ได้ยินแบบนี้ เย่หรูอี้ถอนหายใจออกมา
เพราะช่วงนี้มีชายหนุ่มคลุ้มคลั่งมาก่อกวนพวกเธอเยอะมากจริงๆ ดีที่พวกเธอสองคนไม่ใช่คนที่ยอมถูกคนอื่นรังแกง่ายๆ
“คงจะเป็นอย่างที่คุณพูดนั่นแหละค่ะคุณหงเหลียน พวกชายหนุ่มคลุ้มคลั่งคงแอบดูตึกของเราอีกแล้ว น่ารำคาญชะมัด”
หงเหลียนก็คิดว่าเป็นเช่นนั้น ตอนนี้ทั้งเมืองเยี่ยนจิงสงบสุข จะมีศัตรูจากที่ไหนกัน?
“เอาเถอะ ไม่ต้องไปสนใจพวกเขาหรอก ที่ตรงนี้คงจะไม่มีใครตามเข้ามาได้ ใช่ว่าใครๆก็เป็นแบบถังเฉาเสียหน่อย หรือเราจะต้องประจันกับถังเฉาไปทุกครั้งก็คงไม่ใช่”
หงเหลียนพูดจบเย่หรูอี้ก็หัวเราะออกมาเบาๆ
“จะว่าไปก็ใช่ ถึงยังไงซะถังเฉาก็เป็นคนไม่ใช่ผี จะหมายหัวพวกเราไปทุกครั้งได้ยังไง?”
และในตอนนั้นเอง ถังเฉาก็มาถึงจริงๆ และคนใต้ตึกก็คือสายสืบของเขา
คนๆนี้ไม่ใช่ยอดฝีมือที่ถังเฉารู้จักก่อนหน้านี้ แต่คือสายสืบที่ไวโอเล็ตแนะนำให้ถังเฉา
เนื่องจากยังมีสายสัมพันธ์กันอยู่ ญาติในครอบครัวป่วยหนัก ไวโอเล็ตจึงแนะนำเขาให้ถังเฉา ถังเฉาให้เงินที่มากพอ เป็นธรรมดาที่ไอ้หนุ่มนี่เชื่อฟังเต็มที่
“คุณถังครับ คนที่คุณตามหาน่าจะอยู่ข้างบนครับ จำไว้นะครับว่าต้องระวังตัวให้มาก ข้างบนนั้นไม่ได้มีแค่คนเดียว มีผู้บริหารสูงสุดห้าดาวอีกคนหนึ่งด้วยครับ”
พูดมาถึงตรงนี้ ถังเฉานึกถึงหงเหลียนเป็นคนแรก
ถังเฉารู้ว่าเมื่อวานหลี่เล่อและไวโอเล็ตได้หนีไปแล้ว และพวกเขาสองคนไม่มีทางมามีปัญหากับถังเฉา และมีเพียงตัวเลือกเดียวที่อยู่ข้างบน นั่นก็คือหงเหลียน
“ทำไมสองคนนั้นถึงไปอยู่ด้วยกันได้นะ? หรือว่าเย่หรูอี้มีความเกี่ยวพันกับหว่างเหลียง?”
ถังเฉาขมวดคิ้วเล็กน้อย ถึงจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับเย่หรูอี้ แต่ก็ยังรู้สึกเสียดายนิดหน่อยที่เย่หรูอี้ถูกชักจูงจนเป็นแบบนี้
ความรู้สึกที่เขามีต่อเย่หรูอี้ยังซับซ้อนอยู่มาก
ถังเฉาไม่ลังเลอีกต่อไป เขาเดินยาวๆขึ้นไปข้างบน
คล้อยตามเสียงฝีเท้าของถังเฉาที่เข้าใกล้คฤหาสน์เรื่อยๆ ในที่สุดสองคนในนั้นก็ตระหนักได้ว่ามีคนขึ้นมาจริงๆ
“ระวังนะ คุณไปหลบก่อน ฉันจะจัดการที่นี่เอง”
พูดเสร็จ หงเหลียนก็ผลักเย่หรูอี้เข้าห้องด้านในอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกระชากประตูออก
ประตูถูกล็อคเอาไว้ ทว่าถังเฉาเพียงแค่บิดเบาๆกลอนก็หลุดติดมือออกมาด้วย
“ไม่เจอกันนานเลยนะถังเฉา สบายดีใช่มั้ย!”
หงเหลียนไม่มีท่าทีตื่นตระหนกเลยสักนิด ไม่ได้เกรงกลัวต่อพลังของถังเฉาเลยแม้แต่นิดเดียว
“ก็ใช้ได้ แค่ได้รับผลกระทบจากเรื่องเล็กบางเรื่องน่ะ เลยมาตรวจสอบจุดเริ่มต้นของเรื่องเล็กนั่นที่นี่”
ได้ยินประโยคนี้ใจของหงเหลียนกระตุกวูบ เธอรู้ว่าถังเฉารู้เรื่องของเย่โฮ่เอ๋อแล้ว
“เพิ่งกลับมาก็หาที่อยู่ของพวกเราเจอ คุณทำได้ยังไง? สอนฉันหน่อยได้มั้ย?”
หงเหลียนหยอกล้อ ส่วนถังเฉาเพียงแต่ถอนหายใจก่อนจะเอ่ยขึ้น
“พวกคุณหว่างเหลียงมีเครือข่ายข้อมูลของตัวเอง เป็นเรื่องธรรมดาที่ฉันก็มีเช่นกัน ทำไมต้องถามด้วย?”
ชะงักไปนิดหน่อยก่อนที่ถังเฉาจะพูดต่อ
“จุดประสงค์ที่ฉันมาที่นี่เธอน่าจะรู้ดี ฉันไม่ได้มาหาเธอ แต่มาหาเย่หรูอี้”
หงเหลียนมองเขาด้วยสีหน้าไม่เข้าใจและถาม
“คุณชอบภรรยาของคุณที่สุดเลยไม่ใช่หรอ ทำไมถึงกลับมาหาผู้หญิงที่เคยมีอดีตด้วยล่ะ หรือว่าคุณคิดจะนอกใจภรรยา?”
ถ้าภรรยาของถังเฉามีนิสัยไม่แยกแยะ ถังเฉาอาจจะลนลานขึ้นมามาก แต่ถังเฉารู้ว่าภรรยาของตัวเองเชื่อใจตัวเองเต็มร้อย
“ไม่เป็นไร เธออยากจะทำอะไรก็ทำเลย ถึงยังไงฉันก็ต้องจัดการเรื่องวันนี้ให้ได้”
สายตาของถังเฉานั้นแน่วแน่
แน่นอนว่าหงเหลียนไม่ได้คิดว่าถังเฉาจะไปจากที่นี่เพราะเรื่องนี้หรอก
“ว่ามาสิว่าคุณมาหาเธอทำไม ฉันจะช่วยบอกเธอให้ ถ้าเธอไม่ต้องการพบคุณฉันก็จนปัญญา”
ถังเฉามองหงเหลียนตรงหน้า ยิ้มเย็นๆพลางกล่าว
“ตอนนี้ไม่ใช่ว่าเธอจะอยากพบฉันหรือไม่ แต่เป็นฉันอยากพบเธอหรือไม่ ไม่ว่ายังไงวันนี้ฉันก็ต้องได้เจอเธอ ฉันรู้ว่าเธออยู่ในนี้แหละ”
หลังจากพูดประโยคนี้จบ เย่หรูอี้ที่หลบอยู่ตรงประตูห้องด้านในก็ตัวสั่นอย่างอดไม่ได้
แต่พอรู้ว่าถังเฉามาหาตัวเอง เธอกลับตื้นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย
“ก็ได้ ในเมื่อคุณรั้นขนาดนี้ ฉันจะช่วยถามเธอให้ แต่ถ้าเธอไม่ยอมออกมาฉันก็ทำอะไรไม่ได้”
พูดจบหงเหลียนก็แกล้งทำเป็นส่งข้อความหาเย่หรูอี้สองข้อความ ความจริงคือบอกเย่หรูอี้ว่าอย่าออกมาเด็ดขาด
“บอกมาซิว่าคุณมาทำอะไร?”
ถังเฉาไม่กลัวหงเหลียนรู้หรอก เขาเพียงแต่นั่งลงตรงข้ามหงเหลียนด้วยท่าทีเรียบๆ
“เธอเป็นคนสอนศิลปะการต่อสู้ให้เย่โฮ่เอ๋อใช่มั้ย ฉันมาหนนี้ด้วยเรื่องนี้นี่แหละ”
“แต่ฉันไม่สนใจอะไรในตัวเธอหรอก ฉันมาเพื่อพบเย่หรูอี้เท่านั้น ฉันต้องพาเย่หรูอี้กลับไปที่ราชวงศ์ต้าเซี่ย”
“เธอไม่ต้องรู้สึกว่าฉันทำแบบนี้กับผู้หญิงที่ไร้ทางสู้มันเกินไปหรอก ฉันแค่จะพาเธอกลับไปเพื่อประโยชน์ของตัวเธอเอง”
หงเหลียนหัวเราะลั่น
“ดูคุณพูดเข้า องค์กรของเราไม่ดีตรงไหน หรือสวัสดิการของเราดีไม่พอ? จากที่ฉันดูมา สวัสดิการของเราดีกว่าเงินเดือนของบุคลากรแห่งสังคมอย่างพวกคุณตั้งเยอะ”
หงเหลียนแกล้งเฉไฉ แต่ความจริงเธอรู้ว่าถังเฉาหมายถึงหว่างเหลียงนั้นโหดเหี้ยมอำมหิต
“เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว รีบบอกให้เธอออกมาซะ ไม่อย่างนั้นฉันจะลงมือเองแล้วนะ”
ที่จริงเมื่อกี้หงเหลียนได้กดโทรศัพท์บอกให้คนในบังคับบัญชารีบมาล้อมถังเฉาไว้แล้ว แต่ถังเฉาไม่ใช่คนโง่ เขาเดาจุดนี้ออกนานแล้ว และเตรียมตัวมาอย่างดีพร้อมสู้
หลังจากได้ยินถังเฉาพูดประโยคนี้ หงเหลียนก็ดีดนิ้วดังเป๊าะ พริบตาเดียว หลายสิบคนก็พุ่งออกมาจากมุมต่างๆของห้อง