“ประโยคนี้ก็เพียงพอที่จะมองออกได้ว่าคุณไร้เดียงสามากแค่ไหน คุณคงไม่ได้คิดว่าคุณเพียงแค่อยากจะทำลายตระกูลเย่ของพวกคุณเท่านั้นจริง ๆ ใช่ไหม?”
นายพลเฉินยิ้มเย็น
“ผมสามารถบอกคุณชัด ๆ ได้นะว่าความทะเยอทะยานอย่างป่าเถื่อนขององค์กรนั้นห่างไกลกับการอยู่แค่นี้มาก แต่เป็นทั้งราชวงศ์ต้าเซี่ย รวมถึงราชวงศ์ของพวกเราด้วย”
ฟังมาถึงตรงนี้แล้ว เย่โฮ่เอ๋อก็มีสีหน้าไม่อยากจะเชื่อผุดขึ้นมา
เพราะว่าในภาพทรงจำของเธอ ราชวงศ์ก็คือตระกูลหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกใบนี้ นึกไม่ถึงว่ายังจะมีคนที่สามารถคุกคามถึงราชวงศ์ได้?
“นี่มันเป็นไปได้อย่างไร? ถ้าหากว่าเป็นอย่างนี้จริง ๆ ละก็ ราชวงศ์ของพวกเราส่งคนไปกวาดองค์กรของพวกมันให้เรียบ แค่นั้นก็ได้แล้วไหม?”
เย่โฮ่เอ๋ออดไม่ได้ที่จะเสนอความคิดเห็นขึ้นมา
นายพลเฉินโบกไม้โบกมือ “ไม่มีประโยชน์ ต่อให้เป็นคนของราชวงศ์ก็มีคนไม่มากที่กล้าที่จะไปจริง ๆ”
“ถึงอย่างไรเสีย แหล่งที่มาที่เกี่ยวพันกับองค์กรนี้ก็มีมากเกินไป ถ้าหากลงมือกับพวกเขาอย่างมักง่ายละก็ คาดว่าคนที่จะเสียเปรียบก็จะเป็นพวกเรา”
พูดจบบนใบหน้าของนายพลเฉินก็ปรากฏสีหน้าจนปัญญา
และในตอนนี้นี่เอง รถคุมขังคันนี้ก็โดนเคาะจนส่งเสียงขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ตอนนี้ถังเฉาอยู่ข้างนอก ใช้ก้อนหินก้อนเล็ก ๆ โยนมาที่รถคุมขังคันนี้ ทันใดนั้นเฉินเหมิ่งก็เข้าใจในทันที
“คุณดูสิ นี่ไม่ใช่ว่ามีคนมาช่วยชีวิตคุณแล้วหรอกหรือ?”
นายพลเฉินมองเย่โฮ่เอ๋อพลางเอ่ยว่า คุณวางใจเถอะ ขอเพียงผมพาพวกคุณไปทำพอเป็นพิธี หลังจากที่พาพวกคุณกลับมาแล้ว ผมก็จะปล่อยคุณไป แต่ว่าทางที่ดีช่วงระยะสั้น ๆ นี้อย่าเพิ่งกลับไปตระกูลเย่ ถึงอย่างไรเสีย ถ้าหากว่าคนที่คุณพูดว่าเป็นคนทรยศอยู่ในตระกูลเย่ของพวกคุณละก็ คนที่จะวุ่นวายไม่ได้มีเพียงแค่คุณแล้ว ผมเองก็ต้องตกที่นั่งลำบากไปกับพวกคุณด้วย”
ตระกูลเย่ถือเป็นตระกูลพันธมิตรของตระกูลถัง
ถ้าหากว่าทำร้ายตระกูลเย่ไปแล้ว นั่นก็เท่ากับเป็นศัตรูกับตระกูลถังด้วย
จากนี้ไปเฉินเหมิ่งยังต้องใช้ถังเฉา ดังนั้นจึงไม่อยากจะรีบไปฉีกหน้ากับถังเฉาคนนั้น กลับอยากจะช่วยเหลือถังเฉาไปทุก ๆ เรื่อง
เย่โฮ่เอ๋อได้ยินว่ามีคนมาช่วยชีวิตตัวเองแล้ว จากนั้นจึงตื่นเต้นขึ้นมาทันที มองเฉินเหมิ่งที่อยู่ข้าง ๆ พลางเอ่ยว่า
“คุณหมายถึงพี่ชายของฉันใช่ไหม? พี่ชายของฉันมาช่วยชีวิตฉันแล้วหรือ?”
นายพลเฉินส่ายศีรษะ “กลิ่นอายนี้ไม่เหมือนของพี่ชายของคุณ กลับเหมือนถังเฉา พวกพ้องของพี่ชายคุณ คุณไม่ต้องกังวลไปหรอก ศักยภาพของเขาเหนือกว่าพี่ชายของคุณ การคุ้มครองของเขาปลอดภัยกว่าการคุ้มครองของพี่ชายคุณเยอะ แบบนี้ผมเองก็วางใจไปเยอะเลย”
อาจจะเป็นเพราะว่าเย่โฮ่เอ๋อค่อนข้างที่จะถือหางพี่ชายของตัวเอง หลังจากที่ได้ยินนายพลพูดจาเช่นนี้แล้วก็ไม่พอใจขึ้นมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่ยินดี
“ใครบอกคุณว่าพี่ชายของฉันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา? ฉันจะบอกคุณให้นะ พี่ชายของฉันไร้เทียมทาน ต่อให้คุณลงมือกับพี่ชายของฉัน คาดว่าคุณน่าจะถูกพี่ชายของฉันฆ่าตายในชั่ววินาทีเดียว”
เฉินเหมิ่งเจอการคุยโวที่ไร้สมองเช่นนี้แล้วก็ไร้หนทางใด ๆ กลับเปิดโปงขึ้นมาอย่างเกรงใจ
“ได้ ๆ ๆ ถึงอย่างไรผมเพียงแค่บอกคุณ มีการคุ้มครองของเขา คุณจะปลอดภัยมาก”
ตอนนี้เย่โฮ่เอ๋อจึงได้สงบลง
ในตอนนี้เอง ถังเฉาจึงได้รับหินก้อนนั้นที่จอมพลโยนออกไป
บนก้อนหินมีรอยขีดหนึ่งสลักอยู่ พอมองอย่างละเอียดก็เห็นเป็นคำว่า ‘รอ’
หลังจากที่มองเห็นตัวอักษรนี้แล้ว ถังเฉาก็ไม่ได้โยนก้อนหินต่อไปอีก แต่เป็นแอบติดตามอยู่ข้าง ๆ
ส่วนนายพลเฉินที่อยู่บนรถก็รอจังหวะที่แม่นยำ เคลื่อนกำลังภายในของตัวเองอยู่ที่ปากทางเข้าป่า คนที่อยู่รอบ ๆ สลบไสลล้มลงไปกันทั้งหมด
“ถังเฉา รีบพาคนหนีไปก่อน แต่อย่ากลับไปที่ราชวงศ์ต้าเซี่ยเด็ดขาด ถ้าหากว่าถูกจับไปแล้ว นั่นก็จะไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ แล้ว แม้ว่าจะพาผมไปด้วยก็จะต้องวุ่นวายไปด้วยกัน”
นายพลเฉินเอ่ยปากด้วยสีหน้าเข้มงวด
ถังเฉาพยักหน้า แล้วพาเย่โฮ่เอ๋อจากไปโดยไม่ได้หันกลับมามอง
เนื่องจากเวลาเร่งด่วน ถังเฉาจึงไม่ได้คลายมือออก กลับดึงมือของเย่โฮ่เอ๋อเอาไว้แน่น
เย่โฮ่เอ๋อมองมือตัวเองอย่างยากที่จะเชื่อถือมาตลอดทาง ถึงอย่างไรเสียนี่ก็เป็นครั้งแรกในชีวิตของตนที่สัมผัสกับผู้ชายใกล้ชิดถึงเพียงนี้ แต่เธอกลับไม่มีความรู้สึกรังเกียจใด ๆ
ทันใดนั้นถังเฉาก็หยุดฝีเท้าลง
“ทำไมหรือ? ไม่วิ่งแล้วหรือ? ไม่กลัวว่าคนข้างหลังจะตามมาทันหรือ?”
เย่โฮ่เอ๋อเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ
ถังเฉาส่ายศีรษะมองข้างกาย “ตอนนี้คุณไม่สามารถอยู่ในราชวงศ์ต้าเซี่ยได้อีกแล้ว ผมต้องส่งคุณไปประเทศญี่ปุ่น”
“ที่นั่นเพื่อนของผมจะคุ้มครองคุณเอง แต่คุณก็จะต้องหลบซ่อนตัว ถ้าหากว่าโดนเจอขึ้นมา ก็จะรักษาชีวิตของคุณเอาไว้ไม่ได้แล้ว”
“ผมรู้ว่าคุณอาจจะไม่กลัว แต่ผมอยากให้คุณพิจารณาตระกูลเย่สักหน่อย ถึงอย่างไรเสียพี่ชายของคุณก็อยู่ในนั้น”
ถูกถังเฉาพูดเข้าตรงประเด็นเข้าจนได้ แรกเริ่มเย่โฮ่เอ๋อยังไม่อยากจะจากไปจริง ๆ
จนกระทั่งหลังจากที่ถังเฉาพูดขึ้นมา จึงสำนึกได้ถึงความร้ายแรงของเหตุการณ์
“ไม่ใช่ว่าฝึกการต่อสู้แล้วก็จะก่อให้เกิดเรื่องราววุ่นวายมากมายแล้ว?”
ถังเฉาส่ายศีรษะ พูดกับเย่โฮ่เอ๋อที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยรอยยิ้ม “คุณเป็นเพียงหมากที่น่าสงสารในกระดานหมากนี้ แต่ไม่ได้สร้างผลกระทบอะไรกับเรื่องนี้”
“เพียงแค่มีคนคิดที่จะทำลายตระกูลเย่ทิ้ง แม้ว่าคุณจะไม่ได้เรียนการต่อสู้เล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นก็เหมือนกัน”
หลังจากที่ฟังมาจนถึงตอนนี้แล้ว เย่โฮ่เอ๋อก็ตกตะลึงยิ่งขึ้น
ก่อนหน้านี้ เธอยังคิดว่าราชวงศ์ต้าเซี่ยเป็นที่แห่งหนึ่งที่อยู่ได้ด้วยกำลังรบ
แต่ตอนนี้เธอจึงพบว่า ที่แท้แล้วทุกที่บนโลกใบนี้ล้วนเต็มไปด้วยแผนการ ไม่ระวังเพียงนิดเดียวก็อาจจะเสียชีวิตได้เลย
“ตกลงมันเป็นใครกันแน่ ที่คิดอยากจะล้างบางตระกูลเย่ของเรา”
ถังเฉาไม่ได้ตอบรับ เพียงแค่ยิ้มจาง ๆ ครั้งหนึ่ง แล้วก็พาตัวเย่โฮ่เอ๋อจากไป
อีกด้านหนึ่ง ตระกูลเย่
หลังจากที่เย่ไป๋ได้รู้ว่าเย่โฮ่เอ๋ออยู่ในความปลอดภัยแล้ว ก้อนหินที่อยู่ในใจก็นับว่าวางลงไปได้แล้ว
แต่ว่าจะเปิดเผยว่าน้องสาวของตัวเองยังไม่ตายไม่ได้เด็ดขาด คิดไปคิดมาแล้วเย่ไป๋ก็ทำสีหน้าท่าทางเหมือนสิ้นหวังเป็นอย่างมากออกมา
“ทำไมหรือ หรือว่าเกิดเรื่องอะไรกับน้องสาวอย่างนั้นหรือ?”
เย่หรูอี้เดินไปอยู่ข้าง ๆ เย่ไป๋ด้วยท่าทางเสแสร้ง
เย่ไป๋เพียงแค่พยักหน้าน้อย ๆ
“เป็นอย่างนี้ไปได้ยังไงน่ะ? ผมเพียงแค่สอนการต่อสู้ให้กับเธอก็เท่านั้น คนของราชวงศ์ก็จะต้องสังหารเธอเลยอย่างนั้นหรือ?”
“พี่ชาย หรือไม่พวกเรา หรือไม่…พวกเราคงจะอยู่ร่วมโลกกับราชวงศ์ไม่ได้ ด้วยการช่วยเหลือของฉัน จะต้องสามารถลากราชวงศ์นี้ลงจากตำแหน่งได้แน่!”
เย่หรูอี้โน้มน้าวเป็นขั้นเป็นตอน
หลังจากที่เย่ไป๋ได้ยินประโยคนี้แล้วก็ยิ่งแน่ใจว่าเย่หรูอี้คนนี้จะต้องมาเพื่อก่อกวนให้ราชวงศ์ต้าเซี่ยเกิดความโกลาหลยกใหญ่อย่างแน่นอน