บทที่ 444 : มังกรสีเงิน
หน้าปกสีดำสนิทดูเหมือนเข้าเครื่องถ่ายเอกสารมา กระทั่งดูราคาถูกนิดหน่อย
แต่นี่ก็คือเครื่องถ่ายเอกสาร ซึ่งจะหาได้เพียงการลักลอบค้าของเถื่อนในเมืองเขตล่างเท่านั้น เหล่าผู้รับคำชี้นำแห่งพระผู้เป็นเจ้าด้วยใจศรัทธาจึง…ถ่ายเอกสารมาเสียหลายชุด
อำนาจแห่งถ้อยคำและหนังสือไม่ได้ถูกลดทอน แต่กลับทวีคูณจากการถ่ายเอกสาร
การคัดลอกหนังสือของเจ้าของร้านหลินมากกว่าหนึ่งชุดเป็นอะไรที่ไวลด์ไม่กล้าแม้แต่จะนึกถึง แต่คนเหล่านี้กลับทำลงไปแล้ว…
ทว่าการที่จะเข้าใจเนื้อหาในหนังสือของเจ้าของร้านหลินอย่างถ่องแท้นั้นไม่ง่ายเลย มีเพียงคนยี่สิบสามสิบคนจากเขตล่างเท่านั้นที่ได้ถือหนังสือ
ผู้นำสัตว์ประหลาดจากเขตล่างซึ่งถูกเรียกว่า ‘สโตน’ เบิกคู่เนตรสัตว์ร้ายของตน หนวดปลาหมึกยักษ์ที่คางของเขาร่ายรำอย่างผาสุข ไม่อาจซุกซ่อนความตื่นเต้นในใจได้มิด
เขาไม่มีเปลือกตาและขนตา ดวงตาของเขาดูเหมือนกับปลา
นี่คือครั้งแรกที่พวกเขาเยื้องย่างสู่เมืองเขตบน แม้ว่าหากพูดให้ถูกต้อง ดินแดนแห่งความมืดจะไม่ใช่เมืองเขตบน แต่เป็นเพียงเขตอันเชื่อมต่อระหว่างเมืองเขตบนและเมืองเขตล่างเท่านั้นก็ตามที
แต่นี่ก็คือก้าวแรกของโบสถ์แห่งโรคระบาดจากเมืองเขตล่างจริง ๆ
การให้ผู้อาศัยในเมืองเขตล่างกลับคืนสู่เมืองเขตบน…นี่คือความทะเยอทะยานของโบสถ์แห่งโรคระบาด
และเอลฟ์ดำก็เป็นเพียงตัวหมากของพวกเขา ผู้ที่ต้องการเปิดเส้นทางให้กับเอลฟ์ดำ แท้จริงแล้วไม่ใช่สเตฟานี แต่เป็นโบสถ์แห่งโรคระบาดต่างหาก
แผนเดิมของพวกเขาคือให้สเตฟานีฆ่าเชอร์รี่เสีย จากนั้นก็ร่วมมือกับผู้บริหารอีกคนของหอการค้าแอช และมารวมตัวกับโบสถ์แห่งโรคระบาดในเมืองเขตล่าง เรื่องที่น่าขำก็คือ แม้กระทั่งรับมือเชอร์รี่ เธอยังทำไม่ได้เลย
จิตใจที่แต่เดิมทะเยอทะยาน ตอนนี้เหลือเพียงหย่อมก้อนสมอง
หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพัก ไวลด์ก็รู้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันไม่ได้ต่างอะไรกับการที่คนร้ายหักหลังกันเอง แต่หน้าปกสีดำของหนังสือดูเหมือนกับจะดูดกลืนพลังทั้งหมดของไวลด์ราวกับหลุมดำ
ชายชุดดำผู้นำอยู่หน้าสุดกางหนังสือ ‘นิมิตโกลาหล’ ออก และอ่านถ้อยคำอันเลวร้ายต่อไป…
ถ้อยคำเหล่านั้นเป็นดั่งก้อนเหล็กร้อนระอุที่นาบเข้าใส่หัวใจของไวลด์ และภาพที่วาจานามธรรมเหล่านั้นเอื้อนเอ่ยก็ช่างชั่วร้ายน่ากลัวเหนือจินตนาการของมนุษย์
ภาพนั้นเต็มไปด้วยมลพิษกัดกร่อนจิตใจ เกินกว่าขีดจำกัดที่มนุษย์ผู้ใดจะจินตนาการ ทว่ามันก็ยังปรากฏในสมองของเขาซ้ำไปมา
ไวลด์ส่งเสียงครวญต่ำ ๆ อย่างเจ็บปวด ชายชุดดำขยับปากอย่างต่อเนื่อง พูดเร็วเสียจนน้ำลายกระเซ็นเป็นฟองฝอยที่มุมปาก
วาจาบิดเบือนเสียงของเขา กลายเป็นบทร่ายแหลมสูงที่ทำให้ทั่วทั้งบริเวณสั่นไหว
เชอร์รี่ซ่อนตัวข้างหลังเขา ใช้คาถาดลใจกับตนเองเพื่อให้ลืมตัวตนของเธอไป สูญเสียทุกสัมผัสรวมถึงการได้ยิน และคุดคู้ตัวลงขดเป็นก้อน
ไวลด์ดึงกระโปรงไปด้านหลังเล็กน้อย และศีรษะด้านหลังอันเต็มไปด้วยเส้นผมก็ค่อย ๆ ปรากฏเป็นใบหน้าอันน่าหวาดหวั่นของชายชราผู้หนึ่ง
ไวลด์ก้าวถอยหลังติด ๆ กันสองสามก้าว แต่ไม่สามารถตอบโต้ใด ๆ ต่อชายชุดดำตรงหน้าได้ เขาอาจจะพอทานพลังของพระคัมภีร์ ‘นิมิตโกลาหล’ ได้ แต่ชาร์ล็อตต์จะทนไม่ไหวแล้ว
ไวลด์พลันสลัดตนเองออกมา ฉีกผิวหนังของชาร์ล็อตต์ออกราวเปื้องผ้า ร่างของเขาทะลวงออกจากร้านเหล้า และบุคคลชุดดำหลายสิบคนก็ถูกอีเธอร์จากการก่อร่างใหม่ของเขาดีดกระเด็นออกไป
ไวลด์เปลี่ยนร่างเป็นก้อนเนื้อไร้รูปร่างชัดเจนโดยสมบูรณ์ เขาดูเหมือนปลาหมึกยักษ์ซึ่งสยายเส้นหนวดนับไม่ถ้วนไปทั่วร้านเหล้าราวกับจะเปลี่ยนมันเป็นรังของเขา
—
การเคลื่อนไหวใหญ่โตในร้านเหล้ากลายเป็นจุดสนใจของเอลฟ์ดำทั้งมวล
เอลฟ์ผมสีเงินผู้มีผิวดำคล้ำออกมาจากบ้านอันไร้การมาเยือนของแสงอาทิตย์ รวมตัวกันรายล้อมร้านเหล้าจากไกล ๆ ราวกับฝูงมด หารือกันฮือฮาเซ็งแซ่
ชายชุดดำฝืนตัวลุกจากพื้น มองสภาพเละเทะของไวลด์ซึ่งไม่สามารถรักษาเจตจำนงของชาร์ล็อตต์ไว้ได้
“ดินแดนแห่งความมืดจะกลายเป็นจุดนัดพบใหม่ของโบสถ์แห่งโรคระบาดในไม่ช้า” ชายชุดดำกล่าวด้วยรอยยิ้มเหี้ยมเกรียม “ฆ่าเอลฟ์พวกนี้ให้หมด”
หลังจากพูดจบ เขาก็มองกลับมาที่ไวลด์ซึ่งกำลังดิ้นรน “การรับคำพิพากษาของพระเจ้ามันเจ็บปวด ถ้าเขาทนการทดสอบนี้ไม่ได้ เขาก็จะต้องตาย”
บุคคลชุดดำซึ่งรายล้อมอยู่ต่างถอดฮู้ดทีละคนสองคน และทุกคนต่างมีใบหน้าร้ายกาจเกินจะมอง
นัยน์ตาสัตว์ร้าย หนวดปลาหมึกยักษ์ที่กราม!
เหล่าเอลฟ์ดำมองคนชุดดำด้วยสีหน้าประหลาด แต่ทันทีที่พวกเขาเห็นหน้าคนเหล่านี้ พวกเขาก็กรีดร้อง แค่เห็นรูปลักษณ์ของพวกเขาก็สร้างบาดแผลทางจิตใจมากมายแก่ผู้พบเห็นแล้ว
เหล่าเอลฟ์ผู้หวาดกลัวเหล่านี้ต้องไปกระตุ้นความพึงพอใจให้พวกเขาอย่างมากโดยไม่ต้องสงสัย พวกคนจากเมืองเขตบนเป็นอย่างที่ท่านผู้นำว่าจริง ๆ แค่จะมองพวกเขาตรง ๆ ยังทำไม่ได้เลย
เหตุผลนั้นง่ายมาก เพราะนี่คือการกลายพันธุ์ที่หมอกสีเทามอบให้พวกเขา และการกลายพันธุ์นี้ก็เลือกให้พวกเขาวิวัฒนาการอย่างเหมาะสมแล้ว
ขณะที่คนชุดดำหลายสิบคนกำลังจะลงมือล่าสังหาร ดินแดนแห่งความมืดซึ่งไม่ได้เห็นแสงเดือนแสงตะวันพลันปรากฏอุกกาบาตยักษ์ซึ่งปกคลุมด้วยเพลิงสีซีด ส่องสว่างไปทั่วดินแดนในชั่วพริบตา
ตู้ม!
บางสิ่งคล้ายอุกกาบาตนั้นพุ่งลงสู่พื้น ทำให้ทั่วดินแดนแห่งความมืดสั่นไหวรุนแรง
ทั้งเอลฟ์ดำที่กำลังจะหนี และเหล่าคนชุดดำที่กำลังจะล่าสังหารต่างอึ้งค้างโดยถ้วนทั่ว
ไม่ว่าจะเป็นเหล่าเอลฟ์ดำซึ่งส่วนใหญ่อ่อนแอ หรือผู้ศรัทธาอันคลุ้มคลั่งในพระเจ้าถึงขั้นสุดจากเขตล่าง พวกเขาต่างหยุดทุกสิ่งที่ตนกำลังกระทำ
ณ ‘ป่าแห่งเถ้า’ ที่ชายขอบดินแดนแห่งความมืด ซึ่งก้อนอุกกาบาตตกลงไป…
จู่ ๆ ป่าแห่งเถ้าก็ระเบิดกลายเป็นกองเพลิง และมังกรโบราณสีเงินตนหนึ่งก็ปรากฏจากกองเพลิงดุจหน่ออ่อนซึ่งถูกเปลวเพลิงแผดเผา
มังกรโบราณดูแห้งเหี่ยวผอมบางเหมือนต้นไม้เฉา ๆ สี่กรงเล็บห้านิ้ววางลงกับพื้น ตามด้วยเพลิงสีเงินเจิดจ้าเสียจนไม่สามารถมองตรง ๆ ได้
ไม่ว่าใครต่างรับรู้ดีถึงความน่ากลัว แต่ไม่มีใครหนีพ้น
นัยน์ตาสีครามในวัยชราของเขาทอดมองลงมายังผู้คนที่ดูเหมือนฝูงมดบนดินแดนแห่งความมืด จากนั้นจึงเดินมาทางพวกเขาช้า ๆ
“อะไรล่ะเนี่ย…” ชายชุดดำคนหนึ่งมองมังกรยักษ์สีเงินอย่างหวาดกลัว “ผู้พิทักษ์ของเอลฟ์ดำพวกนี้เรอะ?”
ใครบางคนตอบปฏิเสธเขาอย่างรวดเร็ว ทว่าไม่ว่าอย่างไร พลังของมังกรสีเงินก็ทำให้เขากลัวถึงขีดสุด กระทั่งมือที่ถือพระคัมภีร์ไว้ยังเริ่มสั่นเทิ้ม
เขากลืนน้ำลายเอื๊อก และเริ่มร่ายมนตร์อย่างรีบร้อน…
“ข้าแต่บรรพ…”
มังกรสีเงินมองหนังสือในมือชายชุดดำแล้วเอียงคออย่างแปลกใจ ความงุนงงของเขาดำเนินไปเพียงชั่ววินาที และคำตอบก็ปรากฏขึ้น หากเจ้ามังกรมีคิ้วล่ะก็ เขาคงขมวดมันอย่างเคืองโกรธเสียแล้ว
เขามองซากศพของเบลล่าและไวลด์ผู้โอดครวญอยู่ในร้านเหล้า และด้วยเพียงหนึ่งความคิด หนังสือในมือชายชุดดำก็มอดไหม้
แล้ววินาทีถัดมา ร่างของมังกรสีเงินพลันดูจะงอกเส้นด้ายออกมานับไม่ถ้วน และเส้นด้ายสีเงินเหล่านี้ก็สานตัวเองเป็นรังไหมขนาดเล็กซึ่งดูกระจัดกระจายแต่ก็มีระเบียบ…
ร่างในรังไหมนั้นค่อย ๆ ก่อตัวเป็นมนุษย์ผู้เยาว์วัยและทรงภูมิผู้หนึ่ง!