บทที่ 108 ยังไม่ถึงตาคุณ
ซูเซี่ยรออยู่ชั้นล่างในอาคารกั๋วจี้ ถังเฉาและหลินจ้าวหยูนไปที่ห้องทำงานของหลินชิงเสว่
“ พี่ คืนนี้ฉันยืมตัวพี่เขยหน่อยนะ”
พอเข้าไป หลินจ้าวหยูนก็พูดด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
หลินชิงเสว่เงยหน้าขึ้นอย่างอ่อนไหว แววตาจ้องมองถังเฉากับหลินจ้าวหยูนด้วยความประหลาดใจ “พวกเธอ … จะทำอะไร?”
ถังเฉาอ่ะแฮ่ม แล้วพูดว่า “จ้าวหยูนพูดให้ดีหน่อย”
หลินจ้าวหยูนแลบลิ้น ยิ้มแหะๆแล้วพูด “ก็แค่กินข้าวมื้อเดียวเอง ไม่แย่งสามีของพี่หรอก”
“หลินจ้าวหยูน!”
ผั๊วเสียงดังขึ้น หลินชิงเสว่ตบบนโต๊ะแรงๆ อายจนโกรธ “ถ้าหากเธอยังพูดไร้สาระ ฉันจะส่งเธอกลับไปที่เยี่ยงจิง”
หลินจ้าวหยูนรีบจูงมือถังเฉาวิ่งออกไปจากห้องทำงานของประธาน
“ ไม่ใช่ คุณฟังผมอธิบาย … ”
ถังเฉาหน้าชาทันที น้องเมียคนนี้ สร้างเรื่องวุ่นวายจริงๆ…
“พี่เขย!”
หลินจ้าวหยูนลากถังเฉาที่หน้าแดงเข้าไปในลิฟต์ “ดูออกว่า พี่สาวของฉันยังแคร์พี่อยู่ เพียงแต่หลายปีมานี้ยังไม่ปล่อยวางนิสัยที่เย่อหยิ่งอย่างเจ้าหญิง พูดอีกที ก็คือทำเป็น—-เก็บความรู้สึก!”
ถังเฉาทำหน้าดุใส่ “ เธอจงใจแกล้งพี่สาวเธออีกแล้วใช่ไหม?”
“แน่นอน!”
หลินจ้าวหยูนพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “ไม่แกล้งเขา จะทดสอบได้ไงว่าเขามีปฎิกิริยายังไง?”
“จ้าวหยูน เธอไม่ควร—”
“หยุด หยุดนะ พี่เขย พี่สาวสั่งสอนฉันก็ชั่งเถอะ แม้แต่พี่ก็ยังสั่งสอนฉันอีกหรอ?”
หลิงจ้าวหยูนพูดอย่างไม่พอใจ “ออกไปเที่ยว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการมีความสุข ในเมื่อพี่สาวมอบพี่ให้ฉันแล้ว พี่ก็ต้องฟังฉัน—-”
ระหว่างพูดคุย สองคนก็มาถึงข้างล่างใต้ตึก ซูเซี่ยรอยู่ตั้งนานแล้ว
ทั้งสามคนขึ้นรถ จากนั้นก็มาถึงย่านการค้าปินเจียง ซึ่งอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยหมิงจูมาก ซึ่งสามารถพบเห็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยหมิงจูได้ทุกหนทุกแห่ง
ระหว่างทางถังเฉายังได้รู้เกี่ยวกับสถานการณ์ของซูเซี่ย
ที่แท้ หลังจากที่ซูเซี่ยลาออกจากโรงเรียนเพื่อครอบครัวแล้ว หลินจ้าวหยูนก็เป็นคนเสนอรับผิดชอบค่าเล่าเรียนของซูเซี่ยทั้งหมด
ทางโรงเรียนก็ต้อนรับอย่างอบอุ่น ชื่อของซูเซี่ยพวกเขาก็เคยได้ยิน การสอบเอนทรานซ์ ได้คะแนนอันดับหนึ่ง เพียงเพราะเหตุผลทางครอบครัวที่ทำให้ไม่ได้เรียนต่อ
เหตุการณ์นี้ยังเป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งในแวดวงการศึกษาของเมืองหลิงจู
“ฉันไม่รู้ว่าจะตอบแทนจ้าวหยูนอย่างไร แต่ว่า เงินที่จ้าวหยูนออกให้ ฉันจะจำไว้ ต่อไปถ้าทำงานแล้ว ฉันจะจ่ายคืนให้เธอ” ซูเซี่ยพูดอย่างจริงจัง
“ไม่ต้อง”
หลินจ้าวหยูนโบกมืออย่างใจกว้าง พูดแบบไม่แคร์ “ค่าเล่าเรียนแค่เท่าไหร่เอง ฉันซื้อกระเป๋าน้อยลงหนึ่งใบก็ได้แล้ว”
“แต่ว่า เท่าที่ฉันรู้เงินของคุณใช้จนเหลือไม่เท่าไหร่แล้วมั้ง?” ถังเฉามองออกถึงความปากแข็งของหลินจ้าวหยูน
“ไม่เป็นไร เงินเล็กน้อย” หลินจ้าวหยูนแลบลิ้นออกมาด้วยความอึดอัด
ถังเฉาไม่ได้พูดอะไรและหยิบบัตรออกมาจากกระเป๋าโดยตรงหนึ่งใบ “ในนี้มีเงินอยู่สองแสน ต่อไปค่าเล่าเรียนของเสี่ยวเซี่ยก็หักออกจากในนี้ ยังมีเธอ นิสัยมือเติบใช้เงินฟุ่มเฟือยจนเคยชินแก้ซะ”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา หลินจ้าวหยูนชะงักทันที ซูเซี่ยก็มองถังเฉาแบบคาดไม่ถึง
“ พี่เขย เอาจริงเหรอ?”
หลินจ้าวหยูนเน้นย้ำซ้ำ ๆ “นี่คือสองแสน ไม่ใช่ยี่สิบนะ”
ถังเฉายื่นบัตรให้ “รับไปเถอะ”
เมื่อเห็นว่าน้ำเสียงของถังเฉาหนักแน่นมาก พริบตาเดียวหลินจ้าวหยูนก็เงียบลง
ทันใดนั้นเธอก็ส่ายศีรษะและพูดว่า “ไม่ได้ เงินนี่ฉันรับไม่ได้”
แม้ว่า หลินจ้าวหยูนจะรู้ว่าพี่เขยของเธอมี Rolls Royce ที่มียอดขายระดับโลก แต่นั่นก็เป็นเงินของผู้หญิงที่ร้ายกาจคนนั้น พี่เขยไม่มีงาน เธอจะรับเงินของพี่เขยได้ไง?
“ เอาไป” ถังเฉาพูด
“ฉันไม่เอา”
หลินจ้าวหยูนพูดอย่างดื้อรั้นว่า “ถ้าพี่สาวของฉันรู้ว่าฉันรับเงินของพี่ เธอด่าฉันตายแน่”
“จ้าวหยูน พี่รู้ว่าเธอเป็นคนใจดี”
สายตาของถังเฉาลึกซึ้ง “แต่ เงินนี้ ยังไม่ถึงตาคุณออก”
ทันทีที่เขาพูดเช่นนี้ หลินจ้าวหยูนก็ตกตะลึงเลย ซูเซี่ยก็จ้องมองอย่างมึนๆ
“รับไปเถอะ” น้ำเสียงของถังเฉานิ่งเฉย
ราวกับว่ามีพลังพิเศษอย่างหนึ่ง หลิงจ้าวหยูนค่อยๆรับบัตรนั้นมา ก้มศีรษะลง กัดริมฝีปากและพูดว่า “ขอบคุณค่ะพี่เขย”
“ ขอบคุณค่ะพี่ถังเฉา … ” ซูเซี่ยยังพูดด้วยน้ำเสียงที่อู้อี้
หลังจากลงจากรถ ทั้งสามคนก็มาถึงร้านอาหารหม้อไฟที่มีชื่อเสียงมาก ซูเซี่ยสั่งอาหารสองสามอย่างและส่งเมนูให้ถังเฉา “พี่ถังเฉา พี่ดูสิ่งที่ฉันสั่งตรงกับรสชาติที่พี่ชอบไหมคะ?”
ถังเฉารีบมาดู สังเกตเห็นว่าที่ซูเซี่ยสั่งมีแต่เนื้อสัตว์ ซึ่งมีราคาแพง เขาจึงพูดว่า “พี่ไม่เรื่องมาก สั่งเยอะแล้ว”
“ไม่เป็นไร ก็สั่งนี่แหละ”
ซูเซี่ยไปเรียกพนักงานเสิร์ฟมา
ตอนนี้กำลังเป็นเวลาสั่งอาหาร ในร้านหม้อไฟคนเต็มไปหมด หนวกหูมาก
ขณะนี้ มือถือของถังเฉาดังขึ้น พอมอง กลายเป็นเบอร์ที่ไม่รู้จัก
“พี่จะรับโทรศัพท์หน่อย”
เมื่อเขามาถึงนอกประตูร้านอาหารหม้อไฟ สีหน้าของถังเฉาก็ดูเคร่งขรึม และเขาก็กดปุ่มรับสาย
ทันใดนั้นเสียงของชายคนหนึ่งก็ดังมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ “ขอโทษครับ ใช่คุณถังหรือเปล่า?”
“คุณคือ … จูหาว?” ดวงตาของถังเฉาประหลาดใจ
“ผมเอง”
จูหาวเงียบไปสักพัก จากนั้นก็พูดด้วยเสียงต่ำว่า “ผมรับปากเงื่อนไขของคุณ แต่ว่า คุณมีความสามารถล้มบริษัทผลิตยาหงเทียน ได้จริงใช่ไหม?”
ถังเฉายิ้มอย่างแผ่วเบา “ผมบอกแล้ว ในสายตาคุณเป็นศัตรูที่ไม่มีใครเทียบได้ แต่ในสายตาของผมก็ไม่ต่างอะไรจากมด เพียงเแต่ถ้ามีคุณช่วยเหลือ มันจะยิ่งง่ายขึ้น”
“ผมไม่ชอบความยุ่งยาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ผมจะกลัวความยุ่งยาก”
“ตกลง คุณจะให้ผมทำยังไง!”
ในโทรศัพท์ น้ำเสียงของจูหาวรู้สึกตื่นเต้นมาก
“ง่ายมาก ช่วยผมระบุเหตุการณ์ ’16 มีนาคม’ ด้วย” ถังเฉาพูดแบบนิ่งๆ
ทันทีที่เขาพูดแบบนี้ออกมา จูหาวก็ตกอยู่ในห้วงแห่งความเงียบ ผ่านไปนานมาก ถึงจะถอนหายใจออกมา “ได้ ผมจะประกาศความจริงต่อสาธารณะ”
หลังจากวางสาย ถังเฉาก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย บริษัทผลิตยาหงเทียน จบแน่
แล้วเขาก็กลับไปที่ร้านอาหารหม้อไฟใหม่เพื่อเตรียมตัวจะกิน แต่ทันทีที่เข้าไป เขาก็เห็นฉากที่ทำให้ตาของเขาว้าวุ่น
มีผู้ชายอันธพาลหลายคนไม่รู้ว่ามาจากไหน ล้อมซูเซี่ยกับหลิงจ้าวหยูนไว้
“ พี่ใหญ่ คนสวยสองคนนี้หน้าตาสละสลวยไม่เบานะ เทียบกับผู้หญิงเมื่อสองวันที่แล้วดูดีกว่ามาก… ”
“คนสวย คืนนี้สนใจไปเล่นกับพวกเราหน่อยไหม? รับรองว่าคุณถูกใจกับราคาแน่!”
“มองอะไร กินหม้อไฟของคุณไป!”
พวกเขาหัวเราะตามอำเภอใจ แขกในร้านทุกคนกับพนักงานเสิร์ฟก็ไม่กล้าออกเสียง มองก็รู้ว่าเป็นพวกคนหัวงู
“ เล่นทวดมึงสิ!”
หลินจ้าวหยูโกรธมาก ด่าแล้วจะไปเตะคนพวกนั้น แต่กลับถูกคนใช้แรงจับไว้
ซูเซี่ยหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมาเพื่อโทรหาถังเฉา พึ่งหยิบออกมา ก็ถูกผู้ชายผมทองคนหนึ่งตาไวมือไวจับไว้ จากนั้นตุ้มโยนเข้าหม้อไฟที่ร้อนๆ
“ อยากเรียกตำรวจเหรอ? ไม่มีทาง!”
ชายผมเหลืองมองไปที่ซูเซี่ยอย่างเย็นชา และมือที่ตั้งท่าจะตบแก้มเธอ
“อ้ะ—-“
ซูเซี่ยตกใจกลัวมากจนหลับตา แต่ว่า ผ่านไปตั้งนาน ก็ไม่เห็นฝ่ามือตบมาที่หน้าเธอ หลังจากนั้นไม่นานก็ไม่เห็นฝ่ามือตบมาที่หน้าตัวเอง
เธอจึงค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างระมัดระวัง และเห็นเงาร่างสูงใหญ่ตรงหน้าเธอเพิ่มขึ้นอีกคน
เพี๊ยะ —-
ถังเฉาคว้ามือของชายผมเหลืองและชี้ไปที่โทรศัพท์ที่กำลังเดือดอยู่ในหม้อไฟ เสียงของเขาเย็นชามาก
“ ล้วงขึ้นมา”