“เป็นอะไรไป องค์ชายทั้งสอง ทำไมไม่กินต่อล่ะ? อุส่าได้กินของดีๆทั้งที หรือพวกคุณไม่อยากจะกินให้อิ่มสักหน่อยเหรอ?”
โจวฉังเต๋อพูดยิ้มกรุ้มกริ่ม
มิยาโมโตะมาอยู่ตรงหน้าของโจวฉังเต๋อตรงๆ มองโจวฉังเต๋อด้วยสีหน้าท่าทางเกรี้ยวกราด
“บอกมาเดี๋ยวนี้ ว่าใส่ยาอะไรลงไปในข้าว?”
มิยาโมโตะตระหนักได้ว่ามีอะไรแปลกๆ แต่หลังจากที่โจวฉังเต๋อรู้ว่ามิยาโมโตะล่วงรู้แผนการของตัวเองแล้วนั้น ก็ไม่ได้ตื่นตระหนกอะไรสักนิด เพราะว่ายาพิษมันออกฤทธิ์แล้ว ตราบใดที่มิยาโมโตะกล้าทำร้ายตนเอง โจวฉังเต๋อก็สามารถเอาชีวิตของเขาได้ทันที
“เด็กน้อย เคารพนอบน้อมต่อผมจะดีกว่านะ คุณรู้ไหมว่าพิษในร่างกายของคุณน่ะเป็นสิ่งพิเศษเฉพาะของตระกูลโจวของพวกเรา ถ้าผมไม่แก้พิษให้คุณล่ะก็ คุณอยู่ได้อีกไม่เกินสามวันแน่นอน”
หลังจากที่ได้ฟังคำพูดนี้แล้ว มิยาโมโตะกับมูโตะทั้งสองคนก็ตื่นตกใจทันที หันมองหน้ากัน จากนั้นก็รู้สึกว่าท้องของตัวเองเริ่มเจ็บปวดมากขึ้น จนกระทั่งนอนลงกลิ้งทุรนทุรายไปมาอยู่ที่พื้นอย่างทนไม่ไหว
“ทำไม ทำไมเจ้าชายทั้งสองจึงจนตรอก? ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่หยิ่งผยองหรือ?”
โจวฉังเต๋อไม่ลืมที่จะเยาะเย้ยเจ้าชายทั้งสอง
แล้วในตอนนี้มิยาโมโตะกับมูโตะสองคนยังกล้าพูดอะไรอีก ถึงยังไงจากที่โจวฉังเต๋อพูดเมื่อตะกี้ ถ้าตัวเองไปแหย่ให้โจวฉังเต๋อไม่สบอารมณ์เข้า แล้วเขาไม่แก้พิษให้กับตัวเองขึ้นมา พวกเขาก็ต้องตายแน่นอน
“นายท่านโจว อย่าล้อเล่นกันสิ พวกเราก็เป็นคนร่วมงานกันทั้งนั้น ทำไมต้องมาเข่นฆ่ากันเองด้วยล่ะ? รีบแก้พิษให้กับผมเถอะ ผมรู้ว่าคุณแค่ล้อเล่นเท่านั้น”
มิยาโมโตะพยายามควบคุมสีหน้าอารมณ์ของตัวเองให้ดีขึ้นมานิดหน่อย แต่ก็ยังเห็นได้อย่างไม่ยากจากใบหน้าของเขาว่าร่างกายของเขาเจ็บปวดทรมานขนาดไหน
“โอ้ องค์ชาย นี่คุณกำลังขอร้องอ้อนวอนผมอยู่เหรอ? ทำไมท่าทีมันดูทะแม่งๆล่ะ?”
พูดจบ มิยาโมโตะก็โมโหสุดๆ ใช้กำปั้นทุบลงที่พื้นอย่างแรง โจวฉังเต๋อที่อยู่อีกทางด้านหนึ่งก็หัวเราะออกมาเสียงดัง
“ไม่เป็นไรๆ คุณทุบได้ตามสบายเลย ต่อให้คุณฆ่าผมก็ยังได้ แต่ว่าผมจะบอกคุณให้นะ ว่าถ้าไม่มียาแก้พิษของผม พวกคุณก็อย่าคิดว่าจะได้ลุกขึ้นมาอีกครั้งตลอดทั้งชีวิต”
คำพูดที่โจวฉังเต๋อพูดนี้ไม่ใช่คำพูดล้อเล่น เพราะว่าในตอนนี้มิยาโมโตะกับมูโตะรู้สึกได้ว่าพละกำลังของตัวเองค่อยๆจางหายไป ราวกับว่ากล้ามเนื้อทั้งร่างกายกำลังละลายไปอย่างไรอย่างนั้น
“ขอร้องคุณล่ะ นายท่านโจว พวกเราสองคนยังไม่อยากตายไวขนาดนี้ คุณรีบแก้พิษให้กับพวกเราเถอะนะ”
ในตอนนี้มูโตะร้องไห้จนสองตาแดงก่ำหมดแล้ว น้ำตาน้ำมูกไหลรวมกัน ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำมูก
“ผมไม่ไหวแล้ว นายท่านโจว รีบปล่อยพวกเราไปเถอะ ผมขอร้องคุณล่ะ ต่อไปคุณพูดอะไรผมก็จะทำตามหมดเลย ผมจะไม่กลับไปแย่งชิงบัลลังก์อะไรที่ญี่ปุ่นอีกแล้ว”
ที่มูโตะต่อสู้แย่งชิงบัลลังก์ แค่อยากที่จะให้ตัวเองอยู่อย่างสบายมีความสุขสักหน่อย ส่วนวิธีการที่ทำให้พวกเขามีความสุขนั้นก็คือการหาผู้หญิง
แต่สำหรับชีวิตของพวกเขาแล้ว ผู้หญิงเป็นเพียงแค่สิ่งเล็กๆที่ไม่มีค่าพอให้พูดถึงด้วยซ้ำ ตอนนี้เขาไม่อยากจะแย่งชิงบัลลังก์อะไรอีกแล้ว แค่อยากจะใช้ชีวิตดีๆเท่านั้น
“เอาล่ะๆ พวกคุณสองคนไม่ต้องหวาดกลัวขนาดนั้นหรอก ผมยังไม่ได้บอกสักหน่อยว่าจะฆ่าพวกคุณ ผมจะแก้พิษให้กับพวกคุณอยู่แล้ว แต่ยาแก้พิษของผมแค่ช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับพวกคุณได้เพียงแค่วันเดียวเท่านั้น ถ้าพวกคุณไม่เชื่อฟังผมล่ะก็ วันต่อไปผมก็จะไม่แก้พิษให้กับพวกคุณ ให้พวกคุณได้ทนอยู่กับความเจ็บปวดปางตาย”
โจวฉังเต๋อก็ตั้งมั่นในใจ ว่าจะต้องเอาสองคนนี้มาอยู่ใต้บังคับบัญชาของตัวเองให้ได้ ถึงยังไงในตระกูลของตัวเองตอนนี้ก็ไม่มีนักรบหลักอะไรแล้ว พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องหาคนจากข้างนอก
หลังจากได้ยินคำพูดของโจวฉังเต๋อ องค์ชายทั้งท่านก็มองไปที่โจวฉังเต๋ออย่างสิ้นหวัง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพวกเขาสามารถบรรเทาความเจ็บปวดได้
“ไม่มีปัญหา นายท่านโจว คุณรีบแก้พิษให้กับพวกเราเถอะ พวกเราจะเชื่อฟังคำสั่งไม่ขัดขืนแม้แต่น้อย คุณพูดอะไรก็ทำหมด ไม่มีลังเลไม่มีเจตนาอื่นแน่นอน”
มิยาโมโตะพูดอย่างแน่วแน่เด็ดขาด โจวฉังเต๋อที่อยู่ข้างๆล้วงยาสองเม็ดออกมาจากกระเป๋ากางเกงของตัวเองอย่างช้าๆ
“ในเมื่อคุณสัญญากับผมแล้ว ถ้าอย่างนั้นผมก็จะไม่ทำให้คุณทุกข์ยากลำบาก เอาไปสิ”
จากนั้น โจวฉังเต๋อก็ค่อยๆวางยาในมือลงตรงหน้าของมิยาโมโตะและมูโตะ
มูโตะคิดที่จะยื่นมือออกไปหยิบ แต่กลับถูกโจวฉังเต๋อตบล้มลงไปกองกับพื้น
“ใครให้คุณใช้มือหยิบ ผมบอกเหรอว่าของที่ผมไม่ได้โยนลงที่พื้น พวกคุณสามารถกินได้?”
ตอนนี้มิยาโมโตะและมูโตะทั้งสองคนก็แสดงสีหน้าที่น่าเหลือเชื่ออกมาทันที
“โจวฉังเต๋อ คุณหมายความว่ายังไง? หรือคุณจะให้ยาแก้พิษกับพวกเราเยอะๆในทีเดียวเหรอ? หรือว่า……”
มิยาโมโตะยังไม่ทันพูดจบ โจวฉังเต๋อหัวเราะออกมาเสียงดัง
“พวกคุณสองคนยังอยากจะได้ยาแก้พิษเพิ่มอีกอย่างนั้นเหรอ ผมจะบอกพวกคุณให้นะ ยานี้ไม่ว่าพวกคุณจะกินหรือไม่กิน ผมจะเตือนคุณนะ อย่ามักง่ายใช้มือของคุณหยิบจะดีกว่านะ ไม่อย่างผมจะทำให้พวกคุณได้รับโทษอย่างสาสม”
หลังจากที่โจวฉังเต๋อพูดจบ ก็โยนยาในมือลงที่พื้น จากนั้นก็ยังส่งเสียงจุ๊ๆออกมาอีกด้วย
“น่าสมเพชจริงๆเลย เป็นถึงองค์ชายทั้งสองแท้ๆ ไม่คิดว่าจะกลายเป็นหมาสองตัวที่อยู่ใต้เท้าของผมแบบนี้ ตัวผมเองก็รู้สึกเกรงใจจริงๆ”
ดูเหมือนว่าโจวฉังเต๋อจะไม่จมดิ่งกับการตายของโจวหลี่นานเกินไป แต่กลับหลงใหลไปกับการทรมานองค์ชายทั้งสอง
หลังจากที่โจวฉังเต๋อโยนยาลงไปที่พื้นแล้ว ก็ใช้เท้าขยี้จนแหลก ส่วนองค์ชายทั้งสองพอเห็นยาที่ถูกขยี้จนแตกละเอียดที่พื้น ใจหนึ่งก็อยากจะเข้าไปกิน แต่อีกใจก็ไม่กล้าเข้าไปกินเหมือนกัน
“ผมจะบอกพวกคุณให้นะ ว่าปริมาณยาทั้งหมดของวันนี้อยู่ที่พื้นหมดแล้ว ถ้าพวกคุณไม่กินล่ะก็ ยาของวันนี้ก็ไม่มีแล้ว ถ้าพวกคุณทั้งสองคนเจ็บตายระหว่างทางขึ้นมา ผมก็ช่วยไม่ได้”
พูดจบ โจวฉังเต๋อก็หันตัวเดินจากไปทันที เหลือเพียงแค่องค์ชายทั้งสอง ที่กำลังยื้อแย่งผงฝุ่นที่อยู่บนพื้น
หลังจากผ่านไปนานสองนาน โจวฉังเต๋อนั่งอยู่ที่ลานบ้าน ข้างหลังมีเสียงฝีเท้าสองคู่ดังขึ้นมา
“นายท่านโจว ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรรับสั่งเหรอ? ขอแค่คุณพูดสั่งออกมา พวกเราจะรีบไปทำทันที”
ในตอนนี้องค์ชายทั้งสองฟื้นฟูกลับมาปกติแล้ว แต่พวกเขากลับยังไม่กล้าพูดอะไรกับโจวฉังเต๋อ ไม่ว่ายังไงพวกเขาเพิ่งจะรู้สึกได้ถึงฤทธิ์ที่แข็งแกร่งรุนแรงของยาพวกนี้ ถ้าเกิดนายท่านโจวไม่แก้พิษให้กับตัวเองล่ะก็ ผ่านไปแค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น พี่น้องทั้งสองคนก็จะเจ็บปวดจนตายอยู่ในตระกูลโจวทันที
เจ้าชายที่ฉลาดหลักแหลมมีความสามารถ ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดที่จะเลือกฟังคำสั่งของโจวฉังเต๋อชั่วคราว รอโอกาสที่สลัดหลุดออกมาจากการควบคุมของโจวฉังเต๋อเมื่อไร ค่อยแก้แค้นเอาคืน
“ไม่ได้มีเรื่องอะไร แค่ไปสืบมาให้หน่อย ว่าถังเชียวคนนี้เมื่อก่อนมีสถานภาพอะไรกันแน่ ทำไมเพิ่งกลับมาแต่กลับสามารถเปลี่ยนสถานการณ์ได้ขนาดนี้”
พูดจบองค์ชายทั้งสองก็มองตากัน
“หรือว่าไอ้หมอนี่ยังมีสถานภาพอื่นอีกเหรอ? มิน่าล่ะทำไมมันถึงแข็งแกร่งขนาดนี้ คงจะไม่ใช่ยอดฝีมือที่เบื้องบนเรียกมาสินะ”
ในตอนนี้ โจวฉังเต๋อส่ายหัวมองทั้งสองคนตรงหน้าที่กำลังคาดเดาสถานภาพของถังเฉา
“เพราะว่ามันไม่ใช่คนที่เบื้องบนส่งมาน่ะสิ ดังนั้นผมก็เลยสงสัยว่ามันคือใครกันแน่”