ภายใต้การจ้องมองที่ตกตะลึงของทุกคน หลินฉ่ายเวยเดินไปหาถังเฉาด้วยรอยยิ้ม หยิบแก้วไวน์และดื่มทีเดียวหมดแก้ว
หลังจากดื่มหมด หลินฉ่ายเวยหน้าแดง แสดงอาการเมาแล้วยิ้มและมองไปที่ถังเฉาที่อยู่ต่อหน้าเธอ
พูดตามตรง เมื่อเธอได้ยินเสียงของถังเฉา ในตอนนี้เธอเกือบจะร้องไห้ออกมาด้วยความตื่นเต้น นี่เป็นครั้งแรกที่เธอต้องการให้ถังเฉาปรากฏตัวข้างๆเธอ
คนที่ออกมาดื่มคนเดียว ถูกก่อกวนและลวนลาม สันดานที่แก้แค้นคิดไม่ซื่อกับเธอ เป็นถึงน้องชายของสามีในอนาคต ยังมีเรื่องที่แย่กว่านี้อีกไหม?
ในสถานการณ์เมื่อกี้ ขอเพียงเฟิ่งหวงลงมือไม่ว่าเธอจะแพ้หรือชนะ เธอก็ไม่รู้จะไปแก้ตัวกับตระกูลเหวินยังไง โดยเฉพาะงานแต่งที่ใกล้เข้ามาแล้ว ยิ่งไม่ควรมีอะไรผิดพลาด
ในเวลานี้ถังเฉาเดินเข้ามาเรียกให้หลินฉ่ายเวยดื่มไวน์ พอดีบังเอิญมาแก้ไขสถานการณ์ที่คิดว่าจะแก้ไขไม่ได้
และเช่นเดียวกับการให้หลินฉ่ายเวยดื่มไวน์ แต่คำพูดของถังเฉาคาดการณ์ได้ยากกว่าเหวินเหรินวี่เยอะ
ฟ้ามืดหิมะตก ดื่มเหล้าอุ่นๆสักแก้วได้ไหม
อาศัยสิบคำนี้ หลินฉ่ายเวยก็ต้องไปดื่มสักแก้ว
เหวินเหรินวี่กับพวกคุณชายคนอื่นๆ ก็ตกตะลึงเล็กน้อยจ้องมองไปที่ถังเฉาที่สง่าผ่าเผยใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างมึนงง
เขาเป็นใครกันแน่เป็นคุณชายท่าทางหล่อเหลาสง่างามอ่อนโยนมีความรู้?
เมื่อเทียบกับเขาแล้ว พวกเขาเป็นแค่พวกอันธพาล—-
มองไปมองมาเหวินเหรินวี่ก็ได้สติกลับมา ใบหน้าของเขากระตุกอย่างรุนแรง สีหน้ามืดมนอย่างมาก
ไม่ง่ายเลยที่เขาจะได้เจอหลินฉ่ายเวยตามลำพัง ก่อนงานแต่งของเหวินเหวยเฉินเขาต้องจัดการกับคู่หมั้นของเขาก่อน แก้แค้นเหวินเหวยเฉินสักหน่อย คิดไม่ถึงว่าหนุ่มนักฆ่าโผล่มาจากไหน มาขัดขวางทันที
เขาถือไม้เท้าและเดินกะเผลกไปหาถังเฉา “คุณเป็นใคร?”
แต่ว่า ถังเฉาไม่ได้สนใจเขาแม้แต่น้อย สายตาของเขายังคงจับจ้องไปที่ใบหน้าเล็กๆ ที่มีเสน่ห์ของหลินฉ่ายเวยและถามว่า “ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
หลินฉ่ายเวยส่ายศีรษะ ไม่กล้าสบตาถังเฉา “ขอบคุณที่ปกป้องฉัน”
พูดจบ ราวกับว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างออก เธอรีบหยิบก้อนหินสีเลือดออกจากอกของเธอ จับมันไว้แน่นและพูดอย่างจริงจัง “หินที่คุณมอบให้ฉัน ฉันหาเจอแล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของถังเฉาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย แววตาก็เปลี่ยนเป็นประหลาดใจขึ้นมา คิดไม่ถึงว่าเธอจะหาเจอจริงๆ คงต้อง……หานานมากเลยสินะ?
เห็นสายตาของถังเฉาจับจ้องที่ใบหน้าของเธอ ใบหน้าของหลินฉ่ายเวยก็แดงขึ้น และเธอก็อดไม่ได้ที่จะหลบสายตาโดยไม่รู้ตัว “คุณ คุณกำลังมองอะไรอยู่?”
“โทษทีนะ ผมแค่ประหลาดใจ คุณกับเมื่อก่อน … เปลี่ยนไปมากจริงๆ”
ถังเฉาละสายตากลับมา พูดอย่างเรียบเฉย
สายตาของเขาชัดเจนและบริสุทธิ์ โดยไม่แฝงความรู้สึกใดๆ ไม่รู้เพราะอะไรในใจของหลินฉ่ายเวยรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
แต่เธอยังคงกำเทอร์ควอยซ์เลือดไว้แน่นและพูดว่า “ฉันชอบของขวัญที่คุณให้ฉัน ฉันจะเก็บรักษาเป็นอย่างดี”
ถังเฉาค่อยๆพยักหน้าเล็กน้อย โดยไม่พูดอะไร
เวลานี้ สายตาของเขา พึ่งจะมองไปทางเหวินเหรินวี่เป็นครั้งแรก มองเขาอย่างเรียบเฉย
เมื่อครู่ที่มองข้าม ทำให้เขามีสีหน้าบึ้งตึง ขณะนี้นัยต์ตาเผยความแค้นอย่างรุนแรงออกมา “เธอนังสารเลวมากรักหลายใจผมให้คุณดื่มไวน์คุณไม่ดื่ม คนอื่นเรียกคุณคุณรีบไปดื่มทันที นี่ขนาดยังไม่แต่งงานนะ ก็ส่งสายตาให้ชายอื่นไปทั่ว ถ้าหากแต่งงานแล้วจะขนาดไหน?”
พอฟังคำนี้แล้ว หลินฉ่ายเวยโมโหโกรธทันที “คุณวางยาในแก้วฉัน ถ้าหากฉันดื่ม ก็… “
เธอไม่ได้พูดส่วนที่เหลือ จ้องมองไปที่เหวินเหรินวี่ทั้งช็อกทั้งโมโห
ในขณะนี้ มีเงาร่างหนึ่งเดินผ่านหลินฉ่ายเวย ปกป้องเธอไว้ให้อยู่ข้างหลัง มองไปที่เหวินเหรินวี่อย่างเรียบเฉย พูดว่า “ตบปากตัวเองสามที จากนั้นไสหัวออกไปจากที่นี่ ผมจะไม่สืบสาวเอาความ”
ทั้งงานเงียบสงบ ข้างหูมีเพียงเสียงดนตรี
พวกคุณชายต่างมองหน้ากัน และหัวเราะเสียงดัง โดยไม่สนใจสักนิด
เหวินเหรินวี่นั่งอยู่กับที่ พร้อมกับกวักมือ ก็มีผู้หญิงสองคนเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของเขา หัวเราะแล้วพูดว่า “ก่อนหน้านี้ผมเคยพูดแล้ว พวกคุณไม่รู้ว่าที่นี่คือถิ่นอะไร ถ้าหากผมพูดออกมาว่าผมมีความสัมพันธ์อะไรกับเถ้าแก่ที่นี่ คุณต้องเสียใจที่พูคำนี้กับผม”
“ อ๋อ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ถังเฉาก็ไม่ได้ตื่นตระหนก แต่กลับแสยะยิ้มและถามด้วยความสนใจ “ไหนคุณลองพูดให้ฟังหน่อยสิ ที่นี่ถิ่นอะไร คุณกับเถ้าแก่บาร์นี้ มีความสัมพันธ์อะไรกัน?”
เหว่ยเหรินวี่ใบหน้าเต็มไปด้วยความหยิ่งยโส “บาร์แห่งนี้ ตระกูลจ้าวเป็นคนเปิด เถ้าแก่บาร์ชื่อจ้าวชุนเซิง ประธานจ้าวซึ่งเป็นหนึ่งในลูกชายที่ให้ความสำคัญมากที่สุด สำหรับผมกับจ้าวชุนเซิงความสัมพันธ์ดีมาก คุณสามารถแตะต้องผมได้หรอ? คุณกล้าแตะต้องผมไหม?”
หลินฉ่ายเวยได้ยิน สีหน้าก็เปลี่ยน กระซิบข้างหูถังเฉา “ถังเฉา หรือว่าช่างเถอะ เขาชื่อเหวินเหรินวี่เป็นน้องชายเหวยเฉิน ทำให้เรื่องใหญ่แล้วคงไม่ดี”
“ตระกูลเหวิน ตระกูลจ้าว … ”
ถังเฉาค่อยๆหรี่ตา และแววตาที่อันตรายก็แวบเข้ามา
เมื่อครู่ ทำให้เขาเข้าใจฐานะของเหวินเหรินวี่ทันทีและเข้าใจแล้วว่าทำไมต้องลงมือกับหลินฉ่ายเวย
เพราะไม่กล้าลงมือกับเหวินเหวยเฉิน เลยมาหาหลินฉ่ายเวย…
“ จู่ๆผมก็เปลี่ยนความคิดแล้ว”
ทันใดนั้นถังเฉาก็เปิดปากพูดขึ้น พร้อมกับชี้ไปที่แขนของเหวินเหรินวี่และพูดว่า “ผมไม่ต้องการให้คุณตบหน้าตัวเองสามครั้ง ผมจะให้คุณเข้าโรงพยาบาล”
“คุณกำลังหาที่ตาย”
ทันใดนั้นเหวินเหรินวี่ความโกรธพุ่งขึ้นหน้า จ้องมองถังเฉาด้วยความดุร้าย “ถ้าเป็นเช่นนี้ ก็อย่ามาโทษว่าผมไม่เกรงใจจัดการคุณก่อนแล้วค่อยพาผู้หญิงสองคนไป”
พูดจบ เขาก็หันไปพูดอะไรบางอย่างกับคุณชายที่อยู่ข้างๆ คุณชายคนนั้นก็พยักหน้าติดๆกันแล้วลุกขึ้นไปชั้นสอง
ไม่นานเขาก็พาคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา
คนนำเป็นชายสวมเสื้อคอจีน ตัวสูง ไว้ทรงผมสกีนเฮด แค่ดูการเดิน ก็เต็มไปด้วยวิญญาณร้าย
ข้างหลังเขายังมีผู้ชายหลายคนตามมาข้างหลังเขา ซึ่งหนึ่งในนั้น เป็นคนที่ถังเฉาก็รู้จัก
จ้าวเชียนจูนเขาก็อยู่ที่นี่ด้วย
จ้าวเชียนจูนก็เห็นถังเฉาเหมือนกัน แววตาสั่นคลอ แต่กลับไม่ได้พูดอะไร
“ชุนเซิง”
เมื่อเห็นชายหนุ่มสกินเฮด เหวินเหรินวี่ก็ลุกขึ้นยืนเพื่อต้อนรับเขาทันที
“ใครกัน อยู่ในถิ่นของผมยังกล้ามาแตะต้องคนของผม”
ดวงตาเสือคู่นั้นของจ้าวซุนเซิงมองไปรอบด้านอย่างเย็นชา ด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดี
พวกคุณชายทั้งหมดมองถังเฉากับหลินฉ่ายเวยอย่างมีความสุขบนความทุกข์ของพวกเขาทั้งสองคน ชี้ไปที่พวกเขาแล้วพูดว่า “เฮียจ้าว ก็พวกเขาแหละ ไม่รู้ชั่วดีบอกจะให้คุณชายเหวินเข้าโรงพยาบาล”
“ช่างกล้า!”
ดวงตาของจ้าวซุนเซิงเย็นชา และมองไปที่ถังเฉา ความโกรธพุ่งขึ้นเต็มตัว “น้องชาย คุณหากินด้านไหนหรอ?”
เห็นได้ชัดว่าสายตาของจ้าวซุนเซิงเคยฆ่าคนมาแล้ว มีแต่คนที่เคยฆ่าคนถึงจะมีกลิ่นของความอาฆาต แววตาของหลินฉ่ายเวยมองถังเฉาด้วยสายตาที่กังวล กำลังจะพูด แต่กลับเห็นใบหน้าของถังเฉามีรอยยิ้มที่นิ่งเฉย มองจ้าวเชียนจูนที่อยู่ด้านหลังของจ้าวซุนเซินอย่างขี้เล่น
จ้าวเชียนจูนตัวสั่นทันที รีบหาข้ออ้างที่จะหลบไปก่อน “อะไร พี่ซุนเซินผมจะไปทักทายแขกคนอื่นๆนะ”
พูดจบ วางแผนที่จะหลบหนีให้พ้น
แต่ จ้าวซุนเซินกลับมองสายตาของจ้าวเชียนจูนออกว่าหวาดกลัว รีบจับเขาไว้ “คุณรู้จักเขา?”
จ้าวเชียนจูนหายใจไม่ออกก้มหน้าแล้วพยักหน้า “เขาเป็นเจ้าบ่าวที่หลบหนีจากตระกูลหลิน ซึ่งเกือบจะกลายเป็นสามีของ ซ่งหรูอี้เมื่อห้าปีก่อน”
เรื่องนี้ทำให้ทุกคนเหมือนถูกฟ้าผ่ากลางแก้วหู พอคำพูดนี้ออกมา ทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างก็มองมาที่ถังเฉาด้วยความประหลาดใจ
เหวินเหรินวี่และจ้าวซุนเซิงมองไปที่ถังเฉาด้วยความตะลึง หลังจากนั้นก็หัวเราะเสียงดัง
“ผมก็นึกว่าเป็นใครไอ้เศษสวะคนนี้ ใครให้ความกล้ากับคุณมาก่อเรื่องในถิ่นของผม” จ้าวซุนเซิงพูดแล้วมองด้วยสายตาที่ดูถูก
หลินฉ่ายเวยคิดว่าเหตุการณ์นี้เป็นความเจ็บปวดในหัวใจของถังเฉา ถังเฉาแทนที่จะโกรธแต่กลับหัวเราะเหอๆและมองไปที่ เหวินเหรินวี่ “คุณเรียกคนแล้ว งั้นผมก็เรียกคนได้ใช่ไหม?”
“แน่นอน ตามสบาย”
เหวินเหรินวี่หัวเราะเหอๆและพยักหน้า นัยต์ตามีความดูถูกเหยียดหยาม กลับยิ่งมากขึ้น
ไอ้เศษสวะตระกูลต่ำต้อย จะมีปัญญาเรียกคนแบบไหนมาได้?
จากที่เขาดูแล้ว ทั้งตระกูลหลิน รวมทั้งตระกูลโจว ที่ให้ความสนับสนุนมากที่สุดก็คือตระกูลเหวินนอกจากนี้ ใครกล้าให้ความช่วยเหลือเขา?
ถังเฉาก็ไม่พูด แต่ค่อยๆหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา กดโทรไปหมายเลขหนึ่ง
“ฮัลโหล?”
ในอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ มีเสียงที่รักใคร่หยอกล้อแว่วมา “ทำไมคุณถึงมีเวลาโทรหาฉัน? คิดถึงฉันใช่ไหม?”