บทที่ 136 เรื่องใหญ่สามเรื่อง
“พ่อ ถังเฉา? นี่หลงเถิงกรุ๊ปนะ มาทำอะไรกันที่นี่”
หลินฉ่ายเวยตั้งสติได้ก่อนเพื่อน เธอมองพวกเขาอย่างตกตะลึง จากนั้นจึงพูดโพล่งออกมา
ถังเฉากับหลินเจิ้นสงก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะเจอหลินฉ่ายเวยในลิฟต์ แต่แววตาตกใจก็กลับมาเป็นปกติ
หลินเจิ้นสงกำลังจะพูดอะไร แต่โจวเหม่ยหยูนตั้งสติได้ เธอมองถังเฉาด้วยแววตาแปลกประหลาด “ที่ที่นายจะพาเจิ้นสงมาคือที่นี่เหรอ”
ถังเฉาไม่รู้ว่าโจวเหม่ยหยูนจะพูดอะไร แต่เขาก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “ใช่”
“ฉันก็คิดว่าจะเป็นที่ไหน”
โจวเหม่ยหยูนเหมือนเข้าใจอะไรบางอย่าง แววตาของเธอแปรเปลี่ยนเป็นความไม่พอใจ “นายพาเจิ้นสงมาหางานสินะ”
พูดจบ เธอมองหลินเจิ้นสงด้วยสายตาตำหนิ “นายก็ด้วย จะหางานก็บอกพวกเราสิ ที่นี่เป็นคนในครอบครัว เป็นผู้ถือหุ้นทั้งนั้น พวกเราหางานให้นายสักงานก็เรียบร้อยแล้วไม่ใช่หรือไง ไม่จำเป็นต้องมาสัมภาษณ์งานกับไอ้สวะนี่ คนอย่างนี้จะหางานดีๆ อะไรได้ล่ะ”
“ใช่ค่ะพ่อ หนูเป็นผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลเชียวนะ การที่จะให้พ่อเข้ามาที่นี่เป็นเรื่องง่ายมาก” หลินฉ่ายเวยเอ่ยขึ้นมาเช่นกัน
ทุกคนมองหลินเจิ้นสงด้วยสายตาแปลกประหลาด เหมือนมั่นใจมากว่าพวกเขาสองคนมาหางาน สีหน้าของหลินเจิ้นสงเปลี่ยนไปเล็กน้อย “พวกเธอเข้าใจผิดแล้ว”
“เข้าใจผิด? เข้าใจผิดอะไรคะ”
โจวเหม่ยหยูนพูดตัดบท “ตอนนี้หลงเถิงกรุ๊ปอยู่ในช่วงวุ่นวาย ถึงขนาดที่ต้องเปลี่ยนประธาน อย่าทำให้เกิดความผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว ถ้าเรื่องที่เขาพานายมาหางานเล็ดลอดออกไปข้างนอก พวกเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”
ติ๊งงงงง
ขณะนั้นเอง ประตูลิฟต์เปิดออก
โจวเหม่ยหยูนพูดเตือนเป็นครั้งสุดท้ายและเดินเข้าไปในห้องประชุมกับหลินฉ่ายเวยและโจวเหม่ยหลิง
ถังเฉามองพวกเธอที่เดินไปด้วยแววตาเย็นชา หลินเจิ้นสงฝืนยิ้มออกมาและพูดว่า “เสี่ยวเฉา มันไม่ยุติธรรมกับแกจริงๆ”
ความเย็นชาบนใบหน้าของถังเฉาหายไป เขายิ้มบางๆ “ดูเหมือนว่าการที่ได้เป็นผู้ถือหุ้นในหลงเถิงกรุ๊ป จะทำให้พวกเธอลืมตัว”
“จะลดตำแหน่งของพวกเธอไหม”
ถังเฉาส่ายหน้า “ไม่จำเป็นต้องลดตำแหน่งหรอกครับ ผมได้ยินมาว่าความร่วมมือระหว่างหลงเถิงกรุ๊ปกับต้าโจวกรุ๊ปมีที่มาที่ไปอะไรบางอย่าง”
“ไม่เลวนิ” หลินเจิ้นสงพยักหน้า
ต้าโจวกรุ๊ปเป็นบริษัทภายใต้ชื่อของตระกูลโจว ตั้งแต่หลินฉ่ายเวย โจวเหม่ยหยูนและคนอื่นๆ เข้ามามีอำนาจ ก็ติดต่อธุรกิจกับบริษัทของตระกูลโจว
ถังเฉาแสะยิ้ม “พวกเธอต้องการให้ตระกูลโจวเข้ามาทำเงินในหลงเถิงกรุ๊ป”
หลินเจิ้นสงเงียบอยู่ครู่ใหญ่ ถ้าเป็นความร่วมมือปกติ หลินเจิ้นสงคงไม่คิดเล็กคิดน้อยขนาดนี้ ทุกคนสามารถทำเงินได้ แต่ถ้าต้องแลกมาด้วยความเสียหายของหลงเถิงกรุ๊ป งั้นก็คงต้องปฏิบัติแตกต่างกันไป
“ฉันจะยกเลิกสัญญาของหลงเถิงกรุ๊ปกับต้าโจวกรุ๊ป” หลินเจิ้นสงพูดอย่างเด็ดขาด
“พ่อ แค่พอคนเดียวยังไม่พอหรอก”
ถังเฉาพูดเนิบๆ “พ่อเป็นประธานของหลงเถิงกรุ๊ป จะทำให้พวกเธอยิ่งยโสเข้าไปใหญ่ ต้องมีใครสักคนมาเป็นผู้ช่วยของพ่อ”
“แต่จะหามาจากไหนล่ะ” หลินเจิ้นสงขมวดคิ้ว
ถังเฉายิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วพูดว่า “วางใจเถอะครับ เขาใกล้มาถึงแล้ว”
….…
“ผู้จัดการโจว ได้ยินหรือยังว่าประธานคนใหม่ที่ซื้อหลงเถิงกรุ๊ปจะเปิดประชุมระดับสูง”
อีกด้าน โจวเหม่ยหยูน หลินฉ่ายเวยก็เดินมาถึงห้องประชุม ทันใดนั้นก็มีหัวหน้าแผนกอื่นเดินเข้ามาซุบซิบกับพวกเธอ
โจวเหม่ยหยูนพยักหน้า “ได้ยินแล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าประธานคนใหม่หน้าตาเป็นยังไง”
“คนที่ซื้อหลงเถิงกรุ๊ปและลงมือได้เด็ดขาดขนาดนี้ จะต้องเป็นคนใหญ่คนโตในวงการธุรกิจอย่างแน่นอน”
หัวหน้าแผนกที่ยืนอยู่ข้างๆ พูดอย่างตื่นเต้นว่า “ช่วงนี้เป็นช่วงที่รอการฟื้นฟู ผู้จัดการโจวเป็นคนเก่าคนแก่ของหลงเถิงกรุ๊ป คุ้นเคยกับโครงสร้างและรูปแบบของหลงเถิงกรุ๊ปเป็นอย่างดี ประธานคนใหม่ต้องเห็นความสำคัญในตัวคุณอย่างแน่นอน!”
เหมือนถูกพูดเช่นนี้ โจวเหม่ยหยูนก็ออกหน้าออกตา “ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีสิ”
ทุกคนอดตื่นเต้นไม่ได้และรอให้ประธานคนใหม่เข้ามา
ตึกตึกตึก
ขณะนั้นเองมีเสียงเดินอย่างมั่นคงดังเข้ามาข้างใน
“ชู่วว มาแล้ว มาแล้ว…”
คนตำแหน่งน้อยใหญ่ต่างพากันนั่งอย่างเรียบร้อย ต้อนรับประธานคนใหม่ด้วยท่าทางสดใส
ไม่นาน ประตูห้องประชุมถูกเปิดออก ชายอายุสามสิบกว่าปีเดินเข้ามา
คนตำแหน่งน้อยใหญ่ต่างพากันลุกขึ้นยืนและโค้งให้ชายคนนั้น
“สวัสดี ท่านประธาน”
ชายคนนั้นอึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นจึงยิ้มออกมา “ทุกท่านเข้าใจผิดแล้วครับ ผมไม่ใช่ประธานคนใหม่ แต่เป็นผู้ช่วยของเขา ผมแซ่เฉิน หรือพวกคุณจะเรียกผมว่าเลขาเฉินก็ได้”
โจวเหม่ยหยูน หลินฉ่ายเวยและพนักงานตำแหน่งน้อยใหญ่มองหน้ากันไปมา
ผู้ช่วยของประธาน
เลขาเฉินหรี่ตาลงและกวาดสายตามองไปรอบๆ สายตาของเขาหยุดอยู่ที่โจวเหม่ยหยูน หลินฉ่ายเวยและคนอื่นๆ จากนั้นเขาจึงเบี่ยงตัวออก และพูดเสียงดังกังวานว่า
“ทุกท่าน วันนี้ผมมีเรื่องใหญ่สามเรื่องที่จะประกาศให้ทุกท่านทราบ”
“เรื่องแรก ต่อจากนี้คนที่จะมาดำรงประธานของหลงเถิงกรุ๊ปคือหลินเจิ้นสง!”
“ต่อไป ขอเชิญประธานหลินขึ้นไปกล่าวอะไรสักหน่อยครับ”
เมื่อคำพูดนั้นออกมา ในห้องประชุมเต็มไปด้วยความฮือฮา
โดยเฉพาะโจวเหม่ยหยูน หลินฉ่ายเวยและโจวเหม่ยหลิง ทั้งสามอ้าปากค้างเหมือนเจอผีตอนกลางวันแสกๆ อย่างไรอย่างนั้น
“ฉันไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม”
โจวเหม่ยหยูนหันไปมองหลินฉ่ายเวยอย่างไม่อยากจะเชื่อ และถามขึ้นว่า “เขาบอกว่าใครนะ หลินเจิ้นสงอย่างนั้นเหรอ”
“ไม่ผิดหรอก”
“ไม่ผิดหรอก เป็นชื่อของพ่อ!” หลินฉ่ายเวยพูดอย่างตื่นเต้น
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เธอรู้ว่าหลินเจิ้นสงกลับมาบริหารหลงเถิงกรุ๊ปอีกครั้ง งั้นเหล่าญาติของตระกูลหลินก็ต้องมีหน้ามีตาแล้วน่ะสิ นี่เป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว
“คงจะไม่ใช่คนชื่อซ้ำใช่ไหม”
สีหน้าของโจวเหม่ยหยูนยังคงสับสน และอยากจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ขณะที่ทุกคนกำลังตกอยู่ในอาการมึนงงและตกใจ หลินเจิ้นสงเดินเข้าในห้องประชุมอย่างสง่าผ่าเผย
ถังเฉายืนอยู่หน้าประตูห้องประชุมเช่นกัน เขายิ้มและมองภาพนั้น
“พ่อจริงๆ ด้วย” หลินฉ่ายเวยอุทานออกมาอย่างตกใจ หน้าของเธอเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
“พระเจ้า ฉันดูไม่ผิดใช่ไหม เขากลายเป็นประธานของหลงเถิงกรุ๊ปไปแล้ว”
โจวเหม่ยหยูนพึมพำออกมา สีหน้าของเธอแปลกประหลาด
บริษัทโอ้ซินขายให้กับหลงเถิงกรุ๊ปแล้ว ถ้าพูดตามหลักการ เงินสนับสนุนแปดร้อยแปดสิบล้านนั่นก็เป็นเงินที่หลงเถิงกรุ๊ปมีอยู่ทั้งหมด เขาไปเอาเงินจากไหนมาซื้อหลงเถิงกรุ๊ป
“พ่อ!”
หลินฉ่ายเวยโบกมือให้หลินเจิ้นสงอย่างตื่นเต้น
หลังจากที่โจวเหม่ยหยูนกับโจวเหม่ยหลิงตั้งสติได้ ก็มองหลินเจิ้นสงอย่างตื่นเต้น
ในเมื่อประธานคือหลินเจิ้นสง งั้นก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีอันยิ่งใหญ่ของตระกูลหลิน
แต่ทว่าหลินเจิ้นสงไม่แม้แต่จะมองมายังพวกเธอ และยืนพูดกล่าวอยู่อย่างนั้น
“ขอบคุณคำกล่าวของประธานหลิน ต่อไปผมจะแจ้งเรื่องที่สอง”
เลขาเฉินพูดด้วยเสียงก้องกังวาน “หลังจากที่ประธานหลินเข้ามาดำรงตำแหน่ง จะเลือกหัวหน้าขึ้นมาหนึ่งคน เพื่อดำรงตำแหน่งรองประธาน”
ตู้มม
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลินฉ่ายเวย โจวเหม่ยหยูน โจวเหม่ยหลิงแทบจะบ้า
สายตาของพวกเธอเต็มไปด้วยความโกรธแค้น โดยเฉพาะหลินฉ่ายเวยกับโจวเหม่ยหยูน
คนหนึ่งคือภรรยาของหลินเจิ้นสง ส่วนอีกคนเป็นลูกสาวของหลินเจิ้นสง ตำแหน่งรองประธาน ต้องเป็นของพวกเธอคนใดคนหนึ่งอย่างแน่นอน
แต่ทว่า เลขาเฉินไม่ได้ประกาศว่ารองประธานเป็นใคร และประกาศเรื่องที่สามต่อ
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หลงเถิงกรุ๊ปจะยุติความร่วมมือทางธุรกิจกับต้าโจวกรุ๊ป!”