เย่หรูอี้หน้าตาไร้เดียงสา “จะเป็นไปได้ยังไง ฉันแค่เห็นว่าเธอฝักใฝ่ในวิชาการต่อสู้ก็เลยสั่งให้คนอื่นสอนเธอ มีอะไรไม่เหมาะสมหรอ?”
ถังเฉาสีหน้าเย็นชา แต่ไม่ได้พูดอะไร
เย่หรูอี้นึกว่าแผนตัวเองสำเร็จแล้ว จึงกลับไปที่ห้องตัวเองอย่างรวดเร็ว
พริบตาที่หันหลังไป เย่หรูอี้ก็เผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมา เธอยิ้มอย่างเหี้ยมโหด
เธอหันหลังให้ถังเฉาและเย่ไป๋
“สหายถังเฉา คุณมีแผนการอะไรหรอ ทำไมเมื่อกี้ถึงแอบส่งสัญญาณให้ฉันปล่อยให้นายพลพาตัวน้องสาวของฉันไป?” เย่ไป๋ถามอย่างร้อนใจ
ถังเฉาได้ยินดังนั้นแล้วเพียงแต่ยิ้มบางๆ
“สหายเย่ คุณคิดว่าแม่ทัพเฉินเป็นคนที่ไม่มีคุณธรรมขนาดนั้นเลยหรอ?”
“ถ้าเขาจะจัดการตระกูลเย่ของคุณต้องรอถึงตอนนี้หรอ แค่ออกคำสั่งมาชุดหนึ่งแล้วจับทุกคนในตระกูเย่ของคุณก็ได้แล้ว”
ได้ยินประโยคนี้ของถังเฉาเย่ไป๋ถึงเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้าง
“พูดมีเหตุผลนะ แต่ทำไมนายพลต้องทำแบบนี้ด้วยล่ะ ทำแบบนี้มีผลอะไรต่อเขา”
ขณะนั้นถังเฉาเพียงแต่ส่ายหัว ตบไหล่เย่ไป๋พลางกล่าว
“สหายเย่ไป๋ นายไร้เดียงสาเกินไปแล้ว เรื่องนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน ทำไมถึงรอจนเย่หรูอี้กลับมาแล้วน้องสาวของคุณถึงถูกจับล่ะ?”
เย่ไป๋ยังไม่ค่อยเข้าใจ ทำไมเย่หรูอี้คนนี้ต้องทำแบบนี้ด้วย?
“สมัยนั้นที่พวกคุณไล่ครอบครัวของเธอออกจากตระกูล เธอจะไม่เคียดแค้นใจบ้างเลยหรอ หรือคุณคิดว่าเธอเป็นคนประเภทที่ฉันจะพากลับมาได้ง่ายๆ”
“คอยจับตาดูเธอไว้ตลอดเวลาแล้วกัน ไม่อย่างนั้นเธออาจจะแทงข้างหลังคุณได้ทุกเมื่อ”
เย่ไป๋ได้ยินที่ถังเฉาพูดแล้วถึงตระหนักได้ถึงภยันตราย และมีสีหน้าวิตกกังวล
“แล้วตอนนี้จะทำยังไงเรื่องน้องสาวฉันดีล่ะ จะปล่อยให้เธอโดนนายพลเฉินจับตัวไปหรอ แล้วเราก็ไม่ทำอะไรเลย?”
ถังเฉาฟังแล้วยิ้มบางๆ มองเย่ไป๋ด้านข้างและถามด้วยท่าทีฉงน
“ปกติคุณก็ไม่โง่นี่ ทำไมเวลาแบบนี้ถึงคิดไม่ได้นะ หรือว่าคุณคิดว่านายพลเฉินจะทำร้ายเรา?”
“เขาทำแบบนี้ก็แค่ทำตามหน้าที่ ทำให้ผู้อื่นดู วิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็คืออย่าให้น้องสาวของคุณเพล่นพล่านไปทั่ว ถ้าโดนใครดักทำร้ายไปจะแย่เอา”
ตอนนี้เย่โฮ่เอ๋อเป็นเหมือนนักโทษคนหนึ่ง การฆ่านักโทษในราชวงศ์ต้าเซี่ยไม่ถือว่าผิดกฎหมาย
ดังนั้นถ้าตอนนี้เย่หรูอี้เรียกคนอื่นไปลอบทำร้ายเย่โฮ่เอ๋อ เย่โฮ่เอ๋อต้องตายอย่างแน่นอน
“ไม่ว่ายังไงเราไปที่จวนนายพลกันก่อนเถอะ ไม่อย่างนั้นอยู่ที่นั่นไม่รู้ว่าน้องสาวของฉันจะกลัวมั้ย”
ตั้งแต่เด็กเย่ไป๋ก็ตามใจเย่โฮ่เอ๋อมากมาโดยตลอด ทว่าตอนนี้เย่โฮ่เอ๋อถูกจับไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แปลกตา ในฐานะพี่ชายใจของเขาร้อนรนดั่งมีไฟสุม
“ตกลง แต่ถ้าจะไปก็ต้องเป็นฉันที่ไป คุณอยู่ที่นี่ต่อเถอะ มิฉะนั้นพวกคนคิดไม่ดีรู้เข้าจะยิ่งเป็นอันตรายต่อน้องสาวของคุณ”
ถังเฉาบอก “คุณสบายใจได้ หากเกิดอะไรขึ้นฉันจะบอกคุณ”
เย่ไป๋ได้แต่พยักหน้าโดยทำอะไรไม่ได้
“ก็ได้ แต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นคุณต้องบอกฉันนะ และฉันขอร้องคุณเลยว่าโปรดปกป้องน้องสาวของฉันให้ดี!”
ถังเฉาพยักหน้าอย่างเด็ดขาดและออกเดินทางทันที
ในขณะเดียวกัน นายพลเฉินกำลังมีสีหน้ากังวลอยู่ข้างทาง
เย่โฮ่เอ๋อนั่งอยู่ในรถคุมนักโทษที่ปิดสนิท คนที่อยู่ข้างนอกมองไม่เห็นสิ่งที่อยู่ข้างใน และไม่สามารถได้ยินสิ่งที่คนข้างในพูด
“เย่โฮ่เอ๋อ คุณสบายใจได้ ฉันไม่เอาชีวิตของคุณหรอก ฉันแค่ทำให้คนอื่นดูเท่านั้น”
“ถ้าตอนนี้ฉันไม่จับคุณ ถึงเวลาโดนคนอื่นจับคุณได้ถูกเอาชีวิตจริงๆแน่ ฉันจับคุณก็เพื่อปกป้องคุณ”
นายพลเฉินมองเย่โฮ่เอ๋อพลางกล่าว
“แต่ฉันสามารถบอกคุณได้อย่างชัดเจนเลยว่าฉันต้องลงมือกับตระกูลเย่ของคุณแล้ว เพราะฉันรู้ว่าในตระกูลเย่ของคุณต้องมีคนไม่ดีแฝงอยู่แน่ๆ”
ความรู้สึกไวของเฉินเหมิ่งสัมผัสถึงความผิดปกติของตระกูลเย่ได้ในทันที
ได้ยินมาถึงตรงนี้ เย่โฮ่เอ๋อถึงสงบลงได้จริงๆ และมองนายพลเฉินตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ
เฉินเหมิ่งเห็นว่าเย่โฮ่เอ๋ออยากจะพูดอะไร จึงดึงที่ปิดปากของเธอออก
“พูดอย่างระวังนะ อย่าให้คนข้างนอกได้ยิน นี่เราอยู่บนถนนใหญ่ ถ้าคุณไม่ระวังจะทำให้ทั้งตระกู
เย่จบชีวิตไปกับคุณด้วย”
“ขอบคุณนายพลเฉินมากนะคะ ฉันว่าฉันพอจะรู้แล้วว่าคนทรยศคนนั้นคือใคร”
เย่โฮ่เอ๋อบอก
หลังจากได้ยินแบบนี้ เฉินเหมิ่งก็มองเย่โฮ่เอ๋อตรงหน้าด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ
“ใครกัน?”
จากนั้นเย่โฮ่เอ๋อก็หยิบรูปใบหนึ่งออกมา และยื่นให้เฉินเหมิ่ง
“น่าจะเป็นเธอคนนี้ค่ะ เธอเป็นคนที่เพื่อนของพี่ชายฉันพากลับมาด้วย ได้ยินมาว่าเธอมีความเกี่ยวข้องกับองค์กรอะไรสักอย่าง”
“และพี่ชายฉันก็บอกด้วยว่าคนๆนี้ไม่ธรรมดา ให้ฉันระวังเธอให้ดี ฉันแค่คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องกับฉันเร็วขนาดนี้”
เฉินเหมิ่งได้ยินที่เย่โฮ่เอ๋อพูดจบปุ๊บก็รู้แล้วว่าองค์กรที่เย่โฮ่เอ๋อพูดถึงคือองค์กรอะไร
“ตอนนี้องค์กรที่สร้างผลกระทบได้มากเพียงนี้ในประเทศคงจะมีแค่องค์กรเดียว”
“ถ้าสหายถังเฉาเดาไม่ผิด เรื่องนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ เช่นนี้ก็เป็นการพิสูจน์แล้วว่าองค์กรนั้นได้หยั่งรากลึกลงมาในโครงสร้างของพวกเรา หากพวกเราไม่รีบจัดการเรื่องนี้ก็จะยิ่งร้ายแรงขึ้นไปอีกอย่างแน่นอน”
เย่โฮ่เอ๋ออีกด้านที่ได้ยินคำพูดของนายพลเฉินก็มีสีหน้างงงวย ไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น
“ที่แท้ก็เป็นเธอคนนี้จริงๆหรอ? ดูท่าฉันจะโดนหลอกใช้จริงๆ”
หลังจากเย่โฮ่เอ๋อรู้ความจริงและมองเห็นความจริงแล้ว ก็มีท่าทีสำนึกผิด
“ฉันอุตส่าห์คิดว่าจะได้เรียนรู้สิ่งที่มีประโยชน์จากเธอ คิดไม่ถึงว่าเธอแค่หลอกใช้ฉัน คิดจะให้ฉันเป็นเครื่องมือในการสังหารทั้งตระกูลเย่”