“คุณกำลังทำอะไรอยู่? ห้ามเอาเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้พูดออกมาเชียวนะ ไม่อย่างนั้นฉันไม่ยกโทษให้คุณแน่”
มองดูถังเฉาที่นึกไม่ถึงว่าจะบันทึกท่าทางของเธอเอาไว้แล้ว ใบหน้าของเย่โฮ่เอ๋อก็เต็มไปด้วยความโมโหร้ายในทันที
ถังเฉามองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าแล้วหัวเราะเสียงดังออกมา
“ถ้าเรื่องรู้ไปถึงข้างนอกจะเป็นยังไงนะ? ขึ้นอยู่กับท่าทีของคุณแล้ว”
ตอนนี้เย่โฮ่เอ๋อจึงลุกลี้ลุกลนแล้ว
ภาพลักษณ์ของเธอในราชวงศ์ต้าเซี่ยเป็นถึงผู้หญิงที่ฉลาดและกล้าหาญคนหนึ่ง ถ้าหากถูกเห็นภาพลักษณ์เช่นนี้ เธอจะเอาหน้าไปไว้ไหน
เย่โฮ่เอ๋อไม่กล้าอารมณ์เสีย ถึงแม้ว่าโทสะในใจจะพุ่งขึ้นสมองไปแล้ว กลับยอมพูดอย่างยอมวางตัวลงต่ำว่า
“พี่ถังคะ ตกลงพี่จะเอาอย่างไรคะ? ไม่ว่าคุณจะพูดอะไรฉันก็จะตกลง โอเคไหม? ขอเพียงพี่ไม่เอาวิดีโอของฉันเผยแพร่ออกไป ให้ฉันทำอะไรก็ได้”
อาจจะเป็นเพราะความคิดของเย่โฮ่เอ๋อค่อนข้างเรียบง่าย ไม่ได้คิดถึงเลยว่าถ้าหากคนอื่นได้ยินประโยคนี้แล้วจะคิดไปถึงไหน
“แคก ๆ ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ขอเพียงคุณไปอยู่กับเจ้าหญิงอายาเสะอย่างเชื่อฟัง รอจนผมกลับมารับคุณก็พอแล้ว”
“แบบนี้ผมถึงจะไม่เผยแพร่คลิป แต่ถ้าหากคุณไม่เชื่อฟังละก็ ผมจะเอาคลิปของคุณส่งไปบนคอลัมน์ประกาศของราชวงศ์ต้าเซี่ยตอนนี้เลย พอถึงตอนนั้นคุณก็จะมีชื่อเสียงแล้ว”
ถังเฉาเอ่ยขึ้น
เย่โฮ่เอ๋อกัดฟัน มุ่ยปากไปครึ่งหนึ่ง น้ำเสียงกลับนุ่มนวลเป็นอย่างยิ่ง
“อย่างนั้นก็ได้ ฉันจะไปอยู่ที่นั่นพักหนึ่ง แต่ว่าคุณต้องรับปากฉันนะ ว่าคุณจะไม่ปล่อยคลิปนั่นออกไป ไม่อย่างนั้นละก็ ฉันจะไม่ให้อภัยคุณแน่”
จากนั้นทั้งสองคนก็ออกจากป่าไป
ถังเฉาพาเธอไปยังตำแหน่งที่อยู่ที่ปักหมุดไว้ทันที
……
อีกด้านหนึ่ง
“เป็นอย่างไรบ้าง นายท่านจ้าว คนทางนั้นถูกคุณฆ่าตายหรือยัง แล้วทำไมถึงไม่เห็นทหารคนสนิทของฉันแล้วล่ะ”
เจ้าหญิงอายาเสะเห็นลูกน้องของตัวเองกลับมาแล้ว กลับมองไม่เห็นองครักษ์ที่อยู่ด้านหลังของเขา เอ่ยถามขึ้นด้วยใบหน้าประหลาดใจ
เห็นเพียงนายท่านจ้าวถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง เอ่ยขึ้นกับเจ้าหญิงอายาเสะว่า
“เรื่องมันยาวพ่ะย่ะค่ะ ผมนึกไม่ถึงเลยว่าศักยภาพของคนผู้นั้นจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ เดิมทีคิดจะขวางเขาเอาไว้ กลับนึกไม่ถึงว่าเขาจะลงมือกับพวกเราอย่างกะทันหัน”
“องครักษ์ของพวกเรามีมากมายขนาดนี้ ก็ยังต่อต้านคนสองคนนั้นไว้ไม่ได้ สุดท้ายก็เหลือกระหม่อมเพียงคนเดียวแล้วพ่ะย่ะค่ะ แต่ก็ยังดีที่มาตายอยู่ในมือของกระหม่อม”
“อย่างนั้นหรือ…”
เจ้าหญิงอายาเสะรู้ว่าถ้าหากว่าเป็นถังเฉาจริง ๆ ละก็ จะต้องไม่ถูกฆ่าตายง่าย ๆ ขนาดนั้นแน่
ด้วยเหตุนี้ หลังจากที่ฟังคำพูดของนายท่านจ้าวแล้วจึงคิดว่าคนคนนี้ไม่มีทางเป็นถังเฉาไปได้
“ลำบากท่านแล้ว รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ เรื่องสนามรบทางด้านตะวันออกนั่น เราจะสั่งคนไปจัดการเอง”
หลังจากที่นายท่านจ้าวฟังจบแล้วก็จากไปด้วยรอยยิ้ม
ส่วนถังเฉาในตอนนี้ก็เข้ามาใกล้ฐานที่มั่นนี้ทีละก้าว ๆ แล้ว
“ไม่รู้จริง ๆ เลยว่าคนคนนั้นพูดอะไรกับเจ้าหญิงอายาเสะ…”
ถังเฉายิ้มไปด้วยพูดพึมพำกับตัวเองไปด้วย
ส่วนเย่โฮ่เอ๋อที่อยู่ข้าง ๆ ก็กัดฟันมาตลอดทาง แต่ทุกครั้งที่ถังเฉาหันกลับมา เธอก็เปลี่ยนสีหน้าท่าทางของตัวเองในทันที
ทั้งสองมาถึงใต้กำแพงเมืองด้วยความรวดเร็ว
“คุณเป็นใคร? เพราะอะไรถึงมาที่นี่?”
องครักษ์ที่ประตูชักดาบขึ้นมาประจันหน้าโดยไม่ให้สุ้มให้เสียง
“สวัสดีครับท่าน ผมมาหาเจ้าหญิงอายาเสะของพวกคุณ รบกวนทูลพระองค์ด้วยว่าถังเฉาจากราชวงศ์ต้าเซี่ยมาขอเข้าเฝ้า”
ถังเฉาเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“ได้โปรดรอสักครู่ ผมจะไปทูลเจ้าหญิงอายาเสะ”
องครักษ์เอ่ยขึ้นว่า “แต่ว่าต่อไปคุณจะต้องแก้คำพูดแล้ว เจ้าหญิงอายาเสะไม่ได้เรียกว่าเจ้าหญิงอีกแล้ว ตอนนี้ต้องเรียกพระองค์ว่าราชินีอายาเสะ”
หลังจากที่ถังเฉาได้ยินคำพูดประโยคนี้แล้ว ในใจก็เต็มไปด้วยความปลื้มใจ ในที่สุดก็รอจนเจ้าหญิงอายาเสะขึ้นสู่ราชบัลลังก์ได้แล้ว
“ไม่ใช่สิ องค์ชายทั้งสองพระองค์ของประเทศญี่ปุ่นของพวกคุณล่ะ ผมจำได้ว่าไม่ใช่ว่าเมื่อก่อนพวกพระองค์แข่งขันเพื่อราชบัลลังก์กันอย่างดุเดือดหรอกหรือ? แล้วทำไมตอนนี้ถึงได้หายต๋อมไปเลยล่ะ?”
ถังเฉาเอ่ยถาม
องครักษ์คนนี้ได้ยินคำพูดของถังเฉาแล้ว หลังจากนั้นก็หัวเราะเสียงเย็นขึ้นทันที มองถังเฉาพลางเอ่ยว่า
“ทำไม อยากจะให้องค์ชายสองพระองค์นั่นขึ้นสืบทอดราชบัลลังก์อย่างนั้นหรือ? พวกเขาเป็นทรราชที่โหดเหี้ยมไร้มนุษยธรรม หรือจะเรียกอีกอย่างได้อีกว่าเป็นทรราชที่ใช้ชีวิตฟุ้งเฟ้อ พวกเราไม่ยินดีที่จะให้คนแบบนี้มาเป็นจักรพรรดิ”
“แต่จะว่าไปแล้วก็แปลก หลังจากที่องค์ชายทั้งสองพระองค์กลับมาจากราชวงศ์ต้าเซี่ยแล้ว ก็ไม่มีความสนใจต่อราชบัลลังก์แล้ว ตอนนี้ได้ตัดขาดจากการแก่งแย่งราชวงศ์โดยสมบูรณ์แล้ว”
แน่นอนว่าถังเฉารู้ว่าทำไมองค์ชายทั้งสองพระองค์ถึงได้มีท่าทีแปลกประหลาดเช่นนั้น แต่ก็ไม่ได้พูดมันออกมา
และตอนนี้อีกทางด้านหนึ่ง องครักษ์ได้มาถึงตรงหน้าของจักรพรรดินีแล้ว
“จักรพรรดินี ด้านนอกมีคนมาขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ”
หลังจากที่อายาเสะจักรพรรดินีได้ยินประโยคนั้นแล้ว ก็มีสีหน้าไม่เชื่อใจอย่างถึงที่สุด
“ตอนนี้แล้วยังจะมีใครมาเฝ้าฉันอีก?”
เจ้าหญิงอายาเสะเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยถามว่า “ตกลงแล้วคนที่อยู่ข้างนั้นเป็นใครกันแน่?”
เห็นเพียงองครักษ์เกาศีรษะ จากนั้นก็นึกถึงคำพูดที่ถังเฉาพูดขึ้นมา
“ฟังจากที่เขาพูดมา เขามาจากราชวงศ์ต้าเซี่ย มีชื่อว่าถังเฉา? บอกว่าจะขอเข้าเฝ้าพระองค์”
พอได้ยินชื่อนี้แล้ว ราชินีอายาเสะก็มีใบหน้ายิ้มแย้มเบิกบานขึ้นมาทันที ใบหน้าราวกับมีแสงอาทิตย์อาบไล้
แม้แต่โอดะไอที่อยู่ข้าง ๆ ก็ปรากฏสีหน้าไม่อยากจะเชื่อขึ้นมาอีกนิดหน่อย
“เป็นไปได้อย่างไร? พี่ใหญ่ถังมาได้อย่างไร รีบไปบอกให้เขาเข้ามา”
ว่าแล้ว ราชินีอายาเสะและยังมีโอดะไอก็เดินลงมาด้านล่างเวทีด้วยกัน
“ช่างเถอะ ไม่ต้องให้คุณไปเรียกเขาเข้ามาหรอก พวกเราไปหาเขากันเองเถอะ”
ราชินีอายาเสะและยังมีโอดะไอ ทั้งสองคนวิ่งออกไปทางประตูฐานที่มั่นด้วยความรวดเร็ว