้ประเมินความแข็งแกร่งที่ชัดเจนได้ก็ตาม เพราะกาเบรียลตายเร็วเกินไปและมิคาเอลก็หลบหนี)

ยังไม่รวมว่าองค์กรนี้ได้ใช้ยุทธการแทรกซึมระดับสูงที่เที่ยวหว่านไส้ศึกเข้าองค์กรอื่น ๆ ทั้งหมดด้วย

ไม่จำเป็นต้องพูดนักเกี่ยวกับโบสถ์แห่งจุดสูงสุด อำนาจเน่าเฟะนี้ได้อยู่ภายใต้ปกครองของวิถีแห่งดาบอัคคีโดยสมบูรณ์แล้ว

เมื่อเร็ว ๆ นี้เชอร์รี่ก็ค้นพบว่าคอนกรีฟ น้องชายของเธอได้แอบนำของเถื่อนไปจ่ายให้แก่วิถีแห่งดาบอัคคี และทางออกของเรื่องนี้ยังไม่ชัดเจน

แล้วตอนนี้ องค์กรนักวิชาการอย่างสมาคมแห่งสัจธรรมก็ยังมีไส้ศึก…

ไม่ยากเลยที่จะจินตนาการว่ากรมตำรวจประจำนอร์ซินที่โจเซฟกับคล็อดประจำอยู่ก็อาจจะมีไส้ศึกจากวิถีแห่งดาบอัคคีชอนไชอยู่ด้วยเหมือนกัน

เมื่อมิตรนั่งนิ่งในที่แจ้งในขณะที่ศัตรูหลบอยู่ในที่ลับ สถานการณ์ก็ไม่ได้ดูดีเท่าไหร่

โชคดีที่ไส้ศึกในสมาคมแห่งสัจธรรมถูกถอนออกแล้ว แต่ว่าก็คงไม่ได้มีแค่ตัวชายหนุ่มคนเดียวหรอก…

แต่ไม่ว่าอย่างไร แอนดรูว์นี่ก็เฉียบขาดจริง ๆ แฮะ ถึงได้กำจัดเจ้าหมอนี่ไปเลยแบบนี้…

หลินเจี๋ยคิด

เจโรมดูเหมือนคนที่ค่อนข้างไร้ปราณีในเมื่อเขาออกคำสั่งโดยตรงเพื่อลอบสังหารสาวน้อยอย่างพรีม่า ดังนั้นในสถานการณ์ที่มีการขัดขืนรุนแรง การจบชีวิตตัวการอันตรายแบบนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ทำได้

แต่กระนั้น การค้นคว้าศิลานักปราชญ์ไม่ใช่อะไรที่เกินความคาดหมายสำหรับองค์กรอย่างวิถีแห่งดาบอัคคีที่มีจุดประสงค์หลักคือการไขว่คว้าพลังเหนือธรรมชาติเลย

จากข้อมูลที่เขาได้รับจากหนังสือที่เขายืมมาและบันทึกการวิจัยอื่น ๆ แม้กระทั่งสมาคมแห่งสัจธรรมเองยังค้นคว้าศิลานักปราชญ์เลย

เกรงว่าศิลานักปราชญ์นี่คงไม่ได้เปลี่ยนโลหะเป็นทองได้จริง ๆ หรือมอบความอมตะให้ใครหรอก แต่คงเป็นแค่การควบแน่นอีเธอร์ด้วยวิธีบางอย่างจนจับต้องได้มากกว่า หลินเจี๋ยลูบคางคิดเล่น ๆ

ชายหนุ่มสร้างแดนนิมิตของเขาขึ้นมาได้ด้วยการควบคุมอีเธอร์ ทางทฤษฎีแล้ว ถ้าเขาเชี่ยวชาญและใช้วิธีของเขาในการครอบแดนนิมิตลงบนความจริงได้ ถ้าอย่างนั้นการเปลี่ยนความจริงตามใจชอบก็อาจเป็นไปได้ก็ได้

ดังนั้น นี่จึงสอดคล้องกับคุณลักษณะของศิลานักปราชญ์ได้อย่างพอดิบพอดี

วิถีแห่งดาบอัคคีคงเป็นแค่องค์กรเดียวที่มีอำนาจพอจะสร้างศิลานักปราชญ์ได้ ดังนั้นศิลาที่อยู่ในจุดเกิดเหตุจึงนำความเป็นไปได้อีกข้อว่า วิถีแห่งดาบอัคคีได้ชิงลงมือปิดปากไส้ศึกเพื่อไม่ให้ข้อมูลรั่วไหล

เมื่อคิดเช่นนี้ หลินเจี๋ยก็เงยหน้าขึ้นตั้งคำถาม “เจโรมตายยังไงครับ?”

เขาตายยังไง…?

ไม่ใช่ว่าเฮียควรถามตัวเองเหรอวะคะ?!

ถึงแม้ว่านี่จะเป็นสิ่งที่เด้งเข้ามาในใจของพรีม่า แต่เธอก็ยังคงตอบตามตรง “บางคนฆ่าเขาค่ะ เขานอนตายในห้องทำงานของตัวเองในตอนที่สมาคมแห่งสัจธรรมพบร่างของเขา”

ก็คงเป็นแบบนั้นแล้วล่ะ หลินเจี๋ยพยักหน้า

เขาว่าแล้วว่ามันไม่สมกับเป็นแอนดรูว์เลยที่เอะอะจะฆ่าคน ที่แท้วิถีแห่งดาบอัคคีก็เข้าถึงตัวเจโรมได้ก่อน!

ดูเหมือนว่าวิถีแห่งดาบอัคคีจะระแวดระวังกันเป็นพิเศษ…เรื่องมันไม่ง่ายจริง ๆ นั่นแหละ

หลินเจี๋ยเพิ่งขอให้แอนดรูว์พาเจโรมมา แต่ในพริบตาต่อมาเจโรมก็ไปเฝ้ารากมะม่วงแล้ว เบาะแสที่เขามีจึงถูกตัดขาด

เฮ้อ…คนอย่างเจ้าหนูไมค์ที่มีพลังเหนือธรรมชาตินี่ประมาทไม่ได้จริง ๆ!

แล้วหลินเจี๋ยก็ถาม “แล้วพี่สาวคุณล่ะ?”

พรีม่าคอตกอย่างท้อแท้เล็กน้อย “ยังไม่รู้ที่อยู่ของพี่สาวฉันเลยค่ะ…”

หลินเจี๋ยปลอบเธออยู่สักพักแล้วบอกแอนดรูว์ว่าในสมาคมแห่งสัจธรรมต้องยังมีหนอนบ่อนไส้คนอื่นอยู่นอกจากเจโรมแน่นอน

แน่นอนว่าใครก็ตามที่ฆ่าเจโรมก็ต้องเป็นคนในสมาคมแห่งสัจธรรมด้วยแน่ ๆ!

นอกจากนั้น หลินเจี๋ยก็ขอให้ส่งศิลานักปราชญ์มาที่นี่ทันที เขาก็อยากเรียนรู้เกี่ยวกับมันมากกว่านี้เช่นกัน

ที่ปลายสาย

แอนดรูว์ฟังเสียงผู้หญิงนุ่ม ๆ ที่ดังออกมาแล้วตอบอย่างเคารพ

หลังวางสาย เขาก็สำรวจห้องทำงานที่แน่นขนัด

เหตุที่ศพของเจโรม…ไม่สิ แค่ถุงหนังเปล่า ๆ ของเขายังไม่ถูกเคลื่อนย้ายในตอนนี้ก็เป็นเพราะเราต้องรักษาสภาพห้องเอาไว้ก่อนเพื่อสืบหาร่องรอยอีเธอร์

บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องทุกคน รวมถึงรองประธานแอนดรูว์ด้วย ได้มารวมกันที่จุดเกิดเหตุเพื่อสนองความสงสัย

คน ๆ เดียวที่รับหน้าที่จัดการสถานการณ์นี้คือเดียมันเต้…

ในตอนนี้แอนดรูว์หลบมุมรายงานสถานการณ์ให้กับเจ้าของร้านหนังสืออยู่ “ผมจะส่งศิลานักปราชญ์ไปให้คุณให้เร็วที่สุดครับ”

“มีคำสั่งอื่น ๆ อีกไหมครับ?”

“โอ้ ครับ…ที่อยู่ของมาร์กาเร็ตยังคงอยู่ระหว่างการสืบหาครับ”

“ผมเกรงว่าเราคงต้องขุดให้ลึกกว่านี้ในเมื่อยังมีไส้ศึกคนอื่นอยู่ ผมพอจะมีคนที่ผมสงสัยอยู่ในใจครับ แต่ผมยังต้องการอำนาจมากกว่านี้เพื่อสืบให้ลงลึกกว่านี้ครับ”

แอนดรูว์พอจับน้ำเสียงของเจ้าของร้านหลินที่อีกฟากของสายได้ลาง ๆ แล้วเสียงพรีม่าก็ตามมาทันที “ระวังตัวด้วยนะคะ”

เขาเข้าใจทันทีว่าการสนทนาฝ่ายเดียวของเขากำลังจะจบลงแล้ว

เขารู้แล้วว่ามีแค่พรีม่าที่อยู่ปลายสายในตอนนี้

“พรีม่า…คุณชื่อพรีม่าถูกไหมครับ? หลังคุณหายดีแล้ว ไม่ทราบว่าคุณสนใจจะมาแทนตำแหน่งพี่สาวคุณชั่วคราวไหมครับ?” แอนดรูว์ถามขึ้นกะทันหัน

พรีม่าลังเล และแอนดรูว์ก็อธิบายเพิ่มเติม “ผมไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะพูดแบบนี้ แต่เป็นไปได้มากเลยว่าพี่สาวของคุณตอนนี้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ ต่อให้เธอรอดกลับมาก็คงดำรงตำแหน่งต่อไม่ไหวครับ”

“ในตอนนี้ที่เจโรมตายไปแล้ว เลยมีตำแหน่งว่างที่ระดับหัวหน้าของฝ่ายเภสัชกรรมครับ คุณไม่อยากช่วยเจ้าของร้านหลินให้มากกว่านี้เหรอครับ?”

มีความร้อนรุ่มในสายตาของแอนดรูว์ในขณะที่เขาพูดเช่นนี้

ฮู้ด หลานชายของท่านประธานมาเรียยืนอยู่ในหมู่นักวิชาการแถวนั้นที่กำลังหารือกันอย่างดุเดือด เขาดูเหมือนกำลังจ้องแอนดรูว์ในขณะที่กำลังครุ่นคิด

ตอนนี้เอง แอนดรูว์ก็เงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขา

เมื่อสองตาประสาน ความคุ้นเคยที่ปะทุขึ้นกะทันหันก็ทำให้สันหลังของพวกเขาชาวาบ

เจ้าของร้านพิศวง [我真不是邪神走狗]

เจ้าของร้านพิศวง [我真不是邪神走狗]

IRNDGL, I’m Really Not the Evil God's Lackey, 我真不是邪神走狗
Score 9
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2020 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง เจ้าของร้านพิศวง [我真不是邪神走狗]Lin Jie เป็นเจ้าของร้านหนังสือในอีกโลกหนึ่ง เขาเป็นคนใจดีและอบอุ่น มักจะแนะนำหนังสือการรักษาให้กับลูกค้าที่กำลังผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก ในบางครั้งเขาแอบโปรโมตงานของเขาเองด้วย เมื่อเวลาผ่านไป ลูกค้าเหล่านี้เริ่มให้ความเคารพเขาอย่างมาก บางคนถึงกับนำอาหารพิเศษประจำท้องถิ่นมาตอบแทนบุญคุณของเขาบ่อยๆ พวกเขามักจะขอความเห็นจากมืออาชีพเมื่อต้องเลือกหนังสือ และแบ่งปันประสบการณ์กับเจ้าของร้านหนังสือธรรมดาๆ คนนี้ให้คนรอบข้างฟัง พวกเขาเรียกเขาด้วยความเคารพและสนิทสนมโดยใช้ชื่อต่างๆ เช่น “ลูกสมุนของเทพปีศาจ”, “ผู้เผยแผ่ข่าวประเสริฐแห่งเนื้อและเลือด”, “'ผู้แต่งพิธีกรรมและศุลกากรแห่งนิกายกินศพ” และ “ผู้เลี้ยงแกะแห่งดวงดาว”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset