ท่าทีของช่ายเหลียนที่เปลี่ยนไป ถังเฉาไม่แปลกใจ หัวเราะและพูดว่า “ผมได้รับการอนุมัติจากผู้กำกับช่าย?”
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว!”
ช่ายเหลียนนึกถึงท่าทีที่ก่อนหน้านี้เขามีต่อถังเฉา ครู่เดียวสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นโมโหโกรธ “คุณถัง ก่อนหน้านั้นที่ผมมีท่าทีที่ไม่ดีต่อท่านหวังว่าท่านคงไม่ถือสา”
ถังเฉาพยักหน้า แต่ก็ไม่ใส่ใจ
พูดจนจบ ช่ายเหลียนก็แค่ดื้อรั้นจริงจังเกินไปหน่อย แต่จุดเริ่มต้นก็ถือว่าดี หลังจากร่วมกันถ่ายทำโฆษณาเรื่อง
“นักฆ่าไป๋ฉี” ช่ายเหลียนก็ไม่เคยถ่ายภาพผลงานชิ้นเอกออกมาอีก ถ้าพูดถึงเรื่องกังวล ตัวเขาเป็นคนที่กังวลที่สุด นอกจากนี้ยังทำให้อารมณ์ของเขากลายเป็นคนดื้อรั้นและแปลก ไม่อนุญาตให้ลูกน้องตั้งคำถามกับตัวเอง
ในเวลานี้ ถังชิงเหอก็ก้าวไปข้างหน้า และพูดด้วยท่าทีอ่อนโยน “ผู้กำกับช่ายจงละทิ้งอคติและความสงสัยของคุณและติดต่อกับใครบางคนคุณจะพบจุดที่สว่างกว่า คนหนึ่งพนคน ในใจก็มีความเห็นหนึ่งพันแบบ สายตาของคนหนึ่งคน ไม่ได้แสดงถึงความหมายอะไรเลย “
ทั้งใบหน้าของช่ายเหลียนเต็มไปด้วยความอับอาย โค้งคำนับต่อถังเฉาอย่างสุดซึ้ง “คุณถังขอโทษครับ!”
ถ้าหากก่อนหน้านั้นเขายอมรับผิด ก็เป็นเพราะว่าคำพูดของหลินชิงเสว่ ในใจไม่ยอม ถ้างั้นตอนนี้ เขาเคารพถังเฉาจากใจจริง โดยเฉพาะถังเฉาไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการแสดงใดๆ แต่เขาก็เอาชนะทัศนคติที่ดื้อด้านและไม่ขัดขืนของเขาผู้กำกับคนนี้
ถังเฉารีบพยุงเขาขึ้น พูดนิ่งๆว่า “ไม่มีอะไรที่ต้องขอโทษ ทุกคนต้องการถ่ายทำโฆษณานี้ออกมาให้ดีก็แค่นั้นแหละ … “
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ถังเฉาก็เปลี่ยนคำพูด “แต่ว่า ผมสามารถเชิญต่งวี่ซู่นี่มาได้นะ”
ช่ายเหลียนชะงักไปชั่วขณะ “กำหนดไปแล้วว่าพระเอกนักแสดงหลักคนนั้นคือคุณ ยังจะเอาตงวี่ซู่มาทำอะไร?”
ถังเฉายิ้มเบาๆ “ผมจำได้ว่าโฆษณาก่อนหน้านี้มีฉากต่อสู้ด้วย?”
“ใช่ครับ”
ช่ายเหลียนอธิบายว่า “ภาพนี้จะไม่ถูกถ่ายออกมา แต่จะถูกเรียงตัดต่อโดยตรงจากคอมพิวเตอร์”
ถังเฉาส่ายศีรษะพูดว่า “คุณไม่ควรใช้คอมพิวเตอร์มาตัดต่อ ผมให้ความสำคัญกับการถ่ายทำโฆษณานี้มาก ผมอยากให้มันสมบูรณ์ไร้ที่ติ”
ช่ายเหลียนเบิกตาโตด้วยความประหลาดใจ “คุณหมายถึง —-“
เห็นแค่มุมปากของถังเฉายกขึ้น รอยยิ้มเย็นชา ก็ถูกกระตุ้น “ถ่ายหน้าตรง ไม่จำเป็นต้องใช้สตั้นท์แมนในการแสดง”
“… “
ช่ายเหลียนสีหน้าดูหวาดกลัว และรีบเรียกตัวรองผู้อำนวยการ ให้เขาแจ้งต่งวี่ซู่มาแสดง
“ อย่างนี้ ไม่ค่อยดีไหม?”
ถังชิงเหอสีหน้าดูกังวล “ต่งวี่ซูคือเทควันโดสายดำ ฝีมือไม่เลว ถ้าหากลงมือหนักไป —-“
ถังเฉาได้ขจัดความสงสัยของถังชิงเหอโดยตรง “ไม่ต้องกังวล เขาทำร้ายผมไม่ได้”
มองรอยยิ้มบนใบหน้าที่นิ่งๆของถังเฉา หลินชิงเสว่ไหนจะไม่รู้ความคิดของเขา แต่ก็ไม่ได้ขัด ตอนนี้เธอกับคนตระกูลก่อลไม่ค่อยมีความรู้สึกที่ดีต่อกันนัก
แต่ในเวลานี้ตงวี่ซู่กับสวีเลี่ยงเดินเข้ามา มองทุกคนด้วยรอยยิ้ม สุดท้ายก็จับจ้องมองมาที่ถังเฉา “ผมว่าแล้ว เขาก็เป็นไอ้เศษสวะที่ไม่เอาไหนคนหนึ่ง จะแสดงบทบาทนี้ให้ดีได้ยังไง สุดท้ายก็ต้องอาศัยผม เสียเวลาจริงๆ”
ถังเฉาสีหน้าเรียบเฉย มองไม่ออกว่าโกรธหรือดีใจ เมื่อครู่ต่งวี่ซู่กับสวีเลี่ยงออกไปโต้ลมแล้ว เลยไม่รู้ว่าในกองถ่ายเกิดเรื่องอะไรขึ้น ช่ายเหลียนเดินหน้าไปหนึ่งก้าวพูดอย่างเย็นชาต่งวี่ซู่คุณเข้าใจผิดแล้ว คุณไม่ได้มาแทนที่ถังเฉา แต่คุณต้องมาแสดงเป็นคู่ต่อสู้ของเขา”
พูดจบต่งวี่ซู่ก็ชะงักทันที มองถังเฉาด้วยสายตาที่ประหลาดใจ “เขายังไม่ได้ถูกเตะออกไปหรอ?”
ถังเฉายิ้มให้เขาอย่างสดใส เผยให้เห็นฟันที่ขาวสะอาด
“หึ ช่างเป็นตัวที่โชคดีจริงนะ”
ต่งวี่ซู่ส่งเสียงดูถูกทันที และหันหน้าไปด้วยท่าทางที่รังเกียจ
ถึงแม้จะรู้สึกแปลกใจ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร ยังไง สามารถแสดงเป็นคู่ต่อสู้ ก็ทำให้ต่งวี่ซู่รู้สึกยุติธรรมไม่น้อย
“ขอถามหน่อย เป็นคู่ต่อสู้แบบไหนหรอ?” นายหน้าสวีเลี่ยงถามอย่างแปลกใจ
ช่ายเหลียนก็เอาฉากที่ต่อสู้มาอธิบายอย่างละเอียดอีกรอบ สวีเลี่ยงกับต่งวี่ซู่ก็ชะงัก หลังจากนั้น ต่งวี่ซู่ก็แหกปากหัวเราะขึ้นมา มองไปที่ถังเฉา “คุณแน่ใจนะว่าไม่ใช้สตั้นท์แมน”
“ไม่จำเป็น”
ถังเฉาก็หัวเราะ มองไปที่ต่งวี่ซู่ด้วยท่าทางขี้เล่น และพูด
“ ได้ ! มีศักดิ์ศรีมาก ”
ต่งวี่ซู่หัวเราะเสียงดัง ราวกับว่าได้เห็นฉากที่ถังเฉาถูกเขาตีจนหน้าบวมจมูกช้ำ พูดกับถังชิงเหอว่า “ชิงเหอ สักพักคุณก็ดูผมจะแสดงฉากนี้ให้ดียังไงละกัน”
ถังชิงเหอสีหน้าเต็มไปด้วยความรังเกียจ จากนั้นก็มองไปที่ถังเฉาอย่างเป็นกังวล
ถังเฉากลับไม่ใส่ใจสักนิด พูดกับช่ายหลินว่า เรื่องไม่ควรล่าช้า รีบเริ่มเถอะ”
ช่ายเหลียนพยักหน้า แล้วยกมือทำท่า “เตรียมตัว —- แอ็กชั่น!”
วิศวกรออกแบบแสงและตากล้องประจำตำแหน่ง ต่งวี่ซู่หัวเราะเย็นชาตลอด ทำท่าปาดดคอใส่ถังเฉา
ถังเฉาสีหน้านิ่งเฉย ไม่สนใจการยั่วยุของต่งวี่ซู่
โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย ต่งวี่ซู่ก็พุ่งไปหาถังเฉาอย่างรวดเร็ว ยกกำปั้นขึ้นและกระแทกเข้าที่ใบหน้าของถังเฉา
เขาเป็นนักเทควันโดมาเฟียรู้วิธีทำร้ายคนเร็วที่สุดและเอาชนะเขาอย่างโหดเหี้ยม
แววตาของถังเฉามัวหมอง และสายตาของต่งวี่ซู่ก็เหมือนกับกำลังมองไปที่ศพ
เขามองไปทางต่งวี่ซู่ที่กำลังพุ่งเข้ามาหา และทันใดนั้นก็ชกเข้าที่ใบหน้าของเขา
พลั่ก —-
ทันใดนั้น ดั้งจมูกหักและเลือดพุ่ง
“อ้าก—-“
ต่งวี่ซู่กรีดร้องอย่างเจ็บปวด เบิกตากว้าง ปิดจมูก จ้องมองใบหน้าถังเฉาที่นิ่งสงบอย่างคิดไม่ถึง
หลังจากนั้น ดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นโกรธแค้น ตะโกนใส่ถังเฉาด้วยความโกรธ “คุณทำอะไร?”
ถังเฉาส่ายศีรษะ “คุณพูดบทผิดแล้ว”
พูดจบ ก็หันตัวไป มองไปที่ช่ายเหลียน “ผู้กำกับ เขาอ่านบทผิด เริ่มใหม่อีกรอบ!”
ช่ายเหลียนมองไปที่ถังเฉากับตงวี่ซู่อย่างลังเล เขามองจากสายตาทั้งสองคน มองออกว่าต่างก็อยากให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตายกันไปข้าง
แต่ว่า การถ่ายก็คาดหวังอยากให้มันสมจริง?
เพื่อการถ่ายทำประสบความสำเร็จ เสียสละเล็กน้อย ก็ถือว่าไม่เป็นอะไร?
ดังนั้น ช่ายเหลียนก็ไม่ลังเลอีก พูดไปว่า “ถ่ายอีกรอบ!”
พลั่ก —-
ดังนั้น ถังเฉาก็ต่อยไปที่คางของต่งวี่ซู่ไปอีกหมัด
ก๊อกแก๊กทุกคนได้ยินเสียงกรามแตกระเอียด
ต่งวี่ซู่ถอยหลังไม่หยุด ในปาก จมูกเลือดสีแดงสดไหลไม่หยุด ในที่สุดสายตาที่มองไปทางถังเฉากลายเป็นสายตาที่หวาดกลัว
“ แววตาไม่ถูกต้อง ถ่ายใหม่อีกรอบ” ถังเฉาพูด
พูดจบ เขาก็มาอยู่ต่อหน้าต่งวี่ซู่ด้วยความเร็ว เตะเข้าที่ท้องอย่างแรง
พลั่ก—-
ร่างกายของเขาโค้งงอเป็นกุ้งแห้งทันที ถูกเตะไปทั่ว น้ำลาย และกรดในกระเพาะอาหารของเขาถูกเตะจนพุ่งออกมา
หลังจากนั้น ถังเฉาก็จะใช้ข้อแก้ตัวต่างๆเพื่อจับผิดต่งวี่ซู่ ทุกครั้งก็จะถ่ายใหม่ สัมผัสได้ว่าทุกครั้งต่งวี่ซู่ก็จะถูกถังเฉาเตะหนึ่งครั้ง
แต่ละครั้งก็แรงขึ้นเรื่อยๆ มือต่อยเท้าเตะ ต่งวี่ซู่ไม่เป็นผู้ เป็นคนแล้ว