บทที่ 314 : ความเที่ยงธรรมคือความกังวล
พวกเขาไม่เคยจากสังสาระจักรกลไปไหน!
โจเซฟรู้สึกหนาวเยือกจากก้นบึ้งของหัวใจ
ฐานที่มั่นขนาดยักษ์ที่ซับซ้อนนี้ซ่อนอยู่กลางสมาคมแห่งสัจธรรมมาหลายต่อหลายปีโดยไม่ถูกล่วงรู้เลย
แถมผลลัพธ์ที่ดีที่สุดของโครงการ ‘เทวรูปดิน’ ที่สมาคมแห่งสัจธรรมทุ่มทรัพยากรบุคคลมหาศาลสร้างขึ้นมายังถูกขโมยมาไว้ใต้จมูกของพวกเขา แถมยังถูกทำซ้ำนับไม่ถ้วน
สมาคมแห่งสัจธรรมที่มีอำนาจเรียกลมเรียกฝนในนอร์ซินกลับถูกผู้อื่นหลอกให้วิ่งเต้นบนฝ่ามือ!
ช่างเป็นความจริงที่น่าสะพรึงกลัว…!
หากข้อมูลก่อนหน้านี้ไม่ผิดพลาด ถ้าอย่างนั้นไส้ศึกในสมาคมแห่งสัจธรรมก็อยู่ในสังกัด ‘วิถีแห่งดาบอัคคี’ ด้วยเช่นกัน และสถาปัตยกรรมกาฝากที่ดูคล้ายรังผึ้งนี้ก็เป็นฐานที่มั่นของไส้ศึกในสมาคมแห่งสัจธรรม
ไม่น่าเชื่อเลยว่าฐานที่มั่นของศัตรูที่หากันมาอย่างยาวนานจะอยู่ใต้เท้าตัวเอง
บางที เมื่อหลายเดือนก่อน พวกไส้ศึกอาจจะมองพวกเขาที่วิ่งเต้นหัวปั่นแล้วหัวเราะเยาะเย้ยอยู่ข้างสนาม
ในฐานะอัศวินจากหอพิธีกรรมต้องห้าม โจเซฟเป็นแค่กึ่งคนนอก ดังนั้นเขาจึงรู้สึกหนาววูบสะท้านใจ…
ยากที่จะเข้าใจได้ว่าหัวอกคู่กรณีตัวจริงอย่างแอนดรูว์กับฮู้ดในฐานะนักวิชาการจากสมาคมแห่งสัจธรรมจะรู้สึกอย่างไร…
โดยเฉพาะการที่เครือข่ายการตรวจจับอีเธอร์ของสมาคมแห่งสัจธรรมได้กลายเป็นเพียงเครื่องประดับห้องไปโดยสมบูรณ์ หรือก็คือ…พวกนักวิชาการที่ถือตัวว่าใหญ่คับฟ้า ควบคุมทุกอย่างในนอร์ซินได้ถูกตบหน้าอย่างแรงจนบวม ความคิดของพวกเขาไม่ระเบิดกันพอดีเหรอ?
แต่เมื่อโจเซฟลอบสังเกตสีหน้าของแอนดรูว์แล้ว เขากลับพบว่ารองประธานผู้นี้กลับใจเย็นกว่าที่เขาคิดมาก
สีหน้าของแอนดรูว์ดูซับซ้อนจริง ๆ และอาจจะมีความแปลกใจ ถอนหายใจ ครุ่นคิด และอื่น ๆ ปะปนกันอยู่
แต่นอกจากนั้นแล้ว จู่ ๆ เขาก็มีสีหน้า ‘กะแล้ว’ ออกมากะทันหัน
ไม่ใช่ว่าเขารู้อยู่นานแล้ว แต่ราวกับว่าเขารู้เรื่องนี้จากช่องทางอื่นล่วงหน้า และเมื่อมาเห็นด้วยตาในครั้งนี้เขาก็เลยมั่นใจได้…
ไม่ใช่แค่แอนดรูว์ ฮู้ดเองก็เป็นเช่นนี้ด้วยเหมือนกัน
ดวงตาของพวกเขาไร้ซึ่งความสั่นคลอน แต่กลับเปล่งประกายแปลก ๆ จนเกือบจะเรียกได้ว่าคลั่งไคล้
ดูเหมือนว่าจะมีอีกตัวตนหนึ่งเข้ามาแทนที่สมาคมแห่งสัจธรรม หรืออาจจะแทนที่กระทั่งความรู้ กลายเป็นความเชื่อใหม่ในใจของพวกเขา…
ความเชื่อนี้ฝังแน่นและตรงไปตรงมาเสียจนความจริงตรงหน้ายังสั่นคลอนอารมณ์ของพวกเขาไม่ได้
โจเซฟอดไม่ได้ที่จะคิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมา
หรือว่า…จะเป็นเจ้าของร้านหลินอีกแล้วเหรอ?
เจ้าของร้านหลินหรือเปล่าที่บอกพวกเขาว่าที่จริงแล้ว ไส้ศึกจากวิถีแห่งดาบอัคคีซุกซ่อนอยู่ในใจกลางสังสาระจักรกล?
ไวลด์ถือว่าเจ้าของร้านหลินเป็นนาย แล้วก่อตั้ง ‘นิกายกลืนศพ’ ขึ้นมา แล้วพวกแอนดรูว์ล่ะ?
หลังจากมีการติดต่อกับเจ้าของร้านหลิน และเห็นชายผู้แข็งแกร่งรอบด้านคนนี้ พวกเขาก็เป็นเหมือนไวลด์ เปลี่ยนความเชื่อของตนที่เดิมเชื่อในความรู้ แต่เปลี่ยนไปเป็นเชื่อในตัวเจ้าของร้านหลินแทนหรือเปล่า?
ความคิดในใจของโจเซฟชัดเจนขึ้นทุกที ก่อนที่ในที่สุดชายชราจะเข้าใจเหตุผลก่อนหน้านี้ที่ตัวเองรู้สึกแปลก ๆ ได้
แต่เดิมฮู้ดเป็นพวกสุดโต่งจากฝ่าย ‘ผู้แสวงหาความจริง’ และไม่จำเป็นว่าตอนนี้เขาจะไม่หันไปคลั่งอย่างอื่นได้ และการที่พวกนักวิชาการเทิดทูนแอนดรูว์อย่างที่เราเห็นก็ไม่ใช่ในฐานะรองประธาน แต่เหมือนพวกคลั่งศาสนาที่เทิดทูนศาสดา!
สมาคมแห่งสัจธรรมในตอนนี้ไม่เหมือนสมาคมแห่งสัจธรรมเดิม แต่ดูเหมือนนิกายหนึ่งที่เชื่อในตัวตนที่เฉพาะเจาะจง…
และที่มาของทุกการเปลี่ยนแปลงก็มาจากร้านหนังสือ พวกเขามีการติดต่อกับเจ้าของร้านหลิน!
หัวใจของโจเซฟพลันกระจ่างแจ้ง แล้วเขาก็อดพึมพำเบา ๆ ไม่ได้ “อย่างนี้นี่เอง…”
แอนดรูว์หันมามองเขา “เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ? คุณเข้าใจอะไรเหรอ?”
โจเซฟพูดเสียงต่ำ “ผมเข้าใจแล้ว…เข้าใจว่าทำไมคุณถึงบอกว่าผมแตกต่าง เจตนาไม่บริสุทธิ์”
แอนดรูว์กล่าวว่า “โอ้?”
เขามองสีหน้าโจเซฟแล้วพยักหน้าช้า ๆ จากนั้นก็พูดเบา ๆ “ดูเหมือนคุณจะเข้าใจแล้วจริง ๆ ด้วยครับ”
“ถ้าเป็นแบบนี้ ผมพูดตรง ๆ เลยดีกว่า ในใจของคุณน่าจะยังมีสิ่งอื่นที่ยังค้างคาอยู่ ความเที่ยงธรรมคือความกังวล แต่เราได้มอบทุกอย่างไปหมดแล้ว ในใจเรามีเพียงสิ่งเดียว ดังนั้นหนทางของเราเลยต่างกันครับ”
เขาพูดอย่างมั่นใจ “เพราะจากจุดนี้ วันนี้ หรือวันพรุ่งนี้ คุณอาจจะเป็นศัตรูกับพวกผมก็ได้”
“พวกคุณ?”
โจเซฟถอนหายใจยาวแล้วพูดอย่างเคร่งขรึม “เรื่องนั้น ผมเป็นศัตรูกับพวกคุณแล้วล่ะ”
แอนดรูว์พลันยิ้มออกมา “คุณเข้าใจจริง ๆ ด้วย”
“แต่” เขาเปลี่ยนทิศทางการพูด “อย่างน้อยก็ตอนนี้ เรายังต้องต่อสู้ด้วยกันอยู่ ไม่อย่างนั้น ผมเกรงว่าเราคงออกจากที่นี่ไม่ได้อยู่ดีนะครับ”
โจเซฟกำลังจะพยักหน้า ทว่าทันใดนั้นกลับเกิดเสียงกลไกขึ้นจากด้านหลังพวกเขา
ทุกคนสะดุ้งแล้วหันกลับไป แล้วก็พบว่าประตูที่พวกเขาเข้ามาถูกปิดแล้ว!
“พูดได้ดี พวกเจ้าออกไปไม่ได้จริง ๆ แหละ”
มีเสียงแผ่วเบาดังมาจากด้านบน แพร่กระจายไปทุกทิศทุกทางในสถาปัตยกรรมทรงรังผึ้ง แล้วก็รวมเสียงอีกครั้งอย่างน่าตะลึง
เมื่อทุกคนสงบใจลงได้แล้วหันกลับไปมองอีกครั้ง พวกเขาก็พบว่ามนุษย์ประดิษฐ์ที่ทำงานอยู่ทุกตัวหยุดการเคลื่อนไหวลง แล้วหันมามองพวกเขาเป็นตาเดียว!
ภาพพิลึกนี้ทำให้เหล่าอัศวินจากหอพิธีกรรมต้องห้ามชักดาบออกมาทันที
แต่พวกเขากลับหาศัตรูไม่พบ เพราะไร้ซึ่งความมุ่งร้ายหรือจิตสังหารใด ๆ จากมนุษย์ประดิษฐ์เหล่านี้ ดวงตาว่างเปล่านับไม่ถ้วนที่มองมาก็ไร้แววตา ราวกับแค่หันมามองเฉย ๆ
ต้นตอของเสียงก็หาไม่พบ แต่สิ่งที่ตามมากลับเป็นแรงกดดันมหาศาลที่มองไม่เห็น
อัศวินกัดฟันกรอด มือของพวกเขาที่จับดาบอยู่มีเส้นเลือดปูดเขียว และดวงตาของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ระดับเหนือนภา…จริง ๆ ด้วย!
หัวใจของโจเซฟดิ่งวูบ เพลิงสีขาวปะทุขึ้นทั่วร่างของเขาในพริบตา เขากางสนามพลังอีเธอร์ออกรับมือ พวกอัศวินที่อยู่ข้างหลังเขาจึงผ่อนคลายลงได้เล็กน้อย
โจเซฟย่อมไม่กล้าผ่อนคลายแม้แต่น้อย “บ้าจริง อีกฝ่ายเผยหางออกมาแล้ว…ครั้งนี้ไม่ใช่เทพปลอม แต่เป็นระดับเหนือนภาตัวจริงที่เราต้องเผชิญ! ถ้าไม่ระวังล่ะก็ เราคงออกไปไม่ได้จริง ๆ…!”
เขาค้นหาตำแหน่งที่มีอีเธอร์ชุกชุมอย่างใจจดใจจ่อ พยายามหาตำแหน่งของบุคคลระดับเหนือนภานี้
แต่ที่จริงแล้วกลับเปล่าประโยชน์…ใครจะคิดล่ะว่าในเขตของสมาคมแห่งสัจธรรมจะเป็นรังศัตรูของพวกตนเองด้วย? พวกเขาจึงถูกจับได้ทันที
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ ร่างของนักวิชาการภูมิฐานผู้สวมแว่นตาขอบทองและสองมือล้วงเข้าไปในเสื้อโค้ทสีขาวกลับปรากฏตัวขึ้นเองที่ยกพื้นด้านบน
จุดที่สังเกตได้ง่ายที่สุดคือที่ข้างศีรษะของเขามีหลุมสีดำสนิทที่เปรอะไปด้วยเลือด มองเข้าไปจะเห็นเลือดเนื้อที่เต้นระริกอยู่ภายในได้ลาง ๆ
ทันทีที่เขาปรากฏตัว แรงกดดันนั้นก็หายไปทันที เขามองลงมาที่ทุกคนแล้วยิ้มพลางโบกมือพูด “แค่ล้อเล่นน่า ไม่เห็นต้องกระวนกระวายกันเพียงนี้เลยนี่”
แอนดรูว์กับฮู้ดไม่อาจสงบใจได้ พวกเขามองนักวิชาการตรงหน้าแล้วอุทานพร้อมกัน “ยูมีร์!”
ฮู้ดเบิกตากว้างเมื่อเห็นบุคคลในตำราเรียนมาปรากฏตรงหน้าโดยไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย แล้วเขาก็โพล่งขึ้นมาอย่างประหลาดใจ “‘ภูมิปัญญาแห่งสวรรค์’ แกรนแธม ยูมีร์?”
“ถูกต้อง ข้าเอง”
ผู้มาเยือนคือเรซิเอล เขาพยักหน้ายิ้ม ๆ แล้วกล่าวว่า “ขอแสดงความยินดีด้วย พวกเจ้าได้พบสมาคมแห่งสัจธรรมที่แท้จริงแล้ว!!”
—